แม่ของเสวี่ยเอ๋อร์รีบบอกว่า “เราติดต่อตระกูลซือไปตอนนี้เลย บอกว่าเราพบตัวคุณชายน้อยแล้ว”
พ่อของเสวี่ยเอ๋อร์บอกว่า “คุณโง่หรือไง! ไปแย่งความดีความชอบกับคนตระกูลซูเนี่ยนะ?”
คนตระกูลซูเป็นคนเจอ ถ้าพวกเขาไปเอาหน้าแทนแบบนั้น เท่ากับหาว่าทั้งตระกูลซูกับตระกูลซือเป็นไอ้โง่กันหมดหรือไง
แม่เสวี่ยเอ๋อร์ร้อนใจ “แล้วจะทำไงดีล่ะ”
ทั้งตระกูลซูและตระกูลซือต่างเป็นหนึ่งในสามตระกูลที่มีอิทธิพลมากที่สุดในจิงตู สายตระกูลลึกซึ้ง ตระกูลหลานไปเทียบกับพวกเขาแล้วก็เหมือนลูกปลาเล็ก ๆ กับฉลามยักษ์...
ตอนนี้มีโอกาศให้ประจบ ถ้าพวกเขาไม่ลงมือทำอะไรหน่อยก็รู้สึกขาดทุน
พ่อของเสวี่ยเอ๋อร์ครางในลำคอบอกว่า “คิดออกแล้ว”
หลายวันมานี้ตระกูลซือตามหาคุณชายน้อย เลยประกาศเบอร์โทรให้บางกลุ่มรู้
พ่อของเสวี่ยเอ๋อร์โทรไป ทำหน้าตาตื่น “ฮัลโหล ใช่คุณซือหรือเปล่าครับ...”
“ผมหลานเจี้ยนอวี่ไงครับ... ครับ ๆ ใช่ครับ คืองี้ครับ หลานสาวตระกูลซูพบคุณชายน้อยซือตอนออกไปเล่นในป่าน่ะครับ ประธานซูเลยให้ผมโทรมาบอกคุณ...”
หลังจากวางสาย แม่ของเสวี่ยเอ๋อร์อดชมเขาไม่ได้ “ว้าว สามีฉันฉลาดจังเลย คำพูดคำจาใช่ได้เลย แบบนี้ได้ทำดีทั้งตระสองตระกูลนั้นเลย”
พ่อของเสวี่ยเอ๋อร์ภาคภูมิใจ
เสวี่ยเอ๋อร์ที่อยู่ข้าง ๆ ก็ฟังและจดจำ รู้สึกเหมือนได้ความรู้ใหม่...
**
ณ เต็นท์ของตระกูลซู
ซูอี้เซินล้างหน้าล้างตาเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เด็กชาย ที่สุดก็ได้เห็นหน้าเด็กชัด ๆ สักที
เขาทำหน้ายู่ ลากซูอีเเฉินออกไปข้างนอก
ซู่เป่านอนเกาะอยู่ข้างที่นอนเป่าลม จ้องเด็กชายที่นอนอยู่บนที่นอน
ขณะเดียวกันจี้ฉางก็กำลังสอนซู่เป่าเรียกขวัญ
“จิตเป็นหยาง วิญญาณเป็นหยิน จิตของคนมีสามดวงจิตฟ้า จิตดิน จิตกำเนิดหรือก็คือจิตชีวิตจะอาศัยอยู่ในร่าง ส่วนอีกสองจิตจะอยู่ข้างนอกก็เลยหลุดง่าย”
“เด็กคนนี้ถือว่าไปผ่านประตูผีมาแล้วหนหนึ่ง ตอนนี้จิตกำเนิดก็ไม่รู้อยู่ไหน”
“มา เดี๋ยวอาจารย์จะสอนให้ว่าเรียกขวัญยังไง”
ซู่เป่าเงยหน้า แต่จุดสนใจกลับอยู่ที่จุดอื่น
ท่านอาจารย์ ในเมื่อจิตหลุดง่ายขนาดนั้น ทำไมไม่จับจิตอีกสองอันมามัดไว้ข้างตัวล่ะคะ?”
จี้ฉางสะอึก โบกมือแล้วบอกว่า “เดี๋ยวเจ้าก็จะรู้เอง”
เขากลัวว่าซู่เป่าจะยิงคำถามมาเป็นชุด ก็เลยรีบพูดต่อว่า
“การเรียกขวัญก็ต้องท่องบทสวดเรียกขวัญให้ได้ก่อน นอกจากนี้ก็ต้องจุดธูปหนึ่งดอก จุดไฟในกะละมัง ต้องเอาเสื้อผ้าของคนที่จิตหลุดใส่ลงไปในกะละมังนั้น ถึงจะเริ่มสวดบทเรียกขวัญ”
“เอ้า เจ้าท่องบทสวดเรียกขวัญตามอาจารย์นะ “เตาทางดานขวา มีกระเพาะใหยมาก ซาเปยหนิงคาไกดำ นองชายไปอึไปอึ ซาเปยหนิงคาไกดำ...”
บทสวดยาวมาก หลังจากจี้ฉางท่องรวดเดียวจบก็หันมาถามซู่เป่า “จำได้หรือยัง?”
ซู่เป่าพยักหน้ามั่นใจ “จำได้แล้วค่ะ”
จี้ฉางชื่นชม ไม่เสียแรงที่เป็นเด็กมีพรสวรรค์...
“งั้นท่องให้อาจารย์ฟังหน่อย” เขาบอก “บทสวดเรียกขวัญค่อนข้างจำยากหน่อยนะ...”
ซู่เป่าพยักหน้า “เต่าทางด้านขวา มีกระเพาะใหญ่มาก ซ่าเป้ยหนิงฆ่าไก่ดำ น้องชายไปอึไปอึ ซ่าเป้ยหนิงฆ่าไก่ดำ...”
ก็จำไม่เห็นยากนี่นา
จี้ฉาง “...?”
“??”
อะไรกันเนี่ย!
ถึงจะออกเสียงคล้าย ๆ กัน แต่แบบนี้ไม่ได้อยู่ดี
ขณะที่กำลังคิด จี้ฉางรู้สึกได้ว่าอากาศรอบตัวมีการเคลื่อนไหว เหมือนว่าบทสวดของซู่เป่าจะได้ผล
จี้ฉางกระตุกมุมปาก
ซู่เป่าขมวดคิ้วเล็ก ๆ ของเธอถามว่า “ซ่าเป้ยหนิงเป็นใคร? แล้วทำไมต้องฆ่าไก่ดำด้วย? ทำไมน้องชายต้องไปอึสองครั้งด้วย?”
จี้ฉาง “...”
นายหญิงซูที่อยู่ข้าง ๆ ได้ยินซู่เป่าพึมพำ ร้องฮัมอะไรสักอย่าง ‘ซ่าเป้ยหนิงฆ่าไก่ดำ’
ท่านสีหน้าเปลี่ยน เป็นห่วงซู่เป่าขึ้นมา
ซู่เป่ามักจะพูดคนเดียวกับอากาศอยู่บ่อย ๆ ไม่ก็คุยกับเสี่ยวอู่
บางทีก็พูดถึงท่านอาจารย์ขึ้นมา...
นายหญิงซูไม่รู้ทำไมรู้สึกไม่ดีเอาเสียเลย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน
รอทุกวันเลยค่ะ...
กระโดดข้ามหายไปหลายตอนเลยค่ะ...
1293 1297 1298 หายค่ะ 🥲🥲...
ตอนที่ 1288 หายไปค่ะ...
เย้...กลับมาแล้ว รอทุกวันเลยค่ะ...
หายไปนานจังเลยนะจ๊ะรอลงตอนใหม่อยู่นะคะ...
รอค่ะ...
ทำไมรอบนี้หลายไปนานคะ หรือไปบงที่อื่นคะ...
บทที่ 1268 แล้วกระโดดไป 1278 เลย บทที่ 1269 1270 1271 1272 ข้ามไปทั้งหมด 4 ตอนนะคะ...
รอบนี้หายนานมาก รอตอนใหม่อยู่นะคับ...