ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน นิยาย บท 1802

ซูอวิ๋นเจาตัดสินใจอย่างรวดเร็ว เขาพูดอย่างเด็ดขาดว่า

“ตกลง งั้น…ขออภัยที่ต้องล่วงเกิน”

อวิ๋นเหลิงซี "..." คิดในใจ ล่วงเกินบ้าบออะไรของคุณ!

จะล่วงเกินท่อนไม้หรือไง?

อย่าว่าแต่ล่วงเกินท่อนไม้เลย ต่อให้ขยี้ท่อนไม้จนแหลก ก็ยังไม่สามารถล่วงเกินเธอได้อยู่ดี

ซูอวิ๋นเจาล้มตัวลงนอนบนเตียง วางมือลงบนท้องอย่างเรียบร้อยและสงบเสงี่ยม

ข้างๆ เขามีท่อนไม้วางอยู่หนึ่งท่อน…

“โอ๊ะ! ลืมปิดม่าน” เขาลุกขึ้นมารีบปิดม่านทันที

“เอ่อ ลืมดื่มน้ำ…” เขาลุกออกไปดื่มน้ำอีกครั้ง

“เอ่อ…ลืมเปิดม่านพลังป้องกัน”

“แค่ก นอนแล้ว นอนจริงๆ แล้ว” เขาปิดตาลงแล้วไม่พูดอะไรอีก

อวิ๋นเหลิงซี "..."

คนๆ นี้ช่างซื่อบื้อจริงๆ ซื่อบื้อแบบไม่รู้จะพูดยังไง

ในยามค่ำคืน ที่นอกลานบ้าน

หญิงชราจูงมือชายชราออกมาเดินเล่นข้างนอก และพูดคุยกันเสียงเบาๆ

“เจ้าว่าเด็กคนนั้นจะมีปัญหาทางสมองไหม…” หญิงชราทำหน้ากังวลพร้อมชี้นิ้วไปที่หัวของตนเอง

“เมื่อครู่ ตอนที่เขาลืมปิดม่าน ข้าบังเอิญเห็นเขานอนกับท่อนไม้…”

ชายชราตอบเสียงต่ำว่า “อย่าพูดสุ่มสี่สุ่มห้า เดี๋ยวเขาได้ยินเข้า”

เขามองเข้าไปข้างในอย่างระมัดระวังแล้วพูดว่า “เขาเป็นผู้บำเพ็ญเพียร การที่เขาทำแบบนี้คงมีเหตุผล บางทีอาจเป็นเรื่องที่พวกเราผีธรรมดาไม่เข้าใจ”

หญิงชราพยักหน้า “ก็คงจะเป็นอย่างนั้น”

เขาต้องมีเหตุผลบางอย่างแน่ๆ!

ชายชราพูดต่อว่า “บ้านพวกเรากันเสียงได้ไม่ดี อย่าเพิ่งพูดอะไรตอนกลับเข้าไปล่ะ”

หญิงชราพยักหน้าเห็นด้วย

ชายชรายังพูดต่ออีกว่า “ช่างเถอะ ผีบำเพ็ญมักจะไวต่อสิ่งรอบข้าง คืนนี้เรานั่งอยู่ที่นี่ก็พอ”

หญิงชราไม่มีข้อโต้แย้งใดๆ เธอนั่งลงบนก้อนหินใหญ่ข้างๆ พลางพูดว่า “ยังไงก็ได้ ในเมื่อก่อนตายเรานอนมามากพอแล้ว ตอนนี้เป็นผีจะนอนหรือไม่นอนก็ไม่ต่างกัน”

ทั้งสองคนนั่งอยู่บนก้อนหินใหญ่ มองดูดวงจันทร์บนท้องฟ้าอย่างเงียบๆ

แสงจันทร์สีเงินส่องลงมา จันทรายามนี้ดูคล้ายกับจันทร์ในโลกมนุษย์ แสงจันทร์อาบไปทั่วดอกไฮเดรนเยียราวกับมีหมอกบางเบาปกคลุม

ผีบำเพ็ญตาเดียวเงี่ยหูฟังรอบๆ พบว่าทุกอย่างเงียบสงบ

เขาค่อยๆ ลุกขึ้น

บ้านของสองผีเฒ่านั้นเล็กมาก ข้างนอกดูเหมือนเป็นลานบ้าน แต่จริงๆ แล้วไม่มีอะไรกั้น

ผีบำเพ็ญตาเดียวคิดจะฉวยโอกาสตอนที่ซูอวิ๋นเจาผ่อนคลายความระวัง เพื่อที่จะลอบขโมยท่อนไม้แล้วหนีไป

ไม่คาดคิดเลยว่า พอออกมาก็เห็นสองผีเฒ่านั่งอยู่บนก้อนหินใหญ่หน้าลานบ้าน และหันมามองเขาเป็นตาเดียวกันอย่างพร้อมเพรียง

ผีบำเพ็ญตาเดียว "..."

ให้ตายสิ

เขารู้สึกหงุดหงิดใจแต่ก็ไม่กล้าทำให้ซูอวิ๋นเจาตื่นตัว ต้องถอยกลับไปอย่างเงียบๆ

ในใจเขาแค้นสองผีเฒ่าคู่นี้เข้าแล้ว

สำหรับเขา ผีธรรมดาอย่างสองคนนั้นก็แค่เหมือนมดปลวก รอให้ซูอวิ๋นเจาไปก่อนเถอะ เขาจะจัดการฆ่าสองผีแก่นี่ให้หมด

**

ซูอวิ๋นเจาหลับตา แต่ก็หลับไม่ลง

ว่ากันว่าผีไม่จำเป็นต้องนอน การนอนไม่มีประโยชน์สำหรับผี แต่ซูอวิ๋นเจากลับมีนิสัยชอบนอนมาโดยตลอด แค่เอนตัวลงก็มักจะหลับไปทันที

แต่คืนนี้กลับนอนไม่หลับ

ซูอวิ๋นเจาจึงตัดสินใจหลับตาลง แล้วบีบอัดจินตันในจุดตันเถียนของตัวเองด้วยความเบื่อหน่าย

ซู่เป่าเคยบอกว่ามีผีบำเพ็ญน้อยคนที่จะฝึกบำเพ็ญอย่างตั้งใจ ส่วนใหญ่แล้วจะชอบกลืนกินผีที่อ่อนแอกว่าเพื่อเพิ่มพลังของตัวเอง

หนึ่งวัน...สองวัน...สามวัน...ซูอวิ๋นเจาหลับยาวไปถึงหนึ่งเดือน!

ในที่สุดจินตันของเขาก็แตกออกเสียงดังแคร่ก ก่อนจะรวมตัวกันกลายเป็นทะเลสีทองที่กว้างใหญ่

พลังหยินในเส้นปราณของเขาหลั่งไหลเติมเต็มลงในทะเลแห่งนั้นอย่างรวดเร็ว

พลังของซูอวิ๋นเจาลดลงอย่างรวดเร็วจากระดับพญายมลงสู่ระดับพญาผีอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งหยุดลงที่จุดเริ่มต้นของระดับพญาผี ดูราวกับเพิ่งจะเลื่อนขั้นเข้าสู่ระดับนี้

ทว่า ซูอวิ๋นเจากลับรู้สึกว่าตอนนี้พลังของตนแข็งแกร่งกว่าก่อนที่จะหลับไปเสียอีก!

**

ผีบำเพ็ญตาเดียวจับตาดูซูอวิ๋นเจาตลอดเวลาหนึ่งเดือนเต็ม!

เมื่อมีผีบำเพ็ญมากขึ้นเรื่อยๆ ที่เริ่มสนใจเขา ผีบำเพ็ญตาเดียวก็ยิ่งหงุดหงิด

ผีตนอื่นอาจจะเพียงแค่สนใจทรัพยากรการฝึกบำเพ็ญของซูอวิ๋นเจา และสงสัยว่าทำไมเขาถึงมีสมบัติมากมายขนาดนี้อยู่กับตัว

แต่เขานั้นกลับสนใจท่อนไม้ที่ซูอวิ๋นเจาพกติดตัวอยู่

เขากลัวว่าผีบำเพ็ญคนอื่นจะมองเห็นสิ่งนี้เช่นกัน ถ้าเป็นแบบนั้น เขาคงแย่งยากกว่าเดิม!

ในขณะที่เขากำลังคิดอยู่นั้น จู่ๆ ก็มีพลังหยินหนาแน่นปะทุออกมาเหมือนกลุ่มเมฆที่ไร้รูปร่าง แผ่กระจายออกไปอย่างกว้างขวาง

ผีบำเพ็ญตาเดียวถึงกับตะลึง ดวงตาเบิกกว้างด้วยความไม่เชื่อ

อะไรกัน! ที่แท้ซูอวิ๋นเจาเป็นแค่ผีร้ายธรรมดาที่เพิ่งจะเลื่อนขั้นเป็นพญาผีเองงั้นหรือ?!

ผีบำเพ็ญตาเดียวรู้สึกเสียใจขึ้นมาทันที ถ้ารู้ว่าเขาอ่อนแอขนาดนี้ เขาควรจะบุกเข้าไปแย่งตั้งแต่แรก!

แต่ตอนนี้...

ผีบำเพ็ญตาเดียวกำหมัดแน่น ไม่ลังเลอีกต่อไป!

ผีบำเพ็ญคนอื่นๆ ก็เริ่มชะงักและสังเกตเห็นว่าซูอวิ๋นเจาเพิ่งเลื่อนขั้นเป็นพญาผีเช่นกัน

ต่างคนต่างเตรียมตัวที่จะลงมือ

ผีบำเพ็ญตาเดียวคิดว่าเขาต้องเป็นฝ่ายลงมือก่อน ในขณะที่คนอื่นยังลังเลอยู่ เขาจะเป็นคนแรกที่บุกไปแย่งชิง!

แย่งมาได้แล้วก็หนีไป เมื่อถึงตอนนั้นของดีทั้งหมดก็จะตกเป็นของเขา!