ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน นิยาย บท 477

จู่ ๆ ใบหน้าของเหยาหลิงเยว่ก็ซีดลง เธอลุกขึ้นยืนตัวตรงจากเตียง และล้มตัวลงบนเตียงทันที

ซู่เป่าตกใจและรีบคว้ามือเธอ “ป้าสะใภ้ใหญ่?”

ลูกตาของเหยาหลิงเยว่จ้องตรง โดยไม่มีปฏิกิริยาใดใด

จี้ฉางผงะไปเล็กน้อย “ตายแล้วเหรอ”

ซู่เป่าส่ายหัว “เป็นไปไม่ได้!”

เมื่อครู่นี้ที่เธอนั่งอยู่บนขอบเตียงเพื่อรอป้าสะใภ้ใหญ่เธอก็คิดไว้เงียบ ๆ และวันนี้ป้าสะใภ้ใหญ่ก็ปลอดภัยดี

ดังนั้นจึงต้องไม่ตาย

“ป้าสะใภ้ใหญ่...” ซู่เป่าจับมือเธอ “รีบลุกขึ้นมาค่ะ”

ดวงตาของเหยาหลิงเยว่ขยับ เธอมองไปที่ซู่เป่าอย่างว่างเปล่า และทันใดนั้นก็ลุกขึ้นนั่งอย่างรวดเร็ว

รอบนี้ถึงคราวที่ซู่เป่าต้องตกใจ

“ป้าสะใภ้ใหญ่?” เธอโบกมือเล็ก ๆ ของเธอเพื่อทดสอบ

เหยาหลิงเยว่จ้องมองที่มือของเธอ หลังจากนั้นสักพักก็เงยหน้าขึ้นอย่างลังเลและโบกมือ

ซู่เป่าอ้าปากค้าง

ป้าสะใภ้ใหญ่เชื่อฟังดีมาก!

“ไปค่ะไป ไปกินข้าวกันเถอะค่ะ!” ซู่เป่าลากเธอวิ่งออกไปข้างนอก

ว่านปาสือที่ตามมาข้างหลังเต็มไปด้วยงงงวย ไม่ได้เรียกเขาหรอกเหรอ

เขาได้ยินเสียง 'ปาสือ' 'ปาสือ' จากด้านนอก

เขาควรจะถึงตั้งแต่ตอนที่คุณหนูตะโกนตั้งแต่ครั้งแรกแล้ว แต่เขาเพิ่งจะมาถึงตอนเรียกครั้งที่สอง หรือเพราะเขามาช้า คุณผู้หญิงถึงแก้ปัญหาด้วยตัวเองเสร็จแล้ว

ว่านปาสือแอบให้คำมั่นสัญญา: คราวหน้าจะต้องใส่ใจกว่านี้!

นายหญิงซูและคนอื่น ๆ รออยู่ที่ห้องอาหารชั้นหนึ่ง และในที่สุดก็เห็นซู่เป่าจูงเหยาหลิงเยว่วิ่งลงมา

ทุกคนแปลกใจ ว้าว ชาวแอฟริกันกลายเป็นชาวยุโรปตะวันตกแล้วเหรอ

นายหญิงซูรู้สึกอกสั่นขวัญแขวน ใบหน้าซีดเซียวของเธอ...ซีดยิ่งกว่าลุงใหญ่ที่เสียชีวิตไปสามวันเสียอีก!

ว่ากันว่าถ้าผิวขาว ถึงแม้ร่างกายไม่ค่อยสวยงาม ก็สามารถทำให้คนมองดูดีได้ หลังจากที่เหยาหลิงเยว่หน้าซีดก็สามารถมองเห็นรูปร่างหน้าตาที่ดูเหมือนคนขึ้นมาหน่อย ไม่ใช่ 'ผี' ที่ไหม้เกรียมและน่าสะพรึงกลัวอีกต่อไป

ซูเหอเวิ่นพูดอย่างงงงวย “ถ้าอย่างนั้นสีดำของแม่ผมเมื่อกี้นี้ ก็คือคราบขี้ไคลที่ไม่ได้ล้างมาสิบปีใช่ไหม”

มุมปากของซูเหอเหวินกระตุก “หุบปาก...”

ซู่เป่านั่งลง ส่ายหัวแล้วพูดว่า “ไม่ใช่ เพราะหนูฆ่าหนอนในหัวใจของป้าสะใภ้ใหญ่ตายแล้วต่างหาก ป้าสะใภ้ใหญ่เลยขาวขึ้น”

นายหญิงซู “...”

เคล็ดลับความขาวนี้คืออะไร

จริง ๆ แล้วก็รู้สึกอยากได้นิดหน่อย...

“นั่งเถอะ...” นายหญิงซูชี้ไปที่เก้าอี้

เหยาหลิงเยว่มีสีหน้าไร้อารมณ์ นอกจากหน้าซีดแล้วเธอก็ยังดูไม่แตกต่างจากเดิม หลังจากมาถึงห้องอาหารแล้วเธอก็ยังคงจ้องมองที่ซูเหอเวิ่นก่อน

อาจเป็นเพราะซูเหอเวิ่นเกิดทีหลัง ดังนั้นความทรงจำของเธอจึงชัดเจนกว่าเล็กน้อย ดังนั้นในแววตาเธอจึงเหมือนกำลังทบทวนซ้ำไปซ้ำมาอยู่ตลอด

“โธ่ ดูเหมือนว่าจะรักษาไม่ได้แล้ว” นายหญิงซูพูด “สาย ๆ อี้เซินจะกลับมา ให้เขาลองช่วยดูสักหน่อยก็แล้วกัน”

เธอกลัวว่าถ้าบุ่มบ่ามพาไปโรงพยาบาล อาจจะทำให้ผู้เชี่ยวชาญเหล่านั้นตกใจตายได้

เสี่ยวอู่เฝ้าสังเกตจากระยะไกลอยู่บนราวบันได และไม่สามารถกลั้นคำพูดเอาไว้ได้ “สวัสดีทุกคน ฉันคืออี้เซิน วันนี้อี้เซินขอท้าทายทุกคนให้กินขี้ แหวะ~แหวะ...”

ทุกคน “...”

นายหญิงซูกำตะเกียบในมือแน่นอย่างเหลืออดเหลือทน “ป้อนขี้ให้มันกินครึ่งโลซิ!”

เสี่ยวอู่หันหลังและหนีไป

ซู่เป่าชี้ไปที่เก้าอี้ “ป้าสะใภ้ใหญ่ นั่งค่ะ!”

ในที่สุดดวงตาของเหยาหลิงเยว่ก็ขยับ และเธอก็นั่งตัวแข็งทื่อบนเก้าอี้

ในที่สุดทุกคนก็สามารถรับประทานอาหารได้อย่างสบายใจ ชามตรงหน้าเหยาหลิงเยว่เต็มจนล้น ข้าวอัดแน่น เนื้อเอยผักเอยซ้อนทับกันอยู่ด้านบน

นายหญิงซูพูด “เสี่ยวเหยาอ่า กิน...”

เธอคิดว่าเหยาหลิงเยว่จะไม่มีปฏิกิริยาตอบสนองเป็นเวลานานเหมือนแบบเมื่อกี้นี้ แต่ครั้งนี้กลับเห็นเธอก้มหัวลงและจ้องมองชามข้าวที่อยู่ตรงหน้า

หลังจากที่ซู่เป่าเร่งเร้าให้เธอรีบกินอยู่หลายครั้ง ดูเหมือนว่าเธอจะพบเคล็ดลับในการกินแล้ว และเธอก็ซุกหน้าลงในชามข้าว

สวบ ๆ ๆ ...

กินไวมาก

ทุกคน “...”

เนื้อที่คีบด้วยตะเกียบของคุณท่านซูหล่นลงดังแปะ

ไม่สิ ‘ลูกสะใภ้’ คนนี้ฉลาดหรือไม่ฉลาดกันแน่

ถ้าบอกว่าเธอไม่ฉลาด ทำไมเธอถึงกินจนเห็นก้นชาม แต่ถ้าบอกว่าฉลาด แล้วทำไมเธอถึงไม่ใช้ตะเกียบกิน

นายหญิงซูอดทนมาก ยกมือบอกใบ้ให้เธอดูตะเกียบในมือของตัวเอง “ใช้ตะเกียบกินแบบนี้”

เมื่อเห็นใบหน้านิ่งที่ดูน่ารักมีเม็ดข้าวอยู่เต็มหน้าของเธอ นายหญิงซูจึงหยิบกระดาษทิชชูยื่นให้เธออย่างจำใจ

ซูเหอเวิ่นรีบรับมันไว้แล้วเช็ดใบหน้าให้เธอ

“ต้องถือตะเกียบกินแบบนี้”

ซูเหอเวิ่นหยิบตะเกียบขึ้นมา สาธิตวิธีใช้ตะเกียบขณะที่คีบกับข้าวไปด้วย

เมื่อเห็นแบบนั้นซู่เป่าจึงถือตะเกียบขึ้นมาสอนด้วย

สายตาของเหยาหลิงเยว่จ้องมองที่ซูเหอเวิ่นและมองไปที่ซู่เป่า นิ้วมือของเธอที่วางไว้บนเข่าขยับเล็กน้อย

แต่ยังไม่ทันที่เธอจะเรียนรู้ ซู่เป่าและซูเหอเวิ่นก็กินไม่ลงแล้ว

ซู่เป่า “ไม่ได้ หนูสอนไม่ได้แล้ว หนูกินไม่ลงแล้ว!”

ซูเหอเวิ่น “ผมก็กินไม่ลงแล้ว...พี่ชาย พี่เลย!”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน