ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน นิยาย บท 1596

สรุปบท ตอนที่ 1596 ฟิ่วเดียวก็หายไปเลย: ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน

สรุปตอน ตอนที่ 1596 ฟิ่วเดียวก็หายไปเลย – จากเรื่อง ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน โดย ไอซ์

ตอน ตอนที่ 1596 ฟิ่วเดียวก็หายไปเลย ของนิยายนิยายวัยรุ่นเรื่องดัง ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน โดยนักเขียน ไอซ์ เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง

หญิงสูงศักดิ์มองสาวลูกครึ่งตรงหน้าด้วยสีหน้าดูถูก

"คนอเมริกันแล้วไง พวกคุณก็มีสองตาหนึ่งจมูกเหมือนกันไม่ใช่เหรอ?"

"หรือว่าพวกคุณมีอะไรพิเศษ มีตาอยู่บนหน้าผากหรือไง?"

"คิดว่าตัวเองเป็นพระเจ้าหรือไง"

หญิงสูงศักดิ์สองคนมองอันเดรลและจูลี่อย่างเหยียดหยามแล้วหันหลังจากไป

อัลเดรลแหกหน้าตัวเองอีกเป็นครั้งที่สอง!

เขาโกรธหน้าแดงหูแดง รู้สึกว่าหูกําลังพ่นไอร้อนออกมาเหมือนรถไฟหัวรถจักรไอน้ำ

ทั้งสองกระอักกระอ่วนใจและออกจากเคาน์เตอร์แผนกต้อนรับไปเองด้วยความหดหู่

พวกเขาเดินอยู่ในปราสาท เมื่อเห็นวิวโดยรอบที่สวยงามดั่งฝันก็ยิ่งคิดก็ยิ่งโมโห

"ต้องโทษหม่ามี๊คนเดียวเลย จะไปช็อปปิ้งอะไรตอนนี้" จูลี่บ่น

อันเดรลพูดว่า "ที่รักอย่าโมโหเลยลูก เอ่อ... หนูรอแดดดี๊อยู่ตรงนี้ก่อนนะ"

เขาเห็นว่าไม่มีใครอยู่แถวนั้นจึงเด็ดดอกกุหลาบสิบกว่าดอกหอบกลับมา

"นี่ ดอกกุหลาบสีชมพูไดอาน่าที่หนูชอบ" เขาพูด "อย่าโมโหเลย เราไปหาหม่ามี๊ของหนูกันก่อน"

จูลี่ตื่นเต้นดีใจ "ว้าว สวยมาก ขอบคุณค่ะแดดดี๊!"

ทั้งสองพ่อลูกต่างก็ไม่ใส่ใจ เห็นที่นี่เป็นสวนหลังบ้านของตัวเองไปแล้วจริง ๆ นึกจะเก็บดอกกุหลาบก็เก็บ

และพวกเขาก็ไม่กลัวว่าตอนออกไปจะมีคนว่า มีแค่ที่นี่ที่มีดอกกุหลาบหรือไง?

เขาก็แค่บอกว่าเอามาเอง

ยังไงก็ไม่มีใครเห็นอยู่แล้ว

ถ้ามีมาคนห้ามเขา เขาก็จะได้อ้างบอกว่าระบบการจัดการที่นี่แย่มาก ใส่ร้ายป้ายสีแขกตามใจชอบ!

แต่เขาไม่รู้เลยว่า เหตุการณ์ทั้งหมดนี้ถูกกล้องวงจรปิดที่ด้านบนของปราสาทบันทึกภาพไว้ได้ทั้งหมด

เทคโนโลยีกล้องวงจรปิดชั้นนํา แม้แต่รอยย่นที่หางตาของอันเดรลกล้องก็สามารถจับภาพไว้ได้อย่างชัดเจน นับประสาอะไรกับพฤติการที่เขาเด็ดดอกไม้

อันเดรลหรี่ตาเล็กน้อย เขาไม่อยากอยู่บนเกาะนี้อีกแล้วแม้สักวัน เดี๋ยวจะไปสวนสนุก...

พวกเขาสองคนเดินออกไปอย่างไม่แคร์สายตาใคร คนมากมายที่อยู่โดยรอบ ๆ มองพวกเขาด้วยสายตาประหลาดใจ

แต่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยไม่ได้ห้ามพวกเขาไว้

อันเดรลรู้สึกแปลกใจ แต่พอนึกว่าชาวจีนมีนิสัยชอบรังแกคนที่อ่อนแอกว่าแต่กลัวคนที่แกร่งกว่า เขาก็รู้สึกหมดห่วง

หากเป็นชาวจีนเองที่เก็บดอกไม้ พวกเขาจะต้องถูกตักเตือนแน่ แต่ชาวต่างชาติไม่โดน

คนประเทศนี้ก็ชอบประจบคนอเมริกันอย่างพวกเขาแบบนี้แหละ

บนยอดปราสาท

ห้องที่อยู่อีกด้านหนึ่ง บนระเบียงขนาดใหญ่ที่หันหน้าไปทางเกาะทั้งเกาะ

คนตระกูลซูนั่งอยู่ตรงนี้ครบทุกคน แต่ละคนต่างมีกล้องส่องทางไกลในมือ

"ถึงไหนแล้ว ๆ" ซูอิ๋งเอ่อร์จ้องมองสองพ่อลูกอันเดรลจูลี่ในจอภาพ และพูดด้วยความหงุดหงิดว่า "นี่ก็ผ่านไปตั้งนานแล้ว ทำไมเพิ่งแค่เด็ดดอกไม้ไม่กี่ดอกเอง!"

ดำเนินเรื่องช้ามาก!

มัวทำอะไรอยู่ เร่งสิ!

ซูจิ่นม่อยกกาแฟขึ้นมาจิบพลางมองภาพในมอนิเตอร์

"ฉันก็คิดว่าพวกเขาจะเอะอะโวยวายจะพักชั้นบนสุดของเราให้ได้ นี่ทำฉันผิดหวังมาก"

นายหญิงซูใช้ส้อมเสียบแตงโมขึ้นมาชิ้นหนึ่งด้วยท่าทางสง่างามแล้วส่ายหัว "ดำเนินเรื่องช้ามาก เพิ่งเดินถึงแหล่งช้อปปิ้งเองเหรอ"

โอเค เร่งความเร็ว

อันเดรลได้เจอภรรยาที่กําลังช็อปปิ้งอย่างเมามันแล้ว และโวยวายใส่เธอ โทษว่าเธอทำให้เขาเสียหน้า

หญิงงามทำหน้างงและน้อยใจ

พอเธอรีบเอาของที่ซื้อมาไปเก็บที่โรงแรมเสร็จ ก็โดนสองพ่อลูกลากไปสวนสนุกต่อ

"เราไปกระโดดบันจี้จัมพ์กัน" อันเดรลจ้องมองแท่นกระโดดบันจี้จัมพ์ริมทะเล

มีหน้าผาสูงอยู่ริมทะเลและมีแท่นกระโดดบันจี้จัมพ์อยู่บนนั้น

ระยะห่างแค่ประมาณ 50 เมตร ซึ่งเทียบกับแท่นกระโดดบันจี้จัมพ์ที่มีความสูง 233 เมตรซึ่งสูงที่สุดในจีนไม่ได้

แต่แค่นี้ก็พอแล้ว

บนยอดปราสาท

พี่ชายของอันเดรลเดินทางมาถึงประเทศจีนเรียบร้อยแล้ว

นักการทูตพาณิชย์ของประเทศเขาก็มา

สิ่งที่ประเทศของพวกเขาถนัดที่สุดคือพูดไปเรื่อยโดยไปสนใจความจริง ไร้ยางอายมาก แม้ว่าจะมีหลักฐานจากกล้องวงจรปิดว่าอันเดรลผลักแม่ของจูลี่ลงไปจากหน้าผาเอง

แต่พวกเขาแค่ต้องการข้ออ้าง แค่ต้องการให้มีความจริงเชิงประจักษ์ที่ว่า 'มีคนตาย' ก็พอ

ความจริงเป็นอย่างไรก็ไม่ได้สำคัญสำหรับพวกเขาเลย

เมื่อเป็นเช่นนี้ก็จะกล้าทำร้ายคนอื่น

ดังนั้น... จึงต้องดึงมู่กุยฝานออกไปกันไว้

ซู่เป่าดีดนิ้ว "ได้ค่ะ แป๊บเดียว"

**

ยมโลก

ซูจิ่นอวี้ถูกมู่กุยฝานขวางไว้อีกครั้ง

เธอพูดอย่างร้อนตัวว่า "เมื่อกี้ฉันไม่ได้ตั้งใจจริง ๆ..."

มู่กุยฝานยื่นแขนมากันไว้ ล็อคตัวเธอไว้กับที่ เขาเลิกคิ้วแล้วพูดว่า "แต่ผมตั้งใจ"

ซูจิ่นอวี้ "..."

มู่กุยฝานแกล้งโน้มตัวลงมา "คราวนี้คุณยังมีข้ออ้างอะไรอีก?"

เขาจะไม่ให้เธอลังเลอีกต่อไป วันนี้ต้องเลือก...

ฟิ่ว

ซูจิ่นอวี้ "???"

ห๊ะ?

มู่กุยฝานไปไหนแล้ว?

ฟิ่วเดียวก็หายไปเลย

เธอยังเล่นสนุกไม่พอเลย... ไม่ใช่ เขาพูดยังไม่จบเลย!

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน