ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน นิยาย บท 158

ซูเหอเหวินโกรธมากเขารีบหยิบกระดาษทิชชู่มาเช็ดมั่วไปหมด

ซูจื่อซีถุยออกมา ก่อนพูดด้วยความโกรธ “ซูเหอเวิ่น นายตั้งใจใช่ไหม!?”

ซูเหอเวิ่นไม่มีกะใจสนใจพวกเขา ตัวเขาเองกลัวจนหนังหัวชาไปหมดแล้ว “บะ ๆ ๆ ๆ... บ้าเอ้ย!”

ทำไมต้องเป็นเขาที่เห็นผีตลอดเลย?

ซู่เป่าจับมือซูเสี่ยวอวี้ไว้ข้างหนึ่งและจับมือแม่ของเธอไว้อีกข้างหนึ่งเธอพูดว่า “พี่คะนั่งสิ กินข้าวกัน!”

จากนั้นเขาก็ตักข้าวเพิ่มอีกชามหนึ่ง คีบกับข้าวมากมายใส่ลงไป แล้วไปขอธูปจากลุงของพ่อบ้านมาดอกหนึ่งปักไว้ข้างๆ

คนตระกูลซูจ้องมองไปที่ซู่เป่าด้วยความตกใจ

“ซู่เป่าหนู...”

ซู่เป่าปักตะเกียบลงไปกลางถ้วยข้าวแล้วอธิบายว่า “จุดธูปแล้วปักตะเกียบไว้ในข้าว แบบนี้แม่จะได้กินข้าวได้”

นายหญิงซูเป็นกังวลมากกว่าเดิม

เจ้าตัวเล็กไม่เคยทำแบบนี้มาก่อน!

ต่อให้คิดถึงแม่ขนาดไหนก็ไม่เคยเป็นแบบนี้...

นายหญิงซูคิดไม่ตก ท่านแอบหยิกมือนายท่านซูบอกใบ้ให้เขาช่วยคิดหาวิธี

นายท่านซู “เธอหยิกฉันทำไม?”

นายหญิงซู “...”

คนทั้งบ้านเหมือนอยากพูดอะไร แต่ก็ไม่กล้าที่จะพูดออกมา

มีเพียงซูอีเฉินเท่านั้นที่คีบปีกไก่ทอดรสเผ็ดของโปรดที่ซูจิ่นอวี้ไม่สามารถกินได้วางลงในชาม

ซูจิ่นอวี้มองไปที่ปีกไก่ทอดแล้วก็หันไปมองซูอีเฉิน นายหญิงซู นายท่านซู ซูอิ๋งเอ่อร์...

มันเป็นความรู้สึกคุ้นเคยที่อธิบายไม่ถูก เธอน้ำตาคลอเบ้า

“ขอบคุณ” เธอพูดเบา ๆ

ซู่เป่าตบเก้าอี้ข้าง ๆ เธอ “แม่มานั่งตรงนี้!”

เจ้าตัวเล็กมีความสุขมาก วันนี้ทั้งคุณตาคุณยาย พ่อกับแม่ พวกลุงกับพี่ ๆ ก็อยู่กันครบ

คุณปู่เต่ากับเสี่ยวอู่ก็อยู่ด้วย แถมยังมีเพื่อนใหมอีก

มีความสุขจังเลย!

ซู่เป่าร้องอั้มแล้วกัดน่องไก่คำใหญ่อย่างมีความสุข

ซูเสี่ยวอวี้หยิบตะเกียบขึ้นมา แล้วเธอก็รู้สึกเศร้าในใจอีกครั้ง

ซู่เป่าคงคิดถึงแม่ของเธอมากจริงๆ... ครอบครัวของเธอดูแลเธออย่างระมัดระวัง ไม่ได้บอกความจริงเธอ

ดูแบบนี้แล้วตระกูลซูเป็นครอบครัวที่อบอุ่นมากเลย นี่ฉันให้ความคิดต่ำช้ากับคนที่สูงส่งสินะ

ทุกคนต่างคนต่างกิน

มีเพียงซูเหอเวิ่นเท่านั้นที่นั่งหลังตรงแข็งทื่อไม่กล้าขยับ เขารู้สึกได้ว่ามีผีกลุ่มหนึ่งล้อมรอบตัวเขาอยู่ เขาแทบจะร้องไห้อยู่แล้ว...

หลังอาหารเย็น

ซู่เป่ากับหานหานเล่นอยู่ในห้องนั่งเล่น ถัดจากพวกเขาคือซูเสี่ยวอวี้ซึ่งกำลังนั่งยอง ๆ ถักผมให้ตุ๊กตาบาร์บี้อยู่

การกินข้าวด้วยกันเป็นวิธีกระชับความสัมพันธ์ที่เร็วที่สุดจริง ๆ ด้วย ซูเสี่ยวอวี้ไม่กลัวอีกต่อไป แถมยังพยายามเล่นเป็นเพื่อนซู่เป่ากับหานหานให้มากที่สุดด้วย

“ซู่เป่าขึ้นมาข้างบนสิ ลุงมีอะไรจะพูดกับหนู” ซูอีเฉินเดินผ่านไป

ซู่เป่าเงยหน้าขึ้นและพูดว่า “โอเคค่ะ!”

จี้ฉางบอกว่า “ให้แม่ของเจ้ามากับเจ้าด้วย... แล้วก็อย่าเพิ่งให้ซูเสี่ยวอวี้ไป”

ซูเสี่ยวอวี้ถูกซูจิ่นอวี้อาศัยร่างจึงมีไอแห่งโชคติดตัวอยู่

ผีที่อยู่ตรงหน้าล้วนมุ่งหวังไอแห่งโชคที่ว่านี้

ไอแห่งโชคเหล่านี้มีค่ากับผีพวกนี้ ไอแห่งโชคเหล่านี้เดิมเป็นของซูจิ่นอวี้ หากผีพวกนี้สามารถแบ่งแสงสีทองเหล่านี้ไปได้ เวลาไปเกิดใหม่ในชาติหน้าก็จะมีชะตาที่ไม่เลวนัก

ดังนั้นพวกเขาทั้งหมดจึงจ้องไปที่ซูเสี่ยวอวี้

ต้องรอให้พ้นคืนนี้ไปก่อนถึงจะปล่อยให้เธอออกไปได้ มิฉะนั้นจะถือเป็นการไม่รับผิดชอบต่อซูเสี่ยวอวี้

ซู่เป่าพยักหน้าและพูดกับซูเสี่ยวอวี้ “พี่ค่ะ อย่าเพิ่งไปเลยนะคะ คืนนี้ค้างที่นี้นะ”

ซูเสี่ยวอวี้ “... ห๊ะ?”

อาเนี่ยได้ยินดังนั้น ก็รีบไปจัดเตรียมห้องนอนแขกให้ซูเสี่ยวอวี้ทันที

บังเอิญซูจื่อหลินมาเรียกหานหานให้ไปคัดลายมือพอดี หานหานเลยรีบเข้าไปกอดแขนซูเสี่ยวอวี้ ก้าวเท้าได้ก็ออกวิ่งหนีไปทันที

“พี่ค่ะไปเร็ว หานหานจะพาไปที่ห้องเอง!”

แบบนี้ซูเสี่ยวอวี้ก็เลยต้องค้างที่นี้

ซู่เป่าจูงซูจิ่นอวี้ขึ้นไปข้างบน ซูอีเฉินเดินตามหลัง เขาจ้องมองไปที่มือเล็ก ๆ ที่งออยู่ของซู่เป่า

อวี้เอ๋อร์อยู่ข้าง ๆ เธองั้นเหรอ?

ซูอีเฉินรู้สึกเจ็บปวดใจเล็กน้อย ทั้งที่ได้เจอกันแล้วแต่กลับมองไม่เห็นกัน...

ซูเหอเวิ่นเห็นทุกคนทำท่าลึกลับจึงพูดขึ้นทันทีว่า “ผมไปด้วย!”

ซู่เป่าชะงักไป เธอมองไปที่ผีที่มาล้อมรอบซูจิ่นอวี้มากขึ้นเรื่อย ๆ

เธอบอกว่า “พี่ค่ะ หนูแนะนำว่าอย่ามาดีกว่า”

ซูเหอเวิ่นและวิ่งขึ้นไปหยิบกล้องของเขาที่ชั้นบนทันที

เข้าใจแล้ว น้องสาวของฉันจะเริ่มจับผีอีกแล้วสินะ!

ครั้งนี้มีผีเยอะมาก มี x กี่ตัว มี y กี่ตัวกันนะ?

ซูจิ่นอวี้มองดูชั้นสองที่ใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ ราวกับมีบางอย่างรอเธออยู่ตรงหน้า มันทำให้เธอรู้สึกประหม่าอย่างอธิบายไม่ถูก...

เพียงบันไดแค่ชั้นเดียว แต่ซูจิ่นอวี้รู้สึกว่าเธอเดินมานานมาก...

ในที่สุดก็มาถึงบนชั้นสอง เธอมองไปที่ห้องสุดท้ายบนชั้นสองโดยไม่รู้ตัว

ประตูห้องนั้นถูกปิดอยู่ ซูจิ่นอวี้เหมือนเห็นภาพตัวเองเคยเดินผ่านโถงทางเดินนี้มาก่อน

ซู่เป่าดึงเธอ “แม่ทางนี้ ห้องซู่เป่าอยู่ทางนี้”

ซูจิ่นอวี้ได้สติกลับมาและพูดว่า “หือ โอเค”

ครั้งก่อนซูอี้เซินไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ครั้งนี้ไม่ว่ายังไงก็จะตามมาให้ได้

ซูอิ๋งเอ่อร์มองดผู้ชายตัวใหญ่กลุ่มหนึ่งเบียดกันเข้าไปในห้องของซู่เป่าไม่รู้เกิดอะไรขึ้นเลยตามมาด้วยทันที

ซูเหอเวิ่นพุ่งถลามาพร้อมกับกล้องวิดีโอ “เดี๋ยวก่อน รอผมด้วย!”

ซูอิ๋งเอ่อร์จิ้มหน้าผากเขา “เป็นเด็กเป็นเล็ก มายุ่งอะไรด้วย!”

ซูเหอเวิ่นถอนหายใจ “เดี๋ยวพวกอาก็ต้องพึ่งผม...”

เขาพูดพลางจัดการตั้งกล้อง

ซูอิ๋งเอ่อร์หัวเราะเยาะ “พึ่งนายทำอะไร ขอให้นายถ่ายรูปให้เหรอ?”

ซูอีเฉินพูดด้วยเสียงทุ้มต่ำ “น้องห้า น้องแปด จากนี้ไปห้ามโวยวายเด็ดขาด ไม่ว่าวันนี้พวกนายจะเห็นอะไรก็รูดซิบปากให้สนิท เข้าใจไหม?

ซูอี้เซินตอบว่า “ครับ”

ซูอิ๋งเอ่อร์แบะปาก จะเห็นอะไรได้อีก ก็มแค่พวกเขาไม่กี่คนที่อยู่ในห้อง หรือว่าจะเห็นผีได้ล่ะ...

แล้วก็ได้ยินซูอีเฉินถามขึ้นว่า “ซู่เป่า... แม่ของหนูอยู่ที่นี่ใช่ไหม?”

ซูอิ๋งเอ่อร์ “?”

ซู่เป่าพยักหน้า “ค่ะ! แม่อยู่ที่นี่!”

เธอกอดซูจิ่นอวี้ไว้ “แม่ค่ะ รีบสวัสดีคุณลุงใหญ่เร็ว”

ซูจิ่นอวี้ทำอะไรไม่ถูก เธอจำอะไรไม่ได้เลย

แต่หลังจากมาที่บ้านซูวันนี้เธอค้นพบว่าเธอคุ้นเคยกับสถานที่แห่งนี้เอามาก ๆ เธอเองก็อยากจะรู้เร็ว ๆ ว่าเกิดอะไรขึ้น

เจ้าตัวเล็กเป็นเหมือนผู้ใหญ่ในร่างเด็ก เธอกำลังแนะนำซูจิ่นอวี้ซึ่งสูญเสียความทรงจำให้รู้จักคนนั้นคนนี้ “นี่คือลุงใหญ่แม่ต้องเรียกพี่ใหญ่นะ ส่วนนี่คือลุงเล็กแม่ต้องเรียกว่าพี่เล็ก! นี่คือลุงห้าแม่...”

ซูอิ๋งเอ่อร์กระตุกมุมปาก เขาสงสัยว่าพี่ชายคนโตของเขาบ้าหรือเปล่า มาเล่นกับเด็กเนี่ยนะ?

แต่แล้วก็ได้ยินเสียงที่คุ้นเคยดังมาจากในห้องอย่างกะทันหัน “เอ่อ ฉันรู้แล้ว ต้องเรียกว่าพี่ห้าใช่ไหม?”

ซูอิ๋งเอ่อร์ “!!!”

เสียงเรียกพี่ห้าที่คุ้นเคย... เสียงนี้... นั่นเสียงอวี้เอ่อร์เหรอ!

ซูอิ๋งเอ่อร์ผุดลุกขึ้นยืนด้วยความตกใจ

“อวี้เอ๋อร์...” เขามองไปรอบ ๆ ด้วยความสับสน

เขาสังเกตเห็นว่าซูอี้เซินขยับเข้าใกล้กล้องวิดีโอท่าทางประหลาดใจ ซูอีเฉินก็กำลังดูภาพที่กำลังบันทึกอยู่เช่นกัน

เขาก็รีบชโงกตามไปแล้วก็เห็นว่ามีคนยืนอยู่ข้าง ๆ ซู่เป่า... ก็คือซูจิ่นอวี้นั้นเอง!

“นี่มัน... ใช่อวี้เอ่อร์จริง ๆ!” ซูอิ๋งเอ่อร์ตกตะลึง

“เป็นไปไม่ได้หรอก...” ม่านตาของซูอี้เซินหดตัวลงอย่างรวดเร็ว

สองพี่น้องรู้สึกว่าสมองของพวกเขามึนงงไปหมด พวกเขามองไปที่ซู่เป่าด้วยความตกใจแล้วก็มองไปที่กล้องอีกครั้ง...

ณ จุดนี้ พวกเขารู้สึกว่าโลกทัศน์ของตัวเองกำลังกลับตาลปัตร

“นี่มันเกิดอะไรขึ้น...”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน