ในห้องของซู่เป่า ซูเหอเวิ่นเห็นทุกคนเงียบกันหมด เขายกมือขึ้นด้วยความลังเล “ผมมีคำถาม...”
ทุกคนมองมาที่เขา
ซูเหอเวิ่นพูดว่า “เอ่อ ทำไมรอบ ๆ ตัวน้าจิ่นอวี้ถึงมีผีเยอะจัง?”
ซูอิ๋งเอ่อร์และซูอี้เซินสมองวิ้ง ๆ ไปหมด ผีเยอะงั้นเหรอ??
พวกเขามองไปที่กล้อง ก็ไม่มีนี่นา
แต่แล้วก็ได้ยินจี้ฉางพูดว่า “เพราะซูจิ่นอวี้มีแสงทองคุ้มครอง แสงทองพวกนี้เป็นไอแห่งโชค หรือจะบอกว่าเพียบพร้อมไปด้วยคุณงามความดีก็ได้”
“ถ้าผีพวกนั้นได้แสงสีทองนี้ไป เวลาไปเกิดชาติหน้าก็โชคดีร่ำรวย ดังนั้นพวกมันถถึงอยากได้”
ซู่เป่าพูดต่อว่า “พวกมันไม่ได้ตามแต่แม่หรอก แต่มันยังตามพี่เสี่ยวอวี้ด้วย และนั่นก็เป็นเหตุผลที่ท่านอาจารย์บอกว่าอย่าเพิ่งให้พี่เสี่ยวอวี้กลับไปก่อน”
แล้วทุกคนก็เข้าว่าเกิดไรขึ้น ที่แท้ก็เป็นแบบนี้เอง
ซูเหอเวิ่นถามว่า “แล้วตอนนี้พวกมันอยู่ที่ไหน?”
จี้ฉางตอบว่า “ตอนนี้พวกมันคงลอยเตร่ไปรอบ ๆ คฤหาสน์ พวกมันอยากได้แสงสีทองนั้นมาก ช้าต้องการจะดูว่าพวกมันจะหาชิ้นส่วนวิญญาณของซูจิ่นอวี้เจอไหม”
“พอมีแรงดึงดูดของแสงสีทอง พวกผีก็จะมารวมตัวกันมากขึ้นเรื่อย ๆ”
“แต่ไม่ต้องห่วง ข้าติดยันต์ดูดวิญญาณไว้ในบ้านแล้วพวกมันเข้ามาไม่ได้”
“เดี๋ยวข้าจะลงไปดูที่โลกใต้พิภพหน่อย เพื่อว่าจะมีเบาะแสอะไรบ้าง”
ซูอิ๋งเอ่อร์และคนอื่น ๆ “...” แบบนี้ก็ได้ด้วย?
(เหล่าผีทั้งหลาย พวกเขาก็แค่ผีที่มาทำงานให้สินะ? )
**
เวลาเที่ยงคืน ตอนนี้ก็ดึกมากแล้วและซู่เป่าก็หลับไปแล้ว
ซูเหอเวิ่นถูกไล่ให้ไปนอน แต่ให้ทิ้งกล้องเอาไว้
ในห้องของซูอีเฉิน
ซูอิ๋งเอ่อร์เดินมาพร้อมกับกล่องใส่ของใบใหญ่ เขาเปิดมันออก
ซูจิ่นอวี้ถามด้วยความสงสัย “นี่คืออะไร?”
ซูอีเฉินหยิบตุ๊กตาในกล่องออกมาและพูดด้วยเสียงอบอุ่นว่า “นี่คือตุ๊กตาตัวโปรดของเธอ ตอนที่เธออายุสามขวบจำได้ไหม?”
ซูจิ่นอวี้ส่ายหัว
ซูอีเฉินและซูอิ๋งเอ่อร์ก็เริ่มหยิบของต่าง ๆ ออกมาเหมือนกัน
“นี่คือแหวนรูปกระเป๋ากับรูปดอกไม้ที่เธอชอบ ตอนที่อายุห้าขวบเธอรักสวยรักงามมากเลย...”
“นี่ตอนเจ็ดขวบ... ตุ๊กตากระต่ายที่เธอกอดติดตัวตลอด ตอนที่ตรวจเจอว่าเป็นมะเร็งเม็ดเลือดขาว”
ตั้งแต่นั้นมาซูจิ่นอวี้ก็ต้องเข้ารับการรักษามากมาย และต้องแยกตัวออกจากสิ่งต่าง ๆ มากมายเพื่อหลีกเลี่ยงการติดเชื้อ
เธอทำได้เพียงมองโลกภายนอกผ่านหน้าต่างกระจกห้องผู้ป่วย
พวกเขาอยากเอาสิ่งที่ดีที่สุดในโลกมากองให้ตรงหน้าเธอ แต่เธอแค่ต้องการมีสุขภาพที่แข็งแรง นั่นเป็นสิ่งเดียวที่พวกเขาไม่สามารถให้ได้...
ซูอีเฉินกลั้วคอ พูดเสียงเบาว่า “นี่เป็นดอกทานตะวันที่อวี้เอ๋อร์จับไม่ยอมปล่อยตอนออกจากโรงพยาบาลครั้งแรกหลังจากได้รับเคมีบำบัดครบกระบวนการ”
ดอกทานตะวันที่ถูกทำเป็นดอกไม้แห้งถูกใส่ไว้ในกรอบรูป
“ในตอนนั้นทุกคนมีความสุขมาก คิดว่าในที่สุดเราก็เอาชนะโรคนี้ได้ เราจึงถ่ายรูปหมู่ที่ทางเข้าคฤหาสน์กัน”
เขาวางรูปลงบนโต๊ะ
ซูจิ่นอวี้มองไปที่รูปถ่ายเธอเห็นเด็กผู้หญิงคนหนึ่งยิ้มร่าอยู่ในรูป ผมของเธอสั้นมากเหมือนเพิ่งงอกออกมา
ข้าง ๆ เธอมีพี่ชายแปดคนกับพ่อแม่ของเธอ
ซูอีเฉินหยิบสิ่งของออกมามากมายส่วนใหญ่ไม่ใช่ของมีค่าแต่ว่าของแต่ละชิ้นล้วนมีความหมายพิเศษ
ภาพของเด็กหญิงตัวน้อย ๆ ก็จะค่อย ๆ โตขึ้น ตั้งแต่อายุเจ็ดแปดขวบ สิบกว่าจนยี่สิบปี มีภาพวันเกิดของทุกปี
แต่ส่วนใหญ่เป็นภาพในห้องพักผู้ป่วย ผมเธอร่วงหมดหัวไม่กล้าถ่ายรูป พวกพี่ ๆ จะเลยทำวิกผมให้เธอหลายอัน...
ซูจิ่นอวี้สามารถเห็นร่องรอยการเจริญเติบโตของหญิงสาวในรูปถ่ายได้อย่างชัดเจน
“นี่ฉันจริง ๆ เหรอ …?” ซูจิ่นอวี้ลูบรูปถ่ายด้วยความรู้สึกคุ้นเคยทั้ง ๆ ที่ไม่รู้จัก
ราวกับกำลังชมประสบการณ์ชีวิตในชาติที่ผ่านมาของตัวเอง แต่ก็ไม่สามารถจำอะไรได้เลย
ซูอีเฉินวางของลงและพูดอย่างอบอุ่นว่า “จำไม่ได้ก็ไม่เป็นไร ค่อย ๆ นึกก็ได้”
พวกเขาคงรีบร้อนเกินไป
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน
ไม่ลงต่อแล้วหรอคะ 🥹...
รอทุกวันเลยค่ะ...
กระโดดข้ามหายไปหลายตอนเลยค่ะ...
1293 1297 1298 หายค่ะ 🥲🥲...
ตอนที่ 1288 หายไปค่ะ...
เย้...กลับมาแล้ว รอทุกวันเลยค่ะ...
หายไปนานจังเลยนะจ๊ะรอลงตอนใหม่อยู่นะคะ...
รอค่ะ...
ทำไมรอบนี้หลายไปนานคะ หรือไปบงที่อื่นคะ...
บทที่ 1268 แล้วกระโดดไป 1278 เลย บทที่ 1269 1270 1271 1272 ข้ามไปทั้งหมด 4 ตอนนะคะ...