ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน นิยาย บท 164

ผีสาวยิ่งพูดยิ่งอารมณ์ขึ้น “พวกเราประสบเคราะห์ร้ายโดยไม่คาดคิดมาก่อน แต่มันก็ไม่ใช่ความผิดของพวกเราทั้งหมดเลยซะทีเดียว พวกเราโดนลากเข้าไปเกี่ยวด้วย”

“ผีตายโหงชุดแดงตนนั้น เธอเป็นคนขับรถชนพวกเรา”

“บนถนนจ้วงจิ่นมีรถวิ่งไม่มาก เพราะผีสาวตนนั้นพาลโกรธคนอื่นก็เลยพลอยทำให้พวกเราเดือนร้อนไปด้วย...”

ถนนจ้วงจิ่นเหรอ

หนึ่งปีก่อนที่ถนนจ้วงจิ่น...

ซูอิ๋งเอ่อร์พลันนึกขึ้นได้ “มีอุบัติเหตุทางรถยนต์บนถนนจ้วงจิ่นเมื่อปีที่แล้วจริงๆ ตอนนั้นไซต์งานก่อสร้างของพวกเราก็อยู่แถวๆ นั้น”

“มีผู้หญิงคนหนึ่งกำลังขับรถบนถนนด้วยความเร็วค่อนข้างต่ำ ตอนเธอขับผ่านถนนที่มีเลนเดียว ผู้ชายที่ขับรถตามหลังมารู้สึกหงุดหงิดและอยากจะแซง”

“แต่ผู้หญิงไม่ยอมให้ผู้ชายขับแซง ผู้ชายก็เลยโมโหขึ้นมา ตอนขับรถมาถึงถนนจ้วงจิ่นผู้ชายตั้งใจขับรถปาดหน้าผู้หญิงหลายครั้ง”

ผู้หญิงไม่ยอมจึงขับแข่งกับผู้ชายไปแบบนั้น ทั้งสองขับรถเร็วขึ้นเรื่อยๆ และแย่งกันแซง จนท้ายที่สุดผู้หญิงเสียการควบคุมพุ่งชนรถบรรทุกขนาดใหญ่ที่ขับอยู่ข้างๆ

รถบรรทุกขนาดใหญ่ก็เสียการควบคุมพุ่งชนแม่ลูกที่กำลังข้ามทางจากเกาะกลางถนนที่มีพุ่มหญ้าสีเขียว และแม่คนนั้นก็กำลังตั้งครรภ์...

ต่อมาผู้ชายถูกจับข้อหาขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้หญิงคนนั้น แม่ที่กำลังตั้งครรภ์และลูกเสียชีวิต และถูกตัดสินจำคุกตลอดชีวิต

ซูเหอเวิ่นเข้าใจในทันที “เป็นแบบนี้นี่เอง...”

มิน่าล่ะเมื่อสักครู่นี้ใบหน้าของผีสาวถึงได้แตกออกอย่างกะทันหันและร่างกายก็แตกละเอียด ที่แท้เป็นเพราะโดนรถชน

ซู่เป่าถามด้วยความสงสัย “ท่านอาจารย์คะ แล้วทำไมคุณน้าชุดแดงถึงกลายเป็นวิญญาณพยาบาทได้ล่ะคะ”

ทุกคนล้วนเสียชีวิตไปแล้ว หลังจากคุณน้าที่กำลังตั้งครรภ์และพี่สาวตัวเล็กเสียชีวิตก็กลายเป็นวิญญาณเร่ร่อนธรรมดา แต่เธอกลับกลายเป็นวิญญาณพยาบาท

จี้ฉางพูด “ตอนเธอเสียชีวิตคงยังมีความแค้นอยู่ เพราะก่อนเสียชีวิตเธอกำลังแข่งขันกับคนอื่นอยู่และบังเอิญสวมชุดสีแดงด้วย”

บางทีสำหรับเธอแล้ว อาจเป็นเพราะคนขับผู้ชายฆ่าเธอ เธอจึงยึดติดอยากจะลากคนขับผู้ชายเสียชีวิตตามไปด้วย ด้วยเหตุนี้จึงไม่แปลกที่เธอกลายเป็นวิญญาณพยาบาทที่ฆ่าคนได้

ซู่เป่าเม้มปาก ไม่รู้ว่าถูกหรือผิดอยู่พักหนึ่ง

คุณน้าท้องแตกผิดที่ไม่เคารพกฎจราจร

แต่คุณน้าชุดแดงขับรถโดยประมาทบนถนนเพราะโกรธคนอื่นจนทำให้คุณน้าท้องแตกกับพี่สาวตัวเล็กต้องเสียชีวิต...

ก็ผิดเช่นกัน

สถานการณ์แบบนี้ควรเห็นใจหรือไม่เห็นใจดี

“ท่านอาจารย์... จะจับคุณน้าท้องแตกไว้ไหมคะ” เจ้าตัวเล็กเงยหน้ามองจี้ฉางด้วยสีหน้าสับสน

จี้ฉางหน้านิ่งเป็นท่อนไม้ “จับ”

ซูเหอเวิ่น “ห๊า...”

จี้ฉางพูด “เด็กบริสุทธิ์ก็จริง แต่จะใช้เด็กเป็นข้ออ้างในการกระทำผิดของคนคนหนึ่งไม่ได้ รู้ไหม”

“บนโลกใบนี้มีคนน่าสงสารเป็นหมื่นเป็นพันคน แต่คนจะขอให้คนอื่นยอมให้ตัวเองเพียงเพราะตัวเองน่าสงสารไม่ได้”

เขาก้มหน้ามองซู่เป่าและแอบถอนหายใจ

จะให้เธอเข้าใจเรื่องที่ดูเหมือนจะเยือกเย็นแต่เป็นไปไม่ได้พวกนี้ในตอนนี้ มันยากสำหรับเธอจริงๆ

แต่ในฐานะยมบาลตัวน้อย เธอไม่ควรมีความรู้สึกพิเศษใดๆ

เลือดเย็นทั้งชีวิต และมองทุกอย่างทะลุปรุโปร่ง แต่เมื่อใดที่มีความรู้สึกก็จะสูญเสียความยุติธรรม แต่ถ้าเยือกเย็นไร้ความปราณีก็จะไม่มีทางเรียนรู้ถึงมิตรไมตรีที่อยู่นอกเหนือกฎเกณฑ์และสูญเสียความเป็นคน

“แล้วซู่เป่าคิดจะทำยังไง” จี้ฉางมองเธอ

ซู่เป่าคิดอยู่ชั่วครู่ จากนั้นถามว่า “สามารถจองจำเธอไว้ในยมโลกได้ไหมคะ”

ท่านอาจารย์เคยบอกว่ายมโลกมีโลกใต้พิภพและมีเฟิงตู เฟิงตูเป็นดินแดนรวบรวมวิญญาณผู้เสียชีวิตที่ไม่ได้ไปผุดไปเกิด

นัยน์ตาของจี้ฉางปรากฏความเห็นด้วย ตอนนี้เธอสามารถคิดได้ถึงระดับนี้ถือว่าดีมากแล้ว

“ได้”

ถึงแม้ยังมีวิธีอื่น แต่จี้ฉางไม่ได้พูดมันออกมา

ในเมื่อซู่เป่าพูดแล้ว งั้นก็ทำตามที่เธอต้องการ

ผีท้องแตกอุ้มผีทารกพร้อมกับจูงเด็กหญิงตัวน้อย นัยน์ตายังคงไม่พอใจและอดไม่ได้ที่จะเหลือบมองซูจิ่นอวี้

เมื่อไปสู่ยมโลกแล้ว เธอต้องสั่งสมบุญอย่างหนักและยังต้องดูแลลูกทั้งสองตน...

ซูจิ่นอวี้มีบุญวาสนามากขนาดนั้น แบ่งให้เธอสักหน่อยไม่ได้หรือไง...

จี้ฉางโบกมือ ผีสาวไร้ซึ่งหนทางให้เลือกแล้ว สุดท้ายพวกเขาก็หายไปต่อหน้า

ซูอีเฉินเม้มปาก เมื่อได้เห็นเรื่องราวก่อนเสียชีวิตของผีสาวตนนี้แล้ว หัวใจของเขาก็หนักอึ้งและไม่สามารถอธิบายความรู้สึกออกมาได้

ท้ายที่สุดแล้ว นี่ไม่ใช่การดูละครหรือดูหนัง แต่เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นจริงในชีวิต

เขามองซู่เป่าและไม่สามารถจินตนาการได้เลยว่าเด็กอย่างเธอเคยเผชิญกับธรรมชาติของมนุษย์อันซับซ้อนแบบนี้หลายครั้ง จะมีร่องรอยใดๆ ทิ้งไว้ในใจหรือไม่

แต่กลับเห็นใบหน้าน้อยๆ ของซู่เป่าปรากฏรอยยิ้มราวกับทำเรื่องอะไรบ้างอย่างสำเร็จลุล่วงและยังดีใจมากด้วย

ไร้เดียงสาและเรียบง่าย และไม่คิดมากเกี่ยวกับสิ่งที่ผีสาวพูดเมื่อสักครู่...

สำหรับเด็กอดีตที่ผ่านไปแล้วก็คือผ่านไปแล้ว... ดีมากเลย

ซู่เป่าหันกลับมามองหญิงชราในชุดกี่เพ้าห่อศพที่เหลืออยู่ข้างๆ และถามว่า “แล้วคุณล่ะ คุณยาย เหตุผลของคุณคืออะไร”

จี้ฉางพูดในใจ เยี่ยมมาก ประสบการณ์ ‘การทำงาน ’ นับวันยิ่งเชี่ยวชาญมากขึ้นเรื่อยๆ

หญิงชราในชุดกี่เพ้าห่อศพพูดเบาๆ ว่า “ฉันยังมีเรื่องที่ยังไม่ได้บอกลูกชายของฉัน...”

“เรื่องนี้สำคัญมาก พอฉันบอกเขาแล้วฉันก็จะจากไปอย่างแน่นอน...”

ซู่เป่าถามด้วยความประหลาดใจว่า “เรื่องอะไรถึงได้สำคัญขนาดนั้นเหรอคะ”

หญิงชราในชุดกี่เพ้าห่อศพ “ฉันฝังไหใบหนึ่งไว้ในสวนหลังบ้านของบ้านหลังเก่าของพวกเรา ในไหมีทองคำแท่งสิบแท่งและยังมีสมุดบัญชีหนึ่งเล่ม...”

เธอตื่นเต้นมากเมื่อพูดถึงตรงนี้ “ทองคำแท่งแต่ะละแท่งล้วนมีน้ำหนักหนึ่งร้อยกรัม คิดตามราคาทองคำปัจจุบันแล้วทองคำแท่งหนึ่งแท่งจะมีราคาสามแสน ทองคำแท่งสิบแท่งก็เป็นราคาสามล้าน และในสมุดบัญชีเงินฝากของฉันมีอีกหนึ่งล้าน รวมทั้งหมดสี่ล้าน”

ซู่เป่า “ว้าว เงินเยอะแยะมากเลย”

เจ้าตัวเล็กให้ความร่วมมือดีจริงๆ และใบหน้าน้อยๆ ก็เต็มไปด้วยความประหลาดใจ

มู่กุยฝานแสยะยิ้มมุมปาก

ซูอิ๋งเอ่อร์คิดในใจ ซู่เป่าเอ๋ย เธอเอ่ยปากขอค่าขนมกับลุงใหญ่เดือนละสิบล้านได้แบบสบายๆ แค่สี่ล้านไม่จำเป็นต้องประหลาดใจขนาดนี้...

แต่เขาก็รู้ว่าสี่ล้านมีมูลค่ามากสำหรับคนทั่วไป

สำหรับบางคนนั่นคือเงินที่พวกเขาไม่มีทางหาได้เลยตลอดชีวิต ไม่แปลกใจเลยที่หญิงชราไม่ยอมจากไป

หญิงชราในชุดกี่เพ้าห่อศพพูดต่ออย่างลุกลี้ลุกลน “แต่ลูกชายของฉันกำลังจะขายบ้านหลังเก่า เขาต้องการจะซื้อบ้านในเมืองเพื่อแต่งภรรยา ถ้าขายไปแล้ว ถึงตอนนั้นถ้าคนอื่นขุดเจอก็เป็นของคนอื่น”

เมื่อพูดถึงตรงนี้ เธอร้อนรนใจจนฟันปลอมหลุดและลุกลี้ลุกลนจนร่างกายแผ่ไอพิฆาตออกมา

“ไม่ได้ ฉันต้องกลับไป ฉันต้องบอกลูกชายของฉันว่ามีเงินอยู่ใต้ถุนบ้าน...”

จี้ฉางยังคงสีหน้าเย็นชาและพูดอย่างเฉยเมยว่า “โอ้ เจ้าสามารถเข้าฝันบอกลูกชายได้ ทำไมต้องกลับไปด้วยตัวเอง”

“ตอนเจ้ายังมีชีวิตอยู่ ทำไมเรื่องใหญ่ขนาดนี้ถึงไม่บอกกับลูกชาย พอเสียชีวิตแล้วกลับคิดถึงและเป็นห่วงอยู่ตลอดเวลา”

“เงิน ตอนเกิดไม่ได้เอามาด้วย เสียชีวิตไปแล้วก็เอาไปด้วยไม่ได้ หรือว่าเจ้าไม่รู้หลักเหตุผลข้อนี้”

เมื่อเห็นความงุนงงในแววตาซู่เป่า จี้ฉางจึงอธิบายว่า “เป๋าน้อย พวกเราต้องเรียนรู้ที่จะสังเกตวิญญาณ เจ้าดู”

“ใบหน้ายายแก่สะอาดปราศจากบาดแผลใด ๆ นั่นแสดงว่าเธอไม่ได้เสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุหรือเสียชีวิตอย่างกะทันหัน ผมเผ้าเรียบร้อย สวมชุดกี่เพ้าห่อศพ และยังมีหยกติดตัวหนึ่งชิ้น แสดงว่าลูกชายของเธอกตัญญู”

“หลังจากการสอบสวน เธอเสียชีวิตด้วยอาการป่วย ในเมื่อเธอไม่ได้เสียชีวิตอย่างกะทันหันและลูกชายของเธอก็กตัญญู ก่อนที่เธอจะเสียชีวิตเธอมีโอกาสบอกเรื่องนี้กับลูกชาย แต่ทำไมเธอถึงไม่พูด”

ทันใดนั้นสีหน้าของหญิงชราในชุดกี่เพ้าห่อศพพลันมีอาการเก้อเขินและแววตาเป็นประกายเล็กน้อย “ฉัน...”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน