เหวยหว่านมองไปที่หานหานที่กำลังวิ่งมา ดวงตาของเธอเปลี่ยนเป็นสีแดง
เธอไปที่ตระกูลซูอีกครั้งในวันนี้และต้องการขอให้นายหญิงซูปล่อยให้เธอเจอหานหาน แต่ไม่คิดว่าตระกูลซูทั้งครอบครัวจะไปตั้งแคมป์กัน
เหวยหว่านจำได้ว่าตอนที่ซู่เป่ายังไม่มา วัน ๆ แทบไม่มีใครอยู่บ้านเลย ตอนนี้ไม่เพียงทุกคนจะอยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตาเท่านั้น แต่ยังออกไปตั้งแคมป์ด้วยกันอีก
หากเมื่อก่อนพวกเขาเป็นแบบนี้ เธอและซูจื่อหลินจะเย็นชาต่อกันมากขึ้นเรื่อย ๆ จนถึงจุดที่พวกเขาเป็นอยู่ตอนนี้ไหม
คงจะต้องรู้สึกดีมาก และรักกันดูดดื่มแน่ ๆ
“แม่!” เสียงของหานหานทำให้เหวยหว่านกลับมามีสติอีกครั้ง
เธอยื่นมือออกมาอย่างรวดเร็ว “ลูกรัก!”
หานหานอยู่กับเหวยหว่านมาตั้งแต่เด็ก เธอจึงโผเข้าสู่อ้อมแขนของแม่อย่างดีใจ
ดวงตาของเหวยหว่านเป็นสีแดง ลูกผู้น่าสงสารของเธอไม่ได้เจอแม่มาสองวันแล้ว คงคิดถึงแม่มากเลยใช่ไหม
“หานหาน สองวันมานี้ลูกกินอิ่มนอนหลับดีใช่ไหม” เหวยหว่านถาม
หานหานคิดอยู่ครู่หนึ่งจากนั้นก็ส่ายหัว
“ปู่กับย่าบอกว่าบอกว่าตอนกินข้าวให้กินข้าวดี ๆ หลังเวลาอาหารจะไม่ให้กินแล้ว”
เหวยหว่านไม่อยากจะเชื่อ “ถึงลูกหิวก็ไม่ให้กินเหรอ”
หานหานส่ายหัว
ถ้าตอนมื้ออาหารงอแงไม่ยอมกินข้าวขึ้นมา ก็คงต้องอดข้าวหิวโซไปจริงๆ
ดังนั้นเธอจึงเรียนรู้ที่จะกินข้าวอย่างเชื่อฟัง...
เหวยหว่านรู้สึกเศร้ามากขึ้นและอดไม่ได้ที่จะบ่นออกมา
“คุณย่าของลูกไม่ไหวเลย ทำกับเด็กแบบนี้ได้ยังไง! ลูกยังเด็กและยังต้องโตอยู่! พวกเขาทำแบบนี้ได้ยังไงกัน”
“ถ้าไม่อยากกินข้าวตอนเวลาอาหารมันก็เป็นเรื่องปกติ ตอนหลังก็ค่อยกินก็ได้! แบบนี้มันโหดร้ายเกินไป!”
“หานหาน ไปกันเถอะ แม่จะพากลับไปบ้านคุณยาย”
เหวยหว่านทั้งเศร้าและโกรธ เธอไม่อยู่ที่นี่แค่สองวัน และพวกเขาก็ทำร้ายหานหานแบบนี้!
หานหานที่เคยติดแม่ของเธอมาก ตอนนี้กลับปฏิเสธที่จะไป
หานหานมองกลับไปอย่างลังเลและส่ายหัว “แม่ หนูไม่ไป หนูอยากเล่นที่นี่”
ใบหน้าของเหวยหว่านกลายเป็นน่าเกลียดทันที
เธอไม่เข้าใจ พวกเขาทำกับหานหานแบบนี้ ทำไมหานหานถึงไม่ยอมไป
เหวยหว่านหายใจเข้าลึก ๆ แสร้งทำเป็นน่าสงสารและพูดสะอึกสะอื้น “หรือว่าหานหานไม่ต้องการแม่แล้วใช่ไหม”
การที่แม่พูดประโยคนี้ เป็นการทำร้ายลูกมากที่สุด
หานหานส่ายหัวทันที “ไม่ใช่!”
เหวยหว่านพูด “งั้นเอาแบบนี้ไหม แม่จะพาลูกไปเที่ยวสวนสนุก”
หานหานโกรธ “หนูไม่เอา!”
เธอก็แค่อยากเล่นที่นี่!
ทำไมแม่ถึงไม่ให้เธอได้เลือกสิ่งที่ต้องการทุกครั้งเลย
เหวยหว่านเกลี้ยกล่อม “หานหานเด็กดี ไม่งั้นอีกสองวันแม่จะพาลูกมาเล่นที่นี่อีก! เรากลับกันก่อนเถอะนะ”
เมื่อเห็นว่าซูจื่อหลินและคนอื่น ๆ เดินไปมาแล้ว เธอก็รู้สึกกังวล
หานหานที่เพิ่งอยู่ได้เพียงสองวันจู่ ๆ ก็ร้องไห้อีกครั้ง “หนูไม่! หนูไม่เอา! หนูอยากเล่นที่นี่!”
ซูจื่อหลินพูดอย่างเย็นชา “เหวยหว่าน คุณสร้างปัญหามากพอหรือยัง!”
หนังสือหย่าก็ปฏิเสธที่จะเซ็น สำนักงานกิจการพลเรือนก็ปฏิเสธที่จะไป
ซูจื่อหลินทำได้เพียงต้องฟ้องหย่าและตอนนี้ศาลกำลังดำเนินการตามขั้นตอน
การฟ้องหย่าอาจใช้เวลาถึงสามเดือนจึงจะได้ข้อสรุป
เมื่อเธอถูกเจอตัวแล้ว เหวยหว่านจึงเลิกหลบหนีอีกต่อไป
“ฉันทำไม ในฐานะแม่ของลูก ฉันจะมาดูลูกไม่ได้เหรอ”
เหวยหว่านจับมือหานหาน “หานหานไป! ลูกอยากเล่นอยู่ที่นี่ไม่ใช่เหรอ งั้นแม่จะอยู่เป็นเพื่อนลูกเอง!”
หานหานพยายามดึงตัวเองออกแต่ก็ทำไม่ได้ ร้องไห้เสียงดัง “หนูไม่อยากเล่นกับแม่ หนูอยากเล่นกับซู่เป่า!”
เหวยหว่านรู้สึกโกรธมาก เธอดึงหานหานให้เดินไปที่ทะเลสาบด้วยตัวเอง!
เล่นกับซู่เป่าอะไรกัน
เจ้าเด็กเจ้าเล่ห์อย่างซู่เป่ามีแต่จะทำให้หานหานหลงผิด!
ไม่เจอกันแค่สองวันหานหานก็ไม่ชอบแม่แล้ว มันต้องเป็นการยุยงของซู่เป่าอย่างแน่นอน
นอกจากซู่เป่าแล้ว ตระกูลซูก็ต้องรับผิดชอบเรื่องนี้ด้วย!
พวกเขาต้องพูดเรื่องแย่ ๆ มากมายเกี่ยวกับเธอต่อหน้าหานหานแน่นอน!
“หานหาน ลูกจำไว้ ซู่เป่าเป็นเด็กไม่ดี เธอจงใจทำลายความสัมพันธ์ระหว่างแม่กับพ่อ ลูกไม่ต้องไปเล่นกับเธอรู้ไหม”
“ถ้าตอนแรกซู่เป่าไม่มา ลูกก็จะเป็นเจ้าหญิงคนเดียวในตระกูลซู! ลูกรู้จักน้าจิ่นอวี้ของลูกไหม เมื่อก่อนเธอเคยเป็นเด็กผู้หญิงคนเดียวในตระกูลซู ทั้งครอบครัวรักเธอ อยากซื้ออะไรก็ซื้อได้ อยากได้อะไรคุณปู่คุณย่าก็จะให้หมด”
“ยังมีคุณย่าอีก! การไม่ให้ลูกกินข้าวเป็นเรื่องที่ทำร้ายเด็ก! ต่อไปถ้าลูกโตขึ้นก็ไม่ต้องไปสนใจคุณย่าลูกอีก!”
“แม่เท่านั้นที่จะรักและดูแลลูกได้ดีตลอดไป! เมื่อลูกโตขึ้น ลูกจะทำดีได้แค่กับแม่เท่านั้น!”
หานหานรู้สึกหวาดกลัวกับเสียงกัดฟันของเหวยหว่านจนเธอร้องไห้ ในขณะที่มืออีกข้างของเธอถูกดึงเอาไว้
ซูจื่อหลินเป็นคนพูดน้อยและพูดไม่เก่ง ดังนั้นเขาจึงแย่งตัวเธอมาเลย
จู่ ๆ หานหานก็รู้สึกว่าตัวเองกำลังจะถูกฉีกเป็นชิ้น ๆ
เธอร้องไห้จนแทบขาดใจ
เหวยหว่านตะโกนร้องด้วยความโมโห “ปล่อยนะ หานหานเจ็บแล้ว!”
ปากก็พูดไปแบบนั้น แต่ก็ดึงหานหานอย่างสุดชีวิต แล้วซูจื่อหลินก็ปล่อยมือ
เหวยหว่านเซและล้มลงกับพื้น
ในช่วงเวลาสั้น ๆ ซูอีเฉินและพี่น้องของเขาก็มารวมตัวกัน คุณท่านซูดันรถเข็นของนายหญิงซู ทุกคนขมวดคิ้วไปที่เหวยหว่าน
ถูกขับไล่ไปแล้ว ก็ยังดันทุรังมาอีกเหรอ
คุณท่านซูพูดอย่างเย็นชา “มัวทำอะไรอยู่ ไปพาหานหานมานี่!”
ซูจื่อหลินก้าวไปข้างหน้าทันที แต่เหวยหว่านกลับกอดหานหานแน่น
เธอร้องไห้ “ฉันถอยมาจนถึงจุดนี้แล้ว พวกคุณยังต้องการอะไรอีก ต้องบีบให้เราสองแม่ลูกตายเลยเหรอไง"
เส้นเลือดที่หลังมือของซูจื่อหลินปูดขึ้น มีเสียงหักกระดูกเบา ๆ และกำมือแน่นมาก!
ทันใดนั้นโทรศัพท์ของเขาก็ดังขึ้น เขาเหลือบมองไปยังหมายเลขที่โทรเข้าและรับสาย
“ฮัลโหล สวัสดีคุณซู! พวกเราทางนี้คือ 110...”
ไม่รู้ว่าคุยอะไรกัน ซูจื่อหลินจ้องเหวยหว่านอย่างใกล้ชิดและพูดอย่างเฉยเมย “งั้นพวกคุณทุกคนมาที่นี่เดี๋ยวนี้เลย!”
หัวใจของเหวยหว่านเต้นไม่เป็นจังหวะ ไม่รู้ว่าทำไม แต่เธอมีลางสังหรณ์ไม่ดีอยู่เสมอ!
ซูจื่อหลินพูดอย่างเย็นชา “ปล่อยหานหาน!”
เหวยหว่านมองไปที่ริมทะเลสาบในระยะไกล ร่องรอยของความร้ายกาจฉายแววในดวงตาของเธอ
ไม่ให้เธอพาหานหานไปใช่ไหม
บีบบังคับเธอใช่ไหม
เหวยหว่านกอดหานหานแน่น และลุกขึ้นยืนโดยไม่สนใจการต่อสู้ขัดขืนของหานหาน!
“พวกคุณบังคับฉันเองนะ...”
ด้านหลังนายหญิงซู ซู่เป่ากำลังถือตะหลิวขนาดเล็ก ดวงตาเต็มไปด้วยความระแวดระวังและสงสัย
ก่อนหน้านี้ใบหน้าของป้าสะใภ้รองมีแต่เงาดำ แต่ตอนนี้รอบตัวเธอก็มีหมอกดำเช่นกัน
หมอกดำนี้มันคืออะไรกันนะ
จี้ฉางที่อยู่ข้าง ๆ หรี่ตามอง “ชิ... ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าจะลากลูกสาวไปตายด้วย”
เขาหยิบสมุดบันทึกออกมาพลิกดู “วันนี้ไม่ใช่วันตายของพวกเธอนี่ แต่กลับจิตอัตฆาตกรรม”
ถ้าให้พูดก็คือ เหวยหว่านลากหานหานไปที่ทะเลสาบเพื่อฆ่าตัวตาย...
บางทีเธออาจไม่ได้ต้องการฆ่าตัวตาย แต่ใช้วิธีนี้เพื่อขู่ตระกูลซู
ใบหน้าของซู่เป่าเต็มไปด้วยความสับสน “จิตอัตฆาตกรรมคืออะไรเหรอคะ”
จี้ฉางปิดสมุดบันทึก เมื่อเขายกมือขึ้นสมุดบันทึกก็หายไป และพูดอย่างราบเรียบว่า “มันหมายถึงการฆ่าตัวตาย”
ซู่เป่าตกตะลึง จากนั้นจึงมองไปที่เหวยหว่าน “ป้าสะใภ้รองกำลังจะพาพี่หานหานไปฆ่าตัวตายเหรอ”
ทันทีที่คำพูดเหล่านี้ออกมา นายหญิงซูก็ตกใจ “หยุดเธอ!”
สีหน้าของเหวยหว่านเปลี่ยนไป และซู่เป่าก็มองเห็นจุดประสงค์ของเธอ
เธออุ้มหานหานขึ้นทันทีและรีบตรงไปที่ทะเลสาบ!
แต่ทว่าพี่น้องในตระกูลรู้ถึงแผนการของเธอและตอบสนองอย่างรวดเร็วเพื่อหยุดเธอ!
เหวยหว่านวางมือของเธอบนคอของหานหาน ร้องไห้และตะโกนเสียงดัง “อย่าเข้ามานะ! ทำไมพวกคุณถึงต้องบีบบังคับฉันด้วย ทำไม!”
เธอถอยร่นไปข้างถนนทีละก้าว ร้องไห้แทบขาดใจ และรู้สึกว่าทั้งโลกทำผิดต่อเธอ
เธอแค่อยากเป็นนายหญิงรองของตระกูลซูแค่นั้น เธอทำอะไรผิด
เรื่องในหกปีก่อนมันผ่านมานานแล้ว ทำไมถึงยังไม่ได้ใช้ชีวิตดี ๆ และให้อภัยต่อความผิดพลาดในอดีตของเธอไม่ได้!
“ปี๊บ”
ในตอนนี้ก็บังเอิญมีรถยนต์ขับเข้ามา!
เหวยหว่านคนใจร้าย อุ้มหานหานขึ้นแล้วพุ่งตรงไปที่รถ!
หัวใจของซูจื่อหลินบีบแน่นขึ้น และดูเหมือนว่ามันจะสายเกินไป
ในขณะนั้นเองตะหลิวอันเล็กก็บินมาจากไหนไม่รู้
เสียงตุ้บ~ กระแทกไปที่หัวของเหวยหว่าน...
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน
สนุกค่ะ รออัพตอนใหม่อยู่นะคะ...
สนุกค่ะ อ่านได้เรื่อยๆ...
ยังมีใครอ่านอยู่ไหมค่ะเนี่ย ไม่รู้ตัวเอกเป็นยมบาลหรืออันธพาล ใครอ่านอยู่มาคุยกันค่ะ...
เสียดายเวลาที่อ่านมานานก็เลยพยายามอดทนอ่านต่อไปเรื่อยถ้าเนื้อเรื่องยังเป็นแบบนี้สักวันคงเลิกอ่านจริงๆอ่ะ...
อ้าว...ยัยแก่ มหาภัย ยังไงกันหะ อยู่ไปจะมาทำร้าย คุณพี่ชายซูจื่อซี ได้ไง...แกต้องโดนท่านยมบาลน้อย ชำระความ....
ชื่อเรื่อง "ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน" ไอ้เราก็นึกว่า ชีวิตใหม่ที่ว่าคือชีวิตที่ได้เจอคนรอบครัว มีตายายและลุงๆที่รักยัยหนู...แค่นั้น ที่ไหนได้ ที่แท้ชีวิตใหม่คือเป็นมือจับผีตัวน้อย...
🧐รอๆๆๆ...
เป้ยเฉินอวี่ เธอชอบ ซูอีเฉินของฉันไม่ได้!.... รออัพเดตนะค่ะ กำลังสนุก pleaseee...
มีผีร้ายเพิ่มอีกตัว.... ขอบคุณมากค่ะแอดมิน...
เย้ๆ ท่านหญิงซูเดินได้แล้ว ลุ้นๆแม่ของซูเป่าจะจำอดีตได้มั๊ยน๊า ขอบคุณมากค่ะแอดมิน...