ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน นิยาย บท 531

ซูเหอเวิ่นพูดเบาๆว่า “ลุงห้าก็หยุดพูดได้แล้ว อันนี้ลุงไม่ได้ช่วย แต่กำลังไปเสนอตัวให้เขาด้วยซ้ำ!”

คนอื่นพยายามอย่างมากที่จะมาฆ่าพวกเราแล้วทำให้ซู่เป่าหดหู่ไม่มีที่พึ่ง

แต่เขากลับจะไปเสนอตัวให้เขาถึงที่

ซูอิ๋งเอ่อร์ลูบจมูกแล้วบอกว่าเขาก็ลนเหมือนกันนะ!

มู่กุยฝานเอ่ย “การป้องกันที่ดีที่สุดก็คือการโจมตัวก่อน”

เขารวดหยิบสมุดและปากกาบนโต๊ะขึ้นมา “ผิงเติ่งหวังมาถึงโลกมนุษย์แล้ว แต่แค่มาสอดแนมเท่านั้น”

“เมื่อกี้เขาซ่อนตัวอยู่ในกำไลของมู่เหม่ยหัวเพื่อรอโอกาส แต่เห็นได้ชัดว่าไม่เจอซู่เป่า ดังนั้นตอนนี้เรื่องที่ฝั่งเราได้เปรียบก็คือ …”

มู่กุยฝานเขียนคำว่าตำหนักพญายมลงในสมุด

หยุดไปครู่หนึ่ง แล้วก็เขียนชื่อซู่เป่าเพิ่มเข้าไป

“ซู่เป่ามีกำลังต่อสู้ที่แน่นอน แต่วิเคราะห์ดูแล้วสุดท้ายก็ยังไม่พออยู่ดี”

สามารถยิงธนูคราวเดียวแล้วกำจัดวิญญาณในกำไลได้ แต่ยังไม่สามารถฆ่าอีกฝ่ายได้ในคราวเดียว

ตามที่อาจารย์ของเธอได้บอกไว้ว่าในตอนนี้เธอแข็งแกร่งแค่ผลักตำหนักพญายมนิดเดียวก็สามารถทำให้วิญญาณอีกฝ่ายกระจัดกระจายได้ แต่ตอนนี้ทำได้แค่แค่ทุบไปที่หัวของเขาเท่านั้นเอง

ถึงอาวุธจะดีขนาดไหน ก็ต้องดูที่คนใช้ว่าแกร่งแค่ไหน

มู่กุยฝานเขียน “+” หลังชื่อซู่เป่าหลายอันเลยความหมายก็คือ “จะต้องเพิ่มความแข็งแกร่ง”

เขาเขียนต่อว่า “อีกฝ่ายเป็นผิงเติ่งหวัง ตามที่ซู่เป่าเคยเล่าถึงความเจ้าเล่ห์และกลัวตายของเขาแล้ว วันนี้เงาดำที่กำจัดไปคงไม่ใช่ร่างที่แท้จริงของเขา”

ซู่เป่ายกมือ “ข้อนี้หนูรู้! อีกฝ่ายเป็นร่างแยกของอีกฝ่าย!”

พูดอ้อมไปหน่อยแต่ซูอีเฉินก็ฟังเข้าใจ ลุงทั้งหลายก็เข้าใจ พี่ๆก็เข้าใจ

ส่วนยัยหานหัวโต “¿¿¿¿¿”

บนโลกนี้ยังมีอะไรที่ยากกว่าการบ้านอีกเหรอ??

เธอมองไปที่สิ่งที่เขียนในสมุดด้วยความสับสนและว่างเปล่า

ซูจื่อซียื่นสมุดเล่มหนึ่งให้ “ผมสามารถช่วยน้องได้ครับ”

มู่กุยฝานเปิดสมุดเล่มนั้นแล้วเห็นแต่ตารางข้อมูล…

ชื่อ:ซู่เป่า

พลังโจมตี:800(เต็ม 10000+ สกิลอื่นยังไม่ได้แสดงออกมา ไม่สามารถประเมินได้)

อาชีพ:นักพรต(ขีดทิ้ง)พญายม

พลังชีวิต:500(เต็ม1000 สามารถลดลงได้หลังจับผี)

ความเร็ว:80(เต็ม 1000 ขาสั้นเกินไปเลยช้า ปรากฏตัวด้วยความเร็วแสง)

อาวุธ:ค้อนทองคำม่วง ตาข่ายจับวิญญาณ หล่อแกแปดทิศ เครื่องรางผี ตำหนักพญายม ธนูหยิน ผีร้ายทั้งห้า

ความแม่นยำ:100%

สัตว์วิเศษ:ท่านอาจารย์ท่านหนึ่ง และพ่อ

พลังฟื้นคืน:900 คะแนน (คะแนนเต็ม 1000 วิเคราะห์จากข้อมูลที่มีอยู่)

การหลบ:500 คะแนน (คะแนนเต็ม 1000 วิเคราะห์จากข้อมูลที่มีอยู่)

เห็นได้ว่าข้อมูลบางอย่างถูกเพิ่มเข้ามาใหม่ ไม่แปลกใจที่ตอนพวกเขาคุยกันแล้วเห็นเขาไม่ตอบโต้อะไรเลย มัวแต่จดพวกนี้อยู่นั่นเอง

แต่…

มู่กุยฝานชี้ไปที่ช่องสัตว์วิเศษ “ว่าแต่สัตว์วิเศษนี่หมายความว่าอะไร?”

