ซู่เป่าวิ่งเหยาะไปอย่างดีใจ แม้ท้องน้อยๆ จะกินไปจนอิ่มแล้ว แต่ให้ดื่มน้ำผลไม้อีกแก้วก็ดูเหมือนจะไม่มีปัญหา
ซูเยว่เฟยเห็นเธอดื่มน้ำผลไม้อึกๆ ท่าทางการถือแก้วด้วยสายตาอันมุ่งมั่นช่างเหมือนกับอวี้เอ๋อร์ตอนเด็กจริงๆ
เขานั่งอยู่ข้างๆ ถามขึ้นอย่างสงสัยว่า “ซู่เป่า บนโลกใบนี้มีผีเยอะขนาดนั้นจริงๆ เหรอ”
วันที่สิบสี่เดือยเจ็ด เขาเห็นซูจิ่นอวี้น้องสาวที่ตายไปแล้ว
เธอพูดกับเขาสองสามประโยค เขาเห็นเธอไม่ถึงครึ่งค่อนคืน แล้วก็เห็นเธอหายไปต่อหน้าต่อตา...
ตอนนั้นเขาคิดว่าแค่ได้เจอน้องสาว โลกทัศน์พังทลายลงแล้วอย่างไร กระทั่งวันหยุดพักผ่อนที่เหลือสองสามวันนั้นยังเปิดอ่านหนังสือเกี่ยวกับอภิปรัชญาอย่างเป็นบ้าเป็นหลังอีกด้วย
แต่เมื่อวันเวลาผ่านไปทุกวัน เขาต้องบินอยู่บนท้องฟ้าที่ความสูงหนึ่งหมื่นเมตรทุกวัน เรื่องทั้งหมดที่เห็นในวันที่สิบสี่เดือนเจ็ดนับวันก็ยิ่งเลือนราง จนท้ายที่สุดถึงขั้นสงสัยว่าเป็นเพียงแค่ฝันฉากหนึ่ง
จนมาวันนี้...
ราวกับว่าฝันในก่อนหน้านี้ กลายมาเป็นความจริงในชั่วพริบตาเดียว
ซู่เป่าตอบ “ผีบนโลกก็เยอะเหมือนคนนั่นแหละค่ะ แต่ผีในโลกมนุษย์กลับไม่ได้เยอะขนาดนั้น”
ซูเยว่เฟยกระหายใคร่รู้ “แล้วพอคนที่ตายไปเกิดใหม่แล้ว จะหาเธอเจอไหม”
ซู่เป่ายกแก้วขึ้นมา ดื่มน้ำผลไม้ซูดซาดคำหนึ่ง แล้วส่ายหน้าราวกับคนแก่ “คนหนุ่มสาวนี่นะ ลุงคิดมากไปแล้ว!”
“ท่านอาจารย์บอกว่าคนบนโลกเยอะขนาดนั้น หาไม่เจอหรอก”
ซูเยว่เฟยอดไม่ได้ที่จะขำออกมาเล็กน้อย
เขานั่งไปๆ สติหลุดเล็กน้อย ท่าทางดูผิดปกติ
ตอนนี้ซู่เป่าเก่งกาจเป็นอย่างมาก เธอยังรู้จักระงับอารมณ์และคำพูด จากนั้นยกแก้วขึ้นมาสูดน้ำผลไม้ซูดซาดจนหมดแก้วแล้ววางลงอย่างเบามือ...
ในห้องเงียบสงัดเป็นอย่างมาก
เสี่ยวอู่เงยหน้าขึ้นมา แล้วมองไปที่ซู่เป่าด้วยความสงสัย...
ในขณะนี้เอง ทันใดนั้นซู่เป่าก็ยื่นมือออกมา แล้วบีบคอของซูเยว่เฟยเอาไว้ กดเสียงต่ำแล้วตะโกนอย่างไร้เดียงสา “จับแกได้แล้ว!”
เสี่ยวอู่ตกใจกับการเคลื่อนไหวอย่างกะทันหันนี้จนร้องแว๊กออกมาเสียงหนึ่ง จากนั้นกระพือปีกพึ่บพั่บบินไปอีกด้าน
“แว๊ก! ฉันตกใจแทบแย่! ฉันตกใจแทบแย่!” เสี่ยวอู่ช็อกจนสติกระเจิดกระเจิง
ซูเยว่เฟยหายใจลำบาก จึงพูดขึ้นอย่างงงงันว่า “ซู่เป่า มีอะไรเหรอ”
เมื่อครู่ราวกับเขาเสียสมาธิไป
แต่จู่ๆ ทำไมซู่เป่าถึงบีบคอเขาล่ะ
ซู่เป่าคว้าคอของซูเยว่เฟยเอาไว้ มือน้อยๆ หมุนทีหนึ่ง ราวกับจับของอะไรเอาไว้อยู่ และพยายามดึงมันออกมาข้างนอก
ในขณะเดียวกันก็พูดปลอบขึ้นว่า “ลุงสามวางใจนะคะ ไม่เจ็บหรอก แป๊บเดียวๆ!”
ลุงสาม “???”
อย่าบอกนะว่า...มีผีอีกแล้ว
เขาๆ เขาถูกผีสิงเหรอ
เขากำลังคิด ทันใดนั้นบนท้ายทอยก็เจ็บแปลบขึ้นมา เขาหายใจติดขัด เจ็บจนหมดสติไปโดยพลัน
เยี่ยมมาก นี่เธอเรียกว่าไม่เจ็บเหรอ
ซูเยว่เฟยรู้สึกราวกับวิญญาณของตัวเองถูกกระชากออกมาแล้ว หลังมือที่จับขอบโต๊ะเอาไว้เส้นเลือดดำปูดขึ้นมา...
มือข้างหนึ่งของซู่เป่ากดคอของลุงสามเอาไว้ ส่วนอีกข้างหนึ่งดึงมันออกมาข้างนอก มู่กุยฝานเข้าห้องมาก็เห็นภาพนี้
“หนัง” ที่อยู่ตรงท้ายทอยของซูเยว่เฟยถูกดึงออกมา ตัวใหญ่มากๆ!
ราวกับลอกคราบ!
นัยน์ตาของนักพรตมู่หดตัวลง ภาพอันน่าสยดสยองแบบนี้ หากไม่ใช่เพราะใจแข็งก็คงตกใจตายไปแล้ว
เขาปิดประตูด้วยความเร็ว เผื่อว่านายหญิงไม่ทันระวังมาเห็นเข้า ขณะเดียวกันก็เข้าไปใกล้ซู่เป่าด้วยความรวดเร็ว ช่วยเธอกดซูเยว่เฟยเอาไว้อย่างไม่ลังเล
“พ่อหนุ่มน้อย ไปบ้านผีสิงมาก็พาผีกลับบ้านแล้วเหรอ” มู่กุยฝานกดเสียงต่ำ
เดิมมือน้อยๆ ของซู่เป่าสั้นอยู่แล้ว ดึงอยู่นานสองนาน “หนัง” อันนั้นยิ่งดึงก็ยิ่งยาว จึงดึงไม่ออกสักที
เห็นพ่อก็ราวกับเห็นผู้ช่วยชีวิต เธอจึงตะโกนเรียก “พ่อคะ...พ่อ พ่อเหยียบลุงสามเอาไว้นะ!”
มู่กุยฝาน “ไม่มีปัญหา”
จากนั้นเขาก็เหยียบบนหลังของซูเยว่เฟย
ซูเยว่เฟย “...”
นี่ๆ เขาเพียงแค่ขยับไม่ได้ แต่ยังรู้สึกตัวอยู่นะ!
เหยียบแบบนี้มันเกินไปแล้วนะ!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน
ไม่ลงต่อแล้วหรอคะ 🥹...
รอทุกวันเลยค่ะ...
กระโดดข้ามหายไปหลายตอนเลยค่ะ...
1293 1297 1298 หายค่ะ 🥲🥲...
ตอนที่ 1288 หายไปค่ะ...
เย้...กลับมาแล้ว รอทุกวันเลยค่ะ...
หายไปนานจังเลยนะจ๊ะรอลงตอนใหม่อยู่นะคะ...
รอค่ะ...
ทำไมรอบนี้หลายไปนานคะ หรือไปบงที่อื่นคะ...
บทที่ 1268 แล้วกระโดดไป 1278 เลย บทที่ 1269 1270 1271 1272 ข้ามไปทั้งหมด 4 ตอนนะคะ...