ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน นิยาย บท 339

ซูเหอเวิ่นอ่านโพสต์ต่อไป

“ผู้ป่วยทางจิตมองว่าทุกคนรอบตัวเหมือนหนูกลายพันธุ์ตัวยักษ์และอยากกินมัน เขาฟันครอบครัวตัวเองให้ตายในวันนั้น ตั้งแต่คุณย่าวัยแปดสิบปีไปจนถึงหลานสาววัยสามขวบ เสียชีวิตทั้งหมดด้วยขวานของเขา”

"พี่ชาย พี่สะใภ้ หลานสาว พ่อแม่ และย่า เสียชีวิตทั้งหมด"

“หลังจากคุมตัวผู้ป่วยได้ เขาถูกส่งตัวไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลที่สี่ของเรา เขาถูกวินิจฉัยว่ามีอาการหวาดระแวงอย่างรุนแรง ในช่วงนั้นเขาเอาแต่พูดว่าครอบครัวพี่ชายของเขายังไม่ตาย ทุกคนก็อยู่เคียงข้างเขา และอยากฟันหนูที่กลายพันธุ์ทั้งหมดให้ตาย...”

“วันหนึ่งตอนฉันเข้ากะกลางคืน จู่ ๆ ผู้ป่วยทางจิตคนนั้นก็โผล่หน้ามามองฉันแล้วหัวเราะแปลก ๆ ไม่รู้ทำไมฉันถึงได้ยินเสียงหัวเราะแปลก ๆ ของคนอื่น ๆ รอบตัวด้วย แต่พอฉันมองไปก็ไม่เห็นใคร...”

“ฉันตกใจมาก จึงรีบเรียกเจ้าหน้าที่มาคุมตัวเขา ฉีดยาให้เขา แล้วขังเขาไว้ในห้อง”

“แต่ตั้งแต่นั้นมาเวลาไหนที่เราเข้ากะดึก เราจะได้ยินเสียงคนหัวเราะอยู่ข้างหลังเสมอ...”

เมื่อซูเหอเวิ่นอ่านถึงตรงนี้เขาก็หยุดอ่าน ตอนนี้เขาอยู่ที่โรงพยาบาลที่สี่ และมักจะรู้สึกหนาวสั่น

ดูเหมือนว่าเขาจะได้ยินเสียงหัวเราะแปลก ๆ นั่นในหูของเขา และตัวสั่นขึ้นมาโดยไม่มีสาเหตุ

ซู่เป่าหันหน้ามองเข้าไปในโรงพยาบาล

หานหานที่ดูเหมือนกำลังฟังเรื่องราวอยู่ เร่งเร้าอย่างตื่นเต้น “แล้วยังไงต่อ พี่สามอย่าเพิ่งสั่น อ่านต่อไป!”

ซูเหอเวิ่นกลืนน้ำลายของเขาและอ่านต่อไป

“คืนนั้นฉันเข้ากะกลางคืนตามปกติ ขณะที่ฉันกำลังเดินไปตามทางเดิน จู่ ๆ ก็ได้ยินเสียงเหมือนมีอะไรลากพื้นอยู่ พอฉันหันกลับไปมองก็เห็นผู้ป่วยทางจิตคนนั้น เขามองฉันและหัวเราะแปลก ๆ อีกครั้ง”

“เขาถือขวานวิ่งมาหาฉัน ฉันอยากจะวิ่ง แต่มีเสียงหัวเราะแปลก ๆ ดังขึ้นในหูของฉัน ฉันเลยตัวแข็งทื่อ...”

“ไม่รู้ว่าเพื่อนร่วมงานของฉันพุ่งเข้ามาและรวมตัวกันเพื่อปราบผู้ป่วยทางจิตคนนั้นได้ยังไง แต่เขาดุร้ายจนเพื่อนร่วมงานสองคนถูกเขาฟันจนได้รับบาดเจ็บ ทุกคนไม่กล้าสู้ต่อเลยถอยกลับเข้าไปในออฟฟิศแล้วปิดประตู”

“ผู้ป่วยถือขวานฟันอยู่ข้างนอก โชคดีที่ประตูออฟฟิศเป็นประตูเหล็ก และกระจกหน้าต่างก็เป็นกระจกกันระเบิดด้วย...ในเวลานั้นได้เกิดไฟไหม้ข้างนอก และแล้วฝันร้ายก็ปรากฏขึ้น...”

ซูเหอเวิ่นมองไปที่ตัวหนังสือสองสามบรรทัดล่าง เหงื่อออกมากเรื่อย ๆ

หานหานรู้สึกกลัว แต่ก็อดไม่ได้ที่จะอยากฟังผลที่ตามมา กอดแขนของซู่เป่าแล้วเร่งเร้า “แล้วไงต่อ แล้วไงต่อ!”

ริมฝีปากของซูเหอเวิ่นสั่นเทา

“ผ่านกระจกที่กั้นไว้ ฉันเห็นผู้ป่วยทางจิตคนนั้นยกขวานขึ้นมาฟันคอตัวเองครั้งแล้วครั้งเล่าราวกับไม่ใช่คอของเขาเอง ขณะที่เขาฟันบนใบหน้าของเขาก็ยังคงหัวเราะแปลก ๆ อยู่...จนคอของเขากำลังจะขาดเขาก็ยังไม่หยุด…”

หลังจากอ่านข้อความนี้ ซูเหอเวิ่นตกใจจนโยนโทรศัพท์ทิ้งให้พี่ชายของเขา

หานหานร้องไห้ฮือ ๆ กอดซู่เป่าแน่น “น่ากลัวจัง เราเข้ามาในโรงพยาบาลนี้เพื่อผจญภัยกับเรื่องน่ากลัวเหรอ”

ยัยหานหัวโตไม่เห็นผี เธอคิดว่าพวกพี่ ๆ กำลังเล่นเกมสยองขวัญกัน และจงใจไปที่โรงพยาบาลร้างผู้ป่วยทางจิตเพื่อเล่าเรื่องน่ากลัวให้คนอื่นตกใจ

เธอไม่กลัว เธอไม่กลัว ไม่เลยสักนิด!

ยัยหานหัวโตกอดซู่เป่า และรู้สึกว่าตัวเองมีความกล้าหาญอยู่ครู่หนึ่ง

“หลังจากนั้นล่ะ อ่านต่อสิ พี่สามไม่ต้องกลัว!”

ซูเหอเวิ่นชำเลืองดูสองสามบรรทัดสุดท้ายในโพสต์ และสรุปอย่างกระชับ

“ต่อมาก็มีคนหลายคนเสียชีวิตในเหตุไฟไหม้ในโรงพยาบาลที่สี่นี้ และบล็อกเกอร์ที่บรรยายเหตุการณ์ก็ได้รับการช่วยเหลือเช่นกัน จากการสอบสวนเหตุไฟไหม้พบว่าเกิดจากวงจรเก่าจนเกิดไฟฟ้าลัดวงจร”

คำบรรยายของผู้โพสต์คนนั้นก็จบลงตรงนี้ ด้านล่างมีหลายคนที่ไม่เชื่อพูดว่าเขาแต่งเรื่องเหมือนจริงและน่ากลัวมาก และเขาก็ไม่ได้อ่านอีก

ยัยหานหัวโตตกตะลึง “ไม่มีแล้วเหรอ”

ซูเหอเหวินคืนโทรศัพท์ให้ซูเหอเวิ่น และพูดอย่างราบเรียบ “ไม่มีแล้ว”

ถ้าเขาหยุดตื่นตระหนกได้เร็ว เขาก็ยังคงเป็นพี่ใหญ่ที่นิ่งสุขุมและมั่นคงเหมือนเดิม!

ใบหน้าของหานหานดูผิดหวังและตัดพ้อ “แค่นี้เองเหรอ”

จู่ ๆ ซู่เป่าก็ส่งเสียงชู่วออกมา “ฟังสิ มีบางอย่างเคลื่อนไหว”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน