ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน นิยาย บท 441

ซู่เป่าตะโกนพร้อมวิ่งเข้าไปในห้องน้ำ อาบน้ำดังเป็นเสียงซ่า กลิ่นหอมที่แสนสดชื่นของครีมอาบน้ำโชยไปถึงด้านนอก

ผีขี้ขลาดส่ายหัวหลุดขำ พรัอมจับผีหน้าซื่อใจคดเอาไว้ “ไปกันเถอะ สำรวจหนึ่งเดือน หากไม่มีประโยชน์ก็เอาไปป้อนน้ำเต้าวิญญาณ”

ผีหลายใจออกห่างอย่างไกล “นายไม่กลัวว่ามันเหม็นหรือไง”

ตอนนี้เห็นผีหน้าซื่อใจคด เธอรู้สึกราวกับบนตัวเขามีแต่หนอน

ผีขี้ขลาดไม่ได้พูดอะไรต่อ

ก็ต้องรังเกียจอยู่แล้วสิ

แต่เพื่อไม่ให้ซู่เป่าโดนตัวของผีหน้าซื่อใจคด เขาจึงต้องทำแทน

ผีหน้าซื่อใจคดร้องไห้ “ทุกคนต่างเป็นผีร้าย นี่มันเป็นการทำร้ายพวกเดียวชัดๆ ไม่ใช่หรือไง”

ผีขี้ขลาดยิ้มอ่อน “พวกเราไม่เหมือนกัน พวกเราไม่ใช่พวกเดียวกับแก”

ผีขี้ขลาดลากเขาเข้าไปในน้ำเต้าวิญญาณ

ในน้ำเต้าวิญญาณมีที่สำหรับคุมขังอยู่ ถูกพวกเขาเรียกว่าห้องสำรวจ

ผีสาวชุดแต่งงานตอนนี้ยังอยู่ในนั้นเลย…แม้จะเคยเล่นไพ่นกกระจอกด้วยกันมาก่อน แต่พวกเขากลัวว่าเมื่อเธอออกมาได้ จะซ่อนแผนการร้ายบางอย่างเอาไว้อย่างชายหัวล้าน จึงทำได้เพียงคุมขังไว้ก่อน

ผีสาวชุดแต่งงานจะอึดอัดตายแล้ว!

“ปล่อยข้าออกไปนะ ข้ายังอยากเล่นไพ่ต่อ” เธอพูดกล่าวอย่างน่าสงสาร “ข้าอยู่ข้างเดียวกับพวกท่านโดยไม่มีใจทรยศแล้วจริงๆ พวกท่านได้โปรดเชื่อข้าเถิด!”

จากนั้นเธอก็เห็นผีหน้าซื่อใจคดถูกคุมขังเข้ามา

“……”

**

ซู่เป่าเดินออกมาด้วยผมที่เปียกปอน บนตัวห่อด้วยผ้าเช็ดตัวสีชมพูอ่อนเอาไว้ เธอมองซ้ายมองขวา

เห็นว่าไม่มีคน (ผี) จึงรีบวิ่งด้วยความเร็วสูง หยิบเสื้อผ้าออกมาใส่

ซูเหอเวิ่นเคาะประตูเดินเข้ามา จากนั้นเอ่ยถาม “ซู่เป่า เสร็จหรือยัง กินข้าวแล้วไปรับพี่รองได้แล้ว”

ฟังผีหน้าซื่อใจคดเล่าเรื่องไปนาน จนเลยมาถึงเวลาเก้าโมงแล้ว

นายหญิงซูแวะมาดูรอบหนึ่ง แต่ไม่รู้ทำไมจึงจากไปอย่างเงียบๆ

ซู่เป่าถือผ้าเช็ดตัวเช็ดผมส่งๆ “จะเสร็จแล้ว~”

ซูเหอเวิ่นเดินเข้ามา เห็นเธอที่กำลังเช็ดผมส่งๆ จนผมยุ่งเหยิงเป็นทรงรังนก

เขาอดยิ้มไม่ได้ วิ่งไปหยิบผ้าเช็ดตัว “พี่ช่วยเอง!”

เสี่ยวเหอเวิ่นเช็ดหยดน้ำบนผมของเธอจนแห้งอย่างเบามือ จากนั้นก็เอาไดร์มาเป่าผมให้เธอ

เมื่อซูอีเฉินเปิดประตู ภาพที่เห็นคือซูเหอเวิ่นจับผมของซู่เป่าไว้ หยาดเหงื่อซึมเต็มหน้าผาก และเป่าผมให้ซู่เป่าอย่างเงอะงะ

“รอเดี๋ยวนะ อีกสักพักจะเสร็จแล้ว”

นัยน์ตาของเขาเต็มไปด้วยความร้อนรน อยากรีบเป่าผมให้เสร็จ แต่ก็กลัวจะทำซู่เป่าเจ็บ มือน้อยๆ เลียนแบบช่างทำผมในร้านทำผมอย่างดูดี เขาสะบัดผมเบาๆ และคอยลูบหัวของซู่เป่าเป็นระยะ

ซู่เป่านั่งอยู่บนพื้น เงยหน้าพูดกำชับ “พี่ช้าๆ หน่อยสิ”

“อย่าเผลอดึงผมหนูนะ หนูไม่อยากเป็นคนหัวล้านแบบพี่หานหาน”

ซูอีเฉินหัวเราะออกมาอย่างอดไม่ได้ ฉากตรงหน้านั้นอบอุ่นมากจริงๆ

สายตาของซู่เป่าเป็นประกาย รีบหันหน้ามองไปในทันที “คุณลุงใหญ่!”

คุณลุงใหญ่กลับมาแล้ว

ซู่เป่าดันร่างวิ่งไปในทันที

ซูเหอเวิ่นตกใจ รีบวิ่งตามเธอไป และดึงปลั๊กไดร์เป่าผมออกมา

ซู่เป่าวิ่งอยู่ด้านหน้า ส่วนซูเหอเวิ่นกำผมเธอไว้กระจุกหนึ่ง ลากไดร์เป่าผมวิ่งตามเธออยู่ด้านหลัง พร้อมร้องตะโกน “เดี๋ยวก่อน!”

ซู่เป่าตะครุบเข้าไปในอ้อมกอดของซูอีเฉิน ซูเหอเวิ่นเองก็เบรกเอาไว้ไม่ทัน

ซูอีเฉินอุ้มทั้งสองคนขึ้นมา กล่าวอย่างหมดคำพูด “ปล่อยผมน้อง”

ทำไมถึงได้โง่ขนาดนี้ ไม่รู้จักปล่อยมือหรือไง

ซูเหอเวิ่นเพิ่งได้สติ รีบปล่อยมือในทันที

หือ? พ่ออุ้มเขาเหรอ ทำไมพ่อถึงได้อ่อนโยนกับเขาขนาดนี้ล่ะ

กำลังคิดแบบนี้อยู่ จู่ๆ ซูอีเฉินก็ปล่อยมือ ซูเหอเวิ่นหล่นลงมาในทันที

“……”

โชคดีที่เขาขายาว เพียงครู่เดียวขาก็ถึงพื้นทันที และเห็นเพียงคุณพ่ออุ้มน้องจากไปด้วยสีหน้าเอ็นดู

ซูเหอเวิ่นบ่นอุบอิบอยู่ด้านหลัง “ผมเป็นลูกแท้ๆ จริงหรือเปล่า”

“นี่คือคนเป็นพ่อแท้ๆ งั้นเหรอ”

หลังกินข้าวเสร็จลงจากตึก ซูอีเฉินจึงพาซู่เป่าและซูเหอเวิ่นออกจากบ้าน ซูจื่อหลินไปโรงพยาบาลก่อนแล้ว อาเนี่ยถือกล่องข้าวเดินตามอยู่ด้านหลัง

**

บัดนี้ ในโรงพยาบาลเอกชนที่ซูจื่อซีพักอยู่

ซูจื่อซีนั่งอยู่บนเตียงผู้ป่วย ใบหน้ารูปงามของชายหนุ่มตัวน้อยบัดนี้เต็มไปด้วยความโกรธเคือง

น้องสาวไม่ได้มาเยี่ยมเขาถึงเจ็ดวันเต็มๆ แล้ว

วันจันทร์ถึงวันศุกร์ต้องไปโรงเรียนอนุบาล เขาเข้าใจ

แต่วันเสาร์อาทิตย์ก็ไม่ได้มา

วันนี้วันจันทร์ พวกเขาต้องไปเรียนกันหมดแล้วแน่ๆ ไม่มารับเขากันหรอก

ไม่พอใจ!

เวลานี้เองคุณหมอหญิงคนหนึ่งผลักประตูเข้ามา มองเขาทีหนึ่ง จากนั้นกล่าวยิ้มๆ “สุดหล่อตัวน้อย วันนี้ต้องออกจากโรงพยาบาลแล้ว เดี๋ยวหมอขอตรวจร่างกายครั้งสุดท้ายนะ”

ซูจื่อซีมองเธอด้วยคิ้วที่ขมวด “คุณคือใคร คุณหมอหลี่ล่ะ”

คุณหมอผู้หญิงหยิบเครื่องฟังตรวจขึ้นมาพร้อมกล่าว “คุณหมอหลี่มีผ่าตัด เลยฝากฉันมาทำเรื่องออกจากโรงพยาบาลแทน มาจ๊ะ ยื่นมือออกมาให้หมอตรวจหน่อย”

ซูจื่อซี “……”

ไม่ชอบผู้หญิงคนนี้

เขายื่นมือออกไปอย่างไม่เต็มใจนัก หันหน้าไปอีกด้านอย่างหมดความอดทน สายตามองไปทางข้อมือของคุณหมอหญิง

เธอใส่นาฬิกาข้อมือ และสะดุดตาเอามาก อาจจะเป็นเพราะเป็นนาฬิกาผู้ชาย

ซูจื่อซีสงสัย เขารู้สึกเหมือนเขาเคยเห็นนาฬิกาเรือนนี้มาก่อน…

คุณหมอหญิงตรวจเสร็จก็เดินจากไป และหยุดชะงักที่หน้าประตูครู่หนึ่ง นัยน์ตาของเธอทอไปด้วยแววตื่นเต้นและเจ้าเล่ห์

วันนี้น่าจะได้เจอคนคนนั้น นั่นเป็นถึงประธานซูของซูซื่อกรุ๊ปเชียวนะ…

**

เมื่อซู่เป่ามาถึงโรงพยาบาล เห็นเพียงซูจื่อซีนอนอย่างหมดความหวังบนเตียง

“ในที่สุดก็นึกถึงฉันสักทีนะ” เขากระแอมเสียงเย็น หันหน้าไปอีกด้าน ซ่อนแววดีใจนัยน์ตาเอาไว้

ซู่เป่ายื่นหัวเข้ามา “พี่จื่อซี พี่โกรธเหรอ”

ซูจื่อซีเม้มปาก ไม่ได้มาเยี่ยมเขานานขนาดนั้น

ตั้งแต่หนึ่งอาทิตย์หลังเข้าเรียนในโรงเรียนอนุบาล จนหยุดสุดสัปดาห์อีกครั้ง

วันจันทร์ถึงวันศุกร์เขาพอเข้าใจ แล้ววันเสาร์อาทิตย์ล่ะ

ทำไมไม่มาเยี่ยมเขาเลยล่ะ

หรือเขาไม่ได้สำคัญขนาดนั้นเหรอ

ซู่เป่ายื่นมือลูบผมของเขา ปลอบใจด้วยน้ำเสียงนิ่มๆ “เอาหน่าๆ ก็มาแล้วนี่ไง”

ซูจื่อซีหึเสียงเย็นทีหนึ่ง “แล้ว…มามือเปล่าเหรอ”

ซู่เป่ารีบจับไปที่กระเป๋าทันที ไม่มีลูกอมซะแล้ว

ยืมกับเหล่าผีหนึ่งเม็ด

ซู่เป่ากระดิกนิ้ว ข้างๆ น้ำเต้าวิญญาณก็มีลูกอมปรากฏเม็ดหนึ่ง

“อ้ะ ให้พี่”

ซูจื่อซีเหอะเสียงเย็นทีหนึ่ง “ให้อภัยก็ได้…หืม ทำไมลูกอมเม็ดนี้โดนฉีกมาก่อนล่ะ”

ซู่เป่าชะงัก เธอเผยสีหน้าแตกตื่น กำลังจะบอกว่าอย่ากิน ก็เห็นซูจื่อซีโยนลูกอมเข้าปากไปแล้ว

ซู่เป่า “……”

ผีดวงซวยที่ชะโงกหัวออกมาหาลูกอม “……”

แม่เจ้า ขนาดเข้าปากแล้วยังมีคนแย่งอีก

ซู่เป่าไม่กล้าบอกพี่ว่าผีดวงซวยเคยเลียมาก่อน เธอจึงได้แต่จดจ้องไปที่เขา พร้อมคิดในใจ : ไม่สกปรกๆ ของที่ผีกินไม่เรียกว่าถูกกิน ดังนั้นจึงไม่สกปรก…

ซูจื่อซีเห็นซู่เป่าจ้องเธอ จึงถามอย่างแปลกใจ “ทำไมเหรอ”

วันนี้เขาจะออกจากโรงพยาบาลแล้ว ลูกอมในปากยังรู้สึกหวานกว่าปกติ

ซู่เป่าส่ายหน้าอย่างแรง ใบหน้าน้อยๆ สะบัดจนเป็นเงาลาง “มะ-ไม่มีอะไร!”

ช่างเถอะ อย่าบอกพี่เลย

คุณพ่อเคยบอก บางครั้งเราต้องมีคำโกหกที่หวังดีบ้าง ไม่เป็นไรหรอก เธอเป็นเด็กไม่เป็นไรหรอกน่า!

ซูจื่อหลินที่เพิ่งกลับมาหลังจัดการเรื่องออกจากโรงพยาบาลเสร็จ ด้านหลังของเขายังมีแพทย์หญิงอีกคนหนึ่งตามมา

แพทย์หญิงเดินเข้ามาพร้อมกับม้วนแขนเสื้อขึ้น เธอเอ่ยถาม “เรื่องอื่นๆ ไม่มีอะไรแล้ว แต่เพื่อความแข็งแรงของคุณชายซู ฉันจะตรวจให้เขาอีกรอบ”

ซูจื่อหลินพยักหน้าเงียบๆ ไม่ค้านอะไรทั้งนั้น

ข้อดีของโรงพยาบาลเอกชนคือ ต่อให้จะเป็นห้องผู้ป่วย ก็เป็นห้องผู้ป่วยที่แสนหรูหรา มีโซฟาขนาดใหญ่ มีที่สำหรับทำงาน อีกด้านยังมีห้องอีกห้องหนึ่ง เอาไว้สำหรับญาติที่มาเฝ้าผู้ป่วย

ซูอีเฉินอยู่บนโซฟา นั่งไขว้ขาเอาไว้ พร้อมมองไฟล์งานที่ถูกส่งเข้ามาในโทรศัพท์

เวลานี้เองได้ยินคนเข้ามา เขาจึงเงยหน้ามองไป

ดวงตาของเขาหรี่ลงฉับพลัน

แพทย์หญิงคนนี้กำลังถือเครื่องฟังตรวจ

บนข้อมือของเธอใส่นาฬิกาเอาไว้…นั่นเป็นนาฬิกาที่เขาทำหายเมื่อแปดปีที่แล้ว

เวลาผ่านไปนานเกินไป นานจนเขาจะลืมเค้าโครงของผู้หญิงคนนั้นแล้ว

สิบปีที่แล้ว ผู้หญิงคนนั้นหนีไป แต่สิบเดือนต่อมาเธอกลับเอาทารกชายคนหนึ่งมาวางไว้หน้าบ้านตระกูลซู

แปดปีที่แล้ว ผู้หญิงคนนั้นใช้แผนการเดิม วางซูเหอเวิ่นไว้ที่หน้าบ้านตระกูลซู

เขาไม่รู้ว่าเธอต้องการจะทำอะไร

เขาไม่ได้เจอเธอสักครั้ง และสืบไม่เจอว่าเธอต้องการทำอะไร สิ่งเดียวบนตัวเขาที่ถูกเธอเอาไปคือนาฬิกาผู้ชายสีม่วงเข้มเรือนนั้น

สีหน้าของซูอีเฉินเย็นยะเยือก จ้องไปที่แพทย์หญิงเย็นๆ

“คุณคือใคร”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน