ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน นิยาย บท 445

มู่กุยฝานขับรถกลับเขตเมือง เขาหยุดจอดที่ร้านยาร้านหนึ่ง ซื้อผ้าก็อต ยาห้ามเลือดเเละแอลกอฮอล์ล้างแผลใหม่

แค่ช่วงเวลาสั้นๆ ที่เขาขับรถกลับมา เลือดบนบาดแผลได้ซึมเข้าไปในผ้าก็อตเก่าของเขาจนเปียกชุ่ม

มู่กุยฝานไม่อยากให้ซู่เป่าต้องกังวลเมื่อกลับไป จึงคิดจะทำแผลในรถก่อนค่อยจากไป

เวลานี้เองกลับมีเสียงหนึ่งดังขึ้น “คุณต้องการความช่วยเหลือไหมคะ”

เขาตอบอย่างเย็นชา “ไม่ครับ”

หญิงสาวยังไม่ล้มเลิก เธอถามไถ่อย่างเป็นห่วง “ฉันแซ่เหยา เป็นคุณหมอ ฉันดูแล้วแผลบนมือของคุณค่อนข้างหนัก โดนเศษกระจกมางั้นเหรอคะ”

เหยาซือเยว่สีหน้าอ่อนโยน พยายามทำให้ตนดูมืออาชีพมากที่สุด

มู่กุยฝานกล่าวเย็นๆ “ฟังภาษาคนไม่รู้เรื่องหรือไง”

สีหน้าของเขาเยือกเย็น เส้นผมดำที่ลอนเล็กน้อยตกลงบริเวณคิ้วและตา ทำให้สายตาของเขาดูกระหายเลือดและอันตราย

มือเท้าของเหยาซือเยว่เย็นวาบลงในทันที เธอไม่สงสัยเลยแม้แต่นิด หากเธอยังพูดมากกว่านี้อีกหนึ่งประโยค ชายตรงหน้าจะสังหารเธอทิ้งในทันที

เธอถอยหลังก้าวหนึ่ง จากนั้นวิ่งหนีอย่างร้อนรน

มู่กุยฝานจ้องไปที่แผ่นหลังของเหยาซือเยว่

เธอซ่อนแผนการในตาเอาไว้ได้ดีมาก เป้าหมายของเธอคือเขางั้นเหรอ

น่าสนุกแล้วสิ ร่องรอยของเขานอกจากตัวเขาเองแล้วไม่มีใครรู้เป็นคนที่สอง ที่มาซื้อยาในร้านยานี้ก็เพราะเป็นทางผ่านพอดี…หากเป้าหมายของเธอเป็นเขาจริงๆ เธอรู้ได้อย่างไรกันว่าเขาอยู่ที่นี่?

มู่กุยฝานหยิบแอลกอฮอล์ขึ้นมา ราดไปที่แผลตรงๆ

แผลของเขาเกิดจากการโดนเศษกระจกแทงจริงๆ

ในโรงงานเคมีเมื่อกี้ เพื่อจัดการผีร้ายตนหนึ่ง เขาต่อยไปที่กระจกแผ่นหนึ่งอย่างแรง จนเศษกระจกแทงเข้าไปในเนื้อ

แต่ก่อนที่จะออกจากโรงงาน เขาก็เอาเศษกระจกออกมาหมดแล้ว

ประสิทธิภาพของแอลกอฮอล์ดีกว่าเบตาดีน แต่จะแสบกว่า คนทั่วไปไม่สามารถทนกับความเจ็บปวดแบบนี้ได้ แต่มู่กุยฝานไร้ซึ่งสีหน้า

หลังฆ่าเชื้อเสร็จ เขาโรยยาผง ห่อแผลอย่างรุนแรง ท่าทีของเขาไม่อ่อนโยนแม้แต่นิด ราวกับไม่ใช่มือของตนเอง

พันผ้าก็อตเสร็จ โทรศัพท์ของมู่กุยฝานก็แสดงเป็นภาพกล้องวงจรที่เขากำลังสะกดรอยเหยาซือเยว่

มู่กุยฝานแฮกเข้าไปในกล้องวงจรร้านกาแฟ

ได้ยินเหยาซือเยว่เหมือนกำลังคุยโทรศัพท์พอดี เธอกดเสียงไว้ต่ำมาก “ตามที่คุณสั่ง ฉันหาคนที่ซู่เป่าใกล้ชิดมากที่สุดจนเจอแล้ว…แต่ไม่สามารถเข้าใกล้ได้เลย!”

“ตอนนี้ฉันจำเป็นต้องเริ่มลงมือจากซู่เป่า…”

สายตาของมู่กุยฝานเย็นลง เป้าหมายไม่ใช่เขา แต่เป็นซู่เป่างั้นเหรอ

งั้นเขายิ่งออมมือไม่ได้เลย

ครึ่งนาทีต่อมา มู่กุยฝานสืบหาข้อมูลทุกอย่างของเหยาซือเยว่จนเจอ พร้อมแฮกเข้าไปในโทรศัพท์ของเธอและดักฟัง

แต่ที่ประหลาดคือ เหยาซือเยว่ไม่ได้โทรศัพท์ เธอเพียงแค่แกล้งทำเป็นคุยโทรศัพท์

ส่วนความจริงแล้วเธอกำลังพูดกับใครนั้น……

มู่กุยฝานหรี่ตา มีผีเหรอ แต่เมื่อกี้เขาไม่ได้รู้สึกถึงไอมืดครึ้มนี่นา

หลังผ่านการฝึกฝนไปช่วงหนึ่ง ตอนนี้เขาคุ้นเคยกับกลิ่นไอของผีและสิ่งของหยินมากแล้ว

มู่กุยฝานลงรถอย่างเด็ดขาด เดินไปที่ถนนตรงข้าม เข้าไปในร้านกาแฟร้านนั้น

เขาไม่ชอบแผนการคดเคี้ยว รู้ทั้งรู้ว่าอีกฝ่ายมีแผนยังต้องรอให้อีกฝ่ายดำเนินแผนก่อน ค่อยมาตั้งตัวรับมือ…แบบนั้นไม่ใช่เขาแน่

เขาบุกเข้ามาเลย

มู่กุยฝานมานั่งด้านหน้าเหยาซือเยว่

เหยาซือเยว่หันหน้าจิบกาแฟเพียงแปบเดียว ก็ไม่เห็นจังหวะที่มู่กุยฝานลงจากรถแล้ว เธอเงยหน้าอีกทีเห็นเพียงมู่กุยฝานนั่งอยู่ตรงข้ามแล้ว เธอตกใจจนเกือบจะดีดตัวขึ้น

มู่กุยฝานใช้นิ้วเคาะไปที่โต๊ะสองที พร้อมเอ่ยเสียงเย็น “คุยโทรศัพท์อยู่เหรอ”

เหยาซือเยว่วางสายอย่างร้อนรน “อา…ใช่ แต่ไม่เป็นไร เพิ่งคุยจบพอดี…”

เธอสงบลงอย่างรวดเร็ว มองไปที่มือของมู่กุยฝาน พร้อมถามอย่างเป็นห่วง “เกิดอะไรขึ้น ทำแผลไม่สำเร็จเหรอคะ ให้ฉันช่วยคุณไหม”

“โดนเศษกระจก ต้องเขี่ยเศษกระจกออกมาให้หมด มิฉะนั้นแผลจะติดเชื้อง่าย จนบวมเป็นหนอง…”

มู่กุยฝานจ้องไปที่เธอ “คุณรู้ได้อย่างไรว่าฉันกำลังทำแผล คุณนั่งจ้องฉันอยู่ที่นี่งั้นเหรอ”

เหยาซือเยว่สะอึก ต่อหน้าแรงกดดันรุนแรงของมู่กุยฝาน เธอนิ่งไม่ได้แม้แต่นิด สีหน้าของเธอเริ่มรนราน

มู่กุยฝานถามต่อ “คุณรู้ได้อย่างไรว่าฉันโดนเศษกระจก คุณส่งคนมา ‘สะกดรอย’ ตามฉันงั้นเหรอ”

หัวใจของเหยาซือเยว่เต้นแรงทันที แรงกดดันที่มองไม่เห็นทำเอาเธอรับมือไม่ไหว

เธอหายใจเข้าลึกทีหนึ่ง ส่ายหัวอย่างเอือมๆ “คุณผู้ชาย คุณขี้ระแวงเกินไป ฉันกำลังรอเพื่อนอยู่ที่นี่ และมองจากตรงนี้ก็เห็นพอดีว่าคุณกำลังทำแผล…”

“ส่วนเรื่องแผล ฉันเป็นคุณหมอนะ ฉันต้องมองออกอยู่แล้ว”

มู่กุยฝานหัวเราะเหยียด “ฉันไม่เชื่อ”

เขาพูดไป พร้อมมองไปรอบๆ อย่างแนบเนียน

ตั้งสติรวบรวมสมาธิ สัมผัสอย่างตั้งใจ แต่กลับสัมผัสไม่โดนกลิ่นไอมืดครึ้มที่คุ้นเคย

เขามาข้าไปเหรอ ทำให้ไอ้สิ่งที่ไม่ใช่คนหนีไปแล้ว

มู่กุยฝานหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาอีกครั้ง แฮกเข้าไปดูในโทรศัพท์ของเหยาซือเยว่ แต่ก็ไม่มีรูปภาพหรือไฟล์แปลกๆ เลย

เขาเงยหน้าเอ่ยถาม “เป้าหมายของคุณคือลูกสาวฉันซู่เป่า คุณมีจุดประสงค์อะไรกันแน่”

เหยาซือเยว่ตะลึงถึงขีดสุดในทันที เขารู้ได้อย่างไรกัน!

เรื่องในวันนี้ที่เธอทำ เธอไม่เคยพูดถึงกับคนอื่นมาก่อน

มู่กุยฝานค่อยๆ เข้าใกล้ กดข้อมือของเหยาซือเยว่ผ่านเสื้อ “ฉันไม่มีความอดทน รีบสารภาพมาดีๆ มิฉะนั้นแขนคุณหักแน่”

เหยาซือเยว่รู้สึกเหมือนแขนเธอกำลังจะหัก เธอบีบรอยยิ้มออกมาฝืนๆ “คุณผู้ชาย คุณเข้าใจผิดแล้ว ฉันไม่รู้จักลูกสาวของคุณแม้แต่นิด…”

กร๊อบ!

มู่กุยฝานหักข้อมือข้างซ้ายของเธอทันที

เหยาซือเยว่ร้องตะโกนเสียงเจ็บปวดออกมาในทันที มู่กุยฝานกลับหยิบผ้าปูโต๊ะขึ้นมา ยัดเข้าไปในปากของเธอ

ชั้นสองมีลูกค้าเพียงสองสามคน เหยาซือเยว่นนั่งตรงที่นั่งมุมๆ อีก จึงไม่มีใครสังเกตเห็นความผิดปกติ

เหงื่อเย็นของเหยาซือเยว่แผ่ซ่าน เธอร้องไม่ออก แขนข้างซ้ายที่ถูกหักสั่นระริกไม่หยุด

ในสังคมกฏหมายปัจจุบัน ยังมีคนที่เมินกฏหมาย หักข้อมือคนอื่นโดยไม่บอกไม่กล่าวแบบนี้อยู่เหรอ!

หนำซ้ำที่นี่ยังเป็นร้านกาแฟ เป็นที่สาธารณะ!

คนนี้น่ากลัวเกินไป เขามัน…ตัวก่ออาชญากรรมชัดๆ!

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน