ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน นิยาย บท 544

ระดับของผีแบ่งเป็นวิญญาณ ผีเด็ก ผีอาฆาต ผีตายโหง ผีร้าย ผีขุนศึก และพญาผี

“ตามทฤษฎีแล้วขุนพลและพญาผีจะมีเพียงในโลกใต้พิภพ อย่างเหล่าผีหลายใจ ที่พวกมันพัฒนาจากผีร้ายเป็นผีขุนศึกระดับต้นได้ เพราะพวกมันติดตามเจ้า”

“แต่ผีที่สามารถพัฒนาเป็นผีขุนศึกได้โดยตนเอง หรือโดยธรรมชาติ จะดุร้ายเป็นอย่างมาก”

ซู่เป่าเข้าใจ และเอ่ยถาม “งั้นตอนนี้มันคือพญาผีแล้วงั้นเหรอ”

จี้ฉางกล่าว “ยังขาดอีกนิด จึงเรียกว่าพญาผีตัวน้อยไง”

ซู่เป่าพยักหน้า ที่แท้ยังไม่ถือว่าเป็นพญาผี

ด้านหลังมีคำว่าน้อย

เธอเป็นเด็ก ด้านหลังก็ตามด้วยคำว่าน้อยเช่นกัน…

“ยินดีที่ได้รู้จักนะ” ซู่เป่าเอ่ยพูด

จี้ฉางขมวดคิ้วเป็นรอยย่นบนหน้าผาก ยินดีบ้าอะไรกัน

“ต้องแก้ปัญหายังไงเหรอ”มู่กุยฝานมองตุ๊กตาที่อยู่ใต้เสาไฟ

พญาผีตนหนึ่งเทียบเท่ากับผีร้ายร้อยตัว

เมื่อคืนซู่เป่าสู้กับผีร้ายร้อยตัวยังต้องใช้สุดกำลัง พญาผีในเมื่อถูกขานว่า ‘พญา’ ต้องรับมือไม่ง่ายแน่

ไม่คิดว่าซู่เป่ากลับพุ่งเข้าไป และร้องตะโกน “ลุยเลยไง!”

แก้ปัญหายังไงเหรอ

เธอเลือกที่จะประชันหน้ากับมันตรงๆ

ท่าทีของซู่เป่าไวดุจสายฟ้า เธอเคลื่อนย้ายมาอยู่หน้าตุ๊กตาในพริบตา พร้อมส่งหมัดออกไป

ผลจากการฝึกฝนเมื่อวานได้เผยออกมาแล้ว เจ้าตุ๊กตาหลบไม่ทันแม้แต่นิด ถูกต่อยเป็นรอยขาดดังฉึก

หมัดของซู่เป่าสามารถปลอกทุเรียนจากระยะไกลได้ แต่หมัดนี้ที่ต่อยออกไปกลับทำให้อีกฝ่ายเป็นเพียงรอยขาดเล็กๆ และมีฝ้ายปลิวออกมาประปราย

“เก่งมากเลย!” ซู่เป่าแอบคิด

ตุ๊กตาหายไปอย่างฉับพลัน คิดจะเล่นมุกปรากฏตัวแบบเดิม ซู่เป่าตบไปบนพื้นทันที

“จงเรียกป๊ะป๋า!” เธอคำรามเสียงต่ำ

อักขระยันต์สีทองตัวยักษ์ส่องแสงจนสว่างไปทั่วฟ้าราวกับสายฟ้า พร้อมกระจายตัวไปทุกสารทิศ

ตุ๊กตาถูกตรึงไว้ และปรากฏเหนือหัวของซู่เป่า

จี้ฉาง “……”

ประมาทซะได้ กระบวนท่าดูดีเช่นนี้ กลับมีชื่อว่า ‘จงเรียกป้ะป๋า’

ตอนนั้นไม่ควรพิเรนทร์ เป็นถึงพญายม…

รอบนี้กลับไปจะต้องแก้ชื่อเลย……

ซู่เป่ามองตุ๊กตาที่อยู่เหนือหัว กระแอมเย็นทีหนึ่ง “คิดจะลอบโจทตีงั้นเหรอ”

แววตาของตุ๊กตาคับแค้น จ้องมาทางซู่เป่าตรงๆ

ซู่เป่ากำลังจะผนึกมัน จู่ๆ กลับมีความรู้สึกเยือกเย็นไปถึงกระดูก ขนอ่อนบนผิวหนังต่างลุกชันขึ้นมา

สมองของเธอยังประมวลไม่ออกว่ายังไงกันแน่ มือกลับสะบัดออกไปโดยสัญชาตญาณ

“ปาสือ!”

นี่คือไหวพริบที่เธอฝึกมาได้เมื่อคืน

ค้อนใหญ่ทองคำม่วงดังเป็นเสียงตู้ม ทุบไปทางอีกด้านอย่างแรง

เสียงกรีดร้องเสียงหนึ่งดังขึ้น จู่ๆ เด็กผู้หญิงคนหนึ่งปรากฏตัวหน้าพวกเขา และกลิ้งชนตรงเสาไฟ

ตุ๊กตาถือโอกาสขัดขืน พร้อมพุ่งไปอยู่ในอ้อมอกเด็กหญิง

เด็กผู้หญิงปีนขึ้นมา กอดตุ๊กตาเอาไว้แน่น จ้องมองไปทางซู่เป่าโดยไม่ส่งเสียงใดๆ

ซู่เป่าชะงัก “สองตัวเหรอ”

จี้ฉางมาอยู่หลังซู่เป่า ปกป้องเธอไว้เงียบๆ พร้อมพูดเสียงต่ำ “นี่คือพญาผีจริงๆ”

“ดูแล้วอายุแค่สามสี่ขวบ กลับเป็นพญาผีตนหนึ่ง! กระทั่งของเล่นในอ้อมอกนางยังเป็นพญาผีตัวน้อย…” สีหน้าจี้ฉางหนักอึ้ง

ซู่เป่าพยักหน้ากล่าว “อันนี้หนูรู้ ท่านอาจารย์จะบอกว่าพวกเธอทั้งคู่ต่างเก่งมากใช่ไหม”

จี้ฉางอืมทีหนึ่ง แต่ที่คิดในใจคือ…อาจารย์อย่างข้าในที่สุดก็มีประโยชน์เสียที

สถานการณ์เช่นนี้ มู่กุยฝานไม่มีประโยชน์เสียหรอก

มู่กุยฝาน “……”

ซู่เป่าบีบนิ้วมือ กำค้อนใหญ่ทองคำม่วงในมือเอาไว้แน่น “ไม่เป็นไร หนูทำได้ค่ะ!”

เธอกระโดดขึ้นมา ออกแรงทั้งหมดที่มี ยกค้อนใหญ่ทองคำม่วงทุบไปทางเด็กหญิงผู้นั้น

“ปาสือ!”

คนเราเมื่อออกแรง มักจะส่งเสียงตะโกนโดยไม่รู้ตัว เมื่อเสียงตะโกนเย็นๆ ของซู่เป่าดังขึ้น ค้อนใหญ่ทองคำม่วงก็ได้ทุบไปบนตัวของเด็กหญิงแล้ว

เด็กหญิงเก่งกาจมาก เพียงพริบตาก็เคลื่อนย้ายไปที่เสาไฟอีกต้น พร้อมยิ้มฉีกมุมปาก

“คิกๆ เล่นกับฉันหน่อย…”

จู่ๆ ไฟก็พังและกระพริบถี่รัว เมื่อไฟดับ และสว่างขึ้นอีกที

เด็กหญิงก็มาปรากฏตรงหน้าซู่เป่าอย่างฉับพลัน!

รูม่านตาซู่เป่าหดเกร็ง

ว๊ากกก เร็วยิ่งกว่าสายฟ้าซะอีก!

สถานการณ์แบบนี้ ซู่เป่าใช้ทักษะใดๆ ไม่ทันทั้งนั้น

ผีเด็กหญิงแสยะยิ้มสยอง อ้าปากกัดไปตรงใบหน้าของซู่เป่า

ซู่เป่าออกหมัดทุบในทันที

พลั่ก!

ใช้กายหยาบ ต่อยจนใบหน้าของผีเด็กหญิงบุ๋มลงไป

จู่ๆ ผีเด็กหญิงก็กรีดร้องขึ้นมา และกระพริบหายไป

ซู่เป่าหายใจแรง นวดหมัดน้อยๆ ของตนพร้อมร้องซี๊ด “ท่านอาจารย์ เธอแข็งยิ่งกว่าน้าสะใภ้ใหญ่ซะอีก”

จี้ฉาง “……”

เมื่อคืนตอนมู่กุยฝานฝึก เขาก็แอบคิดว่าซู่เป่าจำเป็นต้องฝึกกำลังไหม

วิชาซู่เป่าเยอะขนาดนี้ จำเป็นต้องฝึกกำลังหมัดไหม

ไม่คิดว่าจะได้ใช้จริงๆ

ต้องพูดว่าทุกอย่างที่มู่กุยฝานฝึกไปเมื่อคืน ต่างได้ใช้ทั้งหมดเลย

จี้ฉางรู้ถึงความอับอาย ในฐานะที่เขาเป็นผู้พิพากษาโลกใต้พิภพ ประสบการณ์การต่อสู้ของเขากลับน้อยกว่ามู่กุยฝานเยอะ

มู่กุยฝานเห็นผีผู้หญิงหนีไป ร่างที่นิ่งเกร็งจึงผ่อนคลายลง เขาเดินก้าวไปหน้าซู่เป่าหลายก้าว พร้อมเอ่ยถาม “เป็นยังไงบ้าง”

ซู่เป่าส่ายหัว “ไม่เป็นไรค่ะ แต่หนูเจ็บมือนิดหน่อย”

มู่กุยฝานดึงมือของเธอมาดู เห็นเพียงข้อตรงหลังมือต่างแดงก่ำหมดแล้ว

ดูท่าอีกฝ่ายจะแข็งมากจริงๆ……

สายตาของมู่กุยฝานจริงจัง พร้อมเอ่ยถาม “ผีเด็กหญิงนั้นเป็นพญาผีงั้นเหรอ”

เก่งกว่าพญาผีตัวน้อยเล็กน้อย มู่กุยฝานจึงคาดเดาว่าเธอคือพญาผี

มู่กุยฝานพยักหน้า “บิงโก ป๊ะป๋าทายถูกแล้ว”

มู่กุยฝานถามต่อ “พญาผีนี่…อาจารย์ของหนูสู้ได้ใช่ไหม”

ซู่เป่ามองไปทางจี้ฉาง

จี้ฉางปรากฏร่างจริง ถลึงตาตอบ “อะไรสู้ได้ไหม ข้าต้องสู้ได้อยู่แล้วสิ ต้องถามอีกหรือไง”

ริอาจมาสงสัยในความสามารถของเขา!

มู่กุยฝานพยักหน้า “สู้ได้ก็ดี ไปกันเถอะซู่เป่า กระสอบทรายฝึกล็อตใหม่มาแล้ว ยังไงก็มีอาจารย์หนูค้ำท้าย สู้ให้เต็มที่เลย!”

หากไม่มีคนค้ำท้าย ยังไงคืนนี้ก็ต้องถอย และกลับไปวางแผนก่อน

แต่เมื่อมีจี้ฉางอยู่ ก็สามารถต่อสู้จริง ลงสนามจริงๆ ได้อย่างวางใจ!

จี้ฉางไม่มีทางปล่อยให้ซู่เป่าเกิดเรื่องแน่

ซู่เป่าพยักหน้า กำหมัดเล็กไว้แน่น “ไปกันเลย!”

มู่กุยฝาน “ไป!”

พ่อลูกทั้งสองวิ่งพุ่งไปทางที่ผีเด็กสาวหายไป

จี้ฉาง “……”

ก็ได้ ที่แท้เขาเอาไว้ใช้ประโยชน์แบบนี้สินะ

มุมปากของอาจารย์กระตุก รู้สึกหมดคำพูดสุดขีด

แต่แน่นอนว่าก็ยังคงไปเป็นองครักษ์ให้กับซู่เป่าอยู่ดี…เขาทำยังไงได้ล่ะ

ส่วนลึกของสวนสนุก มีเสียงเครื่องเล่นทำงานเป็นพักๆ

รถไฟเหาะวิ่งผ่านกลางดึก แต่บนรถนั้นกลับไม่มีคนนั่งอยู่

ซู่เป่าและมู่กุยฝานสามารถได้ยินเสียงหัวเราะของเด็กสาวอย่างชัดเจน

“คิกๆๆ……”

ค่ำคืนที่เงียบสงัด เสียงหัวเราะนี้น่าขนลุกเป็นที่สุด

“ไป ขึ้นไปกันเถอะ” มู่กุยฝานปีนราวกั้นตรงจุดขายบัตรรถไฟเหาะ กำลังจะอุ้มซู่เป่าข้ามมา กลับเห็นเจ้าตัวน้อยกระโดดข้ามมาเองอย่างชำนาญ

ที่แท้ ผลของการฝึกกระสอบทรายหนึ่งอาทิตย์ เอามาใช้ในการปีนกำแพงสินะ

มู่กุยฝานมองรถไฟเหาะที่กำลังทำงาน ขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้ “ไม่ถูกต้อง รถไฟเหาะเสียงดังขนาดนี้ กลับไม่มีใครมาเช็คดูสักคนเลยงั้นเหรอ”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน