ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน นิยาย บท 88

ในห้องที่ไม่มีแสงไฟ ต้องอาศัยแสงจันทร์ที่สาดส่องเข้ามา จึงจะพอมองเห็นดวงตาของชายชุดดำได้บ้าง ผมสีดำหยิกเล็กน้อยห้อยอยู่เหนือคิ้วของเขา และแสงในดวงตาสะท้อนแสงที่รุนแรงภายใต้แสงจันทร์

ในเวลานี้โทรศัพท์ของเขาดังขึ้นและเขาก็รับมัน ในห้องที่เงียบสนิททำให้ได้ยินเสียงปลายสายอยากแผ่วเบา

“คุณท่านกวน เสียชีวิตลงแล้ว เมื่อเวลาสามนาฬิกาห้าสิบนาทีของบ่ายวันนี้ เพื่อนบ้านของถังเถียนเถียนไปเจอเข้า…”

“คนที่ไปตระกูลกวนด้วยกันก็มีซูอีเฉิน ซูเหอเหวินลูกชายของเขา หลานสาวของเขา ซูจื่อซู่ จากตระกูลซู แล้วก็ผู้ช่วยชวีเสี่ยง…”

“…ซากกระดูกใต้สนามฟุตบอลของโรงเรียนประถมนานาชาติอู่เซี่ยง บันทึกของตำรวจระบุว่าเป็นของคุณท่านกวนที่กลับมาก่อนออกเดินทาง และแน่นอนว่ามีกระดูกฝังอยู่ใต้สนามเด็กเล่นด้วย...”

ชายในชุดดำเย้ยหยัน

อากวนกลับมาไขคดีงั้นเหรอ

เขาไม่เชื่อ

“ทำไมตระกูลซูถึงไปอยู่ที่นั่นด้วย”

ปลายสายพูดว่า “ตระกูลซูต้องแวะไปที่ตระกูลถังแต่แรกอยู่แล้ว…”

หลังจากปลายสายพูดจบ ชายในชุดดำก็พูดอย่างเย็นชาขึ้นมา “ตรวจสอบดูว่าใครที่เข้าไปยังตระกูลกวนในวันนี้บ้าง แล้วส่งรูปถ่ายมาให้ฉันทั้งหมด”

หลังจากที่เขาพูดจบ เขาก็วางสายและยัดโทรศัพท์ลงในกระเป๋า

ชื่อของเขาคือมู่กุยฝาน ซึ่งปู่ของเขาเป็นคนตั้งชื่อให้ หวังอยากให้เขาฟื้นคืนสู่ภาวะปกติ ใช้ชีวิตได้เหมือนคนธรรมดาสามัญทั่วไป

แต่คุณปู่ของเขาเสียชีวิตไปเมื่อสิบแปดปีที่แล้ว

ก่อนตายคุณปู่ได้บังเอิญพบกับนักธุรกิจผู้หนึ่งซึ่งก็คืออากวน โดยคุณปู่ไว้วางใจและมั่นใจว่าอากวนต้องตามหาเขาเจออย่างแน่นอน

เขาใช้เวลาอยู่หลายสัปดาห์กว่าจะทราบเรื่องนี้ แต่ก็เสียดายที่มาช้าเกินไป เขามีเรื่องสำคัญมากที่ต้องถามอากวน แต่ตอนนี้กลับไม่มีโอกาสนั้นอีกต่อไปแล้ว

มู่กุยฝานยืนขึ้น และหายไปอย่างรวดเร็วท่ามกลางความมืดมิด

**

คืนนั้นซู่เป่านอนหลับสนิท

เธอฝันถึงชายคนหนึ่งที่ตัวสูงกว่ากรอบประตู เขาบอกว่าเป็นพ่อของเธอ แต่เมื่อเขาเข้ามายังประตู หัวของเขากระแทกกับกรอบประตูอย่างแรง

ซู่เป่าหัวเราะคิกคัก

จี้ฉางที่พึ่งกลับมาจากข้างนอกเห็นเจ้าแก้มก้อนที่กำลังนอนหลับไปอมยิ้มไป ไม่รู้ว่าเธอฝันอะไรอยู่ หัวเราะคิกคักขึ้นมา แก้มป่องดั่งมะเขือเทศสองลูกมาผุดอยู่ที่หน้าเธอ

จี้ฉางสวมชุดคลุมสีขาว ใบหน้าอันซีดเซียวเล็กน้อยของเขาก็ปรากฎรอยยิ้มอันอ่อนโยน และเขาก็เอื้อมมือไปลูบผมของซู่เป่า

“เจ้าเด็กโง่เอ้ย”

วันต่อมา

ซู่เป่าตื่นขึ้นมาตอนเก้าโมงเช้า นายหญิงซูรีบผลักประตูเข้ามาอย่างร้อนรน ราวกับกลัวว่าเจ้าแก้มก้อนจะหายไปซะอย่างนั้น

แต่ภาพที่เห็นคือซู่เป่าในสภาพที่อาบน้ำแต่งตัวเรียบร้อย และกำลังใส่รองเท้าอยู่

“คุณยาย อรุณสวัสดิ์ค่ะ! ” ซู่เป่ายิ้มกว้างอย่างสดใส

ดูเหมือนอารมณ์ของนายหญิงซูจะสว่างไสวราวกับแสงแดดขึ้นมาทันใด และเธอก็ยิ้มจนรอยย่นก็ปรากฏขึ้นที่หางตาของเธอ “เด็กดี ทำไมตื่นเช้าจังล่ะจ๊ะ”

ซู่เป่าตอบ “เสี่ยวอู่ปลุกหนูขึ้นมาค่ะ!”

นอกระเบียงคือเสี่ยวอู่เกาะอยู่บนมุ้งกันยุง ส่ายหัวและร้องเพลงสุดเสียง “ก๊าบ ก๊าบ ก๊าบ! เป็ดอาบน้ำในคลอง! ตาก็จ้องแลมอง! เพราะในคลองมีหอยปูปลา!”

นายหญิงซูยิ้มมุมปากเล็กน้อย

ตอนแรกที่ซีเฉินบอกว่าวิวนอกระเบียงจะเป็นวิวป่าฝน เธอไม่เห็นด้วย

เพราะรู้สึกว่านกตัวนี้จะส่งเสียงดังเกินไป

ซู่เป่าเด็กดีของเธอก็เติบโตขึ้นทุกวันทุกวัน ต้องได้รับการพักผ่อนอย่างเต็มที่ ถ้าหากเสียงพวกนั้นรบกวนเธอกลางดึกล่ะ

นายหญิงซูบ่นจุกจิก ตำหนิซูอีเฉินว่าไม่ฟังความผู้ใหญ่เลย

ซู่เป่าอดไม่ได้ที่จะยิ้มขึ้นมา เธอจับมือนายหญิงซูแล้วเดินตามวีลแชร์แล้วเดินออกไป

“คุณยายคะ เสี่ยวอู่ตอนกลางคืนเขานอนก็ไม่ส่งเสียงดังแล้วค่ะ”

เช่นเดียวกับมนุษย์ นกแก้วไม่สามารถมองเห็นในเวลากลางคืนโดยไม่มีแสงไฟ

พอตกดึกก็ต้องการการนอนหลับ ทั้งคืนจึงเงียบมาก เว้นแต่จะมีคนสะกิดหรือตกอยู่ในอันตรายจึงจะร้องเสียงแหลมขึ้นมา

ณ ชั้นล่าง

ซูอีเฉิน ซูเหอเหวิน และลูกชายของเขาซูเหอเวิ่นสามคนนั่งอยู่หน้าโต๊ะ กำลังรับประทานอาหารเช้า

คนหนึ่งกำลังดูแท็บเล็ตและจัดการวางแผนธุรกิจ

คนหนึ่งถือหนังสือพิมพ์และอ่านข่าว

อีกคนหนึ่งถือหนังสือเลขคณิตศาสตร์ นั่งกินข้าวไป วิเคราะห์ไป

พวกเขาต่างทำหน้าที่ของตัวเองและไม่มีใครยุ่งเกี่ยวกัน

คุณท่านซูวางถ้วยชาไว้ข้างๆ แล้วพูดด้วยสีหน้าเรียบเฉย “กินข้าวก็คือกินข้าวสิ จับปลาสองมือกันจริงๆ ”

ตั้งแต่ซู่เป่ากลับมา ตระกูลซูก็ไม่ได้มีการรวมตัวตอนเช้ากันเป็นเวลานานแล้ว

คุณท่านซูเป็นคนที่เข้มงวดมาก ปกติเขาไม่ค่อยพูด แต่หากได้เอ่ยปากพูดแล้ว ทุกคนต่างต้องพากันเกรงใจ

ซูอีเฉินวางแท็บเล็ตลง ซูเหอเหวินและซูเหอเวิ่นวางสมุดคณิตศาสตร์และหนังสือพิมพ์ลงด้วย เมื่อได้ยินเสียงเดินลงบันได ซูเหอเวิ่นคิดว่าเป็นซู่เป่า และหันไปดูทันที

แต่กลับเป็นหานหานที่ใส่สลิปเปอร์วิ่งลงมา

เธอมองไปรอบๆ แล้วถามว่า "ซู่เป่าล่ะ"

หานหานแอบหงุดหงิด เธอยังไม่ลงมาอีกเหรอ

เมื่อวานมาไม่เห็นใครก็ช่างมัน แต่วันนี้อุตส่าห์มาแต่เช้าตรู่เชียวนะ!

ซูเหอเวิ่นพูดด้วยความเย้ยหยัน: "ชิ วันนี้ยัยโรคเจ้าหญิงตื่นแต่เช้าเลยนะ! "

หานหานตะคอกอย่างโมโห หันกลับมาด้วยใบหน้าบูดบึ้งและกำลังจะเดินกลับห้อง ไม่ต้องการทานอาหารเช้าเลยแม้แต่นิดเดียว

คุณท่านซูขมวดคิ้ว “จะไม่ทักทายกันก่อนหรือ กินข้าวก่อนสิแล้วค่อยไปนอน! ”

ซูอีเฉินพูดเบา ๆ ว่า "พ่อ อย่าเข้มงวดนักสิ"

คุณท่านซูหัวเราะเยาะ "ฉันก็เข้มงวดกับทุกคนนั่นแหละ!"

หานหานเดินลากเท้าแล้วจากไป เธอไม่อยากทานอาหารเช้า สักนิดก็ไม่อยาก และเธอมีนิสัยไม่ชอบทานอาหารเช้ามาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว

ในเวลานี้ ลิฟต์มีไฟกะพริบ จากนั้นซู่เป่ากับนายหญิงซูก็เดินออกมา

ดวงตาของหานหานเป็นประกาย เธอรีบแสร้งทำเป็นกัดซาลาเป่านึ่งอย่างไม่สนใจอะไร

ซู่เป่าตะโกน “พี่หานหานอรุณสวัสดิ์ พี่ชายอรุณสวัสดิ์ คุณลุงใหญ่อรุณสวัสดิ์ คุณตาอรุณสวัสดิ์!”

คุณท่านซูพยักหน้าตอบรับ พร้อมพูดด้วยเสียงอันอ่อนหวาน “ซู่เป่าลูก…”

ซูเหอเหวินและซูเหอเวิ่นหันไปมองคุณท่านซูทันที และซูอีเฉินก็เงยหน้าขึ้นตาม

‘เข้มงวดกับทุกคนนั่นแหละ’ งั้นเหรอ

คุณท่านซูกระแอม ดูนาฬิกาแล้วพูดว่า “ซู่เป่า เก้าโมงแล้ว วันหลังตื่นให้มันเช้ากว่านี้หน่อย! เข้าใจไหม”

นายหญิงซูควบคุมรถเข็นเข้ามาแล้วตักโจ๊กข้าวฟ่างให้ซู่เป่า ขณะเดียวกันก็จ้องมองไปที่นายท่านซู “จะตื่นเช้าไปให้ใครดูกัน คิดว่าตัวเองเป็นเจ้าของบริษัทหรือยังไง!”

คุณท่านซูเม้มริมฝีปาก

ซู่เป่าหัวเราะคิกคักแล้วพูดว่า “ทราบแล้วค่ะคุณตา วันหลังเดี่ยวหนูตื่นเช้าๆ เลย เอาให้เช้ากว่าไก่อีก”

คุณท่านซูตอบ “ไม่ต้องเช้าขนาดนั้นหรอก…”

ซูอีเฉิน ซูเหอเหวินและซูเหอเวิ่นก็ยังคงมองไปที่เขา

คุณท่านซูไม่พูดอะไรต่อ “…”

เมื่อทานอาหารเช้าเสร็จ ซูอีเฉินต้องพาซู่เป่าไปที่ตระกูลมู่อีกครั้ง

เมื่อวานอากวนบอกว่านามสกุลพ่อของซู่เป่าคือ มู่ หลังจากการหารือกันเรียบร้อยแล้วตระกูลซูก็เลยตัดสินใจว่าจะไปเยี่ยมสักหน่อย

ตระกูลมู่มีคนหนึ่งอายุราวๆ ยี่สิบห้าถึงยี่สิบหกปีพอดี ได้ยินมาว่าเป็นหลานชายของสาขาครอบครัวเล็ก ๆ ในตระกูลมู่ เมื่อส่งคนไปสืบดู ก็ตรงตามที่อากวนกล่าวไว้จริงๆ

สถานที่ที่ตระกูลมู่ตั้งอยู่นั้นใกล้กับบริเวณตระกูลซือ

แต่ตระกูลซือตั้งอยู่ในเขตทหาร ส่วนตระกูลมู่นั้นตั้งอยู่ในย่านเศรษฐีที่มีรัฐบาลปกครองอยู่

รถค่อยๆ เคลื่อนตัวออกไปบนถนน ซู่เป่าเกาะหน้าต่างแล้วถอนหายใจเฮือกใหญ่ออกมา

บนถนน มีผู้หญิงในชุดสีแดงกำลังรอสัญญาณไฟจราจร...

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน