ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน นิยาย บท 1642

สรุปบท ตอนที่ 1642 เจ้าแห่งวิถีสวรรค์ก็คิดเล็กคิดน้อยได้เหมือนกัน: ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน

สรุปตอน ตอนที่ 1642 เจ้าแห่งวิถีสวรรค์ก็คิดเล็กคิดน้อยได้เหมือนกัน – จากเรื่อง ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน โดย ไอซ์

ตอน ตอนที่ 1642 เจ้าแห่งวิถีสวรรค์ก็คิดเล็กคิดน้อยได้เหมือนกัน ของนิยายนิยายวัยรุ่นเรื่องดัง ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน โดยนักเขียน ไอซ์ เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง

ซู่เป่าพิงไหล่นายหญิงซู ในใจก็รู้สึกเปิดกว้างขึ้นอีกครั้ง

เธอคิดเล็กคิดน้อยมากเกินไป

นายหญิงซูอดหัวเราะไม่ได้ "ที่แท้เจ้าแห่งสวรรค์ก็คิดเล็กคิดน้อยได้เหมือนกันนะเนี่ย?"

ซู่เป่าทำหน้ามุ่ย "เจ้าแห่งวิถีสวรรค์ก็เป็นคนเหมือนกันนั่นแหละ!"

อย่างน้อยเธอก็เป็น อย่างน้อยตอนนี้เธอยังเป็นอยู่

นายหญิงซูหัวเราะแล้วหยิกแก้มเธอเบาๆ "โอเคๆๆ เจ้าแห่งวิถีสวรรค์! ยายจะไปดูว่าอาหารเช้าเสร็จหรือยัง วันนี้วันศุกร์ เจ้าแห่งวิถีสวรรค์ก็ต้องไปโรงเรียนเหมือนกันนะ"

ซู่เป่าบิดขี้เกียจและตอบอย่างอ่อนโยน "โอเคค่ะ~"

ก่อนที่คุณยายจะลงไป เธอพูดทิ้งท้ายว่า "ถ้าซู่เป่ามีอะไรที่คิดไม่ออกอีก ก็มาหายายนะ!"

นายหญิงซูนึกอะไรขึ้นมาได้ จึงก้มลงไปแล้วพูดเสริมว่า "ถ้าหากว่ายายไม่อยู่แล้ว และไม่มีใครอยู่ข้างๆ งั้น..."

"ก็จะมีใครบางคนอยู่เคียงข้างซู่เป่าอยู่ดี ซู่เป่าก็แค่ถามพวกเขา อย่าเก็บมันไว้คนเดียว"

ซู่เป่าพยักหน้า "อื้ม อื้ม!"

นายหญิงซูยิ้มและเดินลงไปชั้นล่างจริงๆ คราวนี้

ซู่เป่าหลับตาลงอีกครั้ง ปล่อยจิตเทพของเธอแผ่ขยายออกไปอย่างต่อเนื่อง

พลังจิตของเธอแผ่ขยายออกไปไกลขึ้นเรื่อยๆ...

ข้ามถนนและครอบคลุมไปทั่วทั้งเมืองจิง และครอบคลุมทั้งประเทศจีน...

จนกระทั่งจิตเทพของเธอไปถึงบนท้องฟ้า ราวกับว่าเธอกำลังมองดูโลกมนุษย์จากเบื้องบน

ผู้คนเดินไปมาวุ่นวายในชีวิตที่เร่งรีบ ในวันที่ยากลำบากพวกเขามักรู้สึกว่าชีวิตของตัวเองช่างยาวนาน แต่ความจริงแล้วมันก็แค่ผ่านไปอย่างรวดเร็วเหมือนดาวตกที่พาดผ่านท้องฟ้าก็เท่านั้น

ความรับผิดชอบและการปล่อยวาง ต่างก็มีเส้นแบ่งของมัน

ซู่เป่าลืมตาขึ้นแล้วปรากฏตัวในห้องของตัวเองทันที เธอบิดขี้เกียจพลางพูดว่า "ไปโรงเรียนกันเถอะ!"

วันศุกร์เป็นวันสุดท้ายของสัปดาห์ นอกจากพวกเด็กที่ต้องสอบอย่างหานหานแล้ว นักเรียนส่วนใหญ่มักจะมีความสุขกันมาก

เมื่อถึงคาบสุดท้ายของช่วงบ่ายแล้ว นักเรียนแต่ละกลุ่มก็เริ่มรวมตัวกันวางแผนว่าจะทำอะไรในวันหยุดสุดสัปดาห์

กลุ่มเพื่อนผู้หญิงที่เคยไปกินหมาล่าทังกับซู่เป่าครั้งก่อนก็เข้ามาห้อมล้อมเธออย่างคึกคัก

"ซู่เป่า ปกติเธอทำอะไรในวันหยุดสุดสัปดาห์เหรอ?"

"ซู่เป่า สุดสัปดาห์นี้ฉันกับเสวี่ยอี๋และถงถงจะไปกินหมาล่าทังกัน เธอจะไปด้วยไหม?"

ซู่เป่าส่งเสียงเอ๊ะ "แล้วเสี่ยวเหม่ยล่ะ?"

เสวี่ยอี๋กับถงถงมักจะอยู่กับเสี่ยวเหม่ยเสมอ แล้วเวลาอยู่ในโรงเรียน พวกเขาก็มักจะชวนซู่เป่าร่วมกลุ่มจนกลายเป็นเพื่อนสนิทกันทั้งสี่คนโดยไม่รู้ตัว

"เสี่ยวเหม่ยเหรอ..." เสวี่ยอี๋เท้าคางและพูดเสียงเบาๆ ว่า "พ่อแม่เธอหย่ากันแล้ว...เธอไม่ค่อยมีความสุขเลย"

ถงถงก็พูดขึ้นเบาๆ ว่า "ใช่แล้ว ผู้ใหญ่ทั้งสองคนหย่ากัน แต่ทั้งสองฝ่ายกลับบอกว่าไม่ต้องการเสี่ยวเหม่ย"

เสี่ยวเหม่ยถูกทอดทิ้ง กลายเป็นเหยื่อของการหย่าร้างของพ่อแม่เธอ

"ช่วงนี้พ่อแม่ของเธอกำลังทะเลาะกันอยู่ ว่าใครเป็นคนทุ่มเทมากกว่า ใครเป็นคนเลี้ยงลูกสาว ใครเป็นคนจ่ายเงิน"

เสวี่ยอี๋ส่ายหัวและถอนหายใจด้วยความกังวลใจ "ดังนั้นเธอคิดว่า ทำไมก่อนแต่งงานพวกเขาถึงดูรักกันมากจัง แต่พอแต่งงานแล้วถึงกลายเป็นแบบนี้ล่ะ?"

ผู้ใหญ่ที่แต่งงานแล้วดูเหมือนจะไม่มีความสุขกันเลย

แต่ก่อนแต่งงาน พวกเขาก็เฝ้ารอคอยกันอยู่แล้วแท้ๆ

เฮ้อ...

"ฉันกลัวว่าพ่อแม่ฉันจะหย่าเหมือนกัน..." ถงถงพูดว่า "ถ้าพวกเขาบอกว่าไม่ต้องการฉันเหมือนกัน ฉันก็จะเก็บกระเป๋าแล้วไปเร่ร่อนเอง..."

เธออยากจะบอกว่าเธอจะไปซื้อของมาทำอาหาร!

แต่พ่อกับแม่กลับหันหน้ามาพร้อมกับสีหน้าโกรธเกรี้ยวที่ไม่สามารถเก็บอารมณ์ไว้ได้

เสี่ยวเหม่ยตกใจจนถอยหลังไปหนึ่งก้าว ดวงตาเริ่มมีน้ำตาคลอ "พ่อกับแม่หยุดทะเลาะกันได้ไหม..."

แม่ของเสี่ยวเหม่ยพูดอย่างหงุดหงิดว่า “ฉันอยากจะทะเลาะหรือไง? เป็นเพราะพ่อของเธอ เจ้าคนเนรคุณนั่น! เป็นผู้ชายแท้ๆ แต่กลับไม่รู้จักใจกว้าง มาทะเลาะกับเมียตัวเองเพราะเรื่องเล็กๆ น้อยๆ แบบนี้!”

พ่อของเสี่ยวเหม่ยยิ้มเยาะ "อย่าหลงตัวเองไปหน่อยเลย แบบคุณเนี่ยนะยังกล้าบอกว่าเป็นเมียผมอีกเหรอ? ผมทำงานหัวหมุนอยู่ข้างนอกทุกวัน ส่วนคุณอยู่บ้านเฉยๆ ไม่ทำอะไรเลย กลับมายังไม่มีข้าวร้อนๆ ให้กินสักคำ!"

แม่ของเสี่ยวเหม่ยระเบิดอารมณ์ทันที "งั้นในสายตาของคุณ ฉันไม่ได้ทำอะไรเลยใช่ไหม? แล้วคิดว่าใครซักผ้า ตากผ้าให้ล่ะ? รองเท้าถุงเท้าสะอาดที่คุณใส่ทุกวัน ใครเป็นคนซัก? ใครถูพื้น ใครล้างจานกันล่ะ!"

พ่อของเสี่ยวเหม่ยยังคงยิ้มเยาะ "เสื้อผ้าก็มีเครื่องซักผ้าให้ซัก พื้นก็มีเครื่องถูพื้นอัตโนมัติช่วย คุณอย่าทำเป็นเหมือนกับว่าทำงานบ้านนิดหน่อยแล้วเหมือนจะตายไปหน่อยเลย! ผมออกไปทำงานหาเงินเลี้ยงครอบครัว ผมได้พูดอะไรไหม?"

แม่ของเสี่ยวเหม่ยเย้ยหยันกลับไปว่า "ใช่สิ คุณน่ะไม่พูดอะไรเลยจริงๆ นอกจากทำงาน กลับมาบ้านก็ไม่สนใจอะไรทั้งนั้น เรื่องเรียนของลูกก็ไม่สน งานบ้านก็ไม่แตะ เดือนหนึ่งให้เงินแค่ไม่กี่พัน แต่ทำตัวเหมือนเป็นเจ้าบ้านใหญ่โตอย่างงั้นแหละ!"

ทั้งสองคนเริ่มทะเลาะกันมากขึ้นเรื่อยๆ ปะทุความขัดแย้งที่สะสมมานาน

เสี่ยวเหม่ยตกใจจนร้องไห้ แต่เธอไม่สามารถทำอะไรได้ พ่อแม่ก็ไม่ฟังเธอ

เธอไม่เข้าใจ ทำไมก่อนแต่งงานถึงบอกว่า "ผมจะเลี้ยงคุณเอง" แต่สุดท้ายกลายเป็น "ผมเป็นคนเลี้ยงคุณอยู่!"

ก่อนแต่งงานบอกว่า "ฉันจะซักผ้าและทำอาหารให้คุณเอง" แต่ตอนนี้กลับกลายเป็น "คุณเอาแต่ทำงานไม่สนใจอะไรเลย!"

ปัญหามันอยู่ที่ตรงไหนกันแน่? เป็นเพราะเธอหรือเปล่า?

เป็นเพราะมีเธอเป็นลูกหรือเปล่า พ่อถึงได้มีความกดดันมากขึ้นเรื่อยๆ

แม่ถึงได้เหนื่อยใจมากขึ้นทุกวัน

ถ้าไม่มีเธอ ทุกอย่างจะดีขึ้นไหม? พวกเขาคงจะไม่ทะเลาะกันอีกแล้วใช่ไหม?

เสี่ยวเหม่ยไม่สามารถควบคุมน้ำตาตัวเองได้ เธอมองไปที่ระเบียง...ในใจเธอเริ่มรู้สึกสิ้นหวังจนไม่อยากมีชีวิตอยู่ต่อ

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน