ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน นิยาย บท 186

ทุกคนถูกตำรวจจับกุมไปราวกับกำลังอยู่ในความฝัน พวกเขาต่างโห่ร้องเสียงดัง แม่ของเด็กหญิงที่กระโดดตึกร้องห่มร้องไห้

“ตำรวจทำร้ายร่างกาย…” เธอตะโกน “ตำรวจคุกคาม ช่วยด้วย!”

หลังจากนั้นก็ไม่มีเสียงอีกต่อไป ดูท่าจะเป็นเพราะปากของเธอถูกอุดไว้ด้วยผ้าซะแล้ว

อาเนี่ยจับโบว์บนปกเสื้อพร้อมจัดทรงให้มัน จากนั้นก็ก้าวอย่างมั่นคงไปทางคฤหาสน์

สง่าราวกับไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้นมาก่อน

เวลานี้โทรศัพท์ดังขึ้น เขารับสายฟังไปพักหนึ่ง จึงพูดอย่างตะลึง “เธองั้นเหรอ”

ในสาย ซูอีเฉินกล่าว “ฉันส่งเอกสารไปให้แล้ว”

อาเนี่ยกล่าว “ได้ครับ ผมจะจัดการให้เรียบร้อยครับ”

หลังวางสาย อาเนี่ยเลื่อนดูโทรศัพท์ ระเอือมถึงที่สุด

เขาไม่เคยคิดมาก่อนว่าที่อยู่ของคฤหาสน์ซูจะถูกเปิดเผยโดยผู้หญิงคนนั้น เพียงแค่ไล่เธอออกจากบ้านเมื่อตอนนั้นมันน้อยเกินไปสำหรับเธอจริงๆ

หลินเสวี่ยอิง!

ยัยผู้หญิงน่ารำคาญนั่นทำไมยังอยู่อีก

อาเนี่ยไม่อยากเห็นหน้าเธอแม้แต่นิด จึงรีบกดโทรออกในทันที

“ฮัลโหล…ช่วยฉันจัดการคนคนหนึ่ง ที่อยู่ส่งไปในโทรศัพท์ของคุณแล้ว ฆ่ามันยังไงเหรอ อย่ามาเหลวไหล ตระกูลซูเป็นตระกูลใสสะอาด จะทำเรื่องผิดกฏหมายเหล่านั้นได้อย่างไรกัน”

ต้องเคารพกฏหมาย!

หลังวางสาย อาเนี่ยพูดอุบอิบคำหนึ่ง “ผู้หญิงคนนี้ อย่างมากก็มีชีวิตอยู่ได้อีกแค่ครึ่งตอน”

อยู่เกินตอนหนึ่งถือว่าเขาแพ้

**

หลังผีผู้หญิงออกจากตระกูลซู เธอยืนอยู่บนสะพานลอย มองดูรถยนตร์ที่ขวักไขว่ไปมา

ขอบตาของเธอแดงก่ำ เธอพูดสะอึกเสียงเบา “ฉันชอบพี่ขนาดนี้ ฉันยอมไปตายเพื่อเขา ทำไมเขาถึงไม่มองฉันบ้างล่ะ…”

ขณะที่เธอกำลังพูดบ่นคร่ำครวญ จู่ๆ ก็เห็นผู้หญิงคนหนึ่งเดินผ่านข้างเธอ

ผู้หญิงคนนี้ถือถุงพลาสติกสีดำใบใหญ่ใบหนึ่ง ด้านในถุงใส่ผักไว้มากมาย ดูท่าเหมือนเธอเพิ่งซื้อมาจากร้านอาหารบางร้าน

เธอวางถุงพลาสติกสีดำไว้บนพื้น เช็ดเหงื่อ จากนั้นก็ยกมือปาดน้ำตา

“ฮรือ…หนักจัง เหนื่อยจัง…”

หลินเสวี่ยอิงรู้สึกว่าตนเองน่าสงสารเหลือเกิน หลังถูกแฟนเก่าไล่ออกจากบ้าน เธอก็เป็นได้แค่พนักงานบริการในโรงแรม

เดิมทีคิดว่าการเป็นพนักงานบริการในโรงแรม จะทำให้เธอได้เจอคนรวยมากหน้าหลายตา ไม่คิดว่าเธอกลับโดนรังแกอย่างสาหัส

เช่นวันนี้ หลังครัวขาดผักทำกับข้าวไปหนึ่งอย่าง พวกเขาจึงเอาเงินให้เธอไปซื้อผักหนึ่งร้อย

แต่เงินหนึ่งร้อยสามารถซื้ออะไรได้ แค่ค่ารถยังไม่พอเลย!

ในใจของหลินเสวี่ยอิงรู้สึกคับแค้นเป็นอย่างมาก เธอเช็ดน้ำตาและหยาดเหงื่อ รวบรวมความกล้าพร้อมให้กำลังใจตนเอง “เชอร์รี่น้อย อย่ายอมแพ้นะ เธอทำได้ สู้ๆ~”

ผีผู้หญิงอีกด้าน “……”

อ้วก…

เป็นผู้หญิงที่น่าขนลุกมาก เพียงแต่…ผู้หญิงตรงหน้าใต้ตาดำคล้ำ จิตวิญญาณอ่อนแอ…

ดูอย่างไรก็เป็นตัวเลือกที่ดีในการสิงร่าง

ผีผู้หญิงแม้จะเป็นผีร้าย ที่สามารถปรากฏตัวตอนกลางวัน แต่ผีต่างก็กลัวแสงแดดกันทั้งนั้น เธอที่ตากแดดไปครึ่งวันก็รู้สึกล้าแล้ว

ดังนั้นเธอจึงไปสิงบนร่างของหลินเสวี่ยอิง…

เวลานี้เธอคิดไม่ถึงแม้แต่นิด ว่าการตัดสินใจนี้จะทำเธอรู้สึกเสียใจมากขนาดนี้!

หลินเสวี่ยอิงให้กำลังใจตนเองเสร็จ ก็ถือถุงพลาสติกใบใหญ่เดินลงสะพานลอยไป

ในที่สุดก็กลับถึงโรงแรม เธอพบกับผู้จัดการโรงแรมที่กำลังจะออกไปพอดี ผู้จัดการเห็นเธอ ก็ชะงักฝีก้าว

หลินเสวี่ยอิงทักทายอย่างเขินอาย “สวัสดีค่ะ ผู้จัดการหวัง”

ผู้จัดการหวังเพียงแค่พยักหน้าเบาๆ พร้อมเอ่ยถาม “หลินเสวี่ยอิง ช่วงนี้คุณทำอะไรไปบ้างกัน”

หลินเสวี่ยอิงชะงัก “ไม่ได้ทำอะไรนะคะ ช่วงนี้ฉันขยันทำงานมาก…ผู้จัดการเรียกฉันว่าเชอร์รี่น้อยก็ได้นะคะ”

ผู้จัดการหวังหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา หน้ายังไม่เงย “ไม่เป็นไรดีกว่า”

ไม่คิดว่านัยน์ตาของหลินเสวี่ยอิงกระพริบไปด้วยความหมองหม่น เธอพูดอย่างผิดหวัง “ฉันคิดว่า…คุณเองก็…ไม่คิดว่าจะเป็นแค่การคิดไปของฉัน…”

“อ้ะ ขอโทษนะคะ ผู้จัดการทำเหมือนฉันไม่เคยพูดอะไรทั้งนั้นเลยดีกว่า” หลินเสวี่ยอิงปิดปากของตนไว้ราวกับเผลอหลุดปากพูดอะไรบางอย่างไป สายตาของเธอรนรานและหลบซ่อน

ผู้จัดการหวัง “?”

ฮัลโหล?

เธอเป็นอะไรกัน?

ฉันล่ะหมดคำพูดจริงๆ

ผู้จัดการหวังยิงสายออกไป ไม่ถึงสองนาที ด้านนอกก็มีบอดี้การ์ดชุดดำเดินเข้ามาสองคน

“หลินเสวี่ยอิงเหรอ” ชายชุดดำเดินมาถามทันที

หลินเสวี่ยอิง “ฉันเอง มีอะไรงั้นเหรอ”

หรือว่า…ผู้จัดการหวังไม่กล้าแสดงความเป็นห่วงต่อเธอตรงๆ ต่อหน้าผู้คนมากมาย เลยเรียกให้พวกเขามาพาเธอออกไปแทน เขาไม่ชอบให้คนอื่นมองเธอ จึงอยากคุมขังเธอไว้ในห้องมืดพร้อมทั้ง…ลงโทษเธองั้นเหรอ

ผีผู้หญิงที่กำลังเกาะอยู่บนหัวหลินเสวี่ยอิง “?”

อะไรกัน ทำไมรู้สึกสมองสั่นครืดๆ!

ดวงตาหลินเสวี่ยอิงแฝงไปด้วยแววฝืน “ผู้จัดการหวัง การที่คุณทำแบบนี้...ต่อให้คุณจะได้ตัวของฉันไป คุณก็ไม่มีทางได้ใจของฉันไปหรอกนะคะ”

แต่คิดไม่ถึงว่า ชายชุดดำกลับไม่ได้พูดอะไรทั้งนั้น ข้างหนึ่งเขาจับแขนของเธอเอาไว้ ส่วนอีกข้างกุมผมของเธอเอาไว้ ว่าจะกดหัวให้เธอเดินออกไป แต่ชายชุดดำรู้สึกแขยงแววตาของหลินเสวี่ยอิง จึงเปลี่ยนเป็นดึงผมของเธอแทนในทันที

ผู้จัดการหวัง “……”

เขาจัดเสื้อ มองวนรอบหนึ่ง จากนั้นกล่าว “เห็นไหม เราทำเรื่องผิดกฏหมายไม่ได้ ทำตัวเป็นคนปกติกันหน่อย”

เหล่าพนักงาน “?”

บ้าหน่า หลินเสวี่ยอิงถูกจับเพราะทำเรื่องผิดกฏหมายงั้นเหรอ

“ไม่อยากจะเชื่อเลย เธอดูเป็นคนบริสุทธิ์ จนบางครั้งฉันยังรู้สึกอึดอัดแทน พอผ่านไปนานๆ ฉันก็คิดว่าเธอเป็นคนบริสุทธิ์จริงๆ ซะอีก…”

“อะไรกัน เธอไม่เห็นหรือไงว่าเธอตั้งใจเข้าใกล้ผู้ชายทุกคนที่เห็นน่ะ เรื่องผิดกฏหมายรอบนี้…ฉันว่าเป็นเพราะเธอแอบทำบริการ ‘โอที’ ตอนดึกแน่เลย”

“ในที่สุดก็ถูกจับตัวไปสักที ทุกวันนี้แค่เห็นเธอฉันก็รู้สึกรำคาญแล้ว ทุกครั้งที่เธอถือผักโลสองโลกลับมาขอบตาของเธอต้องแดงก่ำ กัดปากไว้แน่น ทำท่าทีน่าสงสารตลอดเลย”

“แอ๊บทั้งวันจริงๆ!”

อีกด้าน หลินเสวี่ยอิงถูกกดหัวขึ้นรถสีดำคันหนึ่ง เธอรีบพูดขึ้นอย่างร้อนรน “พี่ๆ ทั้งสอง พวกพี่เข้าใจอะไรผิดหรือเปล่า ทำไมต้องจับตัวฉันด้วย ฉันยังไม่ทันทำอะไรเลยนะ”

ชายชุดดำหงายเอกสารฉบับหนึ่ง “คุณตกเป็นผู้ต้องหายักยอกข้อมูลส่วนตัวผู้อื่น จนส่งผลกระทบในทางที่ไม่ดีอย่างรุนแรง ตอนนี้พวกเราจะทำการฟ้องร้องคุณ!”

หลินเสวี่ยอิงเอ๋อในทันที ไม่ใช่ ขั้นตอนในการฟ้องร้องก็ไม่ใช่แบบนี้นี่นา

รอบนี้หลินเสวี่ยอิงไม่มีกระทั่งเวลาตอบสนอง เธอถูกจับไปที่สถานีตำรวจ จากนั้นก็ถูกควบคุมตัว เธอยังไม่ทันได้สติก็ได้ยินว่าตนเองถูกตัดสินโทษจำคุกเจ็ดปี และเธอหนีไม่พ้นซะแล้ว

หลินเสวี่ยอิง “???”

เดี๋ยวสิ เธอทำอะไรลงไป เธอไม่ได้ทำอะไรทั้งนั้นนี่นา!

ทำไมถึงเป็นแบบนี้กัน…

ในหัวของเธอฉายฉากๆ หนึ่งขึ้นมาอย่างอดไม่ได้ เธอเป็นตัวแทนคนรักเก่าของท่านประธาน หลังจากที่รักแรกของท่านประธานกลับมา แต่เพราะเรื่องเข้าใจผิด ท่านประธานจึงส่งเธอเข้าคุกอย่างไร้ซึ่งความรู้สึก แต่สามปีต่อมา ท่านประธานกลับรู้สึกเสียใจ……”

ผีผู้หญิงที่สิงบนร่างหลินเสวี่ยอิง “???”

เธอรู้สึกว่าไอคิวของตนกำลังถูกกลืนกินช้าๆ ไอพิฆาตบนตัวก็ไหลออกด้านนอก ราวกับอากาศรั่ว และวิ่งเข้าไปในร่างของหลินเสวี่ยอิงจนหมด

ผีผู้หญิงได้สติในทันที เธอรีบออกจากร่างหลินเสวี่ยอิง ไม่คิดว่ากลับติดแน่นกว่าเดิม สลัดให้หลุดไม่ได้แม้แต่นิด

ผีผู้หญิงเสียใจ นี่เธอสิงร่างของคนบ้าอะไรกันแน่!

เธอร้อนรน รีบอ้าริมฝีปากสีแดงสด กัดไปที่คอของหลินเสวี่ยอิงอย่างแรง!

คิดจะกลืนกินฉัน ฉันจะกินแกก่อนเลย

หลินเสวี่ยอิงตะโกนทีหนึ่ง ล้มลงบนพื้นดัง ตุบ กรอกตาสลบไปแบบไม่รู้เรื่องรู้ราว..

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน