ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน นิยาย บท 200

นายหญิงซูวางไม้เท้าลงอย่างหดหู่ กลับไปนั่งบนรถเข็นอย่างเศร้าสลดและเหม่อลอย

ในชั่วครู่ทุกคนไม่รู้ว่าต้องสนใจซูจื่อซีที่ถูกตีก่อน หรือสนใจคุณหญิงซูที่ลุกขึ้นยืนก่อน...

และยังเป็นซูอีเฉินที่ทำลายความเงียบ

“ป้าอู๋ ไปหยิบกล่องยามา”

“เจ้ารองกับเจ้าห้า พาคุณแม่กลับห้องไป”

ซูอีเฉินก็มองคุณท่านซูที่มองด้วยความตกตะลึงยังไม่ได้สติกลับมาทีหนึ่ง “เจ้าสี่ พาคุณพ่อกลับไปก่อน”

นายหญิงซูถูกเข็นออกไป ตรงดิ่งกลับห้องเลย นายหญิงซูก้มหน้าไม่พูดไม่จา

ไม่ใช่ว่าเธอไม่รักซูจื่อซี อันที่จริงพอเธอตีเสร็จก็นึกเสียใจ แต่ทำลงไปแล้วจะมานึกเสียใจไม่ได้

พูดก็พูดไม่ได้ โน้มน้าวก็ไม่ฟัง แล้วจะทำยังไงได้อีก...

ในใจของนายหญิงซูเศร้าสลด ทันใดนั้นราวกับนึกอะไรบางอย่างขึ้นได้ อารมณ์หยุดชะงักโดยพลัน

ซูอิ๋งเอ๋อร์พูดโน้มน้าว “แม่ครับ ไม่ใช่ความผิดของแม่เลย สถานการณ์แบบนี้เป็นใครก็อดตีไม่ได้”

ซูจื่อหลินเองก็พยักหน้าหงึกๆ “ใช่ครับ”

แต่กลับเห็นนายหญิงซูเงยหน้า นัยน์ตายังแฝงไปด้วยความสงสัยและกระวนกระวายใจเล็กน้อย “เจ้ารองเจ้าห้า เมื่อกี้ฉันลุกขึ้นยืนใช่ไหม”

ซูอิ๋งเอ่อร์และซูจื่อหลิน “…”

ไม่ได้แค่ลุกขึ้นยืนนะ!

ยังตีคนด้วย!

แล้วก็โหดเหี้ยมมากด้วย!

ป้าอู๋หยิบกล่องยามา สีหน้าเต็มไปด้วยความลังเล

ซูอีเฉินพูดขึ้นว่า “ส่งมาให้ผม”

ป้าอู๋ถอนหายใจ “ไม่มีประโยชน์หรอกค่ะ เขาไม่มีทางให้คนอื่นทายาให้แน่ นอกเสียจากคุมตัวเขาส่งไปโรงพยาบาลทั้งอย่างนั้นเหมือนครั้งก่อน...”

นั่นคือพ่อคุณทูนหัวตัวน้อยที่ใครก็จัดการไม่ได้ ถึงจะบอกว่าเป็นซูอีเฉิน เขาบอกไม่เช็ดก็คือไม่เช็ด ถ้าเร่งบีบบังคับก็เดินออกไปเลย

มู่กุยฝานพูดขึ้นว่า “ผมเอง!”

ในห้องของซูจื่อซี

มู่กุยฝานถือกล่องยาเข้ามา ซู่เป่าตามมาข้างหลัง

พวกซูอีเฉินเขาถูกมู่กุยฝานไล่ออกไปแล้ว

เวลาแบบนี้ ให้คนนอกอย่างเขาเข้ามาจะดีกว่า อย่างน้อยก็ตัดสินใจได้เด็ดขาด

ซูจื่อซีอิงอยู่บนโซฟา แผ่มือด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ “ออกไปซะ!”

ซู่เป่ามองมู่กุยฝาน

เดิมมู่กุยฝานไม่ฟังคำของเขาอยู่แล้ว มู่กุยฝานนั่งลงแล้วหยิบยาน้ำใส่ลงไปบนแขนเลย

ซูจื่อซีเจ็บจนเด้งตัวตรงอย่างแรง

“ผมบอกแล้วไงว่าให้พวกอาออกไปซะ ฟังภาษาคนไม่รู้เรื่องเหรอ ใครต้องการความใส่ใจของพวกอากัน”

พูดจบเขาก็ลุกขึ้นยืนแล้วเดินไป

มู่กุยฝานดึงให้เขานั่งลง กดเอาไว้บนโซฟา

เทพแห่งสงครามมู่ไม่รู้จักคุณธรรมในการต่อสู้ ทายาอย่างรุนแรง

“เวลาฉันจะทำอะไรไม่เคยต้องถามความยินยอมของคนอื่น” เขาพูด “มีเพียงแค่ฉันจะทำหรือไม่”

ซูจื่อซี “…”

ซู่เป่า ว้าว

ได้เรียนรู้อีกแล้ว

วิธีการทายาของมู่กุยฝานไร้ความอ่อนโยนเป็นอย่างมาก ถึงยังไงยาแก้ฟกช้ำดำเขียว ก็ต้องถูเข้าไปถึงจะได้ผลอยู่แล้ว

ซูจื่อซีเจ็บจนน้ำตาไหลพรากออกมา

เขาร้องไห้ไปพลางตะโกนไปด้วย “ใครให้พวกอามาช่วยผมทายา ใครให้พวกอามาใส่ใจผม! ผมซูจื่อซีไม่ต้องการให้ใครมาเห็นใจ ผมอยู่คนเดียวก็ใช้ชีวิตผ่านมาได้เป็นอย่างดี”

ซู่เป่ามอง รู้สึกเพียงว่าอึดอัดในใจ

คุณยายบอกว่า ก่อนหน้านี้หลังจากตีเขาจนเข้าโรงพยาบาล ทุกคนก็นึกเสียใจ จากนั้นทุกคนต่างก็ใส่ใจเขา เวลาพูดจาก็ใช้เสียงอ่อนเสียงหวาน

แต่เขาต่อต้านและทำท่าทางไม่พอใจเป็นอย่างมาก

บางทีคนอื่นเห็นแต่ท่าทีวางกล้ามของซูจื่อซี แต่เธอมักคิดว่า อันที่จริงพี่จื่อซีอยากให้ทุกคนเอาใจใส่เขา

เห็นซูจื่อซีเจ็บจนทำท่าทีแยกเขี้ยวยิงฟัน ปล่อยเสียงร้องไห้โฮ ซูเป่าจึงควักลูกอมที่ซ่อนเอาไว้ในกระเป๋าเสื้อเป็นอย่างดีออกมาเม็ดหนึ่ง ปอกเปลือกออกแล้วส่งให้ข้างปากซูจื่อซี

ซูจื่อซี “ไสหัวออกไป! ฉันไม่กิน!”

ทันใดนั้นซู่เป่าก็ยัดลูกอมใส่ไปในปากของเขา เลียนแบบท่าทีของมู่กุยฝานอย่างไร้เดียงสา “หนูป้อนลูกอมไม่เคยต้องการถามความยินยอมของพี่ มีเพียงแค่หนูจะป้อนหรือเปล่า!”

มู่กุยฝาน “...” ลูกสาวเรียนรู้ได้เร็วจริงๆ!

ซูจื่อซี “…”

เขาโมโหจนถึงขั้นสุดขีดอยากคายลูกอมออกมา

ซู่เป่าเอามือป้องปากของเขาเอาไว้ “อย่าคายออกมานะ!”

ซูจื่อซี “…”

“…”

บ้าเอ้ย พ่อลูกหัวขโมยคู่นี้!!

ในที่สุดซูจื่อซีก็ถูกบังคับใส่ยาจนเสร็จ ลูกอมเม็ดนั้นก็กินหมดแล้ว

เขานอนอยู่บนเตียงเงียบๆ ไม่พูดไม่จาเลยสักคำ

มู่กุยฝานถือกล่องยา พูดขึ้นว่า “ซู่เป่า ไปกันเถอะ”

ซู่เป่าตบศีรษะของซูจื่อซี “พี่คะ ถ้าเห็นของสกปรกอะไรต้องบอกหนูนะ!”

ซูจื่อซีขี้เกียจจะต่อต้าน ปล่อยให้เธอตบศีรษะของเขาราวกับตบหัวสุนัข

ของสกปรก จะมีของสกปรกอะไรได้...

นึกถึงตรงนี้ซูจื่อซีก็ชะงักขึ้นมาโดยพลัน

ซู่เป่าพูดขึ้นพอดีว่า “พี่คะ หนูเห็นจุดอิ้นถังของพี่คล้ำ...”

ซูจื่อซี “…”

ประโยคนี้ เหมือนกับคำพูดที่ซู่เป่าพูดในฝันเป๊ะ!

ความเย็นยะเยือกที่อธิบายไม่ได้แผ่ซ่านขึ้นมาจากในใจทั้งอย่างนี้ นึกถึงฝันที่เสมือนจริงจนเกินไปนั่นแล้ว ซูจื่อซีก็หวาดผวาอย่างอดไม่ได้

ซู่เป่ามองความกลัวของเขาออก จึงพูดขึ้นอย่างรู้ใจว่า “พี่คะถ้าพี่กลัว พี่ไปนอนห้องหนูไหม”

ซูจื่อซีพูดขึ้นอย่างปากแข็ง “ไม่จำเป็น!”

เขาอยากพูดว่าไสหัวไปซะ แต่เห็นสายตาของมู่กุยฝานแล้ว ไม่พูดจะดีกว่า

ซู่เป่าทำได้เพียงพูดขึ้นว่า “งั้นก็ได้ มีเรื่องอะไรก็เรียกหนูนะ”

ซูจื่อซีมองพ่อลูกจอมขโมยออกไป คิดอยากจะปิดประตู แต่ไม่รู้ประตูห้องถูกคนใช้เคลื่อนย้ายออกไปตั้งแต่เมื่อไร

ตอนนี้ห้องของเขา ประตูห้องเปิดกว้าง ไม่ว่าใครก็เข้ามาได้

เขาเบ้ปาก ขี้เกียจจะสนใจแล้ว

พวกเขาอยากพังประตูห้องเขาตั้งนานแล้วนี่

ตอนนี้ดีเลย พวกเขาคงพอใจแล้ว

ซูจื่อซีนอนอยู่บนเตียง ก่อนหน้านี้เวลานี้เขากำลังเล่นเกมและฝึกซ้อม คนอื่นต่างคิดว่าเขากำลังเล่น อันที่จริงเขากำลังหาเงินอยู่ต่างหาก

ค่าเทอมของโรงเรียนอนุบาลและประถม ล้วนเป็นการสะสมจากการลืมกินลืมนอนของเขา

เขาไม่อยากใช้เงินของตระกูลซูสักแดงเดียว แบบนี้ก็จะไม่ติดค้างต่อกัน

แต่เมื่อคืนเขาไม่มีกะจิตกะใจจะล็อกอินเข้าไปเล่นเกมเลย

ซูจื่อซีคิดไปคิดมา พลิกตัวไปมา ไม่รู้ว่าเคลิ้มหลับไปตอนไหน

ที่ประตูลมพัดโชยวู่ๆ ซูจื่อซีที่หลับอยู่มีความรู้สึกแปลกอย่างหนึ่ง เขาสัมผัสได้ถึงทั้งห้อง ราวกับวิญญาณของตัวเองหลุดออกจากร่าง มองลงไปเห็นทั่วทั้งห้องอย่างนั้น

นอกห้องราวกับมีคนมา มีเสียงเสียดสีของเสื้อผ้าดังขึ้นเบาๆ

เงาคนสายหนึ่งปรากฏที่ประตู ไฟด้านนอกดึงเงาของเธอทอดยาว ซูจื่อซีรู้สึกถึง “คน” คนนี้ จึงพยายามลืมตาขึ้นมาอย่างสุดชีวิต

แต่จะทำยังไงก็ลืมไม่ขึ้น!

“คน” คนนั้นยิ่งเข้ามาใกล้ๆ ยืนอยู่ข้างเตียงของเขา...

ในสมองของซูจื่อซีปรากฏคำว่า “ผีอำ” สองคำ ทั้งๆ ที่รู้ว่าต้องรีบตื่น แต่ทำยังไงก็ไม่ตื่น!

เขารู้สึกว่าตัวเองยิ่งหายใจลำบากมากขึ้นเรื่อยๆ อึดอัดเป็นอย่างมาก ยิ่งคิดเขาก็ยิ่งกลัว

เขาเคยเห็นสภาพการตายของซ่งเยว่ชิงเด็กผู้หญิงที่กระโดดตึกตายคนนั้นในกลุ่มไม่ใช่เหรอ

สำหรับจะจัดการเขายังไง!

ซูจื่อซีโกรธจนตะคอกขึ้นมาเสียงหนึ่ง ไสหัวไปซะ! ไสหัวไปเดี๋ยวนี้!

พอเขาโกรธ ก็ทำให้เขาเรียกสติกลับมาได้ เหงื่อออกท่วมตัวไปหมด!

เขามองไปทางประตูที่ว่างเปล่าตามสัญชาตญาณ ไฟทางเดินข้างนอกสลัวๆ ไฟในห้องของเขาไม่รู้ว่ามีใครมาช่วยเขาปิดไปตั้งแต่เมื่อไร เรื่องนี้เขาหาทางออกไม่เจอ ในใจเต็มไปด้วยความหวาดกลัว

อย่างไม่มีสาเหตุ เขาสัมผัสได้ว่าข้างนอกมี ‘คน’ มา ยิ่งใกล้เข้ามาเรื่อยๆ ยิ่งใกล้เข้ามาเรื่อยๆ ราวกับว่าวินาทีต่อไปจะปรากฏขึ้นตรงประตูอย่างนั้น...

ซูจื่อซีเด้งตัวลุกขึ้น กัดฟันแล้วเปิดไฟ ฉวยโอกาสตอนที่ตัวเองยังมีความกล้าอยู่ วิ่งไปข้างประตูในอึดใจเดียว จากนั้นชะโงกศีรษะออกไป!

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน