ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน นิยาย บท 97

การปล่อยโฮรออกมาของผีขี้ขลาด ทำทุกคนคิดไม่ถึง

ไอพิฆาตของเขาเติบโตขึ้นเป็นเท่าตัว และเขาจมปลักอยู่ในความเศร้าโศกของตนเอง

ไอพิฆาตทำวิชาสะกดจิตที่จี้ฉางร่ายไว้พัง จู่ๆ ซินจื่อเหมิงก็ได้สติ เธอเงยหน้า…

มองไปทางกระจกบานใหญ่ของกำแพงห้อง เห็นว่าบนหัวของเธอมีเด็กผู้ชายใส่ชุดนักเรียนคนหนึ่งเกาะอยู่!

ในปากของเขากระอักเลือดออกมาคำใหญ่ เพราะร้องไห้เศร้าโศกเกินไป ใต้ตาของเขาจึงไหลออกมาเป็นน้ำตาเลือดสองแถว

“แม่เจ้า!” ซินจื่อเหมิงร้องอย่างตกใจ ล้มลงจากบนเก้าอี้ทันที แก้วบนโต๊ะตกแตก สลายกลายเป็นเศษกระจก

มือของเธอกดไปบนเศษกระจก เลือดไหลออกมาเต็มฝ่ามือในทันที!

จู่ๆ เรื่องราวก็ควบคุมไม่ได้!

เลือดของซินจื่อเหมิงย้อมผีขี้ขลาดจนกลายเป็นสีแดง ผีขี้ขลาดทั้งร้องไห้ทั้งหัวเราะ อ้าปากกัดไปบนหน้าของเธอ…

“พระเจ้า!” ซินจื่อเหมิงใช้แขนขาร่วมกัน ดึงใบหน้าตนเองอย่างสุดแรง

คิดจะกระชากผีร้ายบนหัวลงมา

แต่เธอแตะต้องผีร้ายได้ที่ไหนกัน ทำได้เพียงข่วนไปที่ใบหน้าตนเองเรื่อยๆ กระชากผมของตนเอง

แขนทั้งสองของจี้ฉางก่อตราประกาศิตขึ้นมาอย่างรวดเร็ว ยกพร้อมโยนไปทางซู่เป่า…

“จงออกโรง! พิคาซู่!”

ซู่เป่า “เอ้ะ? เอ๋???”

เดี๋ยวสิ เธอจะออกโรงยังไงล่ะ!

เธอไม่ใช่พิคาชูสะหน่อย เธอปล่อยไฟฟ้าไม่เป็น!

ว่าแล้ว ท่านอาจารย์เป็นผู้ชายที่พึ่งพาไม่ได้ที่สุดในโลกเลย!

ซู่เป่าบินขึ้นไปเป็นเสียง ฟิ้ว ในมุมของซูอีเฉิน เห็นเพียงจู่ๆ ซู่เป่าก็กระโดดขึ้นมา

ด้วยความสูงสามฟุต

จากนั้นตะครุบลงไปบนหัวของซินจื่อเหมิง

จี้ฉางพูดสอนอยู่ด้านข้าง “หาวิธี ให้มันและซินจื่อเหมิงแยกจากกันก่อน”

ซู่เป่า “แยกออกจากกัน…แยกกัน!”

เธอเกาะแขนข้างหนึ่งของผีขี้ขลาดเอาไว้ ดึงไปด้านหลังอย่างสุดแรงเกิด ราวกับกำลังดึงแครอท

“ฮึบ!”

ซู่เป่าออกแรง ดึงแขนผีขี้คลาดหลุดลงมาข้างหนึ่งทันที

ซินจื่อเหมิง “……”

เธอตกใจจนแทบสลบ

ซู่เป่า “น้าซินอย่าเพิ่งรีบ!”

พูดจบเธอก็จับผมของผีขี้ขลาด ดึงไปด้านหลังอย่างสุดแรงอีกครั้ง

เสียง เป๊าะ ดังขึ้นเบาๆ หัวของผีขี้ขลาดถูกดึงลงมา

แต่ตัวของผีขี้ขลาดกลับยังคงเกาะอยู่บนตัวของซินจื่อเหมิงราวกับปลิง

ซินจื่อเหมิงกรอกตา สลบไปอย่างไม่ลังเล

ซู่เป่า “เอ่อ”

เธอไม่ได้ตั้งใจนะ เธอไม่ได้ตั้งใจจริงๆ

ซู่เป่ากัดฟัน จู่ๆ ก็คิดถึงวิชาควบคุมผีที่จี้ฉางเคยสอน

เธอท่องคาถาอย่างรวดเร็ว จับหลังของผีขี้ขลาดไว้อีกครั้ง ในที่สุดรอบนี้เธอก็ดึงผีขี้ขลาดออกจากตัวของซินจื่อเหมิงได้อย่างสำเร็จ!

นัยน์ตาของจี้ฉางฉายแววชื่อชม จากนั้นเขาก็เก็บคาถาผนึกวิญญาณบนปลายนิ้วกลับมาอย่างเงียบๆ

ผีขี้ขลาดยังคงร้องไห้อย่างอารมณ์ร้าย ซู่เป่าปลอบไปด้วย พร้อมประกอบหัวและแขนของเขากลับไปให้

“พี่ ใจเย็นๆ หน่อยนะ” ซู่เป่ากล่าว “เร็วเข้า หายใจเข้าลึกๆ ใจเย็นๆ!”

“เชื่อฟังหน่อย! ถ้าเลิกร้องไห้เดี๋ยวซู่เป่าให้กินลูกอม”

จี้ฉางมองซู่เป่าที่กำลังปลอบผีราวกับปลอบเด็ก มุมปากกระตุก

จะได้ผลเหรอ

ผีจะหายใจเข้ายังไง ผีจะกินลูกอมยังไง!

ดูท่าคงต้องให้เขาออกโรง ซู่เป่าสามารถทำคนเดียวได้ถึงขั้นนี้ ก็ถือว่าดีมากๆ แล้ว!

จี้ฉางกำลังจะลงมือ กลับได้ยินผีขี้ขลาด ‘เรอ’ ครั้งหนึ่ง มือเล็กๆ ของซู่เป่ายังคงตบไปที่หลังของเขา ราวกับมีพลังวิเศษบางอย่าง ทำให้เขารู้สึกใจเย็นลงจริงๆ!

ซู่เป่าค้นกระเป๋า ล้วงลูกอมที่เธอซ่อนเอาไว้อย่างดีออกมาสองเม็ด

แกะเปลือกลูกอม ให้ผีขี้ขลาดเม็ดหนึ่ง ถือโอกาสยัดใส่ปากตัวเองเม็ดหนึ่ง

ผีและเจ้าก้อนแป้ง ยืดขา นั่งกินลูกอมกันอย่างเงียบๆ

จี้ฉาง “???”

แบบนี้ก็ได้เหรอวะ?

ได้ยินเพียงซู่เป่ากล่าว “พี่ พูดต่อสิ เกิดอะไรขึ้นต่อเหรอ”

ผีขี้ขลาดเงียบลง จากนั้นกล่าวต่อ “หลังจากนั้น…หลังจากที่ฉันตาย พ่อแม่ฉันก็ย้ายออก”

“ส่วนคนที่ลงมือทำฉัน เพราะไม่มีพยานหลักฐาน ไม่มีกล้องวงจร ปกติฉันก็ไม่เคยพูดมาก่อน หลังจากที่พ่อแม่ฉันย้ายออกไปครึ่งปี เรื่องก็ถูกปล่อยผ่านไปเช่นนั้น”

แต่ก็เป็นเรื่องใหญ่ที่ทุกคนต่างรู้กันหมด

หลังจากที่พ่อแม่เขาย้ายออก บ้านที่พวกเขาเคยอยู่ ก็กลายเป็นบ้านผีเหี้ยน

มีนักพรตฝึกหัดมาขับไล่ผี แต่ไล่เขาออกไปไม่ได้ กลับขังเขาไว้ในห้องนั้นแทน ไม่ว่าจะขัดขืนอย่างไรเขาก็ออกไปไม่ได้

จี้ฉางพยักหน้าพร้อมพูดกับตัวเอง “ใช่ หนึ่งในเหตุผลที่ทำให้เกิดเป็นผีร้าย คือการติดอยู่ในที่ที่เสียชีวิต ประสบช่วงเวลาการตายซ้ำๆ”

ผีขี้ขลาดถูกขังอยู่ในห้องนั้น ประสบความสิ้นหวังเมื่อตอนก่อนตายอย่างไม่หยุดพัก

เขามองร่องประตูนั้นซ้ำๆ ทุกคืนวัน ดูพ่อแม่ทะเลาะกันทุกคืนวัน

เขาตะโกนอย่างสุดชีวิต แต่ไม่มีใครสนใจเสียงร้องขอความช่วยเหลืออันแผ่วเบาของเขา

เขาเห็นความหวังกลายเป็นความสิ้นหวังกับตาตนเอง ตายไปภายใต้การทรมานของความเจ็บปวด ความเสียใจ ความคับแค้นทารุณเขาอย่างไม่จบไม่สิ้น สันดานเขาก็เป็นคนเลวอยู่แล้ว……

ซู่เป่ามองไปทางผีขี้ขลาดอย่างเห็นใจ รู้สึกว่าเขาน่าสงสาร

“พี่ งั้นพี่เข้ามาในน้ำเต้าเองเถอะ ซู่เป่าไม่จับพี่แล้ว” เจ้าก้อนแป้งพูดด้วยเสียงนุ่มนิ่ม

จี้ฉางกำลังจะบอก ที่ผีร้ายเป็นผีร้ายได้นั้น เพราะไม่ว่าพวกเขาจะตายได้น่าสงสารขนาดไหน แต่สันดานพวกเขาเป็นคนเลว…

กลับเห็นผีขี้ขลาดพยักหน้า ตอบอย่างสบายๆ “ได้”

จี้ฉาง “……”

ซู่เป่ายกน้ำเต้าวิญญาณของเธอขึ้นมาอีกครั้ง ตะโกนขึ้นมาอย่างกะทันหัน “พี่พันเจิ้นเอ๋า หากหนูเรียกชื่อพี่ พี่กล้าขานรับไหม”

จู่ๆ พันเจิ้นเอ๋าก็หัวเราะ ตอบพร้อมพยักหน้าอย่างหนัก “อื้ม”

เขามองซู่เป่าอย่างลึกซึ้งครั้งหนึ่ง

ทั้งตอนอยู่และหลังตาย นี่เป็นครั้งแรกที่มีคนให้ลูกอมกับเขา

เงาดำก้อนหนึ่งลอยขึ้นมา เข้าไปในน้ำเต้าวิญญาณเงียบๆ

จี้ฉางเงียบไปพักใหญ่

พูดจริงๆ เดิมทีผีขี้ขลาดก็เป็นเพียงเด็กคนหนึ่ง

เด็กที่เงียบและใจดี

เขาส่ายหัวน้อยๆ เขียนบางอย่างลงในตำรา แล้วปิดตำราลง

ซู่เป่าเขย่าน้ำเต้าวิญญาณ พูดอย่างดีใจ “ท่านอาจารย์ หนูรู้สึกว่าน้ำเต้าจะเต็มแล้ว!”

มุมปากของจี้ฉางกระตุก “อีกนาน!”

ใบหน้าของซู่เป่าเบะลง “หา? แล้วจะเต็มเมื่อไรเหรอคะ”

จี้ฉางยื่นมือ พู่กันแท่งหนึ่งถูกเสกออกมา

เขาวาดขีดทั้งหมดสิบเส้นลงบนน้ำเต้าที่มีขนาดเท่าเล็บ

“เอ้า ลองเขย่าดู เห็นสีของน้ำเต้าไหม”

ซู่เป่าเบิกตาโพล่ง

จี้ฉางกล่าว “ตอนนี้ถึงขีดแรกแล้ว เมื่อมันถึงขีดที่สิบ น้ำเต้าก็จะเต็ม”

ซู่เป่าพยักหน้าอย่างร่าเริง

เหมือนจะไม่ได้ยากมาก!

ความเคลื่อนไหวของห้องดึงดูดพนักงานมา

ซู่เป่าเห็นแก้วที่ตกแตก จู่ๆ ก็รู้สึกกลัว “ลุงใหญ่…”

ซูอีเฉินนั่งมองซู่เป่าจับผี ถึงเขาจะไม่เห็นผี แต่ก็รู้สึกตะลึง

เขาได้สติจากความอึ้ง พร้อมกล่าว “ไม่เป็นไร ไม่ต้องกลัว”

มีเขาอยู่!

พนักงานหลายคนเคาะประตู เห็นพื้นที่สภาพยุ่งเหยิงและซินจื่อเหมิงที่สลบอยู่บนพื้น

“คุณคะ นี่มัน…” พนักงานตกใจ

สีหน้าซูอีเฉินนิ่งเฉย พูดด้วยเสียงอ่อนๆ “เด็กชอบเล่น ผมตามใจเธอเอง มีปัญหางั้นเหรอ”

พนักงาน “มะ-ไม่ค่ะ แต่…”

ซูอีเฉินหยิบบัตรขึ้นมาใบหนึ่ง “ผมชดใช้ร้อยเท่า”

ก็แค่แก้วกาแฟแตกไปไม่กี่ใบ เงินแค่นี้เขาไม่หวั่นสักนิด

พนักงาน “เอ่อ!”

ซูอีเฉิน “มีปัญหาอีกงั้นเหรอ”

พนักงาน “ไม่มีปัญหาค่ะ เพียงแต่คุณผู้หญิงท่านนี้…”

ซูอีเฉิน “คุณว่างมากหรือไง”

พนักงานข้างๆ รีบลากพนักงานที่กำลังพูดออก “ขออภัยที่รบกวนค่ะ”

ประตูปิดลง ใช้พลังแห่งเงินแก้ไขปัญหาได้อย่างสมบูรณ์แบบ

ซู่เป่ามองซูอีเฉินอย่างนับถือ ชูนิ้วโป้งตัวใหญ่ๆ ขึ้นมา “ขอบคุณค่ะลุงใหญ่! ลุงใหญ่เก่งที่สุด!”

พลังแห่งเงินนี่มันเจ๋งจริงๆ!

อนาคตเธอก็จะเรียนพลังแห่งเงิน!

**

ซินจื่อเหมิงไม่รู้ว่าเธอกลับบ้านมาได้อย่างไร

ในหัวของเธอสั่นวืดๆ ซู่เป่าเพียงแค่พูดบอกง่ายๆ ว่ามีผีอยู่บนตัวเธอ เป็นผีขี้ขลาด ชื่อพันเจิ้นเอ๋า

ตอนนี้ผีถูกจับไปแล้ว แต่เธอยังคงสั่นระริกอย่างหยุดไม่ได้

ซินจื่อเหมิงเปิดโทรศัพท์ เสิร์ชหาชื่อพันเจิ้นเอ๋า ในที่สุดก็หาข่าวเมื่อสิบปีที่แล้วจนเจอ

เด็กหนุ่มคนหนึ่งถูกกลั่นแกล้งระหว่างทางกลับบ้าน แต่เพราะนิสัยเก็บตัว จนเขาตายไปพ่อแม่เพิ่งรู้เรื่องที่เขาถูกรังแก และเพิ่งรู้ว่าเขาถูกกระทืบจนอวัยวะภายในเลือดออก…

ซินจื่อเหมิงสั่นอย่างอดไม่ได้ เธอจับไปที่หยกที่ห้อยอยู่บนคอของเธอโดยไม่รู้ตัว

‘น้าซิน ซู่เป่าจับผีไปแล้ว นี่ ซู่เป่าใส่ความกล้าเข้าไปในหยกของน้าแล้ว! หลังจากนี้น้าจะต้องส่องแสงทอประกาย แล้วเดินหน้าอย่างกล้าหาญนะ’

คำพูดของซู่เป่ายังคงดังอยู่ข้างหูเธอ เธอจับหยกเอาไว้ ไม่รู้ว่าคิดไปเองหรือเปล่า แต่เธอรู้สึกอบอุ่นขึ้นจริงๆ

เวลานี้ประตูเปิดออก สามีและแม่สามีของเธอกลับมาแล้ว ด้านหลังยังตามมาด้วยอาสองและเด็กนิสัยเสีย

ทันทีที่เด็กนิสัยเสียกลับมา มือไม่ล้างก็วิ่งไปหยิบเครื่องดื่มในตู้เย็น รอยมือดำๆ เปื้อนไปทั่ว

แม่สามีเห็นซินจื่อเหมิงที่นั่งอยู่ในห้องรับแขก ดึงหน้าเดินเข้าห้องพร้อมปิดประตูดัง ปัง!

สามีของซินจื่อเหมิงขมวดคิ้ว พูดอย่างไม่พอใจ “ยังไงกันแน่ ดูบ้านกันอยู่ดีๆ ทำไมถึงกลับก่อน ชักสีหน้าอะไรใส่แม่ฉันด้วย”

ญาติของเขาก็ยังอยู่ เธอใส่อารมณ์ และชักสีหน้าให้ใครดูกัน!

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน