ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน นิยาย บท 187

ในโรงพัก ตำรวจเห็นหลินเสวี่ยอิงล้มลงพื้น พร้อมพ่นฟองขาวออกมาจากปาก ก็รีบติดต่อแพทย์ประจำโรงพักมาทันที

“ไม่มีปัญหาอะไร หัวใจปกติ ภาพซีทีสมองปกติ เลือดปกติ…ปกติทุกอย่าง”

แข็งแรงเสียจนไม่มีใครแข็งแรงไปกว่าเธอแล้ว

ทำไมจู่ๆ ถึงกรอกตาพ่นฟองขาวได้ล่ะ…

ตำรวจหลายคนมองหน้ากัน จากนั้นพวกเขาก็เข้าใจ

ตำรวจคนหนึ่งหัวเราะเสียงเย็นพร้อมกล่าว “ตั้งใจแกล้งบ้าและแกล้งโง่ เพราะต้องการหนีความรับผิดชอบอีกแล้วสินะ ครั้งที่แล้วฉันก็เคยจับคนแกล้งเสียความทรงจำได้เหมือนกัน”

แพทย์ตำรวจพยักหน้า หลังเห็นผลรายงานและปรึกษากันอย่างดุเดือด สุดท้ายพวกเขาจึงตัดสินว่านี่เป็นการแกล้งป่วยเพื่อหนีความรับผิดชอบ

แพทย์ตำรวจปลุกเธอขึ้นมาในทันที…จากนั้นตำรวจก็จับตัวเธอกลับไปคุมขังต่อ

ในใจหลินเสวี่ยอิงรู้สึกขมขื่น แต่เธอพูดไม่ออก ตอนนี้ปากและตาของเธอบิดเบี้ยว แต่พวกเขากลับคิดว่านี่เป็นเพียงการแกล้งทำของเธอ

ทำไมเธอถึงน่าสงสารขนาดนี้

ไม่มีใครเห็นว่าบนตัวของหลินเสวี่ยอิงมีผีผู้หญิงเกาะอยู่ เธออ้วกไปด้วยพร้อมกับสาปแช่งไปด้วย

“บ้าเอ้ย สมองคลั่งรัก น่าแขยงชะมัด!”

เป็นความซวยแปดชาติของเธอชัดๆ ถึงได้เจอคนอย่างหลินเสวี่ยอิง เธอถือเป็นของหายากในบรรดามนุษย์เลยล่ะ

ผีสาวทนความพะอืดพะอม ‘กิน’ ไอพิฆาตบนตัวหลินเสวี่ยอิงจนหมด เธอที่อุตส่าหลุดจากร่างของหลินเสวี่ยอิงได้ อ้วกไอพิฆาตที่เพิ่งกินไปเมื่อกี้ออกมาเป็นเสียง แหวะ

“หมายังไม่กิน!” ผีผู้หญิงเดินจากไปด้วยสีหน้าเฮงซวย

หลินเสวี่ยอิงถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำ อยู่ไม่ครบสามปีห้าปีเธอคงหนีออกไปไม่ได้แน่ เรือนจำชายและเรือนจำหญิงนั้นแยกออกจากกัน อย่างน้อยในระยะเวลาที่เธอติดคุกเธอคงไม่มีเป้าหมายและโอกาสให้จินตการอีกแล้วล่ะ

คนด้านในจะสอนให้เธออยู่เป็นเอง

หลินเสวี่ยอิงมองไปทางท้องฟ้าที่อยู่นอกกรงเหล็ก น้ำตาไหลรินลงมาอย่างไร้เสียง เธอรู้สึกว่าชะตานั่นไม่ยุติธรรม

เธอ เดิมทีเป็นนางเอกที่ทุกคนต่างรักใคร่ แต่เพราะไม่มีโอกาส เวลาผ่านมานานขนาดนี้แล้ว เธอก็ยังไม่เจอรักแท้ของเธอ ประธานบริษัทที่รักเธอ ตามใจเธอ ยอมมอบให้เธอแม้กระทั่งชีวิต

หลายวันก่อน เธอไม่มีเงินจ่ายค่าเช่าบ้าน และได้ยินเข้าว่ามีคนกำลังตามหาตระกูลซูพอดี…

เธอที่ไม่มีหนทางจึงบอกที่อยู่ของคฤหาสน์ตระกูลซูให้กับพวกเขาไป เธอรับเงินมาเพียงไม่กี่ร้อย

เธอไม่ได้อยากขายที่อยู่ของคฤหาสน์ตระกูลซูจริงๆ อย่างมากเธอก็แค่มีน้ำใจช่วยเหลือผู้อื่น

ไม่คิดว่าจะมาถึงขั้นติดคุกได้

เธอเจ็บใจ…ฮรือๆๆๆ…

มีน้ำใจก็ผิดงั้นเหรอ ฮรือๆๆๆ

**

อีกด้าน เด็กสาวกระโดดตึกได้กลับไปที่ที่เธออาศัยแล้ว และกำลังโวยวายอย่างโกรธเคือง

“กลัวอะไรกัน เผยที่อยู่พวกมันบนอินเตอร์เน็ตสิ ให้ชาวเน็ตถล่มพวกมันให้ยับ”

“เรื่องนี้ไม่ว่าจะมองจากมุมไหนพวกเราก็ไม่ใช่ฝ่ายเสียเปรียบ ลูกของเราฆ่าตัวตายเพราะดารานั่นจริงๆ หรือซูลั่วไม่ต้องรับผิดชอบจริงๆ งั้นเหรอ”

พ่อของเด็กสาวพยักหน้า รู้สึกมีเหตุผลมาก

แต่พอพูดถึงเรื่องใครจะเป็นคนเปิดเผยที่อยู่ ทุกคนกลับลังเล

พ่อของหญิงสาวลุกขึ้นด้วยดวงตาแดงก่ำพร้อมกล่าว “ฉันเอง!”

เขาจะกลัวทำไม

เขาเป็นคนที่เสียลูกสาวไป เขาเป็นฝ่ายที่น่าสงสาร ซูลั่วแล้วก็ตระกูลซูนั่น พวกมันเสียหายอะไรไปบ้าง

หรือคนรวยอย่างพวกมันสามารถรังแกคนอ่อนแอได้อย่างตามใจงั้นเหรอ

เวลานี้เอง มีคนคนหนึ่งวิ่งเข้ามา พร้อมกล่าว “ดะ-ดะ-เดี๋ยวก่อน อย่าวู่วาม!”

เขากล่าวด้วยเสียงหอบหายใจอย่างหนัก “เมื่อกี้ฉันได้ยินมา ผู้หญิงที่ขายที่อยู่ให้เราเมื่อหลายวันก่อน พวกคุณยังจำได้ไหม”

พ่อของหญิงสาวพยักหน้า จำได้สิ จำได้แม่นเลย ผู้หญิงคนนั้นเหมือนสมองมีปัญหา แต่ที่อยู่ที่เธอให้กลับเป็นที่อยู่จริง

“ฉันได้ยินมาว่าผู้หญิงคนนั้นถูกตระกูลซูฟ้องร้อง จนตอนนี้ยังอยู่ในคุกเลย…”

“เห็นบอกว่าเจ็ดปีน่ะ”

สิ้นเสียงประโยคนี้ พ่อของเด็กหญิงค่อยๆ ชักมือกลับมา บนหน้ากลับเต็มไปด้วยความโมโห

“นี่มันรังแกกันชัดๆ” เขาพูดเคืองๆ

คนอื่นๆ ต่างก็แย่งกันสาปด่า แต่ไม่มีใครกล้าคิดเรื่องนี้อีกแล้ว

ตลกน่า ติดคุกเจ็ดปีเชียวนะ!

“พ่อเจียวเจียว ไม่ใช่ลุงไม่อยากช่วยนะ แต่ลูกชายคนที่สามของลุงต้องสอบข้าราชการปีนี้ ลุงน่ะไม่กลัวโดนจับหรอก แต่จะกระทบไปถึงอนาคตของลูกไม่ได้…”

“แม่เจียวเจียวเองก็อย่าร้องไห้ เห้อ ป้าน่ะไม่เป็นไรหรอก แต่ที่บ้านยังมีแม่สามีที่ป่วยติดเตียงต้องดูแล…”

ทุกคนเพียงแค่อยากได้เงิน ตระกูลซูเป็นถึงเศรษฐีอันดับหนึ่งเชียวนะ รวยขนาดนั้น ให้พวกเขาสักสิบยี่สิบล้าน สำหรับพวกเขาก็ถือเป็นก้อนยักษ์แล้ว…

ถึงเวลาญาติอย่างพวกเขาทั้งออกตัวและออกแรง พ่อแม่เจียวเจียวคงให้พวกเขาหลายแสน อย่างน้อยๆ ก็ต้องหนึ่งแสนเพื่อเป็นการตอบแทน

แต่พวกเขาเพียงแค่อยากได้เงิน ไม่ได้อยากให้ตนเองเดือดร้อนจริงๆ

ตาของแม่เจียวเจียวร้องไห้จนบวมเป่ง “หรือพวกเราจะปล่อยผ่านไปแบบนี้ เจียวเจียวฉันล่ะ เจียวเจียวฉันจะตายฟรีแบบนี้เหรอ”

เธอไม่มีทางยอมรับเด็ดขาดว่าตนเองนั้นดูแลไม่ดี

คนเป็นพ่อแม่ ใครอยากให้ลูกของตนเองเกิดเรื่องกัน

ที่เธอและพ่อเด็กมัวแต่ยุ่งเรื่องงาน ก็เพื่อลูกสาวทั้งนั้น

ความผิดทุกอย่าง ต่างเป็นเพราะดาราพวกนั้น เอะอะก็โพสรูปน่าดึงดูด หนำซ้ำยังจัดกลุ่มแฟนคลับทั้งประเทศอะไรนั่นอีก

ลูกสาวของพวกเขาหลงใหลในตัวเขามาก เธอจำวันเกิด ส่วนสูง น้ำหนัก กระทั่งความชอบ อารมณ์ของเขาได้…เธอไม่เคยห่วงใยพวกเราขนาดนี้เสียด้วยซ้ำ!

พวกเขาเป็นพ่อแม่ของเธอนะ

พวกเขาหาเงินอย่างลำบากลำบนเพื่อค่าเล่าเรียน และค่าขนมของเธอ

ลูกสาวกลับประหยัดอดอออม ใช้เงินไปกับดาราที่ชื่อซูลั่ว เดือนละตั้งหลายพัน

เงินพวกนี้ ก็จะเสียไปฟรีๆ งั้นเหรอ

พ่อเจียวเจียวทุบโต๊ะ โกรธจนราวกับเป็นบ้า เขากล่าว “ฉันไม่รู้ว่ากลุ่มแฟนคลับคืออะไร! การตามดาราคืออะไร! ฉันรู้แค่ลูกสาวฉันตายเพราะซูลั่ว เรื่องนี้จะปล่อยผ่านไปง่ายๆ ไม่ได้เด็ดขาด!”

หลังการปรึกษาของทุกคน สุดท้ายพวกเขาตัดสินใจที่จะไปโวยวายหน้าบริษัทซูลั่ว!

ตระกูลซูพวกเขาไม่กล้าหาเรื่อง…

แต่บริษัทหนังละคร ต้องสนใจเรื่องผลกระทบบ้างล่ะ

**

หลังซู่เป่าเลิกเรียน เธอก็รู้เรื่องที่เด็กหญิงกระโดดตึกมาสร้างเรื่อง

จี้ฉางส่ายหัว “คนบางคน ชอบเอาความผิดไปโทษบนตัวผู้อื่น คิดว่าตนเองอ่อนแอก็เลยมีเหตุผล พวกเขารู้สึก ‘ฉันเสียลูกสาวไปเชียวนะ’ คนอื่นๆ ต้องเห็นใจพวกเขา ช่วยเหลือพวกเขา หรือกระทั่งชดใช้พวกเขา…”

บนโลกนี้ หลายๆ คนต่างคิดว่าตนเอง ‘จน’ จึงพยายามที่จะปีนไต่ ไขว่คว้า และทะเยอทะยาน…

คนเหล่านี้ต่างน่าเคารพชื่นชม

แต่ก็มีคนส่วนน้อย เมื่อมีเรื่องเกิดขึ้นกับตัว พวกเขาคิดเพียงแต่ตนเองนั้นน่าสงสาร คนอื่นต้องช่วยเหลือพวกเขา มิฉะนั้นคงไม่สามารถชดใช้สิ่งที่พวกเขาเสียหายไปได้

“ที่น่ากลัวกว่านั้นคือ พวกเขาไม่คิดว่าตนเองทำผิด” จี้ฉางถอนหายใจเล็กน้อย

โลกนี้มีคนหลายประเภท

ซู่เป่าถามขึ้น “อาจารย์ งั้นพวกเราจะทำยังไงเหรอ”

จี้ฉางกล่าวตอบ “เรื่องของมนุษย์หลายๆ เรื่องพวกเราไม่สามารถเข้าไปยุ่งเกี่ยวได้ และเจ้าเองก็ไม่ควรยุ่ง เจ้าเป็นเพียงแค่เด็ก พวกเราดูแลเพียงเรื่องการจับผีก็พอ”

ซู่เป่าสงสัย “เพราะงั้นแล้ว”

จี้ฉางกล่าว “เพราะงั้นแล้ว เจ้าพาลุงสี่ของเจ้าออกไปเดินเล่นก่อน เรารอตกปลากัน”

หญิงสาวที่ใส่ชุดแดง จุดเทียนแดงแล้วกระโดดตึก กับผีร้ายตัวนั้น ต้องมีความเกี่ยวโยงบางอย่างกันแน่ๆ

ผีร้ายต้องการเวลาอย่างน้อยสิบปี เพื่อที่จะสามารถ ‘อัพเกรด’ เป็นวิญญาณพยาบาท ผีหลายตนต่อให้กลายเป็นผีร้ายก็รับวัฏจักรการตายซ้ำๆ ไม่ได้ จนสลายหายไป

การที่จะกลายเป็นผีร้ายได้นั้น ต้องมีสิ่งยึดติดขนาดใหญ่

ซู่เป่าพยักหน้า เข้าใจแล้ว

“ลุงสี่ ซู่เป่าพาลุงไปตกปลา!” เธอกล่าว

ซูลั่ว “?”

ตกปลาอะไรกัน

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน