จี้ฉางมองดูแผ่นหลังเยือกเย็นที่บังอยู่หน้าตน
ไหนบอกว่า เขาไม่ต่างไปจากคนอื่นๆ ไง
ทำไมถึงยังออกมาปกป้องเขาแบบนี้อีก
เพียงแต่จี้ฉางก็คิดได้อย่างรวดเร็วว่าเขาคิดไปเอง ไม่ว่าจะผีขุนพลตนไหนในตำหนักที่ห้าก็ไม่ควรถูกเหยียดหยามเช่นนี้ และเหยียนหลัวหวังก็จะออกมาปกป้องแบบนี้เช่นกัน
และเขา...ก็ไม่ได้ต่างไปจากคนอื่นๆ จริงๆ
เช่นนั้นในใจของเธอ มีใครที่ไม่เหมือนคนอื่นบ้าง
เรื่องที่นางเคร่งเครียดนั้น จะเกี่ยวกับคนคนนั้นหรือเปล่า
ทางด้านนี้ต่อสู้กันขึ้นมาแล้ว แต่ในหัวใจของผู้พิพากษาจี้กลับซับซ้อนเหลือเกิน
แต่เรื่องเหล่านี้เหยียนหลัวหวังนั้นไม่รู้
เธอสะบัดแขนเสื้อ ไขว้มือไว้ด้านหลัง และมองฉินก่วงหวังจากเบื้องบน
ฉินก่วงหวังกลิ้งไปอยู่อีกด้าน เขาเสียหน้าจนสิ้น
“เหยียนหลัวหวัง การที่เจ้าปกป้องลูกน้องที่ทำผิดโดยโจ่งแจ้งแบบนี้ เจ้าคู่ควรที่จะเป็นผู้นำของทั้งสิบตำหนักจริงหรือ”
เหยียนหลัวหวังไร้ซึ่งสีหน้า เธอจ้องมองไปที่เขาเย็นๆ “จะคู่ควรไหม เจ้าเป็นคนตัดสินหรือ”
“อีกอย่าง ไฟวิญญาณของผู้พิพากษาจี้ข้าเป็นคนเอากลับมาให้เขาเอง”
ฉินก่วงหวังราวกับจับจุดอ่อนของเอได้
เขาไม่สบอารมณ์เหยียนหลัวหวังมานานแล้ว แค่ผู้หญิงคนหนึ่งกลับได้เป็นผู้นำทั้งสิบตำหนัก เอาพญายมตำหนักที่หนึ่งอย่างเขาไปไว้ในตำแหน่งไหนกัน
แต่ผู้หญิงคนนี้ยังเก่งกาจขนาดนี้อีก สู้ยังสู้ไม่ได้เลย
ดังนั้นฉินก่วงหวังจึงหวังจะโจมตีเธอผ่านด้านที่เธอทำผิดกฎ และลากเธอลงมาจากตำแหน่ง
“หน็อยแน่ ที่แท้ก็เหยียนหลัวหวังนี่เองที่แอบเอาไฟวิญญาณไป” ฉินก่วงหวังหัวเราะเย็น “เหยียนหลัวหวัง เจ้าที่เป็นถึงพญายมกลับทำผิดกฎเพื่อเรื่องส่วนตัว ยังจะมีหน้ามาบอกว่าตนเองสมกับเป็นผู้นำของสิบตำหนักอีก”
เวลานี้เอง กลับมีเสียงสองเสียงส่งมา
ตูซื่อหวังจดจ้องด้วยความโมโห “ข้าบอกแล้ว ผู้หญิงน่ะเป็นพญายมไม่ได้ ผู้หญิงน่ะเห็นแก่ความรู้สึกส่วนตัวเป็นที่สุด”
“พวกเจ้าดู นี่เพิ่งผ่านไปนานเท่าไรเอง ก็ปกป้องลูกน้องที่ผิดโดยโจ่งแจ้งเช่นนี้”
ดวงตาของผิงเติ่งหวังกระพริบ เขาประเมินจี้ฉาง และพูดถอนหายใจ “ผู้พิพากษาจี้หล่อเหลาเช่นนี้ เหยียนหลัวหวังจะปกป้องเขาก็ไม่แปลก...”
ประโยคนี้ เหลือเพียงพูดออกมาตรงๆ ว่าพวกเขามีความสัมพันธ์ไม่ซื่อกัน เหยียนหลัวหวังจึงเข้าข้างเขาเพราะความรู้สึกส่วนตัว
ฉินก่วงหวังถูกจี้จนเกรี้ยวกราดขึ้นมาอย่างที่คิด เขารู้สึกเพียงไม่ควรมีผู้หญิงมาอยู่ในระบบตำหนักใต้พิภพ เพราะมันช่างน่าอับอายเหลือเกิน
“เหยียนหลัวหวัง เจ้ามีอะไรจะพูดอีก”
หลุนจ้วนหวังที่ไม่รู้มาตั้งแต่เมื่อไรถามอย่างสงสัย “เรื่องอะไรกันถึงได้โวยวายกันใหญ่เช่นนี้”
ไม่นานนักไท่ซานหวังก็ลากฉู่เจียงหวังมา ซ่งตี้หวังและอู้กวนหวังก็ตามกันมาติดๆ
เมื่อได้ยินความเป็นไปของเรื่อง เหล่าพญายมก็ต่างมองไปที่จี้ฉางด้วยสายตาประเมิน
สีหน้าของเหยียนหลัวหวังกลับไม่เปลี่ยนไปแม้แต่นิด แม้แต่แววนัยน์ตายังไม่เคลื่อนไหว
ฉินก่วงหวังรีบรับบทผู้คุมสถานการณ์ขึ้นมา เขาเอ่ยเสียงดุ “ตอนนี้เหยียนหลัวหวังทำผิดกฎเพราะความรู้สึกส่วนตัว โดยการแอบขโมยไฟวิญญาณในตำหนักสามภพให้บุรุษบำเรอของนาง การกระทำเช่นนี้มันย่ำแย่และร้ายแรงยิ่งนัก ข้าขอเสนอให้ ยึดตำแหน่งเหยียนหลัวหวังของนาง ทุกท่านไม่มีปัญหากันใช่ไหม”
เพียงแค่ประโยคสั้นๆ ไม่กี่ประโยค ก็ทำไฟโทสะจี้ฉางแผดเผาขึ้นมาบนหัวทันที
“ข้าและท่านเหยียนหลัวหวังไม่ได้มีความสัมพันธ์ส่วนตัวกันแต่อย่างใด” เขาเอ่ยเสียงเย็น “ท่านฉินก่วงหวังแค่เอ่ยปากพูดขึ้นลอยๆ เช่นนั้นผู้ที่ตัดสินโดยไม่รอบคอบอย่างฉินก่วงหวังมีสิทธิ์อะไรไปนั่งอยู่บนตำแหน่งพญายมตำหนักที่หนึ่งล่ะ”
ไฟโทสะในใจของเขาลุกโชนขึ้นมาโดยสิ้นเชิง ว่าเขาได้ แต่หากเดือดร้อนไปถึงท่านเหยียนหลัวหวัง จี้ฉางก็เกรี้ยวโกรธขึ้นมาในทันที สีหน้าของเขาเต็มไปด้วยความเยือกเย็น
ฉินก่วงหวังพูดดุ “พญายมอย่างพวกเรากำลังคุยกัน ขุนพลผีต่ำต้อยอย่างเจ้ามีสิทธิ์อะไรมาพูดแทรก”
พูดจบ ก็จะยกฝ่ามือสายฟ้าครึ้มไปที่จี้ฉางอีกครั้ง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน
ไม่ลงต่อแล้วหรอคะ 🥹...
รอทุกวันเลยค่ะ...
กระโดดข้ามหายไปหลายตอนเลยค่ะ...
1293 1297 1298 หายค่ะ 🥲🥲...
ตอนที่ 1288 หายไปค่ะ...
เย้...กลับมาแล้ว รอทุกวันเลยค่ะ...
หายไปนานจังเลยนะจ๊ะรอลงตอนใหม่อยู่นะคะ...
รอค่ะ...
ทำไมรอบนี้หลายไปนานคะ หรือไปบงที่อื่นคะ...
บทที่ 1268 แล้วกระโดดไป 1278 เลย บทที่ 1269 1270 1271 1272 ข้ามไปทั้งหมด 4 ตอนนะคะ...