ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน นิยาย บท 214

เพียงแค่เห็นที่เบาะหลัง คู่รักวัยกลางคนกำลังจ้องตรงมาที่เขา ทั้งคู่ใบหน้าซีดเซียว ที่สำคัญก็คือพวกเขาไม่แสดงอารมณ์ใด ๆ ราวกับว่าพวกเขาตายไปนานแล้ว...

ใช่ ก็คนที่ตายมานานแล้วนั่นแหละ

จู่ ๆ คนขับรถแท็กซี่เถื่อนก็นึกขึ้นได้ว่าสถานที่ที่ทั้งคู่ขึ้นรถเมื่อครู่อยู่ใกล้กับอาคารที่ยังสร้างไม่เสร็จบนถนนว่างหลิง และที่นั่นไม่มีตลาดกลางคืนเลย!

ไม่มีแม้แต่ผับ คาราโอเกะ เดี๋ยวนะตลาดกลางคืนงั้นเหรอ!

เขาเบรกรถอย่างกะทันหัน รถหยุดดังเอี๊ยด!

ลุงผีกลอกตาด้วยความงง มองออกไปที่ถนน “ทำไมมันถึงหยุดกะทันหันล่ะ”

หลังของคนขับรถแท็กซี่เถื่อนเปียกโชกไปด้วยเหงื่อเย็น ๆ และพูดตะกุกตะกัก "แดง ไฟแดง..."

ป้าผีมองด้วยความสงสัย ไฟแดงเหรอ ยังอยู่ห่างจากทางแยกตั้งไกล

“เอ๊ะ หรือว่าตายนานเกินไป สายตาไม่ดีแล้วเหรอ” ป้าผีพูดเสียงอ่อย

ลุงผีเข้าขยับมาใกล้มาก “ฉันช่วยดูให้”

ป้าผีควักลูกตาออกมาแล้วส่งไปให้ลุงผี

ที่เบาะด้านหลังทั้งสองอยู่ใกล้กันมาก ก็เลยทำให้คนขับแท็กซี่เถื่อนมองไปแล้วไม่เจออะไร

แต่คนขับแท็กซี่เถื่อนนั้นตกใจจนหัวใจจะวายแล้ว เขามองกระจกหลังแล้วไม่เจออะไรเลย

ทว่ารถของเขามันไม่เหมือนรถปกติ

ที่เบาะหลัง เขาแอบติดตั้งกล้องวงจรขนาดเล็กไว้

พอเวลามีสาวหน้าตาดี ๆ หรือสาวนุ่งกระโปรงสั้นมาใช้บริการ เขาก็จะแอบดูผ่านมือถือ...

เพียงทำเป็นกด ๆ มือถือก็ถ่ายภาพหรืออัดคลิปได้แล้ว

คนขับรถแท็กซี่เถื่อนก็จะสร้างกลุ่มขึ้นมากับพวกเพื่อน ๆ เพื่อส่งรูปภาพและผลัดกันรับชมภาพอันงดงามเหล่านี้

เมื่อก่อนพวกเขาตื่นเต้นมากกับเรื่องพวกนี้ ทว่าตอนนี้มันกลายเป็นฝันร้ายของเขาไปแล้ว

จากภาพกล้องวงจรสามารถเห็นได้ชัดเจนเลยว่าหญิงวัยกลางคนควักลูกตาของเธอออกมา

ส่วนชายวัยกลางคนก็กำลังช่วยเช็ดอย่างพิถีพิถัน

หลังจากนั้นก็ใส่มันกลับไปให้เธอ

ตอนนี้คนขับแท็กซี่เถื่อนรู้สึกราวกับว่าตัวเองตกลงไปในน้ำ ทั้งตัวเปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อ ใบหน้าก็มีเหงื่อผุดออกมาไม่หยุด

ขณะนั้นเองหญิงวัยกลางคนก็ชะโงกหน้าไปดู "ไฟแดงนานขนาดนั้นเลยเหรอ"

คนขับแท็กซี่เถื่อน “นี่นี่นี่ คือคือคือว่า รถของฉันดูเหมือนจะเสียแล้ว...”

ลุงผีขมวดคิ้วโดยไม่รู้ตัว อะไรนะรถเสียงั้นเหรอ!

ป้าผียังโอเคอยู่ เธอลองมอง “ห่างจากหอพักเถาฮวาไม่ไกลแล้ว พวกเราไปกันเองเถอะ!”

ลุงผีพยักหน้า แล้วหยิบธนบัตรห้าใบมาให้คนขับแท็กซี่เถื่อน

เป็นครั้งแรกเลยที่คนขับแท็กซี่รับเงินแล้วมือสั่น

พอเห็นสองคนลงจากรถ แล้วค่อย ๆ เดินไปทางข้างหน้า

พอตั้งใจมองดี ๆ ท่าทางที่พวกเขาเดินไม่เหมือนคนปกติเลย เท้าพวกเขาไม่ติดพื้น แต่กลับลอย...

คนขับรถแท็กซี่เถื่อนตัวสั่นมองเงินที่อยู่ในมือ เหมือนที่เขาคิดไว้เลยว่าเป็นเงินผี

“โอ้ โอ้พระเจ้า...”

ตอนนี้คนขับรถแท็กซี่เถื่อนกลับบ้านไม่ถูกแล้ว

หลังจากนั้นมาเขาก็ป่วยหนัก แล้วก็ไม่กล้าที่จะขับรถแท็กซี่เถื่อนอีกแล้ว พร้อมทั้งเอากล้องวงจรปิดที่อยู่ด้านหลังไปเผาทิ้งจนหมด

แม้แต่กลุ่มที่แชร์วิดีโอกันก็ออกจากกลุ่มแล้ว จิตใจหดหู่ และใช้ชีวิตอยู่ด้วยความหวาดกลัวทุกวัน...

แน่นอนว่าสิ่งเหล่านี้มันเกิดทีหลัง

สองวันก่อนที่ซู่เป่าจะจากไป มีการขุดหลุมใต้แผ่นหินศิลาขนาดใหญ่ระหว่างอาคารสองหลังที่หอพักเถาฮวา จากนั้นก็ใส่เหรียญทองแดงลงไป

ซูจื่อซีถาม “นี่คือ...”

ซู่เป่าตอบ “สะกดไอพิฆาตหยินเอาไว้สักหน่อย แบบนี้จะได้ไม่มีคนกระโดดตึกเยอะขนาดนั้นแล้ว”

เหรียญทองแดงสะกดผีชั่วร้าย โดยเฉพาะเหรียญทองแดงนี้เธอลงอักขระตามที่ท่านอาจารย์เคยสอนมาก่อนหน้านี้

ที่นี่มีผีมากเกินไป แต่ละตนมีชะตากรรมที่แตกต่างกัน ถ้าจะปราบผีที่นี่ให้หมด น้ำเต้าวิญญาณของเธอก็เต็มพอดีน่ะสิ

แต่ว่าซู่เป่าคิดว่าทำแบบนี้คงไม่ดีเท่าไหร่

เหรียญทองแดงสะกดไว้ ต่อให้มีคนกระโดดตึก วิญญาณก็ไม่ต้องถูกขังไว้ที่นี่ แถมยังไม่ต้องเป็นทาสให้ผีตนอื่น

ซูจื่อซีถาม “อย่างนั้นไม่กลัวคนอื่นจะขุดมันไปเหรอ”

ซู่เป่าพูดไปด้วยความมั่นใจ “ไม่ได้หรอก”

ซูจื่อซีไม่เข้าใจ “ทำไมไม่ได้ล่ะ”

ซู่เป่า “หนูบอกว่าไม่ได้ก็ไม่ได้หน่า พี่ไม่เข้าใจหรอก”

ซูจื่อซี “…”

ซู่เป่าปัดมือ และปัดฝุ่นที่เปื้อนกางเกงออก จากนั้นก็ลากกระเป๋าเดินทางไปอย่างมีความสุข "ไปกัน~ กลับบ้านเถอะ!"

ซูจื่อซีเม้มปาก ครั้งนี้เขาหยิบกระเป๋าเดินทางอย่างมีสติ

**

ตระกูลซูแห่งจิงตู

นายหญิงซูรออยู่ที่ประตูคฤหาสน์เป็นเวลานานอย่างกระวนกระวายว่า "ทำไมยังไม่กลับมาอีก"

“ผมบอกตั้งแต่แรกแล้วว่าอย่าปล่อยให้สองคนนั้นไปเอง แล้วถ้าเกิดอะไรขึ้นกับลูกสองคนขึ้นมาจะทำยังไงล่ะ”

“โดยเฉพาะซูจื่อซีเจ้าตัวเล็กนั่นต่อให้น้องสาวถูกจับไปขายก็เดาได้เลยว่าก็ยังคงหมกมุ่นอยู่แต่กับเกม!”

ซูอีเฉิน และมู่กุยฝานต่างก็ตั้งหน้าตั้งตารอคอย

นี่เพิ่งจะผ่านไปแค่สองนาที พวกเขาก็ถูกนายหญิงซูตำหนิไปสองรอบแล้ว

ทันใดนั้นเองก็มีรถเข้ามาใกล้คฤหาสน์ของตระกูลซู

ซูจื่อซีลงจากรถมาก่อน จากนั้นก็รีบวิ่งข้ามไปอีกด้าน เปิดประตูและเอื้อมมือไป...

ซู่เป่าร้องเย่แล้วกระโดดเข้าไปในอ้อมแขนของซูจื่อซี ซู่ซี่ซีก็รีบอุ้มเธอลงมาทันที

“หนักจะตายอยู่แล้ว คราวหลังกินให้น้อยลงหน่อยนะ!” ซูจื่อซีพูดด้วยน้ำเสียงไม่สบอารมณ์

หลังจากนั้นก็วิ่งไปที่ท้ายรถและหยิบกระเป๋าเดินทางออกมา

ซูจื่อซีกำลังลากกระเป๋าเดินทาง โดยมีกระเป๋าใบเล็กใบใหญ่ห้อยอยู่ที่แขนของเขา แถมในมือยังถือเค้กครึ่งก้อนกับนมที่เหลือครึ่งขวดของซู่เป่าด้วย

“ยังหิวอยู่ไหม” ซูจื่อซีถาม “อดทนอีกหน่อยนะ คุณย่าจะต้องทำอาหารให้กินแน่นอน”

นายหญิงซูกับซูอิ๋งเอ่อร์สีหน้าตกตะลึง

และมึนงงไปตาม ๆ กัน

(°o°;) ━━∑( ̄□ ̄*|||━━

ซูอิ๋งเอ่อร์ยังไม่หายจากอาการงุนงง “นะ นะ นี่ นี่มันใช่ซูจื่อซีไหมเนี่ย”

คงไม่โดนผีสิงไปแล้วมั้ง!

นายหญิงซูก็ตะลึงมากเช่นกัน ซูจื่อซีเพิ่งจะออกไปกับซู่เป่าแค่สองวัน กลับมาเปลี่ยนไปอย่างกับคนละคนเลยเหรอ

ไม่คิดเลยว่าจะไม่เห็นเขาคนเดิมหมกมุ่นอยู่แต่กับเกม

แถมยังคิดจะดูแลน้องสาวอีก...

“เด็กคนนี้ ไม่ใช่ว่าไปกินอะไรผิดสำแดงมาแล้วเหรอ” นายหญิงซูพึมพำ

มู่กุยฝานเม้มริมฝีปาก ไม่ใช่หรอกมั้ง

ซู่เป่ากระโจนเข้ามาอย่างเร็ว พุ่งเข้าไปในอ้อมอกของนายหญิงซู “คุณยาย!”

มู่กุยฝาน “…”

โอเค คิดเสียว่าวันนี้ไม่ใช่วันของเขา

ยังดีที่กอดนายหญิงซูเสร็จ ซู่เป่าก็พุ่งเข้าไปในอ้อมกอดของมู่กุยฝาน หลังจากนั้นก็กอดซูอีเฉิน ซูอิ๋งเอ่อร์

หลังจากเข้าประตูเธอก็กอดคุณท่านซู ซูเหอเวิ่น ซูเหอเหวิน...

แม้แต่เสี่ยวหวู่และคุณปู่เต่าก็ยังโดนซู่เป่าฟัดไปทีสองที

ไม่เลือกที่รักมักที่ชัง ไม่ทิ้งใครไว้สักคน

“กินข้าวกันเถอะ!”

นายหญิงซูสีหน้าเต็มไปด้วยความรักใคร่เอ็นดู นำกุ้งนึ่งกระเทียมของโปรดซู่เป่าออกมาจากในตู้อุ่นอาหาร

คุณท่านซูก็ยังคงหน้าตาเข้มงวดเหมือนเดิม “ที่หนานเฉิงเป็นยังไงบ้าง”

ชีวิตก็ดีอยู่แล้ว ทำไมจะต้องไปหาประสบการณ์ชีวิตกันด้วย

อายุน้อยขนาดนี้ ออกไปแค่สองวันจะได้ประการณ์ชีวิตอะไร

สามารถเปลี่ยนแปลงซูจื่อซีได้งั้นเหรอ

คุณท่านซู เฝ้าดูซูจื่อซีด้วยสีหน้าบึ้งตึงในขณะที่ซูจื่อซีลากจานกุ้งกระเทียมมาด้านหน้าตัวเอง

ดูสิ เด็กไม่เอาไหนก็ยังเป็นเด็กไม่เอาไหนอยู่วันยังค่ำ!

คุณท่านซูกำลังจะตำหนิ แต่กลับเห็นซูจื่อซีแกะเปลือกกุ้ง และเอาเนื้อกุ้งวางไว้ในชามของซู่เป่า

พลางพูดไปด้วย "ก็งั้น ๆ ไม่ได้ดีอะไร! ก็แค่จักรพรรดิออกไปเดินเล่นตอนว่างเฉย ๆ !"

ยังคงทำท่าทางกวน ๆ เหมือนเดิม

เขาแกะกุ้งไปด้วยแล้วก็ไม่ลืมที่จะบ่นซู่เป่าไปด้วย “เมื่อกี้กินไปเยอะขนาดนั้น ยังกินได้อีกเหรอ เดี๋ยวก็อ้วนตายหรอก”

ปากเสียจริง ๆ

ทว่า...

มือกลับซื่อสัตย์มาก ลงมือแกะกุ้งต่อไปไม่หยุด!

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน