ซูจื่อซีรู้สึกเพียงว่าความเย็นยะเยือกแผ่จากฝ่าเท้าขึ้นไปถึงสมอง หนังศีรษะชาไปหมด
เขาเห็นผีสาวปีนเข้ามาจากนอกหน้าต่างต่อหน้าต่อตา ลอยมาทางเขา
ซูจื่อซีขาอ่อนปวกเปียกไปหมด ไหนเลยจะยังจำท่าทางอวดดีของตัวเองได้อีก
เขาพูดขึ้นอย่างหวาดกลัว “ซู่เป่า...! ซู่เป่า!!”
ผีสาวหัวเราะเหอะๆ ยื่นนิ้วมืออันขาวซีดที่ทาเล็บสีแดงออกมา ควักเนื้อของเขาออกมาอย่างแรงชิ้นหนึ่ง...
“อ๊า”
ในขณะนี้เอง ซูจื่อซีรู้สึกว่าตัวเองถูกตีอย่างแรงป้าบหนึ่ง!
“ป้าบ!”
ซูจื่อซีมองไปข้างหน้าอย่างอึ้งงัน ไม่รู้ว่าซู่เป่าปีนขึ้นมาบนโซฟาตั้งแต่เมื่อไร เธอกำลังเหยียบอยู่บนตัวของเขาและตบเขาซ้ายทีขวาที
“พี่คะ รีบตื่นเร็วเข้าสิ!” ซู่เป่าพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่ไร้เดียงสา “ยังไม่ตื่นอีกเหรอ จะตีพี่แล้วนะ!”
เพียะ!
ซูจื่อซี “เธอ...” เขายังไม่ได้สติกลับมา
รู้สึกเพียงว่าในปากมีของบางอย่าง จึงคายออกมาตามสัญชาตญาณ สุดท้ายพบว่าเป็นถุงเท้าข้างหนึ่ง...
ใบหน้าของซู่เป่าเต็มไปด้วยความกังวล “ฝันร้ายเหรอ”
ซูเหอเวิ่นพยักหน้า “ฉันว่านะ ไม่นึกเลยว่าเจ้านี่จะเล่มเกมๆ แล้วผล็อยหลับไปซะได้”
ที่แท้เมื่อครู่ซูจื่อซีไม่รู้ยังไงหลับไป ไม่นานเขาก็ชักดิ้นชักงออยู่บนโซฟา ดิ้นไปด้วยพลางตะโกนเรียกว่า ซู่เป่า ๆ...ไปด้วย
ไม่ว่าซู่เป่าจะปลุกยังไงเขาก็ไม่ตื่น ซูจื่อซียิ่งแสดงก็ยิ่งมีท่าทีรุนแรงขึ้น แทบจะกัดลิ้นแล้ว...
ทั้งสองคนตกใจจนรีบอุดปากของเขาเอาไว้ ในยามวิกฤติซูเหอเวิ่นลวดหยิบถุงเท้าที่อยู่บนโซฟาขึ้นมา...
หลังจากห้ามไม่ให้เขากัดลิ้นได้แล้ว ไม่ว่าทำยังไงก็ยังปลุกซูจื่อซีไม่ตื่น และเขาเริ่มจะชักแล้ว
ซู่เป่าร้อนใจจนทำได้เพียงตีเขา
เห็นซู่เป่ายังตีอยู่ ซูจื่อซีจึงพูดขึ้นอย่างโมโหว่า “ตีฉันทำไม!”
ซูเป่าพูดขึ้นอย่างดีใจว่า “พี่ตื่นแล้วเหรอ”
ซูเหอเวิ่นพูดขึ้น “ไม่ตีนายได้ไง นายไม่เห็นท่าทางน่าขนลุกตอนฝันร้ายของตัวนายเอง อย่างกับผีสิงอย่างนั้น”
ซูจื่อซีกัดฟัน “ถึงอย่างนั้นก็ห้ามตบหน้า!”
ซูเหอเวิ่นหัวเราะเยาะทีหนึ่ง “ไม่ตบหน้าหรือว่าจะให้ตีก้นล่ะ พูดจาบ้าบออะไร”
ซู่เป่าพยักหน้า “ตบไหล่พี่แล้วพี่ก็ไม่ตื่น เกาก็แล้วจั๊กจี้ก็แล้วพี่ก็ไม่ตื่น เพราะงั้นเลยทำได้แค่ตบหน้าพี่แล้วละ”
ซูจื่อซีจ้องเขม็ง “นี่เธอมีความแค้นส่วนตัวรวมอยู่ในนั้นบ้างไหม!”
ซู่เป่ากระพริบตาอย่างไร้เดียงสา “ไม่มี ไม่มีอย่างแน่นอน!”
ซูจื่อซีประคองใบหน้าที่ถูกตีพลางอยากร้องไห้แต่ไม่มีน้ำตา ยัยเด็กคนนี้ ต้องฉวยโอกาสแก้แค้นแน่ๆ
ขณะนี้เองเขาจึงนึกถึงของที่กัดไว้ในปากเมื่อครู่ได้ ก้มหน้ามอง จึงพบว่าเป็นถุงเท้าเหม็นๆ ของเขาเอง
ซูเหอเวิ่นรีบอธิบายทันที “เรื่องนี้นายจะโทษฉันไม่ได้นะ ตอนนั้นมันเป็นเหตุฉุกเฉิน ใครใช้ให้นายถอดถุงเท้าเหม็นๆ ไว้บนโซฟาล่ะ...”
ซูจื่อซีโกรธจนเนื้อตัวสั่นเทาเล็กน้อย
ซู่เป่ามองเขาอย่างเป็นกังวล “พี่ไม่เป็นอะไรใช่ไหมคะ ให้ซู่เป่าช่วยทายาให้พี่ไหม”
ซูจื่อซีชี้ที่ประตู “ไสหัวออกไปซะ! ใครต้องการให้เธอมาใส่ใจกัน ต้องทำเสแสร้งไม่คลื่นไส้เหรอ”
“อย่าคิดว่าฉันไม่รู้ความคิดพวกนั้นของเธอนะ ก็แค่แสร้งทำเป็นน่าสงสารละสิ ทำตัวน่าสงสารขี้อ้อน ทั้งบ้านจะได้โอ๋เธองั้นเหรอ”
“ไสหัวไปเถอะ! ลูกไม้นี้ใช้กับฉันไม่ได้ผลหรอก แค่เห็นเธอฉันก็รู้สึกคลื่นไส้แล้ว!”
ซู่เป่า “…”
เธอถูกซูจื่อซีด่าจนโง่ไปหมดแล้ว เจ้าตัวน้อยไม่ได้ตอบสนองอะไรกลับไป
เธอ เธอเพียงแค่อยากเอายาให้เขาจริงๆ...เธอไม่ได้ตั้งใจจริงๆ
สุดท้ายด้ายแดงบนข้อมือก็เปล่งแสงออกมา ฉะนั้นซู่เป่าจึงคิดว่าตัวเองก็มีเหตุผลที่สู้ไม่ได้เช่นกัน ควรถอดด้ายแดงออกก่อนแล้วค่อยตบหน้าพี่
“ขอโทษค่ะ...” ตาของซู่เป่าเริ่มแดง
ซูเหอเวิ่นจูงซู่เป่าเดินออกไปอย่างโมโห “ซู่เป่าเราไปกันเถอะ ต้องมีตอนที่เขานึกเสียใจแน่!”
ซู่เป่าเดินออกไปอย่างไม่เต็มใจ แต่ก็ยังถูกซูเหอเวิ่นลากออกไป
ซูจื่อซีอารมณ์ไม่ดีนัก ในฝันนี้เหมือนจริงเป็นอย่างมาก และไร้ลางสังหรณ์ใดๆ
ในฝันเขาถูกผีสาวควักเนื้อออกมาชิ้นหนึ่ง ตอนนี้ยังรู้สึกว่าหน้าอกเจ็บไปหมด
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน
ไม่ลงต่อแล้วหรอคะ 🥹...
รอทุกวันเลยค่ะ...
กระโดดข้ามหายไปหลายตอนเลยค่ะ...
1293 1297 1298 หายค่ะ 🥲🥲...
ตอนที่ 1288 หายไปค่ะ...
เย้...กลับมาแล้ว รอทุกวันเลยค่ะ...
หายไปนานจังเลยนะจ๊ะรอลงตอนใหม่อยู่นะคะ...
รอค่ะ...
ทำไมรอบนี้หลายไปนานคะ หรือไปบงที่อื่นคะ...
บทที่ 1268 แล้วกระโดดไป 1278 เลย บทที่ 1269 1270 1271 1272 ข้ามไปทั้งหมด 4 ตอนนะคะ...