ตูซื่อหวังจ้องมองจี้ฉางด้วยแววตาเย็นชา
แม้ว่าเขาจะไม่ได้มีความแค้นอะไรกับจี้ฉางมากนัก แต่เพราะจี้ฉางสนิทกับพญายม
และเขาก็ไม่ชอบพญายมหญิงคนนั้นที่สุด การที่ผู้หญิงคนหนึ่งขึ้นนั่งในตำแหน่งหัวหน้าของพญายมสิบขุม มันก็เหมือนเป็นการดูถูกเขา
ตอนนี้พญายมไม่อยู่แล้ว จี้ฉางก็ไม่มีใครคอยคุ้มครอง ตูซื่อหวังก็เลยอยากจะระบายความแค้นกับจี้ฉางแทน
จี้ฉางรักษาสีหน้าเยือกเย็น ไม่แสดงความอ่อนน้อมหรือเย่อหยิ่ง และตอบอย่างสุขุมว่า “ข้าจะไปที่ไหน ดูเหมือนจะยังไม่ใช่เรื่องที่ท่านตูซื่อหวังต้องมายุ่งเกี่ยว”
ตูซื่อหวังหน้าบึ้งตึงทันที!
ผิงเติ่งหวังที่ยืนอยู่ข้างๆ ส่ายหัวพร้อมกับพูดว่า “ผู้พิพากษาจี้ นั่นเป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสม ตอนนี้ตำหนักพญายมขุมที่ห้าไม่มีพญายมอยู่แล้ว พญายมที่เหลือก็คือผู้บังคับบัญชาของเจ้า”
จ้วนหลุนหวังหัวเราะเยาะ “เป็นแค่ผู้พิพากษาตัวน้อยๆ ยังกล้าดูหมิ่นผู้บังคับบัญชา? เจ้ายังคิดว่ามีพญายมคุ้มครองเจ้าอยู่หรือ?”
จี้ฉางเผชิญหน้ากับเหล่าพญายมคนอื่นๆ โดยไม่แสดงความหวาดกลัวใดๆ
ตอนนี้ท่านไม่อยู่แล้ว เขาก็ต้องเป็นคนที่ยืนหยัดดูแลตำหนักพญายมขุมที่ห้าให้ได้ เขารู้ดีว่าพญายมพวกนี้ต้องการใช้โอกาสนี้เพื่อชิงตำแหน่งหัวหน้าพญายมทั้งสิบขุม
น่าเสียดาย พวกเขาคู่ควรแล้วหรือ?
“ถึงข้าจะไม่มีท่านคอยคุ้มครองแล้ว แต่ข้าก็ยังเป็นผู้พิพากษาแห่งตำหนักพญายมขุมที่ห้า ไม่ใช่หน้าที่ที่ท่านทั้งหลายจะเข้ามาแทรกแซง”
“เหนือกว่าพญายมทั้งสิบขุมยังมีจักรพรรดิเฟิงตู ท่านทั้งหลายคิดจะข้ามหัวจักรพรรดิเฟิงตูหรือ?”
จี้ฉางเห็นฉินก่วงหวังที่รีบมาเมื่อเห็นสถานการณ์เริ่มวุ่นวาย
เขายิ้มมุมปากก่อนพูดเสริมว่า “แม้แต่ท่านฉินก่วงหวังแห่งตำหนักพญายมขุมที่หนึ่งก็ยังไม่ได้พูดอะไร แต่ท่านพญายมคนอื่นๆ กลับรีบร้อนที่จะตั้งตนเป็นใหญ่เสียแล้ว เช่นนี้ไม่เร็วเกินไปหน่อยหรือ?”
ตู้ซื่อหวังยิ้มเยาะ “ฉินก่วงหวัง? นับประสาอะไร! ถึงเขาจะนั่งตำแหน่งในตำหนักพญายมขุมที่หนึ่งก็จริง แต่ยังกล้าคิดว่าตนเองเป็นที่หนึ่งด้วยงั้นหรือ?”
ฉินก่วงหวังได้ยินเช่นนั้นก็ขมวดคิ้วด้วยความไม่พอใจ!
“เกิดอะไรขึ้น?!” เขายืนกอดอก และมีสีหน้าเคร่งขรึม “ตูซื่อหวัง คำพูดของเจ้านี่ข้าฟังแล้วไม่เข้าหูเลยนะ ยังไงกัน แค่พญายมขุมที่ห้าไม่อยู่ พวกเจ้าก็คิดก่อกบฏแล้วหรือ?”
“ตำแหน่งหัวหน้าแห่งพญายมทั้งสิบขุมนั้นไม่ว่าอย่างไรก็ต้องผ่านกระบวนการคัดเลือก เจ้าคิดจะลบล้างกฎเกณฑ์กันแล้วหรือ?”
จี้ฉางยิ้มมุมปากอย่างเย้ยหยัน รู้ดีว่าตอนนี้เขาไม่จำเป็นต้องพูดอะไรอีกแล้ว
ไม่นานนัก เปี้ยนเฉิงหวังและฉู่เจียงหวังก็มาถึง ทั้งสองเพียงโบกมือให้จี้ฉางถอยไปโดยไม่เอ่ยคำใด
จี้ฉางเดินออกไปอย่างสุขุม แต่ตูซื่อหวังมองตามหลังเขาด้วยความขุ่นเคืองตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา เขาเก็บความแค้นไว้ในใจต่อจี้ฉาง
หน้าบ่อน้ำสามภพ จี้ฉางเอามือไขว้หลังและยืนสงบเงียบ
ที่นี่เต็มไปด้วยอดีต ปัจจุบัน และอนาคต
อนาคตไม่อาจเดินไปถึงได้ อีกทั้งพวกตูซื่อหวังยังกล่าวว่า เหล่าจักรพรรดิทุ่มเทกฎแห่งวิถีเพื่อส่งพญายมเข้าสู่ห้วงวัฏจักรแห่งการเวียนว่าย ทำให้กาลเวลาย้อนกลับไปกว่าร้อยปี
ร้อยปีในโลกมนุษย์…?
แต่ใครจะล่วงรู้ได้ว่า พวกเขาจะต้องทนทรมานดิ้นรนอยู่ในห้วงวัฏจักรนานแค่ไหน และจากนั้นพวกเขาไปอยู่ ณ ที่ใดกันแน่
ห้วงวัฏจักรที่สามารถปิดบังแม้แต่วิถีสวรรค์เอง ไม่ใช่สิ่งที่จะค้นหาได้ง่ายดาย
จี้ฉางจ้องมองหนึ่งในห้วงวัฏจักรเบื้องหน้า ดวงตาเริ่มหม่นหมองด้วยความเศร้า
ถึงแม้จะได้เข้าสู่วัฏจักรอีกครั้งแล้วจะเป็นอย่างไร…
เขารู้ดียิ่งกว่าใคร ว่าเธอได้สูญสลายไปจากโลกนี้แล้วอย่างแท้จริง
แสงดาราเพียงดวงเดียว คือการอำลาครั้งสุดท้ายของเธอ
สุดท้ายแล้ว จี้ฉางไม่ได้เลือกไปตามหาเธอในโลกมนุษย์ เขาทำได้เพียงเก็บความทรงจำของเธอไว้ และไม่สามารถทำตามคำที่เธอเคยพูดไว้ให้ปล่อยวางได้
เพราะฉะนั้นเขาจึงทุ่มเทพลังทั้งหมดที่มีไปกับการฝึกฝนบำเพ็ญวิถีไร้เยื่อใยที่เธอเคยฝึก
เขาลืมสิ่งต่างๆ มากมาย ลืมจักรพรรดิชิงหัว ลืมจักรพรรดิเฟิงตู และเก็บความทรงจำไว้ในส่วนลึกสุด
แม้แต่ความรู้สึกที่เขามีก็ค่อยๆ เลือนลางหายไป
ด้วยพลังของผู้พิพากษาตัวน้อย เขาพยายามฝึกฝนวิถีเดียวกับที่เธอเคยฝึก แต่ผลลัพธ์กลับทำให้ความรู้สึกนึกคิดของเขาพังทลายจนไม่สามารถหวนคืนสู่ปกติได้อีก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน
ไม่ลงต่อแล้วหรอคะ 🥹...
รอทุกวันเลยค่ะ...
กระโดดข้ามหายไปหลายตอนเลยค่ะ...
1293 1297 1298 หายค่ะ 🥲🥲...
ตอนที่ 1288 หายไปค่ะ...
เย้...กลับมาแล้ว รอทุกวันเลยค่ะ...
หายไปนานจังเลยนะจ๊ะรอลงตอนใหม่อยู่นะคะ...
รอค่ะ...
ทำไมรอบนี้หลายไปนานคะ หรือไปบงที่อื่นคะ...
บทที่ 1268 แล้วกระโดดไป 1278 เลย บทที่ 1269 1270 1271 1272 ข้ามไปทั้งหมด 4 ตอนนะคะ...