ซูจื่อซีอธิบายอย่างจริงจังว่า “ในเกม พวกตัวละครจะสามารถพาสัตว์เลี้ยงไปได้ โดยทั่วไปก็จะเอาไว้ช่วยตัวละครโจมตี…พวกนี้สามารถเรียกได้ว่าเป็นสัตว์เลี้ยง…หรือสัตว์วิเศษนั่นเอง”

อย่างน้อยเขาก็เขียนว่าสัตว์วิเศษ ไม่ได้เขียนว่าเป็นสัตว์เลี้ยง…

มู่กุยฝานยกมุมปากแล้วเอาสมุดไปเคาะที่หัวเขาทีหนึ่ง

“ดีมาก ดีมาก!”

ซู่เป่านั่งอยู่บนโซฟาโดยไร้ความกังวลใดๆ แล้วแกว่งขาเล็กๆไปมา

มองดูพ่อเขียนและวาดอะไรบางอย่างอยู่แล้วพวกลุงๆ กับพี่ๆ ก็เข้าไปสมทบด้วย เพื่อจะหาทางช่วยเธอคิด

จู่ๆ ก็รู้สึกว่าเธอไม่โดดเดี่ยวอีกต่อไปแล้ว!

เมื่อก่อนตอนจับผีก็เป็นเรื่องของเธอคนเดียว

แต่ตอนนี้ทุกคนกลับมาช่วยเธอหาทางด้วย

ดีจังเลย…

ซู่เป่ากระโดดลงจากโซฟาแล้วเบียดเข้าไปอยู่ในอ้อมแขนของมู่กุยฝาน แล้วนั่งเท้าคางอยู่บนโต๊ะและกรอกตาไปมามองทุกคนคุยกัน

“ดังนั้นตอนนี้จะต้องดำเนินการเชิงรุกสองแบบ หนึ่งก็คือการเพิ่มความแข็งแกร่งของซู่เป่า สองก็คือออกตามหาที่ซ่อนของผิงเติ่งหวัง”

ซู่เป่าพยักหน้าอย่างแรง “อื้มๆๆ!”

ใต้คางของมู่กุยฝานมีหัวของเจ้าเด็กอยู่ข้างใต้แล้วพูดเพิ่มเติมว่า “สมรรถภาพร่างกายที่แข็งแกร่งเป็นพื้นฐานในการเพิ่มพลังต่อสู้ คราวหน้าก็ให้ซู่เป่ามาฝึกกับฉัน”

ซู่เป่าพยักหน้าเหมือนไก่จิกหนอน “อื้มๆๆ!”

มู่กุยฝานครุ่นคิด “นอกจากการฝึกพลังต่อสู้ทางกายแล้ว การจับผีก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ขาดไม่ได้ ต้องการสถานที่น่ากลัวเพื่อไปจับผีมามากกว่านี้ จะได้เป็นการฝึกฝนทักษะการตอบโต้และต่อสู้ไปด้วย”

ซู่เป่า “อื้มๆๆๆ!”

มู่กุยฝานหยุดไปครู่หนึ่ง ฟุ้งซ่านหลังเห็นเจ้าตัวเล็กน่ารักคนนี้พยักหน้าจริงจังมากอย่างกับไก่จิกหนอนแน่ะ

“ที่หนูพยักหน้าเนี่ยหนูรู้ใช่ไหมว่าแปลว่าอะไร”

เขาเอามือไปลูบที่ผมของซู่เป่า

แปลว่าหลังจากนี้เธอจะต้องตั้งใจฝึกซ้อมและเหนื่อยมาก

ซู่เป่าตอบ “รู้อยู่แล้ว!พ่ออย่าดูถูกหนูนะ!ตอนนี้หนูไม่ใช่ซู่เป่าที่อายุสี่ขวบแล้ว แต่เป็นซู่เป่าอายุห้าขวบต่างหาก!”

ซูเหอเวิ่นหัวเราะฮ่าๆ “เก่งจริงๆ!”

ซูอีเฉินเอ่ย “ติดตามคนที่ชื่อหยวนหยวนเถอะ!”

มู่กุยฝานพยักหน้า “ถึงเวลาต้องตามแล้ว”

ทุกคนพยักหน้า

ยัยหานหัวโต “????”

ไม่สิ พวกลุงพูดถึงอะไรกันเนี่ย!

“เด็กคนนั้นน่ารำคาญจะตาย จะไปให้ความสนใจเธอทำไม”

ซู่เป่าส่ายหัว “พี่สาวนี่โง่จริงๆ ผิงเติ่งหวังจะต้องไปตามหาเธอแน่ๆไงล่ะ”

หานหานถามโดยไม่รู้ตัว “อะไรกับอะไรเนี่ย ทำไมเธอถึงมั่นใจขนาดนี้…ใครจะไปหาใครเนี่ย?”

มู่กุยฝานอุ้มซู่เป่าขึ้นมาแล้วเอ่ย “ไปกันเถอะ!”

ซูอีเฉินมองดูนาฬิกา “ฉันต้องไปที่บริษัทก่อน แล้วเดี๋ยวอาทิตย์ไปเกาะหนีกวงด้วยกัน”

ยังต้องชดเชยงานวันเกิดให้ซู่เป่าด้วย ไม่ว่าจะช้าแค่ไหน ขอแค่เธอกลับมา พวกเขาก็จะรอเธออย่างแน่นอน

มู่กุยฝานหยักหน้า

ซูอิ๋งเอ่อร์จ้องที่สมุดและคิดในใจว่า ถ้าเกิดเขาเอาเหล็กเส้นไปแช่อยู่ในเลือกสุนัขสีดำ จะพอช่วยอะไรได้บ้างในตอนที่ต่อสู้ได้ไหม?

ซูอี้เซินครุ่นคิด ถ้าจะต้องหาสถานที่ที่ดูน่ากลัวและมีคนตายเยอะ…งั้นสามารถยืมเหล่าผู้เสียชีวิตยืมใช้สถานที่ห้องเก็บศพที่โรงพยาบาลได้ไหม?

ซูเยว่เฟยคิดเงียบๆในใจว่าถ้าอยากจะตามหาผิงเติ่งหวัง สามารถใช้ดาวเทียมระบุตำแหน่งได้ไหม?

ซูลั่วนั่งอยู่บนราวโซฟา ไม่รู้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่ ส่วนซูจื่อหลินก็ไม่ได้พูดอะไรเหมือนกัน

ทุกคนพลางคิดและแยกย้าย

จี้ฉางที่ลอยอยู่ข้างๆ “…”

ไม่สิ พวกเจ้าทำงานเสร็จหมดแล้วเรียบร้อย แล้วจะให้อาจารย์คนนี้ไปทำอะไร???

เวลานี้เองนายหญิงซูก็ตะโกนเรียก “กินข้าวกันเถอะ!”

ซูอีเฉินรีบหยิบกระเป๋าเอกสารและเดินออกไปทันที “ที่บริษัทมีเรื่องด่วนน่ะครับ!”

ซูจื่อหลิน “แผนผังทางวิศวกรรมยังขาดข้อมูลสำคัญ เดี๋ยวผมขอตัวไปแก้ก่อนนะครับ”

ซูเยว่เฟย “วันนี้ต้องไปยืนยันเที่ยวบิน เดี๋ยวผมขอตัวขึ้นตึกก่อนนะครับ”

ซูลั่ว “เฮ่อ ในกองเหลือผมที่ยังไม่มีความคืบหน้าอะไร ผมรีบ”

ซูอิ๋งเอ่อร์หยิบโทรศัพท์ออกมาแล้วรับโทรศัพท์ทันที “ฮัลโหล…มีอะไรหรือเปล่า?เทซีเมนต์ไปแล้วแต่ตั้งเสาไม่ได้เหรอ? ฉันจะรีบไปเดี๋ยวนี้แหละ!”

ซูอี้เซิน “…”

มู่กุยฝาน “…”

ซูเหอเวิ่น ซูจื่อซี ซูเหอเหวิน”……”

นายหญิงซู “ทุกคนหยุดอยู่กับที่ซะ!”

ทุกคนหน้าเสียทันที

หลังซู่เป่าหายตัวไปแล้วกลับมา สองวันมานี้นายหญิงดูน่ากลัวมาก! เหมือนกับว่าทำอาหารที่ไม่ได้ทําในช่วงสามเดือนที่ผ่านมาให้เสร็จ…

**

หลังหยวนหยวนและมู่เหม่ยหัวกลับถึงบ้าน มู่เหม่ยหัวก็รีบไปจัดการกำไลของเธอ

หยวนหยวนนั่งอยู่ในห้องคนเดียว ใช้เวลาตั้งนานกว่าอารมณ์จะสงบลง

เธอมองไปรอบๆแล้วนึกถึงปราสาทเจ้าหญิงของตระกูลซูแล้วมาเทียบกับห้องเล็กๆโทรมๆของเธอ

เธอกับซู่เป่าก็เป็นลูกพี่ลูกน้องกัน แต่ทำไมช่องว่างมันถึงได้กว้างขนาดนี้?

ในเวลานี้เองจู่ๆ ก็มีเสียงดังขึ้นมา “รู้ไหมว่าเธอกับซู่เป่าต่างกันตรงไหน?”

หยวนหยวนตกใจ “นั่น นั่นใครน่ะ!”

เธอมองไปรอบๆก็ไม่เห็นใครสักคน ก็เลยเงยหน้าขึ้นมองไปที่หน้ากระจก แล้วถึงกับช็อคจนตาแข็ง!

เธอยิ้มแปลกๆให้ตัวเองในกระจก และข้างหลังเธอยังมีผู้หญิงคลุมผ้าสีแดงที่หัวยืนอยู่…

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน