ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน นิยาย บท 1736

สรุปบท ตอนที่ 1736 บทของจี้ฉาง 22: ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน

สรุปตอน ตอนที่ 1736 บทของจี้ฉาง 22 – จากเรื่อง ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน โดย ไอซ์

ตอน ตอนที่ 1736 บทของจี้ฉาง 22 ของนิยายนิยายวัยรุ่นเรื่องดัง ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน โดยนักเขียน ไอซ์ เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง

หลังจากจับผีสวมรอยได้ จี้ฉางก็ถามว่า “ท่านพญายม เราจะกลับตำหนักกันเลยไหม?”

พญายมมองเขาแล้วถามว่า “เข้าใจหรือยัง?”

จี้ฉางพยักหน้าและพูดเบาๆ ว่า “ข้าน้อยเข้าใจแล้วครับ”

พญายมรู้สึกสนใจ “โอ้? ลองพูดมาซิ”

จี้ฉางพูดว่า “อย่าเลือกหนีเพียงเพราะไม่พอใจในโชคชะตาของตัวเอง…”

พญายมพยักหน้า “พอเข้าใจบ้างแล้ว แต่ยังไม่ทั้งหมด”

จี้ฉาง: “…”

พญายมเอ่ย “นี่เป็นหลักการที่สามที่ข้าต้องการสอนเจ้า”

“นอกจากที่เจ้าพูดมาแล้ว ยังมีอีกอย่างคือ ไม่ว่าชีวิตเจ้าจะเป็นอย่างไร บางครั้งเจ้าก็เป็นคนที่คนอื่นอิจฉาและใฝ่ฝันอยากเป็น”

เธอพูดด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น พร้อมกับชี้แนะอย่างระมัดระวัง “เจ้าที่เป็นเพียงประชาชนธรรมดา แต่สามารถฝ่าฟันจนได้ท่านไท่จ่าย ชีวิตเช่นนี้เป็นชีวิตที่ทุกคนในโลกอิจฉา”

“ถึงแม้ตระกูลจี้จะถูกสังหารล้างตระกูลในภายหลัง แต่ในยุคนั้นเจ้ายังคงเป็นแบบอย่างที่เหล่าลูกหลานตระกูลยากจนใฝ่ฝันถึง และถือเจ้าเป็นเป้าหมายในการต่อสู้”

“เมื่อราชวงศ์เก่าล่มสลายและราชวงศ์ใหม่ผงาดขึ้น ทุกคนในใต้หล้าเมื่อพูดถึงการล้างตระกูลจี้ มักจะรู้สึกเสียดาย”

ความจริงแล้วทุกคนล้วนรู้ดี ใครก็ตามที่สามารถเดินมาถึงจุดนี้ได้ ไม่มีใครเป็นคนโง่

ความอัปยศของตระกูลจี้ถูกล้างออกไปนานแล้ว และจี้ฉางก็กลายเป็นตัวละครที่ปรากฏบ่อยในบทประพันธ์ของนักเขียนในยุคหลัง

“ดังนั้น เจ้าจงดูเถิด เจ้าคิดว่าชีวิตเจ้าช่างน่าเศร้า แต่ไม่รู้ว่ามีคนมากมายแค่ไหนที่ใฝ่ฝันจะเป็นอย่างเจ้า”

จี้ฉางเงียบไป ในที่สุดเขาก็เข้าใจสิ่งที่พญายมต้องการจะสอนเขา

ใช่แล้ว ชีวิตของทุกคนอาจดูธรรมดา แต่สำหรับแต่ละคนแล้ว ชีวิตของพวกเขาล้วนยิ่งใหญ่

ทุกคนต่างมีความผิดหวังและความเศร้าในแบบของตัวเอง แต่ชีวิตของใครบางคนก็อาจเป็นชีวิตที่คนอื่นฝันหา

พญายมเห็นว่าจี้ฉางเข้าใจแล้ว เธอมองไปยังโลกมนุษย์ด้วยสายตาเย็นชา ไม่ยินดีหรือเศร้าใจ

เธอถอนหายใจเบาๆ หลังจากเงียบไปสักพัก “คนยากจนก็อิจฉาคนรวย คนรวยก็อิจฉาคนที่มีสุขภาพดี ส่วนคนสุขภาพดีก็กลับไปอิจฉาคนรวยอีก”

“คนป่วยยอมเสียทุกอย่างเพื่อได้สุขภาพคืนมา ส่วนคนยากจนก็จะพูดว่า ‘แค่ขอให้ข้ามีเงิน ต่อให้ป่วยก็ไม่เป็นไร มีอะไรจะแย่กว่าการจนอีก?’…”

“ทุกชีวิตไม่มีทางสมบูรณ์แบบ แต่ที่น่าขันคือ คนมักจะมองไม่เห็นสิ่งที่ตนเองมีอยู่ และเอาแต่ใฝ่ฝันถึงสิ่งที่คนอื่นมี”

พญายมยืนกอดอก มองอย่างเยือกเย็นและเอ่ยเรียบๆ ว่า “ผู้พิพากษาจี้ ข้าไม่อยากให้เจ้าเป็นคนแบบนั้น”

จี้ฉางรู้สึกเหมือนมีมือมาบีบหัวใจเขาไว้ เขาก้มหน้าและตอบอย่างเชื่อฟัง “ครับ ข้ารู้แล้ว”

พญายมโบกมือ “ไปกันเถอะ”

**

ฟางจือเมิ่งแทบไม่รู้เลยว่าผ่านช่วงปิดเทอมนี้ไปได้ยังไง รู้ตัวอีกทีก็ถึงเวลาต้องกลับไปโรงเรียนแล้ว เธอคิดว่าทุกอย่างคงจะผ่านพ้นไปแล้ว

ท้ายที่สุดแล้ว การทำเรื่องสวมรอยคนอื่นแบบนี้...มันก็แสดงให้เห็นว่าคนคนนั้นยังค่อนข้างเด็กมากทีเดียว

เธอคิดว่าแม้พวกเขาจะไปแจ้งตำรวจ แต่ตำรวจก็คงไม่บอกว่าใครคือคนที่สวมรอยพวกเขา

ใครๆ ก็พูดกันว่าต้องปกป้องความเป็นส่วนตัวของเยาวชนไม่ใช่เหรอ?

เพราะฉะนั้นเมื่อถึงวันเปิดเทอม ฟางจือเมิ่งจึงรู้สึกโล่งใจขึ้นเล็กน้อย

จากที่ไกลๆ เธอเห็นซ่งซือเสวี่ยเดินอยู่กับเพื่อนๆ อย่างมีความสุขบนถนนในโรงเรียน

เธอพูดว่า “ขอบคุณนะ”

ซูเจ๋อหมิงโบกมือเบาๆ ด้วยใบหน้าที่จริงจังแล้วพูดว่า “ไม่ต้องเกรงใจ แล้วพบกันใหม่นะ ซ่งซือเสวี่ย”

มุมปากของซ่งซือเสวี่ยกระตุกเล็กน้อย “ไว้เจอกันใหม่นะ ซูเจ๋อหมิง”

ซูเจ๋อหมิงหันหลังกลับ มือข้างหนึ่งล้วงกระเป๋าอยู่ แม้แต่ท่าทางการเดินก็ดูเคร่งขรึมจริงจัง

เพื่อนๆ ของซ่งซือเสวี่ยที่ยืนอยู่ใกล้ๆ ต่างพากันปิดปากหัวเราะคิกคัก “เฮ้ พวกเธอว่าเขาดูเหมือนท่านประธานจอมเผด็จการเลย ว่าไหม?”

“ไม่ใช่แค่เหมือนนะ แต่เหมือนมาก! ท่าทางจริงจังสุดๆ แค่ดูเงาตอนเขาเดินก็รู้เลยว่าเขาเคร่งขรึมมาก…”

“ซือเสวี่ย จู่ๆ ฉันก็อยากรู้เลยว่าถ้าเธอคบกับเขา เขาจะเป็นยังไงบ้าง!”

“ฮ่าๆ ตอนที่เธอทะเลาะกับเขา เขาจะเขียนรายการไหมนะ แบบว่าปัญหาที่พบข้อที่หนึ่ง...ปัญหาที่พบข้อที่สอง...แนวทางแก้ไขความขัดแย้งข้อที่หนึ่ง...แนวทางแก้ไขข้อที่สอง...”

สาวๆ ต่างพากันปิดปากหัวเราะเสียงดัง

ซ่งซือเสวี่ยกลอกตาใส่เพื่อน “ไร้สาระ!”

แต่ตอนนั้นซ่งซือเสวี่ยไม่รู้เลยว่า ในอนาคตเธอกับซูเจ๋อหมิงจะได้คบกันจริงๆ

จุดสำคัญที่ตัดสินความสัมพันธ์ของทั้งคู่คือ ตอนที่ซูเจ๋อหมิงสวมเสื้อสเวตเตอร์สีกรมท่า เขายืนอยู่ใกล้เธอมากจนก้มลงมองเธอด้วยสายตาอบอุ่น…

เธอกลายเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ให้กับรูปลักษณ์ของเขาและตอบตกลงคำขอของเขาไปด้วยความหุนหันพลันแล่น

แน่นอนว่า เมื่อทั้งคู่คบกันแล้วก็มีเรื่องทะเลาะกันบ้าง แต่ก็ไม่เหมือนอย่างที่เพื่อนๆ พูดไว้

เวลาทะเลาะกัน ซูเจ๋อหมิงไม่ได้เขียนรายการว่าใครถูกใครผิดหรือแนวทางแก้ไขความขัดแย้ง

กลับกัน คนที่เคร่งขรึมและจริงจังคนนี้กลับเป็นฝ่ายยอมให้เธอทุกครั้งเวลาทะเลาะกัน คอยเอาใจและดูแลเธอเสมอ…

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน