ครูที่ปรึกษาสีหน้าเอือมระอา เตือนด้วยความหวังดี
“ครูหวัง นิสัยของเธอน่าจะเปลี่ยนได้แล้วนะ เด็กคนนี้ไม่เหมือนคนอื่น”
กริ่งสัญญาณเข้าเรียนดังขึ้น ครูหวังหยิบตำราขึ้นมา ปากก็ว่า
“ในสายตาของฉันนักเรียนทุกคนเท่าเทียมกัน ไม่มีรวยจน ทุกอย่างเอาคะแนนมาพูดกัน”
เธอพูดเสร็จก็เดินไปด้วยท่าทีที่หยิ่งยโส
ครูคนอื่นก็หมดคำจะพูด
พูดมาได้ว่านักเรียนเท่าเทียมกัน
สำหรับเธอคะแนนคือทุกสิ่ง ใครคะแนนภาษาอังกฤษไม่ถึง 90 เธอก็ไม่คิดจะเหลียวแล เลือกปฏิบัติสุด ๆ
“ไม่เร็วก็ช้าสักวันหนึ่งจะไม่เหลืออะไรเลย” ครูที่หาซู่เป่าไม่เจอเมื่อครู่กล่าว
“เอาเถอะ ไปหาซู่เป่ากัน ฉันจะลองไปหาดู”
สำหรับครูหวังน่ะเหรอ
วิชาภาษาอังกฤษคะแนนเต็ม 100 นักเรียนที่เขาสอนมีเกินครึ่งที่ทำได้ 96 คะแนนขึ้นไป
จะมีก็เพียงแค่นักเรียนที่สอบได้คะแนนเต็มเท่านั้นถึงจะดูยอดเยี่ยมในสายตาเธอ
ทุกครั้งพอถึงคาบวิชาเลือกอิสระ เธอก็จะรีบแย่งเป็นคนแรก รีบแจกเอกสาร รีบอธิบายรายละเอียดวิชาของเธอ
ทุกครั้งพอถึงวิชาพละ เธอก็กินเวลาไปครึ่งคาบ เพื่อให้นักเรียนทำข้อสอบภาษาอังกฤษของเธอ
เคยมีผู้ปกครองร้องเรียนเหมือนกันว่าวิธีการสอนของครูหวังค่อนข้างรุนแรง แต่ไม่รู้จะทำอย่างไรได้ ผลคะแนนของนักเรียนที่เขาสอนก็ออกมาเสียแบบนั้น โรงเรียนก็ไม่สามารถทำอะไรกับครูหวังได้
ด้านครูหวังก็ใส่รองเท้าส้นสูงเดินออกด้วยสีหน้าเย้ยหยัน
ไอพวกประจบคงหวังให้เธอถูกไล่ออกสินะ
เสียใจด้วย คะแนนภาษาอังกฤษของห้องที่เธอสอนดีขนาดนั้น ถ้าใครจะถูกไล่ออกต้องไม่ใช่เธอแน่นอน
ซู่เป่ากินจนพุงน้อย ๆ ของเธอกลมดิก ตีพุงด้วยความพึงพอใจ
“เอิ้ก~”
ซูเหอเวิ่นทำหน้าย่น “อิ่มหรือยัง พรุ่งนี้ไม่ต้องตามพี่มาแล้วนะ”
ซู่เป่าแจงเหตุผลด้วยท่าทีจริงจัง “หนูมาที่นี่กับพี่ไม่ได้มาเพื่อกินนะ”
ซูเหอเวิ่นยิ้มเยาะ “ไม่ได้มากิน แล้วมาทำไม มาเรียนเหรอ”
เธอเพิ่งจะกี่ขวบพูดแบบนี้คิดว่าเขาจะเชื่อเหรอ
ทว่าซู่เป่ากลับส่ายหน้า “ไม่ใช่ หนูมาจับผี”
“……”
เขานึกขึ้นได้ทันที เมื่อวานเขาเจอผีสาวขี้เหร่ตอนเข้าห้องน้ำ
“จับ...จับผีอะไร” ซูเหอเวิ่นหนังตากระตุก
ซู่เป่าหันหน้าไปมองเขา “พี่กลัวผีเหรอ”
ซูเหอเวิ่นหน้าแข็งทื่อ กัดฟันพูด “ใครกลัวกัน พี่ พี่ก็แค่ถามว่าเธอจะจับผีอะไรเฉย ๆ”
ซู่เป่าขยับเข้ามาใกล้ซูเหอเวิ่น แล้วกระชิบเบา ๆ “จับผีร้าย”
“ผีชั่วร้ายตนนั้นเกาะอยู่บนหัวของเสวี่ยเอ๋อร์ ดูดไอพิฆาตจากคอ อืม... เหมือนตอนดูดชาไข่มุกเลย”
เจ้าแก้มก้อนพูดเสียงอู้อี้ อุปมาแบบนี้สิถึงจะเห็นภาพ
ซูเหอเวิ่นก็นึกภาพตอนคนอื่นดื่มชาไข่มุกตามเธอว่า
ไม่รู้ทำไม เพียงแค่ซูเหอเวิ่นคิดลมเย็น ๆ ก็พัดผ่านมา ตามด้วยความรู้สึกเย็นวาบที่ต้นคอ
เขารีบเอามือจับ สีหน้าตื่นตระหนกปรากฏบนใบหน้าอย่างไม่รู้ตัว
“ยะ อย่างนั้นผีออกมาตอนกลางวันได้ไหม”
ซู่เป่าพยักหน้า “อืม ๆ บนโลกใบนี้แบ่งผีเป็นสามชนิด”
เธอนับนิ้วตัวเอง “เหมือนผีน้าสาวขี้เหร่แบบนี้ เรียกว่าวิญญาณเร่ร่อน ตายไม่ปกติ ไม่สามารถหาทางไปเกิดใหม่ได้ ก็เลยต้องเร่ร่อนที่โลกมนุษย์”
ซูเหอเวิ่นหวนนึกถึงตอนที่โดนผีผู้หญิงหลอก เขากลัวจนฉี่ราด หน้าซีดเลยทีเดียว
“แล้วก็มีผีตายโหง ที่ตอนเป็นคนได้ตายอย่างอนาจ ถ้าปรากฏตัวก็อาจทำให้ผู้คนหวาดกลัวจนขวัญกระเจิง”
ซูเหอเวิ่นหน้ายิ่งซีดไปอีก
“ผีสุดท้ายก็คือผีร้าย อำมหิตมาก กินคนได้ วิญญาณเร่ร่อนกับผีตายโหงเวลากลางวันไม่สามารถปรากฏตัวได้ แต่สำหรับผีร้ายแล้ว มันสามารถปรากฏตัวตอนกลางวันแสก ๆ ได้ แถมยังแข็งแกร่งมาก ๆ ด้วย”
“……”
ซูเหอเวิ่นรีบบอก “พอแล้วๆ ไม่ต้องพูดแล้ว!”
พลางก็เอามือปิดปากเธอไว้ “อื้อ ๆ ๆ”
ซูเหอเวิ่นมองไปรอบทิศ พระอาทิตย์ส่องแสงจ้า ดอกไม้ก็บานราวกับกำลังยิ้มให้เขา
นะ...นี่พระอาทิตย์ส่องแสงจ้าแบบนี้ ยังมีผีได้อีกเหรอเนี่ย
เขาปล่อยมือออกให้ซู่เป่าเป็นอิสระ
“พี่ก็กลัวเป็นด้วย! ไม่เป็นไร ความกลัวไม่ใช่สิ่งที่น่าอาย”
“…พูดแบบนี้ ไม่พูดซะยังจะดีกว่า”
ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอยู่กับจี้ฉางบ่อยไปหรือเปล่า ตอนแรกเจ้าแก้มก้อนที่ไม่ค่อยจะพูดจากลับกลายเป็นคนช่างพูดไปเสียแล้ว
“ทำไมพี่ถึงกลัวผี ไม่ควรจะกลัวเลย พี่เก่งขนาดนี้ จะกลัวผีได้อย่างไร”
“จริง ๆแล้วผีไม่มีอะไรน่ากลัว มันเหมือนกับคนเลย อืม...นอกจากตาถลน มือขาด...”
ซูเหอเวิ่นเริ่มจะหมดความอดทน หยิบลูกอมมาจากที่ไหนสักที่ก่อนจะยัดเข้าไปในปากเธอ
ในที่สุดซู่เป่าก็เงียบ!
“อร่อยดี”
ขณะนั้นเองครูที่ปรึกษาของพวกเขาก็ออกมาตามหา พอเจอซูเหอเวิ่นกับซู่เป่าสะพายกระเป๋าเดินเล่นอยู่ในโรงเรียน ก็รีบเรียก
“ซูเหอเวิ่น ซู่เป่า พวกเธอจะไปไหนกัน กริ่งสัญญาณเข้าเรียนดังแล้วนะ”
ซู่เป่าอมลูกอยู่เลยพูดออกมาไม่ชัด “อู่เป่าหิว พี่ก็เลยพาไปหาอะไรกิน”
ซูเหอเวิ่นสบถ “เพราะครูหวังไล่พวกเราออกมาต่างหาก”
จะไม่ยอมให้เรื่องนี้จบง่าย ๆ แน่
ในเมื่อเจอครูที่ปรึกษาพอดี ซูเหอเวิ่นเลยบอกว่าอยากโทรหาพ่อ ให้เขามารับกลับไป
พอมองอาคารเรียนที่อยู่ด้านหน้า ก็คิดถึงเรื่องที่ซู่เป่าพูดเมื่อกี้ บนหัวของเสวี่ยเอ๋อร์มีผีร้ายเกาะอยู่
แค่คิดก็ไม่อยากจะเข้าไปแล้ว
ได้ยินซูเหอเวิ่นบอกว่าต้องการโทรหาซูอีเฉิน ครูที่ปรึกษากับครูอีกคนหนึ่งจ้องตากัน จึงให้คำแนะนำ
“เหอเวิ่นครับ พาน้องสาวขึ้นไปข้างบนก่อนนะ”
ซูเหอเวิ่นเม้มริมฝีปาก ไม่มีใครรู้ว่าซูเหอเวิ่นเด็กน้อยบ้าวิทยาศาสตร์คนนี้ สิ่งที่เขากลัวที่สุดก็คือผี
ซู่เป่าจูงมือซูเหอเวิ่น ตอบรับอย่างว่าง่าย “ตกลงค่ะครู ซู่เป่ากับพี่จะไปเข้าเรียนค่ะ”
เราต้องเชื่อฟังคำของครู
คุณยายเคยบอกว่าต้องเป็นเด็กดี
ซูเหอเวิ่นเดินตามหลังไปอย่างไม่สบอารมณ์
เขาไม่มีทางเลือก!
ถ้าไม่ขึ้นไป ต้องโดนน้องสาวล้อว่ากลัวผีแน่นอน
ในเมื่อเคยโม้ไว้ ก็ต้องกัดฟันสู้...
พอเข้าห้องเรียน ซูเหอเวิ่นมองไปทางเสวี่ยเอ๋อร์แบบอัตโนมัติ
แค่เห็นเสวี่ยเอ๋อร์เงยหน้าขึ้นมามอง แล้วส่งรอยยิ้มให้เขา
ซูเหอเวิ่นก็รู้สึกขนหัวลุกทันที
ใต้ตาของเสวี่ยเอ๋อร์ปรากฏรอยคล้ำสีเขียวอมเทาให้เห็น สีหน้าดูหม่นหมอง ตาก็จ้องมองตรงมาที่เขา
รอยยิ้มก็แปลกประหลาด
เมื่อกี้ตอนที่เสวี่ยเอ๋อร์มาเสแสร้งต่อหน้าเขา เธอยังไม่ได้เป็นแบบนี้นี่นา...
ซูเหอเวิ่นรีบชักสายตากลับมา เดินหลังแข็งทื่อกลับไปนั่งที่ตัวเองทันที
ในเวลานี้ผีจองหองที่อยู่บนหัวของเสวี่ยเอ๋อร์ ก็เริ่มปลุกปั่น
“ดูสิดูสิ ซูเหอเวิ่นมองมาที่เธอด้วย กลับเข้ามาปุ๊ปก็มองเธอคนแรกเลย”
“เขาชอบเธอแน่นอน...”
“ว้าว ใครๆก็ชอบเสวี่ยเอ๋อร์อ่ะ...”
เสวี่ยเอ๋อร์นั่งเท้าคาง จ้องมองไปที่ซูเหอเวิ่น ความภาคภูมิใจเอ่อล้นเต็มอก
เธอเพอร์เฟคขนาดนี้ คิดแล้วว่าพวกเด็กผู้ชายก็ต้องชอบเธอกันหมด!
ซู่เป่ากลับไปนั่งข้างๆเสวี่ยเอ๋อร์ หันหน้าไปมองเจ้าผีจองหอง
“กินอิ่มยังล่ะ...” เธอพึมพำ
ผีตัวใหญ่ขนาดนี้ น้ำเต้าวิญญาณน่าจะเต็มแล้วมั้งเนี่ย
เสวี่ยเอ๋อร์หันหน้าอันไร้เรี่ยวแรงของเธอมาพลางขมวดคิ้ว “กินอิ่มอะไร”
พวกเธอไม่เหมือนกัน เธอมาเพื่อตั้งใจเรียนหาความรู้ ไม่เหมือนกับซู่เป่าที่ในสมองมีแต่เรื่องกิน
ขณะเดียวกันครูที่ปรึกษาก็เดินเข้ามา
“เอาล่ะนักเรียน เริ่มเรียนกัน”
“วันนี้พวกเราจะเรียน ชุนจวี กลอนบทนี้จะยาวกว่าที่พวกเราเคยเรียนมานิดหน่อยนะ เรามาเรียนไปพร้อมกัน แล้วครูจะดูสิว่าใครเรียนรู้ได้เร็วที่สุด”
เสวี่ยเอ๋อร์รีบยกมือขึ้นทันที “คุณครูคะ กลอนบทนี้หนูท่องได้ตั้งนานแล้วค่ะ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน
สนุกค่ะ รออัพตอนใหม่อยู่นะคะ...
สนุกค่ะ อ่านได้เรื่อยๆ...
ยังมีใครอ่านอยู่ไหมค่ะเนี่ย ไม่รู้ตัวเอกเป็นยมบาลหรืออันธพาล ใครอ่านอยู่มาคุยกันค่ะ...
เสียดายเวลาที่อ่านมานานก็เลยพยายามอดทนอ่านต่อไปเรื่อยถ้าเนื้อเรื่องยังเป็นแบบนี้สักวันคงเลิกอ่านจริงๆอ่ะ...
อ้าว...ยัยแก่ มหาภัย ยังไงกันหะ อยู่ไปจะมาทำร้าย คุณพี่ชายซูจื่อซี ได้ไง...แกต้องโดนท่านยมบาลน้อย ชำระความ....
ชื่อเรื่อง "ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน" ไอ้เราก็นึกว่า ชีวิตใหม่ที่ว่าคือชีวิตที่ได้เจอคนรอบครัว มีตายายและลุงๆที่รักยัยหนู...แค่นั้น ที่ไหนได้ ที่แท้ชีวิตใหม่คือเป็นมือจับผีตัวน้อย...
🧐รอๆๆๆ...
เป้ยเฉินอวี่ เธอชอบ ซูอีเฉินของฉันไม่ได้!.... รออัพเดตนะค่ะ กำลังสนุก pleaseee...
มีผีร้ายเพิ่มอีกตัว.... ขอบคุณมากค่ะแอดมิน...
เย้ๆ ท่านหญิงซูเดินได้แล้ว ลุ้นๆแม่ของซูเป่าจะจำอดีตได้มั๊ยน๊า ขอบคุณมากค่ะแอดมิน...