ใบหน้าของหญิงสาวเหมือนติดอยู่บนหน้าของซูจื่อซี ซูจื่อซีเปิดตากลมโตและยืนตัวแข็งดั่งหินที่โดนฟ้าผ่า ไม่ขยับเลยแม้แต่นิด...
ผีผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าสวมใส่ชุดซิ่วเหอสีแดงสด
เป็นใบหน้าอันเดียวกันกับที่เขาเห็นเธอในกลุ่ม และเธอก็คือหญิงสาวที่โดดตึกคนนั้น——ซ่งเยว่ชิง!
แต่สิ่งที่น่าแปลกก็คือ ซ่งเยว่ชิงไม่ได้ใส่รองเท้าส้นสูงสีแดงคู่นั้น แต่กลับใส่รองเท้าแตะสีชมพู…
ยังดีที่ซ่งเยว่ชิงมองไม่เห็นเขา เธอคลานขึ้นมาอย่างหวาดกลัว จากนั้นก็ถูกผีที่ใส่รองเท้าสีแดงเหยียบอยู่ใต้ฝ่าเท้า
“ฉันหิวแล้ว รีบไปทำอาหารมาให้ฉันกิน!”
“ฉันจะอาบน้ำ ไปเตรียมน้ำให้ฉันเดี๋ยวนี้!”
ซ่งเยว่ชิงรีบลุกขึ้นมาเพื่อจะเตรียมตัวไปห้องครัว แต่ก็ถูกตีกลับมา “บอกให้เธอไปเตรียมน้ำให้ฉัน?”
เธอจึงไปที่ห้องน้ำ แต่ก็ต้องถูกตีกลับมาอีกครั้ง “ฉันบอกให้เธอไปทำอาหารได้ยินไหม?”
ซูจื่อซีตั้งสติขึ้นมาได้ จึงขมวดคิ้วอย่างโมโห
นี่มันแกล้งหาเรื่องรังแกคนอื่นชัดๆ...แต่ รังแกผีเหรอ?
ซ่งเยว่ชิงร้องอย่างน่าสงสาร ทันใดนั้นก็เหลือบไปเห็นไข่สีแดงสองฟองที่อยู่บนโต๊ะน้ำชา จึงรีบคลานเข้าไปข้างโต๊ะ แล้วก็เอาไข่นั้นยื่นให้กับผีที่ตบตีเธอ ผีนั้นจึงหยุดด่าเธอได้สักที
“ซู่เป่า…” ซูจื่อซีหันหน้ากลับมา “เธอจับไข่ไก่นั้นได้ยังไง?”
พวกเขาเป็นผีไม่ใช่หรือ?ซูจื่อซีนึกขึ้นมาได้ว่าเมื่อกี้ซู่เป่าเอาไข่สีแดงตั้งไว้บนโต๊ะ...ตอนนี้ถึงฉุกคิดได้ว่า ถ้าไข่ไก่ไม่แตกก่อนจะไม่สามารถตั้งไว้ได้!
แล้วซู่เป่าจึงพูดขึ้นว่า “เมื่อกี้หนูเตรียมไว้แล้ว...พี่ชายอยู่นิ่งๆอย่าขยับนะ”
พูดจบก็คลานออกไป
“ซู่เป่า…!” ซูจื่อซีตกใจขึ้นมา
ซู่เป่าคลานออกไปแล้ว ด้านนอกก็เงียบสงบลงมา
ผีดุร้ายตัวนั้นนั่งกินไข่อยู่บนโซฟาอย่างเมามัน
ส่วนผีที่ใส่รองเท้าแตะสีชมพูนั่งร้องไห้อยู่อีกด้านหนึ่ง และกำลังหมกมุ่นอยู่กับการทำอาหาร——แต่ไม่มีไฟ มีแต่เสียงเคาะหม้อกระทะที่ว่างเปล่า ซึ่งดูแปลกประหลาดอย่างมาก
เมื่อไม่มีซู่เป่าอยู่ข้างกาย ซูจื่อซีจึงรู้สึกวิตกกังวลขึ้นมา
ที่ผ่านมารู้สึกว่าน้องสาวช่างน่ารำคาญมาก แต่เมื่อไม่มีซู่เป่าก็อยู่ไม่ได้ อยากจะกลายร่างเป็นสร้อยเพื่อคล้องไว้ที่ตัวของซู่เป่าตลอดเวลา
ซูจื่อซีตัดสินใจจะคลานตามออกไป แต่บังเอิญสะดุดกับยันต์เหลืองที่ซู่เป่าวางไว้ตรงด้านหน้า เขาจึงรีบยกมือขึ้นมา...
แต่ปรากฎว่ายันต์เหลืองนั้นได้ขาดไปแล้ว!
----
ซูจื่อซีตัวแข็งทื่ออย่างกับรูปปั้นหิน และไม่กล้าขยับไปมา
และในเวลานี้ ผีที่กินไข่อย่างเมามันก็หยุดชะงักลง รองเท้าสีแดงคู่นั้นก็เคลื่อนไหวเดินขึ้นมา
จากนั้นก็เดินมาหยุดอยู่ตรงด้านหน้าเขา
ซูจื่อซีนึกถึงวิธีการเอาตัวรอดในฉากหนังผี เขาจึงกลั้นลมหายใจไว้ทันทีจนทำให้หน้าแดง พร้อมกับใช้มือบีบจมูกของตัวเองไว้อย่างแน่น
และแล้วรองเท้าสีแดงคู่นั้นก็เดินจากไป
เมื่อเห็นรองเท้าคู่นั้นเดินไปไกลแล้ว ซูจื่อซีถึงปล่อยมือลงมา แล้วสูดลมหายใจเข้าไปอย่างแรง สักพักก็ได้ยินเสียงแหลมและแหบแห้งผ่านมาข้างหู “ฮ้า…หาเจ้าเจอแล้ว…”
ซูจื่อซีสันหลังเย็นวูบวาบ
เขาหันหน้าไปอย่างตัวเกร็ง และเห็นหน้าชายแก่คราวลุงคนหนึ่งอายุประมาณสี่ห้าสิบปีหมอบอยู่ข้างตัวเขา ดวงตาของเขาบุ๋มเข้าไปผิวพรรณเหลืองและแห้งกร้านเหมือนพึ่งคลานออกมาจากหลุมดิน เส้นผมโดนไถไปครึ่งหัวและที่เหลือก็ถักเปียเป็นเส้นยาวๆ สวมชุดจีนแบบยุคสมัยราชวงศ์ชิง
เมื่อเห็นหน้าเขา ผีผู้ชายก็ยิ้มอย่างแปลกประหลาดและเผยให้เห็นฟันสองซี่ที่ทำมาจากทองคำ
ซูจื่อซี “…”
……
พูดถึงซู่เป่ากันก่อน
เธอแปะยันต์ไว้ที่หน้าผากหนึ่งผืน และวิ่งไปมาภายในห้องอย่างขยันขันแข็ง
“ตาข่ายจับวิญญาณ…ตาข่ายจับวิญญาณ…”
เธอวิ่งลอดผ่านไปมา เชือกแดงที่มองไม่เห็นนี้ถูกโยงไปมาอย่างวุ่นวายเต็มทั่วห้อง
อาจารย์เคยพูดไว้ว่า เธอจะต้องพยายามสู้อย่างเต็มที่ด้วยตัวเอง ยังไงก็ต้องเอาชนะผีเจ้าเล่ห์ได้อย่างแน่นอน
ตอนนี้ผีเจ้าเล่ห์อยู่ในห้องนี้แล้ว ถึงจะซ่อนตัวไว้อย่างแนบเนียน แต่เธอก็หาเจอจนได้
เรื่องที่หนึ่ง ผีน้าสาวข้างห้องได้บอกไว้ว่า เดิมทีที่แห่งนี้มีวิญญาณหยินของลุงคนหนึ่งอาศัยอยู่ ปกติแล้วลุงจะไม่ใส่รองเท้าส้นสูงสีแดงของผู้หญิง แต่ตอนนี้รองเท้าส้นสูงสีแดงของหญิงสาวที่โดดตึกอยู่ที่เท้าของเขา
เรื่องที่สอง ก่อนที่หญิงสาวจะโดดตึกเธอสวมชุดแต่งงานสีแดงไว้และได้ทำพิธีบางอย่างก่อนที่เธอจะตายจากไป ตามหลักแล้วเธอควรจะกลายเป็นผีตายโหง แต่กลับโดนผีอีกตัวหนึ่งควบคุมไว้
ผีที่สามารถควบคุมผีตายโหงได้นั้น จะต้องเป็นผีที่ดุร้ายกว่าผีตายโหงเสียอีก หรือไม่ก็ต้องเป็นผีร้ายกาจมาก
แต่ผีน้าสาวข้างห้องบอกไว้ ผีที่อาศัยอยู่ในห้องนี้เป็นผีทั่วไป
ถ้าเป็นแค่ผีทั่วไป ทำไมถึงสามารถควบคุมให้หญิงสาวที่โดดตึกเป็นทาสรับใช้ได้ล่ะ?
สมมุติว่าผีเจ้าเล่ห์=x ผีลุงที่อาศัยอยู่ดั้งเดิม=y ผีตายโหงหญิงสาวโดดตึก=z
ดังนั้น Xแฝงตัวอยู่ในร่างของy และสวมรอยเป็นy
ก็หมายความว่าx=yอย่างงั้นหรือ!
“ในทีสุดฉันก็คำนวณสูตรได้แล้ว!” ซู่เป่าคิดอย่างดีใจ “ฉันเรียนรู้วิชาของพี่เหอเวิ่นได้แล้ว”
ตอนนี้เธอยอดเยี่ยมมาก!
ซู่เป่าคิดอย่างดีอกดีใจ เมื่อกี้ใช้ตาข่ายจับวิญญาณล้อมรอบห้องไว้อย่างแน่นหนา ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงกรีดร้องของซูจื่อซีขึ้นมา——
“อ้ากกก!ผี!!”
เมื่อสิ้นเสียงพูด ซู่เป่าก็เห็นซูจื่อซียืนขึ้นอย่างว่องไว และมีเสียงหัวชนเตียงอย่างดังจนเตียงนอนนั้นพลิกหงายคว่ำไป...
ถึงแม้ว่าเตียงนอนที่เช่าอยู่ชั่วคราวนี้จะไม่ค่อยแข็งแรงมากนัก แต่ซูจื่อซีสามารถทำให้เตียงพลิกคว่ำได้ก็ถือว่าเก่งเหมือนกัน
ซู่เป่าถึงกับแสดงสีหน้าตกตะลึง จ้องมองซูจื่อซีร้องตะโกนอย่างตาค้าง จากนั้นก็วิ่งเข้ามาอยู่ข้างๆเธอ
เธอห้ามตัวเองไม่ให้มองที่หัวของซูจื่อซีไม่ได้ “พี่ชาย พี่หัวโนเหรอ?”
เวลานี้ซูจื่อซีเริ่มรู้สึกว่าปวดหัวจี๊ดๆขึ้นมา เมื่อกี้นี้อยู่ในความหวาดกลัวเกินไป จนตัวเขาเองก็จำไม่ได้ด้วยว่าออกมาจากใต้เตียงยังไง
สองพี่น้องมองไปที่เตียงนอนนั้น
โครงสร้างเตียงเป็นรูปตะแกรงห่างๆ ไม้กระดานค่อนข้างบางและตอนนี้หักไปแล้วหนึ่งก้าน ซึ่งเกิดจากฝีมือของซูจื่อซีที่เอาหัวชนจนหักอย่างชัดเจน
ที่นอนก็เป็นแบบบางๆ จึงเป็นเหตุทำให้ซูจื่อซีสามารถดันเตียงขึ้นมาอย่างง่ายดาย
“โอ๊ยปวดจังเลย…” ซูจื่อซีลองจับดูแล้วร้องด้วยความเจ็บปวด
เพราะเหตุการณ์ที่ครึกโครมนี้ จึงทำให้ผีผู้หญิงเดินออกมาจากห้องครัว ส่วนผีผู้ชายที่หมอบอยู่ใต้เตียงก็ได้ลอยขึ้นมา และจ้องเขม็งไปที่ซูจื่อซี
เสียงของเขาแข็งกร้าวไม่น่าฟังเลย “เจ้าเป็นใคร?”
หน้าผากของซู่เป่ามียันต์เหลืองติดเอาไว้ พวกเขาจึงมองไม่เห็นเธอ
ซูจื่อซีจับมือของซู่เป่าไว้อย่างแน่นพร้อมกับเสียงพูดที่สั่นเครือ “เร็วๆ ติดให้พี่ด้วย…”
ซู่เป่าดึงยันต์ที่อยู่บนหน้าผากของเธอลงมา เพื่อจะติดไปที่หน้าผากของซูจื่อซีพร้อมกับพูดว่า “พี่ชาย พี่หลบไปอยู่อีกฝั่งก่อน”
ในมือของเธอมีเชือกแดงอยู่ ถึงจะต่อสู้กันก็ไม่ต้องกลัว
แต่ซูจื่อซีน่าจะไม่ไหวเพราะเขาไม่มีอะไรติดตัวเลย ถ้าถูกผีจับไปคงต้องวุ่นวายแน่ๆ
ผีเจ้าเล่ห์เหมือนจะสังเกตเห็นในจุดนี้ วินาทีที่ซู่เป่ากำลังดึงยันต์เหลืองลงมาเพื่อจะติดให้ซูจื่อซี เขาก็กระโจนเข้ามาทันที!
ซูจื่อซี “อ้า!”
ทำไมถึงต้องเป็นเขาด้วย!
จากนั้นผีผู้ชายก็กรีดร้องเสียงเแหลมปรี๊ด เล็บมือก็ยื่นออกมายาวขึ้นอย่างรวดเร็ว แล้วก็มุ่งหน้าเข้าไปหาซูจื่อซี
ซู่เป่าวิ่งไปขวางอยู่ด้านหน้าซูจื่อซีอย่างไม่คิดอะไร!
ผีผู้ชายแสดงสีหน้าดุร้ายออกมา ผู้พิพากษาตามหาเขาอยู่ตั้งนาน คงคิดไม่ถึงว่าเขาจะอยู่ที่นี่!
แค่เด็กตัวเล็กๆคนหนึ่ง คำเดียวเขากลืนเข้าไปได้แล้ว!
“ซู่เป่า…” ซูจื่อซีหรี่ตาลงมา
เวลาต่อมา ก็มีแสงสีแดงเปล่งประกายออกมา ผีผู้ชายถูกตีจนลอยกระเด็นออกไป!
ซูจื่อซี !!!
น้องสาวที่น่ารำคาญของเขา...เก่งกาจถึงเพียงนี้เชียวหรือ!?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน
สนุกค่ะ รออัพตอนใหม่อยู่นะคะ...
สนุกค่ะ อ่านได้เรื่อยๆ...
ยังมีใครอ่านอยู่ไหมค่ะเนี่ย ไม่รู้ตัวเอกเป็นยมบาลหรืออันธพาล ใครอ่านอยู่มาคุยกันค่ะ...
เสียดายเวลาที่อ่านมานานก็เลยพยายามอดทนอ่านต่อไปเรื่อยถ้าเนื้อเรื่องยังเป็นแบบนี้สักวันคงเลิกอ่านจริงๆอ่ะ...
อ้าว...ยัยแก่ มหาภัย ยังไงกันหะ อยู่ไปจะมาทำร้าย คุณพี่ชายซูจื่อซี ได้ไง...แกต้องโดนท่านยมบาลน้อย ชำระความ....
ชื่อเรื่อง "ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน" ไอ้เราก็นึกว่า ชีวิตใหม่ที่ว่าคือชีวิตที่ได้เจอคนรอบครัว มีตายายและลุงๆที่รักยัยหนู...แค่นั้น ที่ไหนได้ ที่แท้ชีวิตใหม่คือเป็นมือจับผีตัวน้อย...
🧐รอๆๆๆ...
เป้ยเฉินอวี่ เธอชอบ ซูอีเฉินของฉันไม่ได้!.... รออัพเดตนะค่ะ กำลังสนุก pleaseee...
มีผีร้ายเพิ่มอีกตัว.... ขอบคุณมากค่ะแอดมิน...
เย้ๆ ท่านหญิงซูเดินได้แล้ว ลุ้นๆแม่ของซูเป่าจะจำอดีตได้มั๊ยน๊า ขอบคุณมากค่ะแอดมิน...