ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน นิยาย บท 203

สนามบินนานาชาติหนานเฉิงอู๋เหวย

ซู่เป่าถือป้ายอันหนึ่ง บนป้ายแปะขั้นตอนการ์ตูนที่วาดด้วยมือใบหนึ่ง มู่กุยฝานเป็นคนวาด

ในรูปวาดเครื่องบินลำใหญ่ลำหนึ่ง จากนั้นก็เป็นรถขนส่ง จากนั้นก็เป็นสายพานลำเลียงสัมภาระ จากนั้นก็...

ซูจื่อซีเดินตามหลังซู่เป่าอย่างหมดอาลัยตายอยาก ในมือถือโทรศัพท์ กำลังต่อสู้อย่างขยันขันแข็ง

“ขึ้นมาสิไอ้โง่!” เขาใส่หูฟัง ไม่ได้ยินว่าเสียงของตัวเองดังมากๆ

คนผ่านไปมาหันกลับมามองอย่างประหลาดใจ

ซู่เป่ารีบโบกไม้โบกมือ “ขอโทษค่ะๆ พี่ของหนูเขาไม่มีมารยาทเลย”

พูดไปพลางหยิบขนมปังออกมาจากกระเป๋าสะพาย จากนั้นยัดเข้าไปในปากซูจื่อซี

ซูจื่อซี “@¥#%…!”

ในปากยังบ่นพึมพำ แต่ไม่มีคำที่ไม่น่าฟัง

ซู่เป่าไปรับกระเป๋าสัมภาระตามป้ายที่เขียนด้วยมือ จากนั้นไปรับเสี่ยวอู่

เสี่ยวอู่ตามมากับการขนส่งสัตว์ การขนส่งสัตว์ระดับพี่เลี้ยง ขณะนี้มันกำลังคุยเล่นเซไฮกับนกแก้วตัวอื่นๆ

ต้องพูดว่า มีมันเพียงแค่ฝ่ายเดียวที่คุยเล่นเซไฮ

นกแก้วตัวอื่นเป็นนกแก้วคอกคาทีล สวยงามเป็นอย่างมาก ขนปีกอันสวยงามสีเหลืองอ่อน เส้นหงอนเรียบแปล้ มีรอยแดงลักษณะรูปวงกลมวงหนึ่งอยู่ตรงส่วนแก้มทแยงมุมลงหลังดวงตาทั้งสองข้าง มองแล้วเหมือนใบหน้าน้อยๆ ที่อมชมพู

“ฮะฮาย เหมยลวี่ เธอเองก็เพิ่งตื่นเหรอ” เสี่ยวอู่กางปีกต่อหน้านกแก้วคอกคาทีล

นกแก้วคอกคาทีลไม่สนใจมัน

เสี่ยวอู่ยกขนตรงปลายหัวขึ้นมาอีก บนหัวปรากฏหงอนอันสวยงามออกมา พลางพูดขึ้นว่า

“โอ๊ะ เครื่องบินสมควรตายนี่ ทำทรงผมของฉันยุ่งเหยิงไปหมด ฉันสาบานว่าตอนกลับฉันจะขึ้นเครื่องบินพิเศษ ใช่ฉันสาบาน”

ติดนิสัยแปลออกมาแล้วมันไม่เข้ากัน

ซู่เป่าพูดด้วยเสียงเบาๆ “เสี่ยวอู่...”

เสี่ยวอู่แสดงขนอันเรืองแสงของมันไปทางนกแก้วคอกคาทีลอีกครั้ง “ทำไมเธอเอาแต่ไม่พูดไม่จาล่ะ หรือว่าเธอพูดไม่ได้! พระเจ้า! ให้ฉันสอนเธอเอาไหม!”

ซู่เป่า “…”

เสี่ยวอู่ “ฮาย ฟังที่ฉันพูดนะ เธอต้องชอบฉันแน่ๆ ถ้าไม่...งั้นฉันจะไปคิดหาวิธีใหม่”

ซู่เป่า “เสี่ยวอู่...”

