ผีสาวยิ่งพูดยิ่งอารมณ์ขึ้น “พวกเราประสบเคราะห์ร้ายโดยไม่คาดคิดมาก่อน แต่มันก็ไม่ใช่ความผิดของพวกเราทั้งหมดเลยซะทีเดียว พวกเราโดนลากเข้าไปเกี่ยวด้วย”
“ผีตายโหงชุดแดงตนนั้น เธอเป็นคนขับรถชนพวกเรา”
“บนถนนจ้วงจิ่นมีรถวิ่งไม่มาก เพราะผีสาวตนนั้นพาลโกรธคนอื่นก็เลยพลอยทำให้พวกเราเดือนร้อนไปด้วย...”
ถนนจ้วงจิ่นเหรอ
หนึ่งปีก่อนที่ถนนจ้วงจิ่น...
ซูอิ๋งเอ่อร์พลันนึกขึ้นได้ “มีอุบัติเหตุทางรถยนต์บนถนนจ้วงจิ่นเมื่อปีที่แล้วจริงๆ ตอนนั้นไซต์งานก่อสร้างของพวกเราก็อยู่แถวๆ นั้น”
“มีผู้หญิงคนหนึ่งกำลังขับรถบนถนนด้วยความเร็วค่อนข้างต่ำ ตอนเธอขับผ่านถนนที่มีเลนเดียว ผู้ชายที่ขับรถตามหลังมารู้สึกหงุดหงิดและอยากจะแซง”
“แต่ผู้หญิงไม่ยอมให้ผู้ชายขับแซง ผู้ชายก็เลยโมโหขึ้นมา ตอนขับรถมาถึงถนนจ้วงจิ่นผู้ชายตั้งใจขับรถปาดหน้าผู้หญิงหลายครั้ง”
ผู้หญิงไม่ยอมจึงขับแข่งกับผู้ชายไปแบบนั้น ทั้งสองขับรถเร็วขึ้นเรื่อยๆ และแย่งกันแซง จนท้ายที่สุดผู้หญิงเสียการควบคุมพุ่งชนรถบรรทุกขนาดใหญ่ที่ขับอยู่ข้างๆ
รถบรรทุกขนาดใหญ่ก็เสียการควบคุมพุ่งชนแม่ลูกที่กำลังข้ามทางจากเกาะกลางถนนที่มีพุ่มหญ้าสีเขียว และแม่คนนั้นก็กำลังตั้งครรภ์...
ต่อมาผู้ชายถูกจับข้อหาขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้หญิงคนนั้น แม่ที่กำลังตั้งครรภ์และลูกเสียชีวิต และถูกตัดสินจำคุกตลอดชีวิต
ซูเหอเวิ่นเข้าใจในทันที “เป็นแบบนี้นี่เอง...”
มิน่าล่ะเมื่อสักครู่นี้ใบหน้าของผีสาวถึงได้แตกออกอย่างกะทันหันและร่างกายก็แตกละเอียด ที่แท้เป็นเพราะโดนรถชน
ซู่เป่าถามด้วยความสงสัย “ท่านอาจารย์คะ แล้วทำไมคุณน้าชุดแดงถึงกลายเป็นวิญญาณพยาบาทได้ล่ะคะ”
ทุกคนล้วนเสียชีวิตไปแล้ว หลังจากคุณน้าที่กำลังตั้งครรภ์และพี่สาวตัวเล็กเสียชีวิตก็กลายเป็นวิญญาณเร่ร่อนธรรมดา แต่เธอกลับกลายเป็นวิญญาณพยาบาท
จี้ฉางพูด “ตอนเธอเสียชีวิตคงยังมีความแค้นอยู่ เพราะก่อนเสียชีวิตเธอกำลังแข่งขันกับคนอื่นอยู่และบังเอิญสวมชุดสีแดงด้วย”
บางทีสำหรับเธอแล้ว อาจเป็นเพราะคนขับผู้ชายฆ่าเธอ เธอจึงยึดติดอยากจะลากคนขับผู้ชายเสียชีวิตตามไปด้วย ด้วยเหตุนี้จึงไม่แปลกที่เธอกลายเป็นวิญญาณพยาบาทที่ฆ่าคนได้
ซู่เป่าเม้มปาก ไม่รู้ว่าถูกหรือผิดอยู่พักหนึ่ง
คุณน้าท้องแตกผิดที่ไม่เคารพกฎจราจร
แต่คุณน้าชุดแดงขับรถโดยประมาทบนถนนเพราะโกรธคนอื่นจนทำให้คุณน้าท้องแตกกับพี่สาวตัวเล็กต้องเสียชีวิต...
ก็ผิดเช่นกัน
สถานการณ์แบบนี้ควรเห็นใจหรือไม่เห็นใจดี
“ท่านอาจารย์... จะจับคุณน้าท้องแตกไว้ไหมคะ” เจ้าตัวเล็กเงยหน้ามองจี้ฉางด้วยสีหน้าสับสน
จี้ฉางหน้านิ่งเป็นท่อนไม้ “จับ”
ซูเหอเวิ่น “ห๊า...”
จี้ฉางพูด “เด็กบริสุทธิ์ก็จริง แต่จะใช้เด็กเป็นข้ออ้างในการกระทำผิดของคนคนหนึ่งไม่ได้ รู้ไหม”
“บนโลกใบนี้มีคนน่าสงสารเป็นหมื่นเป็นพันคน แต่คนจะขอให้คนอื่นยอมให้ตัวเองเพียงเพราะตัวเองน่าสงสารไม่ได้”
เขาก้มหน้ามองซู่เป่าและแอบถอนหายใจ
จะให้เธอเข้าใจเรื่องที่ดูเหมือนจะเยือกเย็นแต่เป็นไปไม่ได้พวกนี้ในตอนนี้ มันยากสำหรับเธอจริงๆ
แต่ในฐานะยมบาลตัวน้อย เธอไม่ควรมีความรู้สึกพิเศษใดๆ
เลือดเย็นทั้งชีวิต และมองทุกอย่างทะลุปรุโปร่ง แต่เมื่อใดที่มีความรู้สึกก็จะสูญเสียความยุติธรรม แต่ถ้าเยือกเย็นไร้ความปราณีก็จะไม่มีทางเรียนรู้ถึงมิตรไมตรีที่อยู่นอกเหนือกฎเกณฑ์และสูญเสียความเป็นคน
“แล้วซู่เป่าคิดจะทำยังไง” จี้ฉางมองเธอ
ซู่เป่าคิดอยู่ชั่วครู่ จากนั้นถามว่า “สามารถจองจำเธอไว้ในยมโลกได้ไหมคะ”
ท่านอาจารย์เคยบอกว่ายมโลกมีโลกใต้พิภพและมีเฟิงตู เฟิงตูเป็นดินแดนรวบรวมวิญญาณผู้เสียชีวิตที่ไม่ได้ไปผุดไปเกิด
นัยน์ตาของจี้ฉางปรากฏความเห็นด้วย ตอนนี้เธอสามารถคิดได้ถึงระดับนี้ถือว่าดีมากแล้ว
“ได้”
ถึงแม้ยังมีวิธีอื่น แต่จี้ฉางไม่ได้พูดมันออกมา
ในเมื่อซู่เป่าพูดแล้ว งั้นก็ทำตามที่เธอต้องการ
ผีท้องแตกอุ้มผีทารกพร้อมกับจูงเด็กหญิงตัวน้อย นัยน์ตายังคงไม่พอใจและอดไม่ได้ที่จะเหลือบมองซูจิ่นอวี้
เมื่อไปสู่ยมโลกแล้ว เธอต้องสั่งสมบุญอย่างหนักและยังต้องดูแลลูกทั้งสองตน...
ซูจิ่นอวี้มีบุญวาสนามากขนาดนั้น แบ่งให้เธอสักหน่อยไม่ได้หรือไง...
จี้ฉางโบกมือ ผีสาวไร้ซึ่งหนทางให้เลือกแล้ว สุดท้ายพวกเขาก็หายไปต่อหน้า
ซูอีเฉินเม้มปาก เมื่อได้เห็นเรื่องราวก่อนเสียชีวิตของผีสาวตนนี้แล้ว หัวใจของเขาก็หนักอึ้งและไม่สามารถอธิบายความรู้สึกออกมาได้
ท้ายที่สุดแล้ว นี่ไม่ใช่การดูละครหรือดูหนัง แต่เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นจริงในชีวิต
เขามองซู่เป่าและไม่สามารถจินตนาการได้เลยว่าเด็กอย่างเธอเคยเผชิญกับธรรมชาติของมนุษย์อันซับซ้อนแบบนี้หลายครั้ง จะมีร่องรอยใดๆ ทิ้งไว้ในใจหรือไม่
แต่กลับเห็นใบหน้าน้อยๆ ของซู่เป่าปรากฏรอยยิ้มราวกับทำเรื่องอะไรบ้างอย่างสำเร็จลุล่วงและยังดีใจมากด้วย
ไร้เดียงสาและเรียบง่าย และไม่คิดมากเกี่ยวกับสิ่งที่ผีสาวพูดเมื่อสักครู่...
สำหรับเด็กอดีตที่ผ่านไปแล้วก็คือผ่านไปแล้ว... ดีมากเลย
ซู่เป่าหันกลับมามองหญิงชราในชุดกี่เพ้าห่อศพที่เหลืออยู่ข้างๆ และถามว่า “แล้วคุณล่ะ คุณยาย เหตุผลของคุณคืออะไร”
จี้ฉางพูดในใจ เยี่ยมมาก ประสบการณ์ ‘การทำงาน ’ นับวันยิ่งเชี่ยวชาญมากขึ้นเรื่อยๆ
หญิงชราในชุดกี่เพ้าห่อศพพูดเบาๆ ว่า “ฉันยังมีเรื่องที่ยังไม่ได้บอกลูกชายของฉัน...”
“เรื่องนี้สำคัญมาก พอฉันบอกเขาแล้วฉันก็จะจากไปอย่างแน่นอน...”
ซู่เป่าถามด้วยความประหลาดใจว่า “เรื่องอะไรถึงได้สำคัญขนาดนั้นเหรอคะ”
หญิงชราในชุดกี่เพ้าห่อศพ “ฉันฝังไหใบหนึ่งไว้ในสวนหลังบ้านของบ้านหลังเก่าของพวกเรา ในไหมีทองคำแท่งสิบแท่งและยังมีสมุดบัญชีหนึ่งเล่ม...”
เธอตื่นเต้นมากเมื่อพูดถึงตรงนี้ “ทองคำแท่งแต่ะละแท่งล้วนมีน้ำหนักหนึ่งร้อยกรัม คิดตามราคาทองคำปัจจุบันแล้วทองคำแท่งหนึ่งแท่งจะมีราคาสามแสน ทองคำแท่งสิบแท่งก็เป็นราคาสามล้าน และในสมุดบัญชีเงินฝากของฉันมีอีกหนึ่งล้าน รวมทั้งหมดสี่ล้าน”
ซู่เป่า “ว้าว เงินเยอะแยะมากเลย”
เจ้าตัวเล็กให้ความร่วมมือดีจริงๆ และใบหน้าน้อยๆ ก็เต็มไปด้วยความประหลาดใจ
มู่กุยฝานแสยะยิ้มมุมปาก
ซูอิ๋งเอ่อร์คิดในใจ ซู่เป่าเอ๋ย เธอเอ่ยปากขอค่าขนมกับลุงใหญ่เดือนละสิบล้านได้แบบสบายๆ แค่สี่ล้านไม่จำเป็นต้องประหลาดใจขนาดนี้...
แต่เขาก็รู้ว่าสี่ล้านมีมูลค่ามากสำหรับคนทั่วไป
สำหรับบางคนนั่นคือเงินที่พวกเขาไม่มีทางหาได้เลยตลอดชีวิต ไม่แปลกใจเลยที่หญิงชราไม่ยอมจากไป
หญิงชราในชุดกี่เพ้าห่อศพพูดต่ออย่างลุกลี้ลุกลน “แต่ลูกชายของฉันกำลังจะขายบ้านหลังเก่า เขาต้องการจะซื้อบ้านในเมืองเพื่อแต่งภรรยา ถ้าขายไปแล้ว ถึงตอนนั้นถ้าคนอื่นขุดเจอก็เป็นของคนอื่น”
เมื่อพูดถึงตรงนี้ เธอร้อนรนใจจนฟันปลอมหลุดและลุกลี้ลุกลนจนร่างกายแผ่ไอพิฆาตออกมา
“ไม่ได้ ฉันต้องกลับไป ฉันต้องบอกลูกชายของฉันว่ามีเงินอยู่ใต้ถุนบ้าน...”
จี้ฉางยังคงสีหน้าเย็นชาและพูดอย่างเฉยเมยว่า “โอ้ เจ้าสามารถเข้าฝันบอกลูกชายได้ ทำไมต้องกลับไปด้วยตัวเอง”
“ตอนเจ้ายังมีชีวิตอยู่ ทำไมเรื่องใหญ่ขนาดนี้ถึงไม่บอกกับลูกชาย พอเสียชีวิตแล้วกลับคิดถึงและเป็นห่วงอยู่ตลอดเวลา”
“เงิน ตอนเกิดไม่ได้เอามาด้วย เสียชีวิตไปแล้วก็เอาไปด้วยไม่ได้ หรือว่าเจ้าไม่รู้หลักเหตุผลข้อนี้”
เมื่อเห็นความงุนงงในแววตาซู่เป่า จี้ฉางจึงอธิบายว่า “เป๋าน้อย พวกเราต้องเรียนรู้ที่จะสังเกตวิญญาณ เจ้าดู”
“ใบหน้ายายแก่สะอาดปราศจากบาดแผลใด ๆ นั่นแสดงว่าเธอไม่ได้เสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุหรือเสียชีวิตอย่างกะทันหัน ผมเผ้าเรียบร้อย สวมชุดกี่เพ้าห่อศพ และยังมีหยกติดตัวหนึ่งชิ้น แสดงว่าลูกชายของเธอกตัญญู”
“หลังจากการสอบสวน เธอเสียชีวิตด้วยอาการป่วย ในเมื่อเธอไม่ได้เสียชีวิตอย่างกะทันหันและลูกชายของเธอก็กตัญญู ก่อนที่เธอจะเสียชีวิตเธอมีโอกาสบอกเรื่องนี้กับลูกชาย แต่ทำไมเธอถึงไม่พูด”
ทันใดนั้นสีหน้าของหญิงชราในชุดกี่เพ้าห่อศพพลันมีอาการเก้อเขินและแววตาเป็นประกายเล็กน้อย “ฉัน...”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน
สนุกค่ะ รออัพตอนใหม่อยู่นะคะ...
สนุกค่ะ อ่านได้เรื่อยๆ...
ยังมีใครอ่านอยู่ไหมค่ะเนี่ย ไม่รู้ตัวเอกเป็นยมบาลหรืออันธพาล ใครอ่านอยู่มาคุยกันค่ะ...
เสียดายเวลาที่อ่านมานานก็เลยพยายามอดทนอ่านต่อไปเรื่อยถ้าเนื้อเรื่องยังเป็นแบบนี้สักวันคงเลิกอ่านจริงๆอ่ะ...
อ้าว...ยัยแก่ มหาภัย ยังไงกันหะ อยู่ไปจะมาทำร้าย คุณพี่ชายซูจื่อซี ได้ไง...แกต้องโดนท่านยมบาลน้อย ชำระความ....
ชื่อเรื่อง "ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน" ไอ้เราก็นึกว่า ชีวิตใหม่ที่ว่าคือชีวิตที่ได้เจอคนรอบครัว มีตายายและลุงๆที่รักยัยหนู...แค่นั้น ที่ไหนได้ ที่แท้ชีวิตใหม่คือเป็นมือจับผีตัวน้อย...
🧐รอๆๆๆ...
เป้ยเฉินอวี่ เธอชอบ ซูอีเฉินของฉันไม่ได้!.... รออัพเดตนะค่ะ กำลังสนุก pleaseee...
มีผีร้ายเพิ่มอีกตัว.... ขอบคุณมากค่ะแอดมิน...
เย้ๆ ท่านหญิงซูเดินได้แล้ว ลุ้นๆแม่ของซูเป่าจะจำอดีตได้มั๊ยน๊า ขอบคุณมากค่ะแอดมิน...