ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน นิยาย บท 183

ซูลั่วลืมตาขึ้น ตาดำหดเล็กลงทันที

ไม่รู้ว่ามีผู้หญิงมานอนข้างเขาตั้งแต่เมื่อไหร่ ใบหน้าของอีกฝ่ายขาวซีด ดูไม่ค่อยปกตินัก ตาทั้งสองข้างมองเขานิ่ง ในมือของเธอมีเส้นผมที่กำลังเอามาลูบไล้ใบหน้าของเขา

เมื่อเห็นเขาตื่น หญิงสาวก็ยิ้มอย่างอ่อนโยน “ตื่นแล้วเหรอ~”

ซูลั่วเด้งตัวขึ้นเหมือนสปริง เขาไม่เคยเสียท่าทีแบบนี้มาก่อน!

“คุณเป็นใคร?!” เขาเอ่ยเสียงเข้ม

แม้ว่าเขาจะตกใจ แต่ก็ไม่คิดว่าอีกฝ่ายเป็นผี

แฟนคลับที่บ้าดาราของเขาเยอะมาก บางครั้งเวลามานอนโรงแรม นอนไปได้พักนึงก็ได้ยินเสียงงัดแงะ เพราะฉะนั้นเรื่องแบบนี้เป็นเรื่องปกติมาก

แต่ว่าคนที่งัดเข้ามาโดยที่เขาไม่รู้ตัวเลยแบบนี้ อีกทั้งยังมานอนลงข้างเขาได้ คนนี้เป็นคนแรก!

แค่คิดก็น่ากลัวแล้ว!

หญิงสาวค่อยๆ ลุกขึ้นนั่ง เมื่อนั่งเรียบร้อยก็ดึงเสื้อผ้าลง เผยให้เห็นไหล่ของตัวเอง แล้วเอ่ยออกมาอย่างเขินอาย “พี่ชายคะ ค่ำคืนดีๆ แบบนี้มีค่านับไม่ได้เลยนะ คืนนี้ฉันเป็นของคุณ~”

ซูลั่ว “……..”

เขาอดทนอดกลั้นเป็นอย่างมาก ก่อนที่จะเอ่ยออกมาเสียงเย็น “ไสหัวไป!”

ผีหญิงยืนขึ้น สีหน้าเสียใจ

“พี่ชาย ฉันไม่ดีตรงไหนเหรอ?” เธอถาม “ฉันตายเพื่อคุณ ก็น่าสงสารมากพอแล้ว ทำไมพี่ชายยังไม่สงสารกันอีก…..”

ซูลั่วขมวดคิ้วมุ่น รู้สึกว่าแฟนคลับคนนี้จะมีปัญหาด้านประสาท?

เพราะว่าเธอสวมกระโปรงยาวเลยไม่เห็นความผิดปกติอะไร จนเธอเดินลงจากเตียงแล้วลอยอยู่ตรงหน้าเขา เท้าไม่แตะพื้น แต่ลอยอยู่แทน….

ซูลั่ว “!!”

ผี?!

ขนเขาลุกไปหมด อยู่ๆ ก็นึกถึงเรื่องผีที่ซู่เป่าเล่าให้เขาฟัง

ถ้านอนไม่เต็มเตียง จะเรียกผี…..มาจริงๆ?!

ผีหญิงค่อยๆ เงยหน้าขึ้น แล้วมองเขาอย่างหลงใหล “พี่คะ ทำไมไม่พูดอะไรเลย! ตั้งแต่ที่พี่เดบิวฉันก็ชอบพี่แล้ว พี่จำฉันไม่ได้เหรอ?”

ซูลั่วเอ่ยด่าแม่มึงเอ้ยอยู่ในใจ เขาจะจำได้ยังไงกัน? ไม่สิ ที่จริงควรจะพูดว่ามันไม่ใช่เรื่องอะไรที่เขาต้องจำได้เลย

แม้คนอื่นจะบอกว่าเขาเป็นเลว

แต่เขาไม่ยุ่งกับแฟนคลับ อีกทั้งไม่มีทางที่จะติดต่อกับแฟนคลับเองส่วนตัวอีกด้วย

ดาราใหญ่ซูกลั้นใจวิ่งออกไปข้างนอกอย่างบ้าคลั่ง เขาหยิบโทรศัพท์กับกุญแจแล้ววิ่งออกไปเลย ไม่ใส่รองเท้าด้วยซ้ำ

เขาวิ่งอย่างรวดเร็ว โรงแรมระดับสูงนี้เงียบสงบเป็นอย่างยิ่ง ทั้งทางเดินมีเพียงเขาคนเดียวเท่านั้น

แต่ไม่ว่าเขาจะเดินเร็วขนาดไหน ผีตัวนั้นก็ลอยมาอยู่ข้างเขาตลอด

“พี่คะ วิ่งเร็วขนาดนี้ทำไมกัน?”

“พี่คะ พี่กลัวฉันใช่ไหม?”

ผีตัวนั้นเริ่มที่จะบ่นออกมา

ซูลั่วกดลิฟต์ไปยังชั้นหนึ่ง

ผู้จัดการโรงแรมเห็นเพียงแค่ชายคนนึงสวมชุดคลุมนอนเดินลงมาอย่างรีบร้อน กำลังจะลุกขึ้นทักทาย “สวัสดีครับ คุณผู้ชาย…..”

ซูลั่วก็หายตัวไปเสียแล้ว

ผู้จัดการโรงแรม “??”

ซูลั่วไม่ได้อยู่ถ่ายละครที่เมืองจิง แต่อยู่ภาคใต้ที่ห่างออกมากว่าพันลี้

เขารีบนั่งเครื่องกลับตระกูลซูทันที

ช่วงเช้า ท้องฟ้าพึ่งสว่าง มีเมฆบางๆ ปกคลุมไปทั่วเมือง

ดวงตาของซูลั่วแดงเถือก ผีหญิงตัวนั้นตามเขามาตลอดทาง ตอนแรกเขาคิดว่าหลังพระอาทิตย์ขึ้นอีกฝ่ายก็น่าจะหายไปชั่วคราวใช่ไหม?

แต่คิดไม่ถึงเลยว่าอีกฝ่ายจะยังอยู่!

ผีออกมาตอนกลางวันได้??

ซูลั่วรู้สึกเหมือนโดนหนังที่เคยถ่ายมาทั้งหมดหลอกเข้าแล้ว!

อุตส่ากลับมาถึงตระกูลซูได้แล้ว ซูลั่ววิ่งไปทางตึกใหญ่อย่างรวดเร็ว โดยไม่สนใจภาพลักษณ์ใดๆ ทั้งสิ้น

“ซู่เป่า…..” เขาตะโกนเรียกขึ้นมาทันที

คุณหญิงซูบังคับรถ พึ่งลงมาจากชั้นสอง

เธอเห็นชายผมเผ้ายุ่งเหยิง สวมชุดคลุมนอน…..วิ่งจนเทบจะเห็นนู่นนี่นั่นหมดอยู่แล้ว

เธอคิดไม่ถึงเลยว่าชายตรงหน้านี้จะเป็นลูกชายของเธอ เพราะโดยปกติแล้วซูลั่วไม่ได้เป็นแบบนี้

คุณนายซูตกใจเป็นอย่างมาก เด้งตัวขึ้นจากรถเข็น

“ใครก็ได้…..ใครก็ได้!”

มีพวกโรคจิตบุกเข้าบ้านแล้ว!

คุณนายซูทั้งตกใจทั้งโมโห ไอ้โรคจิตนั้นใส่ชุดนอน ไม่ใช่ว่าอีกแปปนึงก็จะเปิดชุดนั้นออกนะ

เธอเป็นแค่คนแก่คนนึงเท่านั้น บ้าไปแล้วหรือยังไง!

“ไอ้โรคจิต” ซูลั่วชะงักงัน ตอนนี้พึ่งรู้ตัว

คุณนายซูยืนได้แล้ว!

เขาเอ่ยออกมาอย่างตกใจ “แม่ครับ แม่….”

คุณนายซู “…..ซูลั่ว??”

ซูลั่ว “อื้อ…..แม่คงไม่ได้พึ่งจำผมได้นะ!”

คุณนายซู “……”

เฮอะ ไม่ใส่เสื้อผ้า เธอจะไปจำได้ได้ไง

คุณนายซูอดไม่ไดที่จะกลอกตามองบน ก่อนที่จะนั่งลงบนเก้าอี้อย่างเคยชินแล้วเอ่ยออกมา “ทำไมถึงสภาพแบบนี้ หรือว่าด้านหลังมีปิศาจอะไรวิ่งตามมาหรือยังไง”

ซูลั่วลืมเรื่องของผีหญิงไปแล้ว เขาชี้ไปที่เท้าของผู้เป็นแม่ “แม่ เมื่อกี้แม่ยืนได้แล้ว”

คุณนายซูบังคับรถไปอีกทางก่อนที่จะบ่นออกมา “จะตื่นเต้นตกใจอะไรกัน ฉันยืนได้มันก็เรื่องปกติ……”

เดี๋ยวนะ ยืนได้?

คุณนายซูเองก็ตกตะลึง

เพราะชีวิตก่อนหน้านี้เธอเองก็ยืนได้มาตลอด ไม่ใช่คนที่ยืนไม่ได้มายี่สิบปีอะไรแบบนั้น ดังนั้นเธอจึงคิดด้วยความเคยชินว่าประโยคที่ลูกชายพูดมานั้นมันก็ไม่ได้แปลกอะไร

แต่ตอนนี้เมื่อรู้ตัวว่าตัวเองยืนได้แล้ว คุณนายซูถึงกับอึ้งไปเลย

“ฉันยืนได้แล้ว…..?”

คุณนายซูเท้ารถเข็น พยายามที่จะลุกขึ้นยืน แต่ไม่รู้เพราะว่าเรื่องจิตใจหรืออะไร กลับทำไม่สำเร็จ

ซูลั่วรีบเข้าไปช่วยพยุงทันที

คุณนายซูถอนหายใจ อาจจะเป็นเพราะเมื่อกี้คิดว่ามีอันตราย ระบบป้องกันตัวภายในมนุษย์ก็เลยทำงานเท่านั้นเองแหละมั้ง………

ซูลั่วกลับไม่คิดเช่นนั้น เขาเอ่ยปลอบ “ในเมื่อยืนได้แล้ว นั่นหมายความว่าไม่เหมือนแต่ก่อนแล้ว จากนี้ไปจะต้องยืนได้อย่างแน่นอน”

“ไม่แน่อาจจะได้ไปเต้นแอโรบิกกับคุณยายคนอื่นได้ด้วยนะ” เขาเอ่ยหยอกล้ออกมา

ในตาของคุณนายซูเกิดประกายแห่งความหวังขึ้นมา อยู่ๆ ก็คิดถึงเรื่องที่ผ่านมาสองสามวันมานี้ เธอเองก็ยกขาถีบคุณท่านซูไปที

เธอบังคับรถเข็นไฟฟ้าไปข้างหน้า จิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว “ฉันจะไปหาตาแก่….”

ซูลั่วถอนหายใจออกมา อยู่ๆ ก็ได้ยินเสียงเขินอายมาที่ข้างหู “ที่แท้พี่ก็มีด้านอบอุ่นแบบนี้อยู่! ฉันยิ่งรักพี่เข้าไปใหญ่แล้ว”

ซูลั่ว “……”

แม่เจ้า เมื่อกี้ดันลืมผีตัวนี้ไปเสียได้!

ซูลั่วที่สวมชุดคลุมนอนของโรงแรมนั้นวิ่งขึ้นไปข้างบน “ซู่เป่า……”

ผีตัวนั้นตอนแรกจะตามขึ้นไปข้างบน แต่รู้สึกอะไรแปลกๆ สีหน้าเธอเปลี่ยนไป รีบบินออกไปข้างนอกทันที

ไม่นานก็หายตัวไปไม่เห็นร่องรอย…….

ซูอีเฉินถือแก้วกาแฟเดินผ่านไป เขาขมวดคิ้วมุ่นก่อนเอ่ยถาม “ซู่เป่ายังไม่ตื่น ตะโกนบ้าอะไรกัน?”

ซูลั่ว “เรื่องด่วนมาก!”

ซูอิ๋งเอ่อร์ถือกระเป๋าเดินออกมา ในปากมีขนมปัง ท่าทางรีบร้อน เอ่ยออกมาประโยคนึง “สภาพแบบนี้ โดนผีหลอกมาเหรอ!”

ซูลั่ว “…….”

ก็โดนผีหลอกมาน่ะสิ?

เมื่อซู่เป่าลืมตาตื่น ก็เห็นลุงงสี่ยืนอยู่ด้านหน้า

“อ่า ลุงสี่ทำไมกลับมาแล้วล่ะคะ บ๊ะจ่างยังทำไม่เสร็จเลย!”

ซูลั่ว “……ซู่เป่า ลุงสี่ของเธอเจอบ๊ะจ่างเข้าให้แล้ว”

ซู่เป่าที่พึ่งตื่นอนกำลังสะลึมสลือนั้น “หา? ไส้อะไรเหรอคะ?”

ซูลั่ว “…….”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน