ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน นิยาย บท 545

สวนสนุกอยู่ห่างจากที่พักระยะหนึ่ง แต่ต่างอยู่ในเกาะเดียวกัน จึงไม่ได้ไกลกันมาก

อย่าว่าแต่ยามที่เฝ้าสวนสนุก กระทั่งพนักงานในโรงแรมก็ควรตะหงิดถึงความผิดปกติแล้ว

จี้ฉางกล่าวต่อ “นี่คืออาณาเขตผี”

มู่กุยฝานและซู่เป่าต่างเคยได้ยินคำนี้เป็นครั้งแรก สองพ่อลูกหันไปมองจี้ฉางพร้อมกัน สายตาของพวกเขามองจี้ฉางราวกับเขาเป็นวิกิพีเดีย

<การใช้อาจารย์อย่างถูกวิธี>

“มันคืออาณาเขตอะไรกัน” ทั้งคู่ถามขึ้น

จี้…วิกิพีเดีย…ฉางตอบนิ่งๆ “มนุษย์มีอาณาเขตลมปราณ ผีก็มีอาณาเขตผีเช่นกัน พวกเจ้าสามารถเข้าใจว่ามันเป็นอาณาเขตลมปราณของผี”

มู่กุยฝาน ‘เหมือนจะเข้าใจ แต่ยังเข้าใจไม่หมด’

ซู่เป่า ‘ไม่เข้าใจแม้แต่นิด’ พร้อมกระพริบตามองท่านอาจารย์

ท่านอาจารย์ “……”

“ยกตัวอย่างนะ หนังสือฟิสิกส์ของพี่เหอเวิ่นเจ้าเคยอ่านใช่ไหม บทที่พูดเกี่ยวสนามแม่เหล็กน่ะ เมื่อวางแท่งแม่เหล็กบนผงเหล็ก ผงเหล็กจะวางตัวไปในทิศทางที่เป็นระเบียบ”

“หากแม่เหล็กเล็กสนามแม่เหล็กก็จะเล็ก หากแม่เหล็กใหญ่สนามแม่เหล็กก็จะใหญ่ตาม เหมือนสนามแม่เหล็กขั้วเหนือและขั้วใต้ที่ครอบคลุมทั่วทั้งโลกของเรา”

“พญาผีตรงหน้า แม้เธอจะอายุน้อย แต่ ‘สนามแม่เหล็ก’ ของเธอสามารถครอบคลุมทั่วทั้งสวนสนุก ในอาณาเขตของเธอ คนนอกจะไม่สามารถรับรู้ว่าด้านในเกิดอะไรขึ้นกันแน่”

หากมีคนเข้าไปอยู่ในอาณาเขตนี้ ต่อให้ตายอย่างน่าเวทนา ร้องตะโกนขอความช่วยเหลือ ก็จะไม่มีใครได้ยิน

ซู่เป่าตระหนัก “นี่มันผีบังตานี่นา”

ทฤษฎีเหมือนผีบังตาเป๊ะเลย!

จี้ฉาง “……”

“หากเจ้าจะเข้าใจเช่นนี้ ก็ไม่ผิด… ผีธรรมดาสามารถอาศัยสภาพแวดล้อมธรรมชาติสร้างผีบังตาได้ แต่อาณาเขตของพญาผี ไม่จำเป็นต้องอาศัยสิ่งเหล่านั้น เพียงแค่มันปรากฏตัวอาณาเขตนี้ก็จะเกิดขึ้น”

ซู่เป่า “เข้าใจแล้ว ก็คือผีบังตาที่เจ๋งกว่าเดิม อาจารย์พูดได้ซับซ้อนจัง”

มู่กุยฝานพยักหน้า “เข้าใจแล้ว เหมือนขอบเขตการโจมตีของราชันขุนพล เมื่อเข้าใกล้ขอบเขตนั้น บางทีตัวศัตรูเองยังไม่รู้ตัวเลยว่าตนตายได้อย่างไร นี่น่ะเหรออาณาเขต”

อาจารย์วิกิพีเดีย “……”

ใครก็ได้ ลากนักเรียนยอดแย่สองคนนี้ออกไป ประหารยิงเป้าห้านาที!

ระหว่างคุย รถไฟเหาะก็วิ่งผ่านอีกครั้ง

ครั้งนี้ บนรถไฟเหาะที่เคยว่างเปล่ามาก่อน มีร่างของเด็กสาวนั่งอยู่

เธอกอดตุ๊กตาไว้ในอ้อมกอด หันหัวกลับมา 360 องศา ดวงตาจดจ้องมาที่ซู่เป่าและมู่กุยฝาน

มู่กุยฝานพูดเสียงต่ำ “หากทั้งสวนสนุกเป็นอาณาเขตของเธอ แล้วพนักงานในสวนสนุกล่ะ”

เมื่อครู่พวกเขาผ่านป้อมยาม ด้านในไม่มีคนอยู่แม้แต่นิด

สวนสนุกแบ่งเป็นเหนือใต้ตะวันออกและตกทั้งหมดสี่ทิศ ทุกๆ ทิศจะมีป้อมยาม หนึ่งป้อมจะมียามอยู่เวรสองคน

หมายความว่าสวนสนุกในตอนกลางคืน ควรมียามทั้งหมดแปดคน

จู่ๆ ซู่เป่าก็ยกมือ ชี้ไปทางไกล “อยู่ที่นั่น”

มู่กุยฝานมองไปอย่างตั้งใจ

ตรงจุดที่สูงที่สุดของรางรถไฟเหาะ มีเชือกแขวนอยู่สองเส้น

ใต้เชือก มีคนสองคนแขวนอยู่…

ภายใต้ความมืด เงาร่างของพวกเขาทั้งสองโคลงเคลงไปตามลม มือทั้งสองและหัวต่างทิ้งดิ่งลง พิลึกอย่างน่าประหลาด…

“รีบไปเร็ว!” ซู่เป่าวิ่งพุ่งขึ้นไป “พวกเขายังไม่ตาย”

สวนสนุกที่คุณลุงใหญ่เพิ่งสร้างขึ้นมา จะมีคนตายไม่ได้เด็ดขาด!

มู่กุยฝานให้ความร่วมมืออย่างรู้ใจ วิ่งไปทางห้องควบคุมอย่างรวดเร็ว “พ่อจะไปควบคุมรถไฟเหาะอีกคันหนึ่ง ให้รถหยุดเมื่อถึงจุดสูงสุด ลูกปล่อยพวกเขาลงมานะ!”

ซู่เป่าวิ่งไปด้านหน้าสองก้าว จากนั้นหยุดถามกระทันหัน “แน่ใจนะ คุณพ่อ”

เธอมองไปทางห้องควบคุมที่มืดสนิทและไม่มีแสงไฟแม้แต่นิด

มู่กุยฝาน “……”

ตอนแรกก็แน่ใจหรอก

พอซู่เป่าถามแบบนี้…

จู่ๆ เขาก็คิดถึงภาพสยองขวัญที่ตนกำลังควบคุมรถไฟเหาะ แล้วมีตุ๊กตาตัวหนึ่งโผล่มาบนหัวเขา

“ซู่เป่า…ขอยันต์สองใบ” มู่กุยฝานพูดอย่างมั่นใจ และไม่รู้สึกน่าอายแม้แต่นิด

ซู่เป่าหยิบยันต์วังยมบาลออกมา

“ยันต์ธรรมดาเก่งกาจไม่พอ พ่อเข้าไปในวังยมบาลดีกว่า”

พูดจบเธอก็โยนวังยมบาลใส่เขา…และครอบตรงหัวเขาพอดี

มู่กุยฝาน “……”

ไม่เคยคิดมาก่อน จะได้มาเยือนวังยมบาลก่อนตาย

หนำซ้ำยังครอบอยู่บนหัวเขาอีก

เธอกำลังจะบอกให้ซู่เป่าขยายให้วังใหญ่หน่อย อย่างน้อยๆ ก็ครอบเขาไว้ทั้งตัว

ใครจะรู้ว่าซู่เป่าวิ่งไปไกลซะแล้ว

มู่กุยฝานวิ่งไปทางห้องควบคุมเงียบๆ

สองคนที่ถูกแขวนอยู่บนนั้นรอไม่ไหว อย่าเพิ่งสนใจวังยมบาลที่อยู่บนคอเลย

ซู่เป่าวิ่งไปด้านข้างของรถไฟเหาะคันหนึ่ง ปีนขึ้นไป

วังยมบาลแค่ครอบหัวคุณพ่อไว้ก็พอแล้ว วังยมบาลของเธอก็มี ‘อาณาเขต’ เช่นกัน

หากใหญ่กว่านี้ พ่อแบกไม่ไหวหรอก

วังยมบาลไม่ใช่ว่าใครอยากยกก็ยกไปได้เลย

ซู่เป่าเพิ่งคาดเข็มขัดนิรภัยเสร็จ รถไฟเหาะก็เริ่มทำงานทันที มันค่อยๆ เพิ่มความเร็ว พุ่งขึ้นไปบนจุดสูงสุดเป็นเสียงฟู่ว

เธอใกล้กับคุณลุงสองคนนั้นที่ถูกแขวนอยู่มากขึ้นเรื่อยๆ

ซู่เป่าตั้งสมาธิ หวังจะรอให้รถไฟเหาะหยุดลง แล้วหาวิธีช่วยคุณลุงสองคนนั้นออกมา

จู่ๆ ข้างหูเธอก็ดังเป็นเสียงคิกๆ ขึ้น หันหน้าไป เด็กสาวได้นั่งอยู่ข้างเธอแล้ว

ร่างของเธอหันไปด้านหน้า แต่หัวกลับหมุนเป็น 90 องศา จ้องตรงมาทางซู่เป่า ใกล้จนเกือบจะชิดหน้าซู่เป่า

“เชี่ย!” คำหยาบของซู่เป่าหลุดปากราวกับเสี่ยวอู่เข้าร่าง

จากนั้นก็สะบัดฝ่ามือออกไป

หัวของเด็กสาวหมุนตามเข็มนาฬิการอบหนึ่ง จากนั้นก็หยุดมองหน้าซู่เป่าอีกครั้ง

“คิกๆๆ…มาเล่นกับฉัน!” เธอยิ้ม เผยให้เห็นฟันสีขาวซีด

รถไฟเหาะที่กำลังจะหยุดลงจู่ๆ ก็ไม่สามารถควบคุมได้ มันเพิ่มความเร็วเป็นเสียงฉึกฉัก ถึงจุดสูงสุด และตกดิ่งลงมาอย่างรวดเร็ว!

ซู่เป่า “ว้ากกก”

ผมของเธอถูกพัดตั้ง ลมกระชากใบหน้าของเธอ เมื่อซู่เป่าอ้าปาก ก้อนเนื้อข้างแก้มก็กระเพื่อมราวกับคลื่นน้ำ

“อ้ากกก”

เสียงของซู่เป่าเจือไปด้วยความสั่น

มู่กุยฝานที่อยู่ในห้องควบคุมลนลาน แต่ไม่ว่าเขาจะกดปุ่มอย่างไร เขาก็ควบคุมรถไฟเหาะไม่ได้

มู่กุยฝานที่สวมวังยมบาลไว้บนหัว ยื่นคอออกไปตะโกน “ซู่เป่า อดทนไว้!”

“ถือซะว่าเป็นการฝึกจำลองสถานการณ์ไร้น้ำหนัก!”

ซู่เป่า “ได้ค่าาาา...”

เสียงสั่นของเด็กน้อยวัยละอ่อนวิ่งผ่านไปอย่างรวดเร็ว

มู่กุยฝาน “……”

จี้ฉาง “……”

ไม่สามารถควบคุมรถไฟเหาะได้ อยู่ในห้องควบคุมต่อไปก็ไร้ซึ่งความหมาย มู่กุยฝานวิ่งไปทางยามที่ถูกแขวนไว้

เมื่อวิ่งถึงใต้รางรถไฟเหาะ เขายกมือโยนของ คมมีดสะท้อนแสง เชือกทั้งสองขาดลงตามเสียง ยามทั้งสองดิ่งตกลงมาตรงๆ

จี้ฉางรีบยกมือ พยุงผ่านอากาศทีหนึ่ง ทั้งคู่ที่ตกลงมาจึงไม่เละเป็นหมูสับ

“บอกกันก่อนไม่ได้หรือไง” จี้ฉางหมดคำพูด “เขาแขวนอยู่ด้านบนไม่ตาย แต่จะตายเพราะตกลงมานี่ล่ะ”

มู่กุยฝาน “ผมรู้ว่าคุณต้องยื่นมือช่วยแน่”

จี้ฉาง “……”

เวลานี้เอง เสียงสั่นๆ นั้นวิ่งผ่านอีกครั้ง

ซู่เป่า “อาจาาาาาาารย์”

ทั้งคู่ “……”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน