ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน นิยาย บท 193

ม่านตาของซูลั่วหดลง เขาลุกขึ้นมาอย่างรุนแรง

ถังเถียนเถียนตกใจ “กะ-กะ-เกิดอะไรขึ้นงั้นเหรอ”

เห็นว่าผีผู้หญิงกำลังจะกัดไปบนคอของซูลั่ว จู่ๆ ซู่เป่าก็โยนของบางอย่างออกไปเป็นเสียง ฟิ้ว กระแทกเข้าปากของผีผู้หญิงอย่างพอดิบพอดี

กร๊อบ

เสียงที่ทำให้รู้สึกเสียวฟันดังขึ้น ผีผู้หญิงถอยหลังอย่างร้อนรน พยายามคายของในปากออกไป

เธอจึงพบว่า ที่เธอกัดไปคือเต่าตัวหนึ่ง!

คุณปู่เต่าตกลงบนโซฟา ตกลงด้วยท่าหลังแนบพื้น จึงกางขาทั้งสี่ข้างของมันโบกอย่างร้อนรน

โอ้ย ชีวิตวัยชราของเขาเกือบหายแล้ว!

ซู่เป่ารีบพูดขึ้น “ขอโทษนะคะ คุณปู่เต่า!”

ตอนนั้นในมือของเธอมีแค่คุณปู่เต่า เลยโยนออกไปแบบถนัดมือน่ะ…

ขาของเต่าเกี่ยวที่วางโซฟาไว้ได้ ในตอนที่เขากำลังจะพลิกตัวกลับมาได้ เสี่ยวอู่ก็วิ่งขึ้นไป เหยียบเขาเอาไว้

เต่า “……”

ซู่เป่ามองไปทางผีผู้หญิงแล้ว จี้ฉางเองก็ขยับมือ พร้อมกล่าว “ดูท่าผีร้ายจะไม่ออกมาแล้วล่ะ”

ซู่เป่าพยักหน้า “เจ้าเล่ห์จริงๆ!”

เสี่ยวอู่ที่เหยียบกระดองเต่าอยู่ขาลื่น จึงพยักหน้าพร้อมกล่าว “ขาลื่นๆ”

ผีผู้หญิงเจียวเจียวมองไปทางพวกเขาอย่างเจ็บใจ จากนั้นเอ่ยถาม “พวกแกคิดจะทำอะไรกันแน่…”

ตั้งแต่ที่เธอปรากฏตัว พวกเขาทั้งคู่ก็ไม่ได้สนใจเธอ

เธอคิดว่าทุกคนจะสามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างไม่มีปัญหา เพียงแค่ให้เธออยู่เคียงข้างซูลั่วไปตลอดก็ไม่ใช่ว่าจะไม่ได้

แต่ตอนนี้เธอเพิ่งรู้ ยัยตัวเล็กนี่จะมาปราบเธอจริงๆ

ทำไมกัน เธอเพียงแค่อยากอยู่เคียงข้างพี่ชาย ทำไมต่อให้เธอตาย ทุกคนก็ยังมาขัดขวางเธอ

“เพราะงั้นเธออยากทำอะไรกันแน่” ซู่เป่าจ้องไปทางผีผู้หญิง

ผีผู้หญิงหัวเราะแหะๆ “ตอนฉันตาย ฉันเอาวันเดือนปีเกิดของพี่ชายไปทำพิธีแต่งงานผีมา หึๆ เพราะงั้นตอนพี่ชายมีชีวิตอยู่เขาคือคนของฉัน ต่อให้เขาตาย เขาก็อยู่ได้แค่กับฉัน…”

“ในเมื่อพวกแกไม่อยากให้ฉันอยู่เคียงข้างพี่…งั้นก็ให้พี่ตายดีกว่า เมื่อเขาตาย ฉันก็จะสามารถอยู่พี่ได้ตลอดไป ตลอดไป…”

ซูลั่วได้ยินแล้วรู้สึกระทึกหัวใจเป็นอย่างมาก

เขาคิดถึงคำที่อาเนี่ยเคยพูด ตอนเจียวเจียวตาย เธอใส่ชุดแต่งงานสีแดง ข้างเตียงวางรองเท้าส้นสูงสีแดงไว้ หน้ากระจกก็มีเทียนสีแดงสองเล่มจุดอยู่…

ซู่เป่าโบกมือพร้อมกล่าว “ลุงสี่ เร็วเข้า เอาอาวุธของหนูออกมาจากกระเป๋าเสี่ยวอู่”

ถังเถียนเถียนที่ยังยื่นหัวอยู่ตรงหน้าประตู “??”

ลุงหลานคู่นี้กำลังเล่นอะไรกัน

กลับเห็นซู่เป่าวิ่งมาทางนี้ภายใต้ความยุ่งเหยิง เธอเงยหน้าพร้อมกล่าว “ลุงถัง ตอนนี้พวกเราค่อนข้างยุ่ง คงดูแลลุงไม่ได้แล้วล่ะ บ้ายบาย!”

ปัง ประตูถูกปิดลง

ถังเถียนเถียนที่อยู่หน้าประตู ???

ไม่ให้โอกาสลุงหน่อยเลย

“คุณหนูซู่เป่า อยากเล่นอะไรเหรอ เดี๋ยวลุงสั่งคนไปทำให้”

ให้สร้างสวนสนุกให้ยังได้เลย

ด้านในไม่มีใครตอบ

ถังเถียนเถียนลูบจมูก จากนั้นพูดอุบอิบ “แม่ครับ รอบนี้ไม่ใช่ผมไม่คว้าโอกาสนะครับ ความรวยและจนอยู่ที่ชะตา ส่วนความเป็นตายอยู่ที่ฟ้าลิขิต เรื่องของคนอื่นผมอย่าไปยุ่งเลยดีกว่า…”

ประธานถังจากไปพร้อมพูดเสียงซุบซิบ

ที่เขามองไม่เห็นคือ นอกหน้าต่างบานใหญ่ มีผีที่สวมใส่ชุดสีดำยืนอยู่

เขาหรี่ตามองไปทางประตูที่ปิดสนิทอยู่ แล้วจากไปอย่างรวดเร็ว

เจียวเจียวไร้ประโยชน์แล้ว ทิ้งเลยก็ได้!

ก่อนจากไป ผีชุดดำโบกมือให้กับถังเถียนเถียนช้าๆ…

ไม่รู้ทำไม จู่ๆ ถังเถียนเถียนก็สะดุด เดินออกไปหลายก้าวและชนเข้ากับหน้าต่างบานใหญ่

“ซี้ด…”

จี้ฉางราวกับสัมผัสได้ รีบลอยออกไปดูทันที

ในอากาศแฝงไอพิฆาตเอาไว้อย่างมิดชิด แต่เมื่อผสมกับไอชีวิตที่ถังเถียนเถียนส่งออกมา ก็ยากที่จะดูออกว่าเขาหนีไปทางไหนแล้ว

จี้ฉางหัวเราะเย็นๆ “เจ้าเล่ห์มากจริงๆ รู้จักการปกปิดไอพิฆาตด้วย

นี่ต้องไม่ใช่ผีร้ายธรรมดาอย่างแน่นอน

ผีร้ายปกติต่อให้พยายามเก็บไอพิฆาตของตน ก็ไม่สามารถปกปิดได้อย่างมิดชิดอยู่ดี

แต่เจ้านี่กลับสามารถปกปิดไอพิฆาต หนำซ้ำยังรู้จักการใช้ไอชีวิตของมนุษย์มากลบเกลื่อน หากไม่ใช่เพราะเขาพลังของเขามากพอล่ะก็ คงรับรู้ไม่ถึงไอพิฆาตแม้แต่นิดเดียว

จี้ฉางรู้สึกเจ็บใจ จึงวิ่งตามไอพิฆาตที่จางราวกับไม่มีออกไป

ภายในห้อง ดวงตาทั้งสองข้างของผีผู้หญิงเรืองเป็นแสงสีเขียว

ผีผู้หญิงไม่กลัวซู่เป่า ก็แค่เด็กน้อยคนหนึ่ง บางทีอาจเพิ่งเริ่มฝึกปราบผีก็ได้

แต่อาจารย์ของเธอนั้นเก่งมาก…

ตอนนั้ไม่รู้ว่าทำไมชายชุดขาวที่เก่งกาจคนนั้นทำไมจึงได้วิ่งออกไป แต่สำหรับเธอแล้วนี่เป็นโอกาสที่ดี!

“หึๆๆ พี่ชาย ยังไงพี่ก็ต้องเป็นของฉัน” เจียวเจียวตะครุบไปหาซูลั่วอีกครั้ง สีหน้าบ้าคลั่ง “พวกเราไหว้ฟ้าไหว้ดิน หมั้นหมายบุพเพสันนิวาสวิญญาณไว้แล้ว ลงมาอยู่กับฉันเถอะ!”

ซูลั่ว “ซู่เป่า!”

เขายกกระบี่ไม้ท้อขึ้นมา

ซู่เป่าถีบขา กระโดดข้ามโซฟาอย่างหล่อเหลา จากนั้นก็คว้าหยิบกระบี่ไม้ท้อมา

“ถอย! ถอย! ถอย!”

ซูลั่ว “……”

ท่าทีของเจ้าก้อนแป้งตรงหน้า เหมือนคุณป้าที่กำลังทะเลาะกับคนอื่นไม่มีผิด

***

วัฒนธรรมพื้นเมืองของชาวบ้านสมัยโบราณ

ผีผู้หญิงหัวเราะคิกคาก “ยัยเด็กไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม! ฉันจะฆ่าแก!”

เธอไม่เห็นซู่เป่าอยู่ในสายตาแม้แต่นิด ก็แค่ท่าทีกระจอก ไม่เพียงพอสำหรับเธอแม้แต่นิด

เธอเป็นถึงวิญญาณพยาบาทเชียวนะ!

มองท่าทีเงอะงะของซู่เป่าแล้ว เธอปราบผีเป็นหรือเปล่า? ต่อให้ปราบได้ เธอเคยเจอวิญญาณพยาบาทหรือเปล่า!

นับตั้งแต่วินาทีที่เธอกระโดดลงจากตึก เธอก็เป็นวิญญาณพยาบาทแล้ว

เจียวเจียวอ้าปากใบกว้าง…ที่เต็มไปด้วยเลือด อาจเป็นเพราะตอนเธอตายมันหักเป็นสองท่อน เวลาอ้าปากมุมปากเธอจึงฉีกไปถึงหู สยองเหลือเกิน

แต่แล้วเธอเพิ่งโดนตัวซู่เป่า ไม่รู้ทำไม ราวกับมีสายฟ้าที่มองไม่เห็นผ่าลงมาบนตัวเธอ

เจียวเจียวร้องอย่างเจ็บปวดจากนั้นกระเด็นออกไป จู่ๆ ไอพิฆาตรอบตัวของเธอก็กระจายออกไปทั่วทุกสารทิศ ร่างของเธอแทบจะสลายหายไป

“แก…”

เธอมองไปทางซู่เป่าอย่างตะลึง ทำไมถึงกลายเป็นแบบนี้กัน

ยัยนี่ ไม่ควรจะเก่งกาจขนาดนี้สิ

ซู่เป่ายกกระบี่ไม้ท้อ พร้อมกล่าว “พี่สาวผีผู้หญิง พี่อย่าขยับนะ เดี๋ยวหนูขอลองวิชาเวทใหม่ที่หนูเพิ่งเรียนหน่อย”

เมื่อวานอาจารย์สอนเธอแล้ว แต่เธอยังไม่เคยลองเลย!

ในน้ำเต้าวิญญาณเป็นคุณน้าหลายใจ คุณน้าขี้เหร่แล้วก็พี่ชายที่ชอบกินลูกอม ต่างไม่เหมาะที่จะเอามาฝึก ดังนั้นซู่เป่าจึงต้องใช้เธอในการฝึกมือไง

ซู่เป่าพุ่งขึ้นไป ถือกระบี่ไม้ท้อโจมตีผีผู้หญิงอย่างถี่ระรัว

“ถอย! ถอย! ถอย!”

ซูลั่ว “……” อึ้งตะลึง

ผีผู้หญิงเจียวเจียว “……” รู้สึกเหมือนเธอโดนดูถูก

ซู่เป่า “หือ เพราะท่าถือดาบหนูมันผิดเหรอ”

เธอทบทวนคำพูดที่อาจารย์เธอเคยพูด พร้อมลองย้ายตำแหน่งของนิ้วโป้งดู

เจียวเจียวไม่อยากจะสนใจเธอแม้แต่นิดแล้ว

เธอค้นพบช่องโหว่อย่างหนึ่ง หากเธอไม่โจมตีซู่เป่า ซู่เป่าก็ทำอะไรเธอไม่ได้เช่นกัน

ที่เก่งกาจน่ะ คือเชือกแดงบนข้อมือของเธอ

เจียวเจียวกัดฟันลุกขึ้นมา คิดจะรีบลากซูลั่วลงมาอยู่เป็นเพื่อนเธอ เมินซู่เป่าที่กำลังโบกกระบี่ไม้ท้อไป

“เหอะ เลิกเสียแรงเปล่าเถอะ เธอไม่มีประโยชน์อะไรทั้งนั้น”

“ถ้าเธอสามารถโจมตีฉันให้กระเด็นได้จริง ฉันยอมตีลังกาสระผมในปุราณมิฬหนรกเลย”

และแล้ววินาทีต่อมา กลับเห็นซู่เป่าถือดาบชี้มาทางเธอ ตะโกนด้วยเสียงหน่อมแน้ม “ถอย!”

แสงเพชรสีเหลืองอ่อนก็พุ่งออกมาจากกระบี่ไม้ท้อ ฟาดไปบนตัวของผีผู้หญิงอย่างแรงทีหนึ่ง!

เจียวเจียว “!!”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน