ทางเดินตอนเที่ยงคืน เมื่อเดินเยอะก็ต้องเจอผีแน่ๆ ยิ่งไปกว่านั้นซู่จื่อเหมิงยังเดินคนเดียวถือสองขม.
ซู่เป่าถามขึ้น “งั้นคุณลุงไม่ได้มาหาน้าเหรอคะ”
ซินจื่อเหมิงส่ายหัว “เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าฉันกลับไปจริง ฉันเดินไป น้ำตาไหลไป รู้สึกสิ้นหวังมากเลย ฉันหาเงินมากมายขนาดนั้นไปเพื่ออะไรกัน”
ใบหน้าซู่เป่าเต็มไปด้วยความไม่เข้าใจ “งั้นทำไมน้าไม่บอกเขาล่ะ”
ซินจื่อเหมิงถอนหายใจ “ฉันไม่อยากพูด ไม่มีประโยชน์”
ซู่เป่า “……”
จี้ฉาง “……”
ซูอีเฉินขมวดคิ้ว เขาไม่เคยยุ่งเรื่องของคนอื่นมาก่อน แต่รอบนี้เขาทนฟังไม่ได้จริงๆ
เขาพูดเสียงเย็น “คุณทำเพื่ออะไร”
หาเงินแล้วยังต้องแบกรับอารมณ์ งั้นการหาเงินจะไปมีความหมายอะไรอีก
เราหาเงินอย่างสุดกำลังก็เพื่อไม่ให้ตนเองต้องอัดอั้น อยากใช้ชีวิตอย่างไรก็ใช้ชีวิตแบบนั้น
เมื่อคนอื่นอยากมาขี่หัวคุณ เราสามารถเอาคืนได้อย่างหนัก
จี้ฉางกอดอกยืนอยู่อีกฝั่ง ส่ายหัวรัวๆ “แบบนี้หากไม่หย่าถือว่าคุณทำตัวเองทั้งนั้น”
ซู่เป่าพยักหน้า พูดด้วยน้ำเสียงเหมือนเธอเข้าใจ “ใช่ หย่าสิ!”
พูดถึงการหย่า ซินจื่อเหมิงพูดอย่างลังเล “จริงๆ สามีฉันก็เป็นคนดี อย่างน้อยก็ไม่เคยนอกใจ…”
ประโยคนี้ฟังแล้วมันชวนหมดคำพูดจริงๆ แม้แต่จี้ฉางเองยังไม่รู้ว่าต้องพูดอะไรต่อ
ซู่เป่าพูดอย่างประหลาดใจ “น้าซิน นี่เป็นเรื่องที่ควรทำอยู่แล้วไม่ใช่เหรอคะ”
ผู้ใหญ่ทั้งสองคนแต่งงานกัน การรักษาสัญญาเป็นสิ่งที่ควรทำอยู่แล้วไม่ใช่หรือไง
ซู่เป่าเคยเห็นในละครมาก่อน คุณป้ากับคุณลุงแต่งงานกัน พวกเขาจะสาบานด้วยความหนักแน่น
พวกเขาบอกจะซื่อสัตย์ต่อคู่ร่วมชีวิตทั้งในยามสุข และ ยามทุกข์ ทั้งในเวลาป่วยและเวลาสบาย เพื่อรักและยกย่องให้เกียรติจนกว่าชีวิตจะหาไม่
เรื่องที่สมควรทำอยู่แล้ว ทำไมถึงกลายเป็นข้อดีได้กัน
ซู่เป่ารู้สึกว่าตนเองยังเด็กเกินไป เธอคิดจนหัวโต ก็ไม่เข้าใจเหตุผลของเหล่าผู้ใหญ่อยู่ดี
ซู่เป่าส่ายหัว พูดอย่างตั้งใจ “น้าซิน วันนี้ซู่เป่าจะขับไล่ความโชคร้ายออกไปให้ หวังว่าต่อจากนี้น้าซิงจะกล้าหาญมากขึ้นนะ”
“เรื่องที่ไม่ชอบ ต้องพูดว่าไม่อย่างกล้าหาญ!”
ซินจื่อเหมิงอึ้งไป มองเจ้าแก้มก้อนที่เพิ่งอายุไม่กี่ขวบตรงหน้า
จู่ๆ เธอก็รู้สึกว่าเธอยังสู้เด็กคนหนึ่งไม่ได้เลย
จริงๆ บางครั้งเธอก็อยากจะพูดว่าไม่ออกมาอย่างกล้าหาญ โวยวายแบบไม่สนใจทุกอย่าง
แต่โลกคนของผู้ใหญ่ ทำตามใจได้เยอะแยะขนาดนั้นที่ไหนกัน
กลัวทะเลาะกันแล้วจะกระทบต่อลูก กลัวว่าทะเลาะกันแล้วจะกระทบต่ออารมณ์ กลัวว่าคนอื่นจะเอาไปหัวเราะ
มีครั้งหนึ่งเธอทะเลาะกับสามีครั้งใหญ่ ปรากฏว่ารอบนั้น เธอเขียนไม่ออกแม้แต่ตัวเดียวถึงสามวันเต็มๆ
สุดท้ายจึงปล่อยผ่านไปเช่นนั้น
เพราะงั้นการทะเลาะกันไม่มีประโยชน์ ไม่พูดยังดีเสียกว่า
ซินจื่อเหมิงบ่นๆ พักๆ กล่าวโทษไม่หยุด เพียงแต่แววตาของเธอเริ่มไร้สติ และเริ่มเหม่อลอย
ราวกับหุ่นกระบอกที่ไร้ซึ่งวิญญาณ กล่าวบ่นเช่นนั้นซ้ำๆ ราวกับหุ่นยนต์
จี้ฉางเก็บมือ พร้อมกล่าว “พอแล้ว รีบจับเถอะ!”
เขาฟังแล้วรู้สึกรำคาญใจ
“นี่เป๋าน้อย อ่านตามข้า…”
ดวงตาของเขากระพริบ เผยเป็นแววดื้อดึงนัยน์ตา “โอมเพี้ยง เจ้าชั่ว จงปรากฏตัว!”
ซู่เป่าพูดตามเสียงดัง “โอมเพี้ยง เจ้าชั่ว จงปรากฏตัว!”
ซูอีเฉิน “?”
จู่ๆ เขาก็เห็นบนไหล่ซินจื่อเหมิงมีเงาดำออกมา
ในใจของซูอีเฉินตกใจ ตั้งใจมองดูอีกทีกลับไม่มีอะไรทั้งนั้น เหมือนเมื่อกี้เป็นเพียงการคิดไปเองของเขา!
สายตาของซู่เป่าย้ายจากตัวซินจื่อเหมิง ไปที่ผีขี้ขลาดบนไหล่ของเธอ
เธอเลียนแบบท่าทีของจี้ฉาง “เจ้าชื่ออะไร เกิดเมื่อใด และที่ใดกัน?”
ผีขี้ขลาดขมวดคิ้ว พูดอย่างลังเล “ฉันชื่อพันเจิ้นเอ๋า คนเมืองอวี่…”
เจ้าก้อนแป้งยกน้ำเต้าขึ้นมา ร้องตะโกนเสียงดัง “พันเจิ้นเอ๋า หากข้าเรียกชื่อเจ้า เจ้ากล้าขานรับหรือไม่?”
จี้ฉาง “……”
ซูอีเฉิน “……”
ผีขี้ขลาด “……”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน
ไม่ลงต่อแล้วหรอคะ 🥹...
รอทุกวันเลยค่ะ...
กระโดดข้ามหายไปหลายตอนเลยค่ะ...
1293 1297 1298 หายค่ะ 🥲🥲...
ตอนที่ 1288 หายไปค่ะ...
เย้...กลับมาแล้ว รอทุกวันเลยค่ะ...
หายไปนานจังเลยนะจ๊ะรอลงตอนใหม่อยู่นะคะ...
รอค่ะ...
ทำไมรอบนี้หลายไปนานคะ หรือไปบงที่อื่นคะ...
บทที่ 1268 แล้วกระโดดไป 1278 เลย บทที่ 1269 1270 1271 1272 ข้ามไปทั้งหมด 4 ตอนนะคะ...