เสี่ยวอู่สะบัดขน ชะโงกหัวไปข้างหน้าเล็กน้อย เข้าไปใกล้กับกรงของนกแก้วคอกคาทีล “ฉันค้นพบว่าเธอไม่เหมาะที่จะมีความรัก โอ๊ะ...เหมาะที่จะแต่งงาน”

ในที่สุดนกแก้วคอกคาทีลก็ทนไม่ไหว พูดขึ้นอย่างเสียงดังว่า “ฉันเป็นตัวผู้! แกมันไอ้โง่! ไอ้โง่!”

เสี่ยวอู่ “...”

มันรีบหันหน้าไปทางซู่เป่า “เราไปกันเถอะ รีบไปๆ!”

ซู่เป่า “…”

พนักงานรอบๆ ต่างกลั้นขำ สุดท้ายก็ทนไม่ไหวจริงๆ หัวเราะฮ่าๆๆ ออกมาอย่างไม่เกรงใจ

ซู่เป่ารู้สึกขายหน้าเป็นอย่างมาก!

เธอรีบคว้ากรงของเสี่ยวอู่ ข้าสั้นๆ เล็กๆ วิ่งด้วยความรวดเร็ว วิ่งหนีตึงๆๆ ออกไปจากตรงนั้น

มาถึงโถงใหญ่ข้างนอก

เสี่ยวอู่ “ฮู้ “แม้ภูเขาแม่น้ำซับซ้อนจนเหมือนสิ้นหนทาง ทำข้างหลังไม่ต้องเติมทู ชายชราพูดถึงเด็กหนุ่ม รักษาไตพร่อง ไม่ใส่น้ำตาล เบบี้แคนยูเลิฟมี คิวเท่ากับซีเอ็มเดลต้าที ท้องฟ้าสีครามสุดลูกหูลูกตา ทุ่งหญ้าเขียวขจีสุดลูกหูลูกตา พวกเธอใครอยากได้ไส้กรอกแฮมบ้าง”

ใบหน้าของซู่เป่ามีทีท่าว่า “ฉันแพ้แกแล้ว” จากนั้นตั้งใจพิจารณา “เสี่ยวอู่ แกเรียนพวกนี้มาจากพี่หานหานเหรอ”

เสี่ยวอู่ส่ายหัวดิกๆ “ความลับของฟ้ามิอาจเปิดเผย!”

ซู่เป่าเกี่ยวกรงนกไว้บนกระเป๋าสัมภาระ มือข้างหนึ่งลากกระเป๋า มืออีกข้างหนึ่งถือเค้กก้อนน้อยและผลไม้ที่ยังกินไม่หมดเอาไว้ เดินไปข้างนอกตามป้าย

ซูจื่อซีถือโทรศัพท์แล้วใส่หูฟัง เดินตามอยู่ข้างหลังอย่างผ่อนคลาย

ไม่มีใครสังเกตเห็น ในฝูงชนมี “คนธรรมดา” ที่เหมือนกับสายลับแฝงอยู่ พวกเขาใส่แว่นตา บนแว่นตามีกล้องจิ๋วตัวหนึ่ง

อีกด้าน ณ บ้านตระกูลซู เบื้องหน้ามู่กุยฝานมีคอมพิวเตอร์สี่เครื่องตั้งอยู่ คอมพิวเตอร์แต่ละเครื่องจะรับภาพการเฝ้าระวังจากแนวหน้าแบบเรียลไทม์

คุณท่านซูมีสีหน้าเคร่งขรึม “ในเมื่อบอกแล้วว่าให้เธอไปตามลำพัง ทำไมยังต้องทำเรื่องอะไรพวกนี้ลับหลังด้วย!”

ในมือของเขาถือหนังสือพิมพ์ ใบหน้าเคร่งขรึม หางตามองคอมพิวเตอร์ของมู่กุยฝาน

มู่กุยฝานพูดอย่างไม่เงยหน้าขึ้นว่า “คุณท่านครับ เก็บหางตาของคุณหน่อยครับ ผมละเชื่อคุณจริงๆ”

คุณท่านซู “…”

มู่กุยฝาน “นอกจากนี้ ผมกำลังอยู่ในภารกิจจับตามองแบบเรียลไทม์กับสายลับท่านหนึ่ง ไม่ได้ถ่ายซู่เป่าโดยเฉพาะ”

คุณท่านซูหัวเราะและพูดขึ้นอย่างเย็นชาว่า “เบี่ยงศูนย์กลางกล้องของนายอีกหน่อยสิ ฉันละเชื่อนายจริงๆ ”

นายหญิงซูผละคุณท่านซูออก “ออกไป คุณดูฉันดูเอง”

คุณท่านซู “…”

ในที่สุดก็แพ้ไป

นายหญิงซูเห็นซู่เป่าที่อยู่ในภาพถือกระเป๋าใบเล็กใบน้อยเดินอยู่ข้างหน้า มือทั้งสองของซูจื่อซีว่างเปล่า เล่นเกมไปพลางเดินตามอยู่ข้างหลัง

เธอพูดขึ้นด้วยความโกรธอย่างเหลืออดว่า “ให้ตายเถอะจริงๆ เลย วันนั้นตีน้อยเกินไปจริงๆ ! ไม่นึกเลยว่าจะให้น้องสาวถือกระเป๋า!”

มู่กุยฝานหรี่ตามองซูจื่อซีที่อยู่ในภาพ

ได้เจ้าเด็กน้อย กล้าใช้แก้วตาดวงใจของเขาเหรอ

มู่กุยฝานหยิบโทรศัพท์ออกมา

ซูจื่อซีกำลังเล่นเกมอย่างตื่นเต้น ตรงหน้ากำลังยิงคริสตัลของฝ่ายตรงข้าม...

ทันใดนั้น หน้าจอมือถือก็มืดไปโดยพลัน

ใบหน้าของซูจื่อซีอึ้งจนชะงัก วินาทีต่อมาโกรธจนตะโกนออกมา “โธ่เว้ย!”

ตายตอนไหนไม่ตาย ดันต้องมาตายตอนนี้ พระเจ้า คุณแกล้งผมเหรอ!

ซู่เป่าเรียกรถแท็กซี่คันหนึ่ง เธอเขย่งเท้าและถามขึ้นว่า “คุณลุงคะ ไปหอพักดอกท้อข้างมหาลัยที่อยู่ใจกลางเมือง กี่บาทคะ”

คนขับรถแท็กซี่ต้องชะโงกคอยาวถึงจะเห็นซู่เป่า มองซ้ายมองขวา ไม่นึกเลยว่าจะมีเพียงแค่เด็กสองคนไม่มีผู้ใหญ่

เขากวาดตามองทีหนึ่งจากนั้นพูดขึ้นว่า “ห้าร้อยหยวน”

ซู่เป่า “…”

เธอสงสัยว่าคุณลุงคนขับกำลังหลอกเธออยู่

เจ้าเด็กน้อยทำสีหน้ามึนงง “คุณลุงคะ ห้าสิบหยวนได้ไหมคะ หนูไม่มีเงิน”

คนขับรถแท็กซี่ตกใจจนพูดไม่ออก ไม่สิ ตอนนี้ไม่ต้องพูดถึงว่าเขาหลอกคนหรือเปล่า

ห้าร้อยหยวน ต่อเหลือห้าสิบหยวนเลย เจ้าเด็กคนนี้ก็ต่อราคาเป็นเหมือนกันสินะ

“ช่างเถอะๆ สองร้อยห้าสิบฉันรับเธอเลย ไม่หาเงินกับเธอแล้ว!” คนขับรถแท็กซี่พูดขึ้น

ซู่เป่าชะงัก ใบหน้าอันแสนไร้เดียงสาเต็มไปด้วยความเคร่งขรึม “คุณลุงคนขับคะ สองร้อยห้าสิบคุณลุงได้แต่หนูไม่ได้ คุณพ่อบอกไว้ว่า คนชนชั้นแรงงานมากมายต่างลำบากกันทั้งนั้น จะให้คุณลุงไม่ได้กำไรไม่ได้หรอกค่ะ! พวกเราไม่นั่งรถของคุณลุงแล้ว ลาก่อนนะคะ!”

คนขับยิ่งฟังก็ยิ่งไม่พอใจ “อืม ไม่นั่งก็ไม่ต้องนั่ง ทำไมเธอถึงยังด่าคนอ้อมๆ ด้วยเนี่ย”

ซู่เป่าส่ายหน้า มองหน้าเขาแล้วพูดขึ้นว่า “คุณลุงคะ ตอนกลางคืนอย่าขับรถนะคะ ถ้าขับรถบนถนนตอนกลางคืนเยอะๆ จะเจอผีได้นะคะ” (**ถนนตอนกลางคืนยังหมายถึงเที่ยวกลางคืน)

ที่เธอหมายถึงคือเจอผีจริงๆ

แต่คนขับฟังแล้วกลับคิดเป็นอีกความหมายหนึ่ง เจ้าเด็กคนนี้ ยังรู้จักด่าคนด้วยเหรอ

“เธอหมายความว่ายังไง” เขาถลึงตา

ซู่เป่าไม่พูดไม่จา ลากกระเป๋าเดินต่อไปข้างหน้า

หึ คิดจะหลอกเอาอั่งเปาของเธอ ไม่มีทางได้หรอก!

ดึงขนของเสี่ยวอู่ได้ แต่เธอจะไม่ดึงเงินออกแม้แต่สตางค์แดงเดียว ไม่เด็ดขาด!

คนขับถูกเด็กน้อยคนหนึ่งอบรมสักสอนเสียยกหนึ่ง สีหน้าดูไม่ได้เป็นอย่างมาก รับไม่ได้จะเปิดประตูลงไปอบรบสั่งสอนซู่เป่า

แต่ทว่าเพิ่งเปิดประตูได้เพียงครึ่งหนึ่ง ก็ถูกชายหนุ่มร่างสูงใหญ่บึกบึนคนหนึ่งยื่นเท้าแทรกเข้ามา ชายหนุ่มจ้องเขม็งคนขับอย่างแรงทีหนึ่ง จากนั้นลวดมือวางกำปั้นไว้บนกระจกของเขา

คนขับกลัวจนไม่กล้าส่งเสียงใดไปชั่วขณะ คอหดขึ้นมาโดยพลัน

ซู่เป่าลากกระเป๋าต่อไปข้างหน้า รถแท็กซี่คันหนึ่งจอดอยู่ข้างถนนอย่างแยบยล

ซู่เป่าชะโงกหน้าถามขึ้นว่า

“คุณลุงคะ ไปหอพักดอกท้อข้างมหาลัยที่อยู่ใจกลางเมืองเท่าไรคะ”

คนขับพูดขึ้นด้วยเสียงทุ้มต่ำ “เรากดมิเตอร์ เท่าไรก็เท่านั้น ปกติไม่เกินหนึ่งร้อย”

ตาทั้งสองของซู่เป่าเปล่งประกาย ใช่ๆ เป็นแบบกดมิเตอร์

คุณพ่อบอกว่า ออกจากบ้านจะนั่งรถก็ต้องนั่งที่ถูกกฎหมาย รถคันที่กดมิเตอร์ล้วนเป็นรถที่ถูกกฎหมาย

ซู่เป่าเปิดประตูรถ พบว่าคนขับลงจากรถแล้ว เขาช่วยเธอยกกระเป๋าไปยังที่เก็บของท้ายรถ

ซู่เป่ายิ้มตาหยีในชั่วขณะ “คุณลุงคะ คุณลุงเป็นคนดีมากจริงๆ! หนูนับนิ้วทำนายแล้ว คุณลุงจะมีโชคใหญ่! ได้เลื่อนตำแหน่งร่ำรวยมีเงินแต่งภรรยาแล้ว!”

คนขับ “...”

ฮ่าๆ แก้วตาดวงใจตัวน้อยของหัวหน้ามู่นี่ช่างเจรจาจริงๆ!

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน