ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน นิยาย บท 329

บนโต๊ะอาหาร ซู่เป่าถือชามเส้นหมี่เป็ดกินอย่างเอร็ดอร่อย

ด้านข้างของเธอมีถ้วยวางอยู่ เป็นของที่เมื่อก่อนแม่เตรียมเอาไว้ให้เธอ

ตอนนี้แม่ไม่อยู่แล้ว ในชามใบนี้ก็ยังคงมีเส้นหมี่ที่เธอแบ่งออกมาครึ่งหนึ่งอยู่

เมื่อเห็นมู่กุยฝานเดินเข้ามา เธอก็ยกซุปชามนั้นเดินมาหยุดตรงหน้ามู่กุยฝาน

“พ่อคะ กินหมี่!”

มู่กุยฝานไม่อิดออด เขายกชามขึ้นเตรียมที่จะกิน แต่ก็เห็นว่าบนใบหน้าของซู่เป่านั้นมีต้นหอมติดอยู่

เขาหยิบกระดาษทิชชู่ขึ้นมาช่วยอีกฝ่ายเช็ดหน้า

ซูอิ๋งเอ่อร์ จ้อง——

ตอนแรกเขาเห็นว่ามู่กุยฝานกำลังจะหยิบตะเกียบขึ้นกิน แต่ก็หยุดการกระทำ ก่อนที่จะลุกขึ้นมาหยิบหมั่นโถวดอกไม้ให้ซู่เป่า

ซูอิ๋งเอ่อร์จับจ้องมองมือของมู่กุยฝานไม่วางตา

มู่กุยฝานนั่งลงอีกครั้ง ก่อนที่จะนึกอะไรออกแล้วกดโทรศัพท์โทรออก

สักพักเขาก็เดินกลับมา แล้วนั่งลงจากนั้นก็ปอกไข่ให้ซู่เป่า

ซูอิ๋งเอ่อร์ยิ้มเย็น แน่จริงก็กินสิ!

กลัวว่ามือจะสั่นแล้วคนอื่นจะหัวเราะเยาะเลยไม่กล้ากินใช่ไหมล่ะ?

ข้ออ้างมากมาย!

ในที่สุดมู่กุยฝานก็ยกชามขึ้น แล้วหยิบตะเกียบ จากนั้นก็ค่อยๆ กินหมี่ช้าๆ

กินเส้นไปซดน้ำไป มือที่ถือตะเกียบนั้นก็นิ่งไม่มีสั่น

ซูอิ๋งเอ่อร์ (╯°Д°)╯︵ ┻━┻

ไม่มีทาง ไม่มีทางเป็นไปได้!

ทำไมมือถึงไม่สั่นเลย?

ครั้งก่อนเขาและคนอื่นๆ นั้นมือสั่นหงึกๆ ไม่หยุดเลย!

ซูอิ๋งเอ่อร์ยากที่จะบรรยายความรู้สึก ดูจากการวิดพื้นแล้วก็สามารถมองเห็นความแตกต่างของเขาและมู่กุยฝานได้อย่างชัดเจนเลย ก่อนที่เขาจะนึกถึงความอัปยศที่ถูกมู่กุยฝานทำจนล้มลงระหว่างการฝึกซ้อมเหตุการณ์ระเบิดในโรงเรียนอนุบาลครั้งล่าสุดขึ้นมาได้

“ไม่กินแล้ว!” ลุงห้าโยนชามลงอย่างไม่พอใจ ก่อนที่จะลุกพรวดขึ้นมาแล้วเดินออกไปด้วยใบหน้าเคร่งขรึม

โมโหเป็นบ้า ยังจะกินอะไรได้อีกล่ะ? จากนี้ไปเขายอมที่จะกินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปข้างนอกยังดีกว่ากินข้าวโต๊ะเดียวกับมู่กุยฝาน

คุณนายซูหนังตากระตุก เธอเอ่ยออกมาเสียงเย็น “นั่งลง!”

ซูอิ๋งเอ่อร์ได้ยินดังนั้นก็หันกลับมา ดึงเก้าอี้แล้วกระแทกตัวนั่งลง ก่อนที่จะหยิบตะเกียบขึ้นมา…..โมโหเป็นบ้า

คุณนายซูยิ้มเย็น “เป็นอะไรไป อาหารที่ฉันทำไมถูกปากเหรอ?”

เด็กคนนี้นี่ ตั้งแต่มานั่งที่โต๊ะ หยิบตะเกียบแล้วก็คว่ำชามนู้น คว่ำอันนี้ไปมา

สุดท้ายไม่กินสักคำ โยนชามทิ้งใบหน้าไม่พอใจ

นิสัยอะไรของเขา เคยได้ยินแต่วัยทองสองขวบ หรือสิบสองสิบสามขวบ ไม่เคยได้ยินว่าอายุสามสิบกว่ายังมีอาการนี้ได้อีก

ซูอิ๋งเอ่อร์รีบฝืนยิ้มออกมาทันที “ไม่ใช่ๆ ถูกปากมากเลย ถูกปากมากครับ!”

คุณนายซู “ถ้าอย่างนั้นขว้างชามทำไม?”

ซูอิ๋งเอ่อร์ “ผม……”

จะให้เขาพูดว่าโดนมู่กุยฝานหยาม จนไม่พอใจแบบนี้ก็ไม่ได้ใช่ไหม…..

ลุงห้าคิดข้ออ้างไม่ออก

ซู่เป่าเอียงคอเล็กน้อย ก่อนที่จะนิ่งคิดแล้วเอ่ยออกมา “ลุงห้าน่าจะโดนยั่วโมโหมา”

ซูอิ๋งเอ่อร์พยักหน้ารับอย่างไม่ทันคิด “ใช่ๆ ๆ ถูก…….”

ไม่สิ โดนยั่วโมโหมาอะไรกัน?

ลำคอเขาตีบไปครู่หนึ่ง

ซูเหอเวิ่นเอ่ยออกมาอย่างไม่ไว้หน้า “ลุงห้าน่าจะเห็นว่าลุงเขยวิดพื้นด้วยเวลาแค่สี่สิบนาทีกว่า แต่ครั้งก่อนตัวเองทำตั้งสองชั่วโมง ก็เลยไม่พอใจน่ะสิ”

หานหานส่ายหน้าไปมา “ไม่ได้ก็คือไม่ได้สิ มันจะเป็นอะไรไปล่ะ ลุงห้าดูฉันสิ เวลาที่ฉันโดนพ่อตีก็ยังยกก้นให้พ่อตีแต่โดยดีอยู่เลย”

ซู่เป่าพยักหน้า “งั้นหมายความว่าลุงห้าแพ้ไม่เป็นใช่ไหมล่ะ……ใช่ไหมคะ ลุงห้าแพ้ไม่เป็นใช่ไหม?”

ซูอิ๋งเอ่อร์ “……..”

ชาไปหมด ไม่ไว้หน้ากันเลย

เขายกชามขึ้นมาอย่างน่าสงสาร ก่อนที่จะกินข้าวเงียบๆ ไม่พูดอะไรสักคำ

คุณนายซูหมดคำจะพูด “โตขนาดนี้แล้ว ยังคิดอะไรเป็นเด็กแบบนี้อีก”

สักพักเธอก็เอ่ยออกมาอีก “จะแข่งอะไรกับมู่กุยฝานไม่แข่ง ดันจะมาแข่งเรื่องนี้ ทำไมไม่ลองแข่งแกว่งค้อนล่ะ หนึ่งชั่วโมงแต่ละคนจะแกว่งได้กี่ครั้ง”

หานหานรีบแย่งพูดขึ้นมาทันที “ถ้าแข่งแกว่งค้อนลุงเขยก็ชนะอยู่ดี!”

ซูเหอเวิ่น “ลุงห้าชื่อลุงแปลว่าชนะแท้ๆ แต่ทำไมหาทางชนะไม่ได้เลย…..”

ซูอิ๋งเอ่อร์ “…….”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน