ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน นิยาย บท 855

สรุปบท ตอนที่ 855 เสี่ยวอู่ที่น่าสังเวชร้องเพลงน้ำตาของกรงขัง: ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน

อ่านสรุป ตอนที่ 855 เสี่ยวอู่ที่น่าสังเวชร้องเพลงน้ำตาของกรงขัง จาก ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน โดย ไอซ์

บทที่ ตอนที่ 855 เสี่ยวอู่ที่น่าสังเวชร้องเพลงน้ำตาของกรงขัง คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายนิยายวัยรุ่น ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย ไอซ์ อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง

จี้ฉางอุ้มซู่เป่าขึ้นมาแล้วเดินอยู่ใต้หุบเหวอันมืดมิด

ใต้เท้าที่เหยียบอยู่นั้นคือกระดูกสีขาวนับไม่ถ้วน เมื่อจมลงไปในหุบเหวเป็นเวลานานเกินไป เมื่อไปแตะเบาๆ ก็จะกลายเป็นฝุ่นผงปลิวอยู่

แม้แต่กระดูกสีขาวที่เพิ่งร่วงลงมา พอตกลงมาถึงก้นเหวก็เน่าเปื่อยอย่างรุนแรงแล้ว เมื่อเหยียบโดนก็จะมีเสียงกร๊อบๆ ดังขึ้นเหมือนเหยียบบนใบไม้แห้งและยังเหยียบจนแตกได้ง่ายอีกด้วย

ในเวลานี้เอง จี้ฉางก็รู้สึกถึงไอหยินที่ตลบอบอวลอยู่รอบ และเข้ามารวมตัวกันรอบตัวเขา!

จี้ฉางตกใจ แต่ทันใดนั้นก็พบว่าไอหยินเหล่านี้ไม่ได้มุ่งเป้ามาที่เขา แต่มุ่งเป้าไปที่ซู่เป่าต่างหาก!

เขาสะบัดแขนเสื้อโดยไม่รู้ตัว จนไอหยินที่มารวมตัวกันสลายไป

(ซู่เป่าที่กำลังหลับไหลอยู่:อ้าว? พลังหยินของฉันทำไมถึงหลุดไปล่ะ? ลองใหม่ๆ!)

จี้ฉางเพิ่งจะสลายไอหยินไป ก็พบว่ามีไอหยินลอยเข้ามามากกว่าเดิม

เขาเริ่มหนักใจแล้วมองไปยังซู่เป่าที่อยู่ในอ้อมแขนของเขา เธอยังคงหลับตาแน่นและมือเล็กๆ ของเธอก็ซุกอยู่ในเสื้อผ้าของเขาไว้แน่น ท่าทางเหมือนกำลังออกแรงอย่างเต็มที่อยู่

จู่ๆ จี้ฉางก็หยุดไปครู่หนึ่ง

เดี๋ยวนะ ไอหยินเหล่านี้…เธอเป็นคนดึงดูดมาหรอกเหรอ?

ไม่นานนักจี้ฉางก็อดที่จะอ้าปากไม่ได้ จริงๆ แล้วตอนที่เห็นไอหยินเหล่านี้สัมผัสตัวซู่เป่า และโดนเปลี่ยนเป็นพลังหยินด้วยความพินิจพิเคราะห์ หลังจากนั้นพลังหยินทั้งหมดก็ซึมซับเข้าไปในร่างกายของเธอทั้งหมด!

เธอเห็นว่าไม่มีความเคลื่อนไหวใดๆ แต่เมื่อรู้สึกดีๆ ก็พบว่าเส้นลมปราณในร่างกายของเธอกําลังไหลเวียนพลังหยินและทํางานอย่างมีประสิทธิภาพ

เกล็ดน้ำแข็งบนขนตาของเธอละลาย และร่างกายที่เดิมทีเย็นนั้น ตอนนี้ก็เริ่มจะอบอุ่นขึ้นมาแล้ว

กลายเป็นเจ้าก้อนตัวเล็กนุ่มๆ ที่อบอุ่น

จี้ฉางถอนหายใจด้วยความโล่งอก และในขณะเดียวกันก็อดไม่ได้ที่จะแอบตกใจว่าเจ้าตัวเล็กคนนี้ได้แสดงให้เห็นถึงศักยภาพของเธอที่แตกต่างจากคนอื่นๆ อย่างชัดเจน

ไม่มีครูสอนแต่เรียนรู้ด้วยตัวเอง ขอแค่บอกใบ้เธอนิดหน่อย เธอก็จะสามารถหาทางที่ถูกต้องได้เองในไม่ช้า

ในยมโลกแน่นอนว่าผีส่วนมากเป็นพวกผีอาฆาตทั่วไป อย่างมากก็ผีร้าย ผีขุนศึก หรือยิ่งไปกว่านั้นก็คือราชาผีที่จะเก่งแค่ไหนก็หนีไม่พ้นพญายมรวบรวมมาอยู่ดี

แต่ยังมีผีอีกชนิดหนึ่งที่เรียกว่าผีบำเพ็ญ

ย่อมาจากผีที่บำเพ็ญ

ในยมโลก 99% ส่วนใหญ่จะเป็นผีทั่วไป ส่วนผีบำเพ็ญนั้นมีน้อยเพราะว่ากว่าจะบำเพ็ญมาถึงขั้นนี้ก็มีน้อยมากอยู่แล้ว

แค่พูดถึงขั้นตอนเปลี่ยนไอหยินเป็นพลังหยิน ผีทั่วไปจะไม่สามารถทำได้และแม้แต่พลังยินก็ไม่สามารถรู้สึกได้

ในยมโลกพลังหยินในไอหยินก็เหมือนกับไอเทพในอากาศของโลกมนุษย์ ในโลกมนุษย์ก็เหมือนกันคน 99.9% ซึ่งเป็นส่วนใหญ่นั้นไม่สามารถรับรู้ถึงไอเทพในอากาศได้ หนึ่งคือไอเทพแทบจะหายไปและไม่มีแล้ว สองก็คือไม่มีคนที่สามารถบำเพ็ญไปถึงขั้นนั้น ถึงแม้จะเป็นนักพรตในอารามและฝึกฝนบำเพ็ญอยู่ทุกวันก็ไม่ใช่ทุกคนที่บำเพ็บได้จริงๆ หรือแทบจะไม่มีเลยก็ว่าได้ ได้แต่เรียกว่าเป็นการปรับสมดุลกายใจเท่านั้นเอง…

พอย้อนกลับมามองที่เป่า เมื่อกี้เขาเพิ่งจะถ่ายทอดพลังหยินในตัวให้เธอ และเธอก็ดูดซึมไปเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

จี้ฉางยังกังวลอยู่เลยว่าเธอไม่เคยบำเพ็ญมาก่อนคงไม่สามารถทำได้ ยังนึกอยู่เลยว่าควรจะทำยังไงดี

ปรากกไม่ใช่วันลูกศิษย์ทำไม่ได้

แต่เป็นเพราะเธอกลัวว่าจะดูดพลังหยินจากเขาไปจนหมดหรอเหรอ?

เพราะฉะนั้นก็เลยหาวิธีเรียนรู้ที่จะเปลี่ยนไอหยินที่อยู่รอบๆ ให้เป็นพลังหยินด้วยตัวเอง?

จี้ฉางใจอ่อนและจ้องไปที่เธอด้วยสายตาที่อ่อนโยน

“เป็นแล้วก็ดี” จี้ฉางเม้มปากเล็กน้อย “อาจารย์ก็ยังคง ‘ไร้ประโยชน์’ เช่นเคย ใช่หรือไม่”

เขายกมือขึ้น และข้อต่อที่เห็นชัดและนิ้วที่เรียวสวยแตะเบาๆ ที่ปลายจมูกของซู่เป่า

ซู่เป่าที่อยู่ในอ้อมแขนที่ยังคงปิดตาสนิท ถ้าเกิดการบำเพ็ญของเธอมีเสียงละก็ คงเป็นเสียงโครมๆ เหมือนตอนเธอกินข้าวแน่ๆ

จี้ฉางใช้ชุดผาวข้างนอกห่อหุ้มซู่เป่าไว้แน่นและกอดเธอไว้ในอ้อมแขน พลางมองไปรอบๆ ไปด้วย

แอ่งน้ำที่อยู่ตรงหน้าไม่มีน้ำแร่จิตญญาณเหลือแล้ว พอจะให้เดินลึกเข้าไปอีกหน่อยมันก็ไม่กล้าเข้าไป

เสี่ยวอู่ตรวจสอบแอ่งน้ําทีละแอ่ง แม้จะหนาวจนแข็งไปทั้งตัวก็ยังไม่วายที่จะพูดแซะว่า “เก็บไปจนเรียบเลยโว้ยๆ!”

“จนจริงๆ เลยโว้ย…”

ในที่สุดมันก็มาหยุดอยู่หน้าแอ่งน้ำที่หนึ่งและเห็นน้ำแร่จิตวิญญาณอยู่ตรงนี้เล็กน้อย

เสี่ยวอู่โน้มตัวลงไปเลียสองคํา เลียแบบเลียจริงๆ คาดว่าคงมีแค่หนึ่งหรือสองหยดเท่านั้นแหละ

“น่าสงสารสุดๆ” เสี่ยวอู่หมดอาลัยตายอยาก แต่เขาก็ยังคงค้นหาแอ่งน้ำอื่นๆ ต่อไป

พอได้เลียน้ำแร่จิตวิญญาณมาสักสองหยด ในที่สุดมันก็เริ่มมีแรงกลับมาบ้างเล็กน้อย น่าจะสามารถต้านทานความหนาวเย็นในส่วนลึกของถ้ำได้แล้ว

เสี่ยวอู่ก็เลยก้าวเข้าไปด้วยความยากลำบาก ได้ยินแต่เสียงน้ำหยดติ๋งๆ ลอยมา

ถึงแม้หินย้อยจะโดนซู่เป่าหักไปหมดแล้ว แต่ก็ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อโป่งน้ำที่อยู่ด้านบนเพราะมันก็ยังคงไหลอยู่เรื่อยๆ และแอ่งน้ำที่อยู่ด้านล่างก็ได้สะสมน้ำแร่จิตวิญญาณใหม่อีกครั้ง

คราวนี้เสี่ยวอู่ดื่มจนอิ่ม และเมื่อรู้สึกว่าพอแล้วก็รีบออกจากถ้ำ เพราะอุณหภูมิข้างในหนาวเกินไปสําหรับมัน

อย่างไรก็ตามพอเสี่ยวอู่มายืนอยู่บนก้อนหิน เสี่ยวอู่ก็ไม่รู้จะทำยังไงอยู่ดี

มันรู้สึกว่ามันบินขึ้นไปไม่ได้!

ถึงแม้ว่ามันจะบินขึ้นไปได้ แต่ใครจะรู้ว่ายังมีคนเลว (ตูซื่อหวัง) รออยู่ข้างบนหรือเปล่า ไม่แน่มันอาจจะโดนเอาไปย่างกินก็ได้

เสี่ยวอู่ก็เลยยืนอยู่บนก้อนหินขนาดใหญ่อยู่อย่างนั้นด้วยสีหน้าเศร้าโศกและจู่ๆ ก็ร้องเพลงเศร้าโศกเสียใจขึ้นมาซะงั้น

“กรงเอ้ยกรงเหล็กขังตัวเราอยู่อย่างงี้…”

“มือจับกรง~~~มองออกไปนอกหน้าต่าง…”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน