จี้ฉางถอนหายใจ พร้อมเอ่ย “นี่ล่ะคือม่านมรกตในเมือง”
เขามองไปทางซู่เป่า “ซู่เป่าจงจำไว้ หลังจากนี้หากเดินทางพยายามหลีกจากม่านพวกนี้…”
ซู่เป่าเอ่ยถาม “ท่านอาจารย์ อะไรคือม่านมรกตเหรอคะ”
จี้ฉางเอ่ยพูดต่อ “ม่านมรกตหมายถึงป่าไม้ พุ่มไม้ ไร่อ้อย ไร่ข้าวโพดหรือไร่ข้าวที่สูงและดก”
“เคยมีคดีหนึ่ง ฆาตกรโรคจิตคนหนึ่งที่แอบอยู่ในไร่ข้าวโพดและสุ่มลากผู้หญิงที่เดินผ่านเข้าไป ไร่ข้าวโพดที่สูงดกนั้นทำให้ไม่ได้ยินเสียงร้องขอความช่วยเหลือของเหล่าหญิงสาวแม้แต่นิด เธอได้แต่ปล่อยให้ตนเองถูกปีศาจสังหาร และย่ำยี…”
“แต่ม่านมรกตในเมืองก็มีพวกที่ก่อสร้าง หรือสวนเปลี่ยวร้าง ที่ที่ปิดไว้แล้วก็คนน้อยน่ะ”
“เมื่อม่านมรกตบดบัง ผู้คนจะไม่ผ่าน”
จี้ฉางมองซู่เป่า เสียงของเขาอ่อนโยน “ไม่ใช่ว่าที่พวกนั้นต้องมีปีศาจแน่ๆ และไม่ใช่คนงานก่อสร้างทุกคนจะเป็นคนไม่ดี”
“เพียงแต่ที่แบบนี้มักมีความอันตรายซ่อนอยู่ อย่าเอาความปลอดภัยของตนเองไปพนันกับสันดานคน”
ซู่เป่าพยักหน้าอย่างจริงจัง “หนูเข้าใจแล้วค่ะ ท่านอาจารย์”
จี้ฉางรู้สึกภูมิใจเป็นอย่างมาก ศิษย์ของเขาเชื่อฟังมากเลย
วินาทีต่อมาก็ได้ยินซู่เป่าพูด ”แต่หนูคิดว่าพวกมันควรกลัวหนูมากกว่า”
จี้ฉาง “……”
เขาชะงักไปครู่หนึ่ง จากนั้นหลุดหัวเราะ
ก็จริง
ตอนนี้เธอสามารถขึ้นฟ้าลงดิน ทำได้ทุกอย่าง
เธอเก่งกาจจน…ไม่จำเป็นต้องให้เขากังวลอีกแล้ว
“อืม” จี้ฉางลูบหัวของซู่เป่า “ซู่เป่าของเราโตแล้ว กลายเป็นคนที่เก่งกาจที่สุดแล้ว”
ในใจจี้ฉางรู้สึกเศร้าเล็กน้อย อาจารย์อย่างเขาไม่มีประโยชน์แล้วจริงๆ
หลังจากนี้เธอจะยิ่งไปยิ่งไกล ฟ้าดินของเธอจะยิ่งอยู่ยิ่งกว้างขวาง บางทีเธออาจไม่ใช่แค่ตัวละครในโลกใบนี้
จู่ๆ เอวเขาก็อ่อน ซู่เป่ากอดเขาไว้
ซู่เป่านั้นนั่งอยู่ ส่วนจี้ฉางยืนลอยอยู่ หัวของซู่เป่าเอนพิงหน้าท้องของจี้ฉาง และเงยหน้ามองเขา
ได้เป็นอาจารย์ก็เหมือนได้เป็นพ่อของเธอตลอดไป เธอไม่มีทางจากท่านอาจารย์ไปแน่
“รอหนูกลายเป็นคนที่เก่งกาจที่สุด หนูจะพาท่านอาจารย์ไปทุกที่เลย”
ต่อให้ออกนอกขอบฟ้าก็จะพาท่านอาจารย์ พี่พัน พี่หลายใจ…และครอบครัวทั้งหมดของเธอไปด้วย
จี้ฉางมองใบหน้าน้อยๆ ตรงหน้าที่เงยมองเขา มันสัมผัสกับจุดที่อ่อนที่สุดในหัวใจเขา
เสียงของเขาอ่อนโยน “โตขนาดนี้แล้วยังอ้อนเป็นเด็กอีก ไม่กลัวคนอื่นเขาหัวเราะกันหรือไง”
ซู่เป่าพูดอุบอิบ “ไม่หัวเราะกันหรอก”
เธอหัวเราะคิกค้าก จากนั้นปล่อยท่านอาจารย์
“จริงด้วยท่านอาจารย์ ท่านยังจำพี่ซูอวี่ได้ไหม”
จี้ฉางพยักหน้า
ซู่เป่าถามอีกครั้ง “เธอน่าจะไปเกิดใหม่หลายครั้งแล้วนะ”
จี้ฉางนั่งขัดสมาธิอยู่อีกฝั่ง คล้ายว่ากำลังเปิดหนังสือบันทึกเป็นตายอย่างไม่ใส่ใจ “เรื่องนี้ข้าไม่รู้แล้ว เพราะตอนนั้นเจ้าเป็นคนส่งนางไปเกิดใหม่”
ซู่เป่าเอ่อทีหนึ่ง “อ๋อ…ก็ได้ งั้นท่านอาจารย์ ท่านจะคิดถึงพี่ซูอวี่ไหม”
พี่ซูอวี่ก็น่าจะถือว่าทำเพื่อท่านอาจารย์มามาก แม่ว่าจะตอนหลังท่านตาย
แต่เธอก็แก้แค้นหลีจื่ออันได้อย่างเด็ดเดี่ยวเลยจริงๆ
เสียงของจี้ฉางทุ้มต่ำ ราวกับกำลังตอบคำถามของซู่เป่าแต่ก็เหมือนคุยกับตนเอง “ในเมื่อไม่เคยสัมพันธ์กัน จะคิดถึงได้อย่างไร”
ซู่เป่าเข้าใจแล้วจึงไม่ได้ถามต่อ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน
ไม่ลงต่อแล้วหรอคะ 🥹...
รอทุกวันเลยค่ะ...
กระโดดข้ามหายไปหลายตอนเลยค่ะ...
1293 1297 1298 หายค่ะ 🥲🥲...
ตอนที่ 1288 หายไปค่ะ...
เย้...กลับมาแล้ว รอทุกวันเลยค่ะ...
หายไปนานจังเลยนะจ๊ะรอลงตอนใหม่อยู่นะคะ...
รอค่ะ...
ทำไมรอบนี้หลายไปนานคะ หรือไปบงที่อื่นคะ...
บทที่ 1268 แล้วกระโดดไป 1278 เลย บทที่ 1269 1270 1271 1272 ข้ามไปทั้งหมด 4 ตอนนะคะ...