วันนี้ซูเหอเวิ่นไม่ไปเรียนวิชาชุมนุม แต่ติดตามซู่เป่ามาที่นี่เหมือนเป็นลูกสมุน
เขาเงยหน้ามองตามสายตาของซู่เป่าไปทางชั้นสองของฝั่งตรงข้าม แล้วถามว่า “มีอะไรเหรอ”
ซู่เป่าที่กำลังจะเดินเข้าประตูพลันหันหน้าขวับ แล้วเดินตรงไปยังบ้านที่อยู่ฝั่งตรงข้าม
ด้วยใบหน้าเล็กๆ อย่างดุดัน
ซูอีเฉินหยุดเดินในทันที แล้วรีบตามไป “ซู่เป่า”
ใจของถังเถียนเถียนเต้นตุบตับ แย่แล้ว อะไรทำให้บรรพชนตัวน้อยไม่พอใจกันละนี่
เมื่อสักครู่ก่อนที่เธอจะเข้ามา เธอหันไปมองต้นไม้มงคลที่อยู่ด้านขวาแวบหนึ่ง
หรือว่าไม่ชอบต้นไม้มงคลเหรอ
“สองคนมานี่เร็วเข้า รีบเอาต้นไม้มงคลต้นนี้ไปไว้หลังบ้าน”
หลังจากถังเถียนเถียนพูดจบก็รีบวิ่งตามไปพลางพูดว่า “โอ้ คุณหนูซู่เป่า เกิดอะไรขึ้นเหรอครับ”
ซู่เป่ายืนเท้าสะเอวอยู่หน้าบ้านฝั่งตรงข้ามและพูดกับชั้นบนว่า “ฮัลโหล สวัสดีค่ะคุณย่าชั้นบน ไม่ใช่สิ คุณย่าที่อยู่ชั้นบน ฟังนะ หนูอดกลั้นกับคุณย่ามานานแล้วนะ”
หญิงชราในชุดเสื้อคอจีนจ้องซู่เป่าตาเขม็งและเผยยิ้มอย่างประหลาด
ซูอีเฉินมองตามไปทางชั้นสอง แล้วรู้สึกบอกไม่ถูก
ชั้นสองไม่มีคน
ถังเถียนเถียนเพียงรู้สึกแปลกประหลาดอย่างอธิบายไม่ถูกและขนหัวลุก
“คุณหนูซู่เป่า นายหญิงของบ้านนี้เสียชีวิตไปเมื่อปีที่แล้วแล้วครับ...”
ซู่เป่าคงไม่ได้มองเห็นนายหญิงของบ้านฝั่งตรงข้ามใช่ไหม
ถังเถียนเถียนรู้สึกขาอ่อนแรง
ซู่เป่าพลันหันหน้ามาถามว่า “ลุงถังคะ ที่นี่ก็เป็นบ้านของลุงเหรอคะ”
เธอมองหน้าถังเถียนเถียน จากนั้นมองหญิงชราที่กำลังจ้องเธออยู่ชั้นสองแวบหนึ่ง
ใบหน้าของสองคนนี้คล้ายกันมากเลยและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวโดดเด่นมาก
ถังเถียนเถียนตกตะลึง “เปล่าครับ บ้านหลังนี้เป็นของตระกูลกวน จะพูดไปแล้ว ครอบครัวนี้ค่อนข้าง...น่าสงสารมาก”
เมื่อพูดถึงตรงนี้แล้ว เขาก็หยุดนิ่งไปชั่วครู่
เมื่อเห็นซู่เป่ามองไปที่ชั้นสองครั้งแล้วครั้งเล่า เขาก็รู้สึกราวกับว่ามีใครบางคนที่อยู่บนชั้นสองกำลังจ้องมองมาที่เขา
ก็รู้สึกกลัวอยู่ในใจ
ซูอีเฉินถาม “บ้านนี้ทำไมเหรอ”
ถังเถียนเถียนถอนหายใจเฮ้อ “เมื่อสิบปีก่อนบ้านนี้มีลูกสาวคนหนึ่ง เธอถูกเพื่อนซี้ของเธอฆ่าเสียชีวิตอย่างโหดเหี้ยม...”
“ได้ยินมาว่าวิธีการฆ่านั้นโหดร้ายมาก โดนถลกเนื้อหนังออก ตำรวจหาเจอเพียงเนื้อหนังแต่หากระดูกไม่เจอ ตระกูลกวนมีลูกสาวเพียงคนเดียว นายหญิงรับเรื่องนี้ไม่ได้จึงเป็นบ้าในทันที”
ถังเถียนเถียนพูดถึงตรงนี้แล้วก็มองซ้ายมองขวา จากนั้นพูดเบาๆ ว่า “ก่อนที่ผู้หญิงคนนั้นจะถูกจับ ตำรวจพบเธอเสียชีวิตอย่างอนาถอยู่ในโรงพิมพ์... ได้ยินมาว่านายท่านของตระกูลกวนเป็นคนหาคนไปจัดการเธอจนเสียชีวิต...”
“ก็เลยถือโอกาสนี้เก็บเรื่องนี้เป็นความลับ หรืออาจจะเป็นเพราะคนของทางฝั่งตำรวจอดสงสารไม่ได้ ในที่สุดคดีนี้ก็ถูกปิด เพราะหาหลักฐานไม่พบ ดังนั้นนายท่านกวนจึงรอดตัวไป”
“แต่สองสามีภรรยาผู้แก่ชราก็น่าสงสาร ซูบผอมเพราะตรอมใจ คอยเฝ้าบ้านที่มีกลิ่นไอของลูกสาวของพวกเขาก่อนเสียชีวิต คอยตามหาโครงกระดูกของลูกสาวของพวกเขา แต่หายังไงก็หาไม่เจอ จากนั้นเมื่อปีที่แล้วนายหญิงทนรอไม่ไหวจึงจากไปก่อน”
ดังนั้นบ้านหลังนี้จึงมีเพียงนายท่านกวนคนเดียว
เมื่อถังเถียนเถียนนึกถึงเรื่องนี้แล้วก็ยิ่งรู้สึกกลัวขนลุกขนพอง กลางวันแสกๆ ยิ่งรู้สึกเย็นวาบที่สันหลัง
ซูอีเฉินถามว่า “เขาไม่ได้เค้นถามว่ากระดูกอยู่ไหนเหรอ”
ถังเถียนเถียนส่ายหน้า “แน่นอนว่าต้องเค้นถามแล้ว แต่ไม่รู้ทำไมถึงถามไม่ได้ความ”
จี้ฉางยืนพิงผนังกำแพงบ้านที่อยู่ใต้ร่มเงา แล้วขมวดคิ้วพร้อมกับพูดว่า “ถ้าเดาไม่ผิด ที่นี่น่าจะเป็นบ้านของเพื่อนสนิทของผีจองหองตนนั้น”
บังเอิญจริงๆ
บังเอิญที่มักรู้สึกว่ามีอะไรบางอย่างอยู่ในนั้น
จี้ฉางเงยหน้าชำเลืองมอง
ซู่เป่าเขย่งเท้าพลางพูดอย่างร้อนใจว่า “คุณลุงใหญ่คะ หนูอยากเข้าไป... สามารถเคาะประตูได้ไหมคะ”
ซูอีเฉินเรียกผู้ช่วยให้ไปกดกริ่งที่หน้าประตูพร้อมกับอุ้มซู่เป่า
ถังเถียนเถียนกระแอมไอและพูดอย่างระวังว่า “คุณหนูซู่เป่ารู้จักคนในบ้านนี้เหรอครับ”
พูดตามตรง เขาไม่อยากเข้า...
ก่อนหน้านี้เขายังอยากขายบ้านเดี่ยวของเขาทิ้ง แต่หมอดูบอกว่าบ้านหลังนี้ของเขาฮวงจุ้ยดี เพียงแค่อยู่อาศัยทำอะไรก็จะราบรื่นและร่ำรวยตลอดไป
ดังนั้นจึงไม่ย้ายออกไป
แต่เป็นไปไม่ได้ที่จะเข้าไป เขาอาศัยอยู่ที่นี่มานาน และมีเงาในใจ
แต่กลับได้ยินซู่เป่าพูดว่า “ลุงถังคะ แม่ของลุงอยู่ข้างบนค่ะ”
ถังเถียนเถียนตกตะลึง “อะไรนะ”
ซู่เป่าแสดงท่าทาง “ใบหน้าของคุณย่าดูคล้ายกับลุงมากค่ะ และมีเอกลักษณ์เหมือนกัน"
เมื่อถังเถียนเถียนได้ยินคำอธิบายเช่นนี้ เขาเกือบจะแน่ใจในทันทีว่าที่เจ้าแก้มก้อนมองเห็นคือแม่ของเขาจริงๆ
“ป่ะๆ พวกเราเข้าไปกันเถอะ” เขารีบพูด
ซู่เป่ามองเขาแวบหนึ่ง แต่ถังเถียนเถียนเดินไปตะโกนเรียกแล้ว
“ลุงกวน ฉันเอง ฉันเสี่ยวถัง เปิดประตูหน่อย”
ชวีเสี่ยงกดกริ่งเรียกที่ประตูตั้งนาน แต่ด้านในไม่มีใครโต้ตอบเลย ดังนั้นถังเถียนเถียนจึงตะโกนเรียกด้วยตัวเอง
จากนั้นหันกลับมาพูดว่า “ลุงกวนไม่ชอบให้ใครมารบกวน โดยเฉพาะหลังจากนายหญิงกวนท่านเสีย เขาแทบจะไม่ออกจากบ้านเลย”
หลังจากร้องตะโกนเรียกอยู่นาน ในที่สุดก็มีน้ำเสียงอันอ่อนแรงดังออกมาจากออดวิดีโอไร้สาย “มีธุระอะไร”
ถังเถียนเถียนพูด “ลุง พวกเรา... อะแฮ่ม”
เขามองมาทางซู่เป่า พลันพบว่าไม่รู้ว่าเหตุผลในการเยี่ยมเยือนคืออะไร
จะบอกว่าแม่ของผมอยู่บนบ้านของคุณก็คงไม่ได้
ซู่เป่าพูดใส่ออดว่า “คุณปู่กวนคะ หนูรู้ว่ากระดูกของพี่สาวอยู่ที่ไหนค่ะ”
หน้าจอออดวิดีโอไร้สายพลันมืดสนิท ไม่นาน ประตูใหญ่ก็เปิดออกเองโดยอัตโนมัติเสียงดังปัง
“เข้ามา...” น้ำเสียงของปู่กวนยังคงอ่อนแรง แต่เมื่อฟังอย่างละเอียดแล้วก็จะฟังออกถึงความตื่นเต้น
คนกลุ่มหนึ่งก้าวเข้าไปในประตูลานของบ้านเดี่ยว
ซูเหอเวิ่นแอบกลืนน้ำลายเฮือก ในที่สุดก็ยกมือขึ้นไปจับกางเกงของซูอีเฉินเล็กน้อย
นี่เป็นความดื้อรั้นครั้งสุดท้ายของเขา...
ตอนเกือบจะผ่านประตูเข้าไป ซู่เป่าก็เงยหน้ามองชั้นสองอีกครั้ง
ด้านบนของประตูทางเข้าเป็นระเบียงของชั้นสอง ในขณะเดียวกันนั้น หญิงชราในชุดเสื้อคอจีนก็กำลังเกาะที่ราวกั้นและชะเง้อหน้ามองลงมา
ซูเหอเวิ่นที่คอยสังเกตซู่เป่าอยู่ตลอดเวลาเดาออกแล้วว่าซู่เป่ากำลังมองอะไร
เขาเงยหน้าขึ้นมองระเบียงชั้นสองที่ว่างเปล่า ซูเหอเวิ่นเพียงรู้สึกว่าสิ่งที่มองไม่เห็นน่ากลัวกว่าสิ่งมองเห็น....
จากนั้นมือเล็กๆ อดไม่ได้ที่จะจับแน่นขึ้น
เมื่อรู้สึกว่าขากางเกงถูกจับ ซูอีเฉินจึงก้มลงมองซูเหอเวิ่น “กลัวอะไร”
น้ำเสียงของเขาเย็นชา น้ำเสียงที่พูดกับลูกชายตัวเองแทบจะไม่มีความอ่อนโยนเลย
ซูเหอเวิ่นเบื้อนหน้าหนี “ไม่ได้กลัวครับ”
ถึงจะพูดออกไปแบบนั้น แต่ยิ่งจับขากางเกงของซูอีเฉินแน่นขึ้น
ซูอีเฉินยื่นมือไปจูงเขาอย่างหมดคำพูด
ในที่สุดกลุ่มคนก็เดินเข้ามาถึงด้านใน และทันใดนั้นกลิ่นเหม็นเน่าก็ลอยมาปะทะหน้า
หนึ่งในกลิ่นนั้นคือกลิ่นยาอันเป็นเอกลักษณ์และกลิ่นที่ไม่สามารถบรรยายได้ของชายชรา
จากนั้นก็มีเสียงหนึ่งดังมาจากวิดีโอ “ขึ้นมาสิ... ฉันอยู่ข้างบน”
ซูเหอเวิ่นตกใจ
แต่ซู่เป่าได้ขึ้นไปก่อนแล้ว แล้วยังจูงมือของเขาไปด้วย “พี่เล็ก เร็วเข้า”
ที่ห้องนอนใหญ่ชั้นสอง หลังจากเปิดประตูเข้าไปก็พบว่าภายในห้องมืดสนิทและผ้าม่านก็ถูกดึงเพื่อบังแสงแดดจากภายนอก
หญิงชราในชุดเสื้อคอจีนยืนเงียบๆ ที่มุมห้อง และยังคงจ้องมองที่ซู่เป่าโดยไม่พูดอะไรสักคำ
แต่ซู่เป่าไม่สนใจเธอ หลังจากที่ผ่านประตูเข้าไปก็ถามหยั่งเชิงว่า “คุณปู่กวนคะ เปิดหน้าต่างนิดหนึ่งได้ไหมคะ แค่นิดเดียว”
มีคนคนหนึ่งนอนอยู่บนเตียง แต่มองไม่เห็นหน้าของเขา รู้สึกเพียงว่าทั้งห้องเต็มไปด้วยบรรยายกาศอึมครึม
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน
สนุกค่ะ รออัพตอนใหม่อยู่นะคะ...
สนุกค่ะ อ่านได้เรื่อยๆ...
ยังมีใครอ่านอยู่ไหมค่ะเนี่ย ไม่รู้ตัวเอกเป็นยมบาลหรืออันธพาล ใครอ่านอยู่มาคุยกันค่ะ...
เสียดายเวลาที่อ่านมานานก็เลยพยายามอดทนอ่านต่อไปเรื่อยถ้าเนื้อเรื่องยังเป็นแบบนี้สักวันคงเลิกอ่านจริงๆอ่ะ...
อ้าว...ยัยแก่ มหาภัย ยังไงกันหะ อยู่ไปจะมาทำร้าย คุณพี่ชายซูจื่อซี ได้ไง...แกต้องโดนท่านยมบาลน้อย ชำระความ....
ชื่อเรื่อง "ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน" ไอ้เราก็นึกว่า ชีวิตใหม่ที่ว่าคือชีวิตที่ได้เจอคนรอบครัว มีตายายและลุงๆที่รักยัยหนู...แค่นั้น ที่ไหนได้ ที่แท้ชีวิตใหม่คือเป็นมือจับผีตัวน้อย...
🧐รอๆๆๆ...
เป้ยเฉินอวี่ เธอชอบ ซูอีเฉินของฉันไม่ได้!.... รออัพเดตนะค่ะ กำลังสนุก pleaseee...
มีผีร้ายเพิ่มอีกตัว.... ขอบคุณมากค่ะแอดมิน...
เย้ๆ ท่านหญิงซูเดินได้แล้ว ลุ้นๆแม่ของซูเป่าจะจำอดีตได้มั๊ยน๊า ขอบคุณมากค่ะแอดมิน...