ซูเหอเวิ่นตกใจจนขวัญหนีดีฝ่อและไม่สนใจอะไรทั้งนั้น รีบสับฝีเท้าวิ่งหนีอย่างรวดเร็วพร้อมกับร้องตะโกนว่า “ฮือๆ น้องสาว...ช่วยด้วย น้องสาวช่วยด้วย!”
เขาวิ่งผ่านตัว‘ผู้คน’เหล่านั้น พวกผีสางต่างพากันส่งเสียงครวญครางออกมาจากปากดั่งศพที่เดินเตร่ไปมาในยุคโลกาวินาศ
ซูเหอเวิ่นวิ่งหนีอย่างสุดชีวิต ถึงแม้ห้องนอนของซู่เป่าจะอยู่ใกล้แค่ด้านหน้าสายตาแต่เขากลับวิ่งไปไม่ถึงสักที
เมื่อได้ยินเสียงเอะอะโวยวาย คนที่ออกมาดูคนแรกก็คือมู่กุยฝาน จากนั้นก็ตามมาด้วยซูอีเฉิน
เมื่อมองออกไปก็เห็นระเบียงที่งเปล่าเปลี่ยวกับซูเหอเวิ่นที่กำลังร้องตะโกน พร้อมกับวิ่งวนไปมาบนระเบียงนั้นอย่างพิลึกชอบกล เหมือนไม่สามารถหลุดพ้นจากระยะทางช่วงนั้นไปได้เลย
มู่กุยฝานเพ่งดูเท้าของซูเหอเวิ่นจากนั้นก็พูดเสียงทุ้มต่ำว่า “ถูกผีเล่นงานแล้ว?”
ซูอีเฉินขมวดคิ้ว “อาจจะเป็นไปได้”
ทั้งสองมองสบตากัน คนแรกที่พวกเขานึกขึ้นมาได้ก็คือซู่เป่า
แต่ว่า...
แม่หนูน้อยตอนนี้กำลังหลับสบายอยู่เลย
ก่อนที่ฟ้าจะสว่างยังเหลือเวลาอีกตั้งสามสี่ชั่วโมง ให้ซูเหอเวิ่นวิ่งต่ออีกสามสี่ชั่วโมงคงจะไหวอยู่ใช่ไหม?
(ซูเหอเวิ่น:พ่อ ฟังคำขอบคุณของผมด้วยนะ!……)
ในเวลานั้น ซูอิ๋งเอ่อร์ก็สะดุ้งตื่นขึ้นและเปิดประตูออกไปดู ก็มองเห็นซูเหอเวิ่นกำลังร้องไห้เสียงดังและวิ่งหมุนวนอยู่แต่ที่เดิม จนเขาเองก็ต้องรู้สึกประหลาดใจ
“ซูเหอเวิ่น แกทำอะไร?”
ซูอิ๋งเอ่อร์พูดตะโกนอย่างเสียงดัง
ซูเหอเวิ่นถึงกับตกใจจนตัวสั่นระริก
ทันใดนั้น ซูเหอเวิ่นก็ส่งสายตาจ้องมองมาพร้อมกับยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์
แล้วน้ำลายก็ไหลย้อยออกมาจากปากคล้ายกับเด็กสติปัญหาไม่สมประกอบ
“เฮ้……เฮ้ๆ!”
“อาปาอาปาอาปา!”
ซูอีเฉิน “……”
เขาหันมามองซูอิ๋งเอ่อร์แวบหนึ่ง ไม่กลัวคู่แข่งขั้นเทพและแต่กลัวเพื่อนร่วมทีมสมองหมู
ซูอิ๋งเอ่อร์ “!!”
อ้าวเฮ้ย...เขาได้ทำเรื่องอะไรที่ไม่ควรทำไปหรือเปล่า?
หรือว่าซูเหอเวิ่นจะกำลังละเมออยู่?
คนโบราณกล่าวไว้ว่า ยามคนละเมออย่าไปทัก…แย่แล้ว เขาก่อเรื่องขึ้นแล้ว??
ซูอิ๋งเอ่อร์ไม่กล้าส่งเสียงดัง
มู่กุยฝานพูดอย่างเสียงเบาว่า “ฉันจะไปเรียกซู่เป่า”
ซูอีเฉินพยักหน้า จากนั้นก็เห็นซูเหอเวิ่นยกมือขึ้นและเดินพุ่งเข้ามา น้ำมูกน้ำตาต่างก็ไหลลงมาพร้อมกัน “อาปาอาปา!”
ซูอีเฉิน “……”
ลูกชายซื่อบื้อคนนี้...มีความรู้สึกขยะแขยงอยู่บ้างเล็กน้อย
เขาจับที่ไหล่ของซูอีเฉิน รู้สึกบรรยากาศรอบตัวเริ่มหนาวเย็นขึ้นมา
ซู่เป่าโดนมู่กุยฝานอุ้มออกมา เธอขยี้ตาอย่างสะลึมสะลือและถามด้วยน้ำเสียงอ่อนเพลีย
“พ่อคะ เกิดอะไรขึ้นหรือคะ?”
ซูเหอเวิ่นหันไปมองซู่เป่าทันที “อาปาอาปา!”
ฮือๆๆ!
น้องสาวมีวิธีช่วยพี่บ้างไหม!
เมื่อซูเหอเวิ่นหมุนคอไปมา ก็เห็นผีผู้หญิงชุดแดงเกาะกินอยู่ที่ลำคอของเขา
อีกนิดเดียวก็จะกัดกินถึงขี้เลื่อยแล้ว...เฮ้ยไม่ใช่ ถึงสมองแล้ว!
“อาปาอาปาอาปาอาปา!” ซูเหอเวิ่นยิ่งร้อนใจมากกว่าเดิม
ซู่เป่าพูดอย่างสงสัยว่า “เอ๊ะ ทำไมมีผีเข้ามาด้วยล่ะ?”
ซูอิ๋งเอ่อร์ “เพราะ?”
มีลมพัดผ่านไปหนึ่งระลอก...
บริเวณรอบๆนั้นอากาศก็หนาวเย็นขึ้นมา แม้แต่ “อ่างเหล็ก” ที่วางอยู่หน้าประตูห้องของซูเหอเวิ่นก็ขยับหมุนไปมาอย่างบ้าคลั่ง
ถ้าอธิบายตามแนวคิดของซูเหอเวิ่น ก็คือสนามแม่เหล็กเคลื่อนไหวอย่างรุนแรง
ซูอิ๋งเอ่อร์ตัดสินใจถอยหลังไปหนึ่งก้าว
และในเวลานี้ ข้างตัวเขามีเสียงร้องโหยหวนหนึ่งดังมา “เจ้า~หนุ่ม~เอ๋ย~แก~เหยียบ~โดน~เท้า~ฉัน~แล้ว~”
ซูอิ๋งเอ่อร์หันหน้ากลับมา ก็เห็นหญิงชราคนหนึ่งสวมเสื้อห่อศพกำลังจ้องมองเขาอยู่
“เฮ้ย!”
เขาตกใจกลัวจนวิ่งไปข้างหน้า แล้วบังเอิญเจอกับเด็กผู้หญิงคนหนึ่งยืนอยู่ด้านหน้าเขาพร้อมกับยิ้มอย่างร่าเริง “ลุงคะ มาเล่นซ่อนแอบด้วยกันไหม!”
ซูอิ๋งเอ่อร์ “……”
จากที่มีหญิงชรากับเด็กผู้หญิงปรากฎตัวขึ้นมา สักพักในระเบียงทางเดินก็ค่อยๆมี “ผู้คน” ออกมายิ่งอยู่ยิ่งมากขึ้น ด้วยสีหน้าเฉยเมยแววตาเซื่องซึมไม่มีประกาย
มีเด็กทารกคนหนึ่งนั่งเล่นอยู่บนพื้นอย่างดีใจ บนลำตัวมีสายรกเส้นยาวๆติดอยู่...ใกล้ๆกันมีผีผู้หญิงท้องโบ๋อยู่ด้วย
ซูอิ๋งเอ่อร์ “!!”
เขาทำตาเหล่และบอกกับตัวเองว่า มองไม่เห็น ฉันมองไม่เห็น...
ฮือๆ เขาถอนคำพูดที่ได้พูดไปเมื่อคืนนี้กลับมา
เขาไม่อยากเห็นผีอีกต่อไปแล้ว!!
และในเวลานั้น มีเงาของคนๆหนึ่งที่คุ้นตาเดินผ่านเข้ามาขวางอยู่ด้านหน้าซูอิ๋งเอ่อร์
ซูจิ่นอวี้ขมวดคิ้วขึ้น และจ้องเขม็งตาไปที่เด็กผู้หญิงคนนั้น “ไปเล่นที่อื่นซะ!”
ซูอิ๋งเอ่อร์อึ้งไปสักพัก เพื่อเห็นคนที่ขวางอยู่ด้านหน้าคือซูจิ่นอวี้
นี่คือน้องสาวของเขา เป็นน้องสาวที่เขาทะนุถนอมมายี่สิบกว่าปี...
ทีแรกคิดว่าคงจะไม่มีวันได้เจอกันอีกแล้ว แต่นึกไม่ถึงเลยว่าคนที่ขวางอยู่ด้านหน้าเพื่อปกป้องเขาจะกลายเป็นเธอได้ เหมือนดั่งเมื่อก่อนที่เขาคอยปกป้องเธอไว้
ซูอิ๋งเอ่อร์รอบตาแดงก่ำ “อวี้เอ๋อร์…”
เขา เขาจึงถอนคำพูดที่พูดไปเมื่อสักครู่นี้!
เจอผีก็ดีเหมือนกัน!
ผีที่เขาหวาดกลัวเหล่านี้ ไม่ใช่ว่าใครอยากเห็นก็จะสามารถมองเห็นได้ง่ายๆ...
เด็กผู้หญิงถูกซูจิ่นอวี้เขม็งตามองจนถอยออกไปห่างๆ
ซูอิ๋งเอ่อร์น้ำตาคลอเบ้า “อวี้เอ๋อร์ของพี่ชายห้าเก่งมาก สามารถปกป้องพี่ชายห้าได้แล้ว!”
ซูจิ่นอวี้จึงพูดตอบว่า เอ่อคือว่า...พี่ใหญ่ พี่พูดเกินความจริงไปแล้ว...
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน
สนุกค่ะ รออัพตอนใหม่อยู่นะคะ...
สนุกค่ะ อ่านได้เรื่อยๆ...
ยังมีใครอ่านอยู่ไหมค่ะเนี่ย ไม่รู้ตัวเอกเป็นยมบาลหรืออันธพาล ใครอ่านอยู่มาคุยกันค่ะ...
เสียดายเวลาที่อ่านมานานก็เลยพยายามอดทนอ่านต่อไปเรื่อยถ้าเนื้อเรื่องยังเป็นแบบนี้สักวันคงเลิกอ่านจริงๆอ่ะ...
อ้าว...ยัยแก่ มหาภัย ยังไงกันหะ อยู่ไปจะมาทำร้าย คุณพี่ชายซูจื่อซี ได้ไง...แกต้องโดนท่านยมบาลน้อย ชำระความ....
ชื่อเรื่อง "ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน" ไอ้เราก็นึกว่า ชีวิตใหม่ที่ว่าคือชีวิตที่ได้เจอคนรอบครัว มีตายายและลุงๆที่รักยัยหนู...แค่นั้น ที่ไหนได้ ที่แท้ชีวิตใหม่คือเป็นมือจับผีตัวน้อย...
🧐รอๆๆๆ...
เป้ยเฉินอวี่ เธอชอบ ซูอีเฉินของฉันไม่ได้!.... รออัพเดตนะค่ะ กำลังสนุก pleaseee...
มีผีร้ายเพิ่มอีกตัว.... ขอบคุณมากค่ะแอดมิน...
เย้ๆ ท่านหญิงซูเดินได้แล้ว ลุ้นๆแม่ของซูเป่าจะจำอดีตได้มั๊ยน๊า ขอบคุณมากค่ะแอดมิน...