ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน นิยาย บท 504

เห็นเพียงแต่ข้างหลังรถมีหญิงสาวมายืนอยู่ตั้งแต่เมื่อไรไม่รู้ เธออยู่ในชุดสีขาว ผมก็เป็นสีขาวเช่นกัน กลมกลืนไปกับหิมะสีขาวโดยรอบอย่างสมบูรณ์แบบ

เธอลอยขึ้นเบาๆ ไร้ชีวิตชีวา

ทันใดนั้นหญิงสาวก็หันหน้ามาแล้วยิ้มอย่างพิลึกกึกกือ เธอยื่นมือออกมายกท้ายรถขึ้น แล้วคว่ำรถอย่างแรง!

รถออฟโรดสีดำของมู่กุยฝานคันนั้นก็ลอยออกไปทั้งอย่างนั้น

“ซู่เป่า!”

นัยน์ตาของซูอีเฉินหดตัว ทันใดนั้นเขาก็วิ่งไปที่รถ แต่ไม่นานเขาก็รู้สึกว่าที่เท้าเย็นขึ้นมา เขาก้มหน้ามองทีหนึ่ง ก็เห็นว่ามีมือขาวซีดข้างหนึ่งมาจับข้อเท้าของเขาเอาไว้

มีบางอย่างกำลังเคลื่อนไหวอยู่ในพื้นหิมะ

ทันใดนั้นหญิงสาวคนหนึ่งก็มุดออกมาจากในพื้นหิมะ พอเธอยิ้มมุมปากก็ฉีกจนถึงรูหู เมื่อเผยอปากก็กระโจนเข้ามากัดที่น่องของเขา!

ซูอีเฉินอึ้ง ล้วงยันต์ออกมาจากกระเป๋าตามสัญชาตญาณแผ่นหนึ่ง จากนั้นแปะไปบนหน้าผากของหญิงสาว

ทันใดนั้นหญิงสาวก็เปล่งเสียงกรีดร้องเสียงแหลมออกมา และรีบมุดกลับไปในพื้นหิมะด้วยความรวดเร็ว

ซูอีเฉินไม่มีเวลามาสนใจความเจ็บปวดแปลบๆ ที่น่อง เขาวิ่งไปทางรถออฟโรด

รถออฟโรดถูกคว่ำลอยออกไป กลิ้งตกลงไปอยู่ที่ตีนเขา เมื่อครู่หญิงสาวคนนั้นกำลังจะขยับเข้าไปดูที่กระจกหน้าต่างรถ

แต่ทว่าเปลวเพลิงดวงหนึ่งก็ลุกโชนออกมา หญิงสาวกรีดร้องเสียงหนึ่ง และหายตัวไปโดยพลัน

มู่กุยฝานปีนออกมาจากใต้ท้องรถ เขาอุ้มซู่เป่าเอาไว้ในอ้อมอกเป็นอันดับแรก จากนั้นถามขึ้นว่า “เป็นอะไรไหม เป็นอะไรไหม!”

สมควรตาย ผีสาวตนนี้มาตั้งแต่เมื่อไรกัน ไม่นึกเลยว่าเขาจะไม่สังเกตเห็นเลยแม้แต่น้อย!

สีหน้าของจี้ฉางจริงจังเป็นอย่างมาก “ผีสาวผมขาว!”

แถมยังไม่ได้มีแค่ตนเดียว!

ซู่เป่าถามขึ้น “อาจารย์ อะไรคือผีสาวผมขาวเหรอ”

จี้ฉางขมวดคิ้วพลางวาดผนึกอันหนึ่งไว้ตรงที่เดิมด้วยความรวดเร็ว จากนั้นผนึกบริเวณรถออฟโรดและครึ่งเมตรรอบๆ รถออฟโรดเอาไว้

“อย่าให้พวกเขาออกมา!”

ซู่เป่าผนึกยันต์พลางวาดวงกลมเอาไว้บนพื้นหิมะอันหนึ่ง “อย่าออกมานะคะ!”

ซูอีเฉินเพิ่งจะมาถึง เขาถามขึ้นว่า “เป็นอะไรหรือเปล่า!”

ซู่เป่าส่ายหน้า

พื้นหิมะหนา แม้รถจะถูกพลิกคว่ำ คนไม่เป็นอะไร แต่เลี่ยงการชนไม่ได้อย่างแน่นอน

ซู่เป่ากุมศีรษะ เธอเวียนหัวเล็กน้อย

ซูเหอเวิ่นถูกมู่กุยฝานหิ้วตัวออกมา แต่ก็พยายามป้องกันศีรษะเอาไว้เช่นกัน “โอ๊ย หัวกระแทกแล้ว...”

ซู่เป่าลูบศีรษะของตัวเอง แต่ยังไม่ลืมยื่นมือข้างหนึ่งไปลูบศีรษะของซูเหอเวิ่นด้วย เธอเป่าลมออกจากปาก “ไม่เป็นไรนะๆ ลูบๆ หัวเจ้าหมาน้อย ไม่มีอะไรต้องกังวล”

ซูเหอเวิ่น “...”

จี้ฉางมองเขาร้างที่ถูกปกคลุมไปด้วยหิมะหนาเป็นชั้นๆ จากนั้นพูดขึ้นว่า “ผีสาวผมขาวเป็นผีที่เก่งกาจชนิดหนึ่ง”

“คนทั่วไปตายไปแล้วก็จะกลายเป็นผี เป็นวิญญาณ ผีรับใช้ ผีอาฆาต วิญญาณพยาบาท ผีร้าย นอกจากผีพวกนี้แล้ว อันที่จริงยังมีผีขุนศึกและพญาผีด้วย”

“ผีสองอย่างหลังแทบไม่เห็นเลยในโลกมนุษย์ เนื่องจากผีขุนศึกและพญาผีมีแค่ในโลกใต้พิภพ เนื่องจากผีขุนศึกและพญาผีเป็นลูกน้องใต้อาณัติของพญายม”

ซู่เป่าพยักหน้า เรื่องนี้เธอรู้

ที่อยู่ใต้อาณัติของพญายมมียมบาลหัววัวหน้าม้า ยมทูตขาวดำ ผู้พิพากษา พลทหารผี ผีขุนศึกและพญาผี...

“ฉะนั้นผีสาวผมขาวเมื่อครู่เป็นพลทหารผีผีขุนศึกที่พญายมส่งมางั้นเหรอ” ซู่เป่าถลึงตา

ผู้นำโง่นั่นจะมารับตัวเธอไปแล้วเหรอ

เธอต้องกลับไปเตรียมอึหมาดำไว้สิบถัง ถ้าพญายมกล้ามาเธอก็จะปาอึหมาใส่เขา ถอยๆๆ

จี้ฉางไม่รู้ว่าซู่เป่ากำลังคิดเรื่องพวกนี้อยู่ เขาพยักหน้าอย่างจริงจังเป็นอย่างมาก “ผีสาวผมขาวเป็นผีขุนศึกที่เก่งกาจกว่าพลทหารผี”

นี่เป็นสิ่งที่เขานึกไม่ถึงเลย

ผีขุนศึกของพญายมทำไมถึงมาปรากฏตัวอยู่ที่นี่ได้

หากจะปรากฏตัวก็คงไม่ปรากฏตัวด้วยรูปแบบนี้ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่าพวกเธอยังคิดทำร้ายซู่เป่าด้วย...

ผีขุนศึกเก่งกาจกว่าผีร้าย ในวินาทีที่เห็นเขาก็น่าจะรู้ฐานะของเขา ว่าเขาคือผู้พิพากษา

มีผู้พิพากษาคอยปกป้องอยู่พวกเธอยังกล้าลงมือ นี่คิดจะก่อกบฏอย่างนั้นเหรอ

ทันใดนั้นจี้ฉางก็นึกถึงปราณหยินที่อยู่ที่ตีนเขาร้าง

หรือว่าจะเกี่ยวข้องกับสิ่งนี้

แย่แล้ว เหยาหลิงเยว่ยังอยู่บนเขา...

จี้ฉางกำลังจะโพล่งปากออกไป แต่ก็หุบปากไปทื่อๆ

ก็ดี...หากเหยาหลิงเยว่ไม่กลับมาทั้งอย่างนี้ ก็ถือว่าจะได้ส่งเธอไปด้วย อีกอย่างรู้ๆ กันอยู่ว่าเขาร้างแปลกประหลาด เขาไม่มีทางปล่อยให้ซู่เป่าตกอยู่ในอันตรายอีกแน่

จี้ฉางมองไปที่ซู่เป่า ในใจพูดขึ้นเงียบๆ ว่า อย่าหาว่าอาจารย์ใจดำอำมหิตเลยนะ...

ต้องเลือกคนใดคนหนึ่ง ไม่ว่ายังไงเขาก็ไม่มีทางเลือกเหยาหลิงเยว่แน่นอน

“กลับไปกันเถอะ!” จี้ฉางพูดขึ้น

ซู่เป่าอึ้ง “แล้วป้าสะใภ้ใหญ่...”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน