ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน นิยาย บท 53

ถังหมิงเซิ่งซื่อ เป็นบริษัทด้านบันเทิงที่เติบโตอย่างแข็งแกร่งในช่วงหนึ่งปีมานี้

สองดาราชายดาวรุ่งยอดนิยมที่ปรากฏตัวขึ้นมาใหม่และสองในสี่นักแสดงสาวรุ่นใหม่แห่งวงการบันเทิง ต่างเป็นคนของถังหมิงเซิ่งซื่อ

ยิ่งไม่ต้องพูดถึงการยกเลิกสัญญาของซูลั่วนักแสดงชายยอดเยี่ยมกับบริษัทเดิม จะอยู่ในงานพิธีการ เซ็นสัญญากับถังหมิงเซิ่งซื่ออย่างเป็นทางการ...

ด้วยเหตุนี้ทั้งเช้า ในงานจึงเต็มไปด้วยผู้คน แฟนคลับของดาราที่กำลังโด่งดังทุกท่าน นักข่าวจากทุกสำนัก แขกตระกูลระดับสูงทุกตระกูล...

รถของซูอีเฉินขับเข้ามาอย่างช้าๆ หยุดอยู่ตรงทางเข้างาน

ขณะนี้เองซู่เป่าถึงได้ตระหนักถึงปัญหาใหญ่อย่างหนึ่ง!

วันนี้เธอไม่ได้หวีผม ไม่ได้เปียผมสวยๆ!...

ซู่เป่าลูบศีรษะ คว้าประตูรถเอาไว้ “ลุงใหญ่ ซู่เป่าไม่ลง หัวซูเป่ากระเซิงไปหมด ฮือๆๆ!”

ประธานใหญ่ซู “...”

หัวกระเซิงอะไร...

ดูดีๆ ตอนนี้เองถึงได้ตอบสนอง เจ้าเด็กน้อยไม่ได้หวีผมหัวกระเซิงเป็นรังนก

“เอ่อ ไม่เป็นไรนะ” ซูอีเฉินลูบผมของเธอทีหนึ่ง อยากจะสางผมชี้โด่ชี้เด่ของเธอให้เรียบ

แต่น่าเสียดายผมชี้โด่ชี้เด่นั้นตั้งเด่ ลูบกดลงไปไม่ลง

พอลูบผมก็ยิ่งยุ่งเหยิงขึ้น

ซู่เป่าครุ่นคิด “ไม่เป็นไรจริงๆ ใช่ไหมคะ”

เธอเห็นพี่สาวนางฟ้ามากมาย ผมของพี่สาวนางฟ้ามีผีเสื้อติดอยู่

แต่ผมของเธอราวกับรังนกอย่างนั้น...ฮือๆๆ เธอจึงไม่อยากลงไปทั้งแบบนี้

ใบหน้าน้อยๆ ของเจ้าเด็กน้อยยู่ลงมาจนรวมกัน

เด็กผู้หญิงต่างรักสวยรักงามกันทั้งนั้น ไม่ว่าจะช่วงอายุไหน

ซูอีเฉินอดไม่ได้ที่จะหัวเราะ “งั้นลุงใหญ่เปียผมให้ซู่เป่านะ”

ซู่เป่าพยักหน้าอย่างต่อเนื่อง รื้อในกระเป๋าสะพายข้างใบน้อยไปมา รื้อจนเจอยางรัดผมน้อยๆ สองเส้น

“ลุงใหญ่คะ ถักเปียสองข้างนะคะ!”

ซูอีเฉินพยักหน้า

ก็แค่เปียสองข้างเท่านั้น

ง่ายจะตายไป

ห้านาทีผ่านไป

ซูอีเฉินปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตเม็ดหนึ่ง เสื้อสูทด้านนอกก็ถอดออกด้วย

พับแขนเสื้อขึ้น

ต่อสู้กับผมของซูเป่าจนเหงื่อท่วมหน้า...

ซู่เป่าพูดเร่งรัดว่า “ลุงใหญ่คะ เสร็จหรือยังคะ”

บนหน้าผากของซูอีเฉินมีเม็ดเหงื่อไหลหยดลงมาติ๋งๆ “เตรียมตัว”

ซู่เป่า “อืมๆ ลุงใหญ่เปียนานขนาดนั้น ต้องเปียได้สวยมากแน่ๆ”

ซูอีเฉิน “...อืม”

เขาคลายความกระเสือกกระสน แอบมองเปียสองข้างของซู่เป่าเงียบๆ

...อืม ดีทีเดียว

“เสร็จหรือยังคะ” ซู่เป่าเอื้อมมือไปจับ

ซูอีเฉินรีบคว้ามือของเธอเอาไว้ แล้วพูดขึ้นว่า “เรียบร้อยแล้ว อย่าจับ จับแล้วเดี๋ยวยุ่งเหยิงหมด”

ชะงักอยู่ชั่วครู่แล้วพูดว่า “สวยทีเดียว”

คนขับด้านหน้าเหล่ตามองทีหนึ่งแบบทำใจมองตรงๆ ไม่ได้

ซูอีเฉินกระแอมด้วยเสียงทุ้มทีหนึ่ง สวมเสื้อสูทตัวนอกของตัวเองและติดกระดุมเสื้อเชิ้ต

“ไปกันเถอะ!”

ซู่เป่าเชื่อฟังเป็นอย่างมาก พยักหน้าอย่างดีใจ

ไม่รู้เลยว่าตัวเองถูกลุงแท้ๆ หลอกเข้าให้แล้ว...

นอกรถ

ทุกคนกำลังจับจ้องไปที่ไมบัคสีดำที่โผล่ออกมาตรงทางเข้า

ฝ่ายผู้จัดงานย่อมรู้จักรถของซูอีเฉินเป็นอย่างดี เพียงแต่ทำไมรถคันนี้ถึงจอดอยู่ตรงประตูโดยไม่ขยับมาห้านาทีแล้ว

เหล่านักข่าวเองก็ชะเง้อชะแง้มองไป

ซูอีเฉินไม่ลงจากรถ รถเองก็ไม่ขยับ รถที่อยู่ด้านหลังเองก็ทำได้แค่เพียงต่อแถวรอ บังเอิญเป็นอย่างมาก รถคันข้างหลังดันเป็นรถของตระกูลหลาน

แม่ของเสวี่ยเอ๋อร์พูดอย่างกระวนกระวายใจ “ทำยังไงดี เจอประธานซูพอดีเลย...”

พ่อของเสวี่ยเอ๋อร์พูดขึ้นว่า “ไม่ต้องกลัวไป เรามีการ์ดเชิญ!”

มาก็มาแล้ว คนใหญ่คนโตที่มาในวันนี้ก็มีมากมาย นี่เป็นโอกาสของตระกูลหลานของเขาเลยนะ...ไม่ว่ายังไงก็ยอมแพ้ไม่ได้เด็ดขาด

พ่อของเสวี่ยเอ๋อร์พูดขึ้นว่า “ไป ลงไปเจอประธานซูกันก่อน ขอแค่เป็นคน ยังไงก็ต้องชอบให้คนอื่นประจบประแจงอยู่แล้ว!”

เขาไม่เชื่อว่าเขาจะทำไม่ได้!

ดังนั้นครอบครัวเสวี่ยเอ๋อร์จึงลงรถกันก่อน

เสวี่ยเอ๋อร์อยู่ในชุดราตรีคอดเอวชายกระโปรงบานยาว ชายกระโปรงยาวลากอยู่บนพื้น เกล้าผมเรียบร้อย ดูสูงศักดิ์ราวกับเสี่ยวหวังเฟยอย่างนั้น

เมื่อเห็นสาวน้อยแสนงดงามเช่นนี้ลงจากรถ นักข่าวที่อยู่ตรงนั้นตาเป็นประกายอย่างอดไม่ได้ จับภาพกันแชะๆ

ทันใดนั้นเสวี่ยเอ๋อร์ก็ยิ้มเล็กน้อย ประสานมือไว้ตรงหน้าท้อง ดีใจเป็นอย่างมาก!

ดูเหมือนว่าเดรสที่เธอเลือกในวันนี้จะสวยเป็นอย่างมาก!

ต้องเป็นหนูน้อยที่สวยที่สุดในงานแน่ๆ!

เสวี่ยเอ๋อร์กำลังคิด ประตูรถที่อยู่ข้างหน้าก็เปิดออก

ซูอีเฉินลงจากรถ ทันใดนั้น กล้องทั้งหมดต่างหันไปถ่ายเขาแชะๆ !

เสวี่ยเอ๋อร์ตะโกนขึ้นเสียงหนึ่งอย่างน่าเอ็นดู “คุณอาซูสวัสดีค่ะ!”

ซูอีเฉินหยุดชะงัก ขมวดคิ้วมองเสวี่ยเอ๋อร์ทีหนึ่ง ไม่แม้แต่จะตอบแล้วโน้มลงไปเลย ยื่นมือเข้าไปในรถ

บนหน้าของเสวี่ยเอ๋อร์ร้อนผ่าวขึ้นมาในทันที เป็นช่วงที่เด็กน้อยกำลังเกิดความรู้สึกหยิ่งในศักดิ์ศรี รู้สึกเพียงว่าขายหน้าเป็นอย่างมาก

แม่ของเสวี่ยเอ๋อร์ปลอบใจด้วยเสียงต่ำว่า “ไม่เป็นไรนะ ประธานซูอาจจะไม่ได้ยิน”

ขณะนี้เองก็ไม่มีใครสนใจเสวี่ยเอ๋อร์เลย

เหล่านักข่าวเห็นการเคลื่อนไหวของซูอีเฉิน ต่างพากันยกกล้องขึ้นอย่างตื่นเต้น

ซูอีเฉินเป็นผู้ดูแลของซูซื่อกรุ๊ป พูดได้ว่าสมชื่อมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในประเทศหลง!

เขามีลูกสองคน แต่ไม่มีใครเคยเห็นมาก่อนว่าคุณนายซูหน้าตาเป็นอย่างไร

กระทั่งว่าตระกูลซูระดับตำนานเล่าขานไม่มีคุณนายซู เด็กทั้งสองคนเกิดมาจากการทดลอง วัตถุประสงค์เริ่มแรกของการมีตัวตนของเด็กทั้งสองก็เพื่อปลูกถ่ายเซลล์ให้กับซูจิ่นอวี้คุณหนูผู้สูงส่งแห่งตระกูลซูเท่านั้น...

ขณะนี้เห็นซูอีเฉินเอื้อมมือเข้าไปในรถ ราวกับจะพยุงใครออกมา ทุกคนต่างตื่นเต้นกันเป็นอย่างมาก คิดว่าจะได้เห็นคุณนายซูในตำนาน

แต่กลับเห็นเจ้าเด็กน้อยที่อยู่ในชุดเดรสสไตล์เบบี้ดอลกระโดดลงมา

ซูอีเฉินรับเธออย่างมั่นคง อุ้มเธอด้วยมือข้างเดียว มืออีกข้างจัดการเนกไท สาวขายาวๆ เดินเข้าไปในงาน

ทุกคนต่างตะลึงอย่างอดไม่ได้

เจ้าเด็กน้อยที่อยู่ในอ้อมอกของซูอีเฉินมีผมเปียสองข้างที่ยุ่งเหยิง อยู่ในชุดเดรสสไตล์เบบี้ดอลในชีวิตประจำวัน แถมยังสะพายกระเป๋าผ้าใบหนึ่งไว้...

นี่....

ช่างไม่เข้ากันกับงานเลยสักนิด!

แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่า น่ารักมากๆ!

ประธานใหญ่ใบหน้าแสนเย็นชา ได้ยินว่าจะประชุมก็อยากถลกหนังผู้บริหารระดับสูง ตอนนี้กลับอุ้มเจ้าเด็กน้อยแสนน่ารักอย่างทะนุถนอม!

กล้องของนักข่าวต่างไล่ตามซูอีเฉินกับซู่เป่าไป

“ตัวเล็ก มองทางนี้หน่อย!”

“ว้าว คุณหนูสวยมากๆ เลย!”

ซู่เป่ามองไปในทันที ทำท่าเย่กับกล้อง

เธอยิ้มยิงฟันทีหนึ่ง ทั้งคิ้วและตาโค้งงอ ทั้งอ่อนโยนทั้งน่ารัก เหล่านักข่าวต่างใจเปราะบางกันไปหมดแล้ว!

ซูอีเฉินชะงัก หยุดเดิน

ดังนั้นประธานใหญ่ผู้มีใบหน้าแสนเย็นชา กำลังอุ้มเจ้าเด็กน้อยแสนน่ารักคนหนึ่ง ยืนอยู่บนพรมแดงให้คนอื่นถ่ายรูป

ซูอีเฉินไม่เคืองอะไร ก่อนหน้านี้ซูจิ่นอวี้ถูกตระกูลซูซ่อนตัวเอาไว้ จนตายแล้วก็ยังไม่เคยได้เชยชมความรุ่งเรืองของโลกใบนี้ กระทั่งคนบนโลกต่างไม่รู้ว่าเธอ...

วันนี้ซู่เป่าของพวกเขา ควรค่าให้คนบนโลกได้รู้ว่า เธอคือเจ้าหญิงน้อยที่ตระกูลซูคอยเอาอกเอาใจอย่างพร้อมเพรียง!

ครอบครัวของเสวี่ยเอ๋อร์ที่ถูกเมินอยู่ด้านหลังอิหลักอิเหลื่อนิดหน่อย

ตอนแรกเสวี่ยเอ๋อร์อารมณ์ดีเป็นอย่างมาก แต่เมื่อเห็นซู่เป่าถูกซูอีเฉินอุ้ม ได้รับความสนใจจากฝูงชน ก็รู้สึกไม่สบอารมณ์ขึ้นมา

ตอนแรกทุกคนกำลังถ่ายภาพเธออยู่นะ!

สุดท้ายพอซู่เป่ามา ก็แย่งกล้องเธอไปจนหมด

เสวี่ยเอ๋อร์มองไปที่ผมอันแสนยุ่งเหยิงกับชุดธรรมดาๆ ของซู่เป่า นี่เทียบเธอไม่ติดเลยแม้แต่นิด ทำไมทุกคนถึงยังพูดว่าเธอน่ารักอยู่อีก เป็นเพราะว่าเธอมีลุงใหญ่ที่ทรงอิทธิพลเหรอ

เสวี่ยเอ๋อร์กัดริมฝีปาก หลังจากเข้าไปใกล้ก็ทำหน้าประหลาดใจ

เธอป้องปากหัวเราะแล้วล้อว่า “นี่ น้องซู่เป่า ทำไมผมของเธอถึงได้น่าเกลียดขนาดนี้ล่ะ นี่เปียเองเหรอ ถ้างั้นให้พี่ช่วยเธอเปียผมใหม่เอาไหม!”

“พี่เปียผมตัวเองได้ตั้งแต่สามขวบแล้ว! เธอดูผมของพี่วันนี้สิสวยใช่ไหม! นี่ก็เกล้าด้วยตัวเองแหละ!”

ทุกคนมองไปที่ผมของเสวี่ยเอ๋อร์อย่างอดไม่ได้...

เอ่อ เกล้าผมอย่างเจ้าหญิง มิหนำซ้ำยังติดกิ๊บผีเสื้อคริสตัลเปล่งประกายวิบวับมากมาย

ผู้ใหญ่ยังเกล้าเองไม่ได้ เธอเป็นเพียงแค่เด็ก...คงทำไม่ได้หรอกใช่ไหม

เสวี่ยเอ๋อร์เห็นสายตาของทุกคนพุ่งความสนใจมาที่เธอ ในใจดีใจเป็นอย่างมาก...

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน