ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน นิยาย บท 99

ระหว่างทางที่กลับไป

จู่ๆ ซู่เป่าก็กอดซูอีเฉินเอาไว้ เงยหน้าพร้อมเอ่ยถาม “ลุงใหญ่ร่างกายไม่ดีงั้นเหรอ”

ซูอีเฉินชะงัก

“ไม่เป็นไร” ซูอีเฉินมองตกพร้อมลูบไปที่หัวของเธอเบาๆ “ลุงสบายดี”

หลายปีมานี้ น้องสาวซูจิ่นอวี้หายตัวไป เขาเสียกำลังแรงและใจไปมาก

ด้านหนึ่งเขาต้องสืบค้นข้อมูลทั้งหมดของน้องสาว ทำให้ไม่สามารถสงบจิตในการตัดสินใจได้

ส่วนอีกด้านธุรกิจตระกูลซูกำลังเผชิญกับช่วงสำคัญในการพัฒนา เขาจึงจำเป็นต้องค้ำจุนไว้

ดังนั้น มีแต่เวลากลางดึกเขาถึงจะสงบอารมณ์ทำงานได้ จนเริ่มกลายเป็นนิสัย ที่เขาจะนอนเวลาตีสามตีสี่ทุกวัน

จนถึงตอนนี้ เขาเกิดความบกพร่องด้านการนอนหลับอย่างหนัก

ร่างกายก็พังเพราะเขา มีอาการปวดหัวตาพร่ามัวอยู่บ่อยๆ

ซู่เป่าถามอย่างจริงจัง “ลุงใหญ่ กลางคืนลุงไม่ได้นอนหลับดีๆ ใช่ไหม”

ซูอีเฉินชะงัก “ซู่เป่าได้ยินใครบอกมางั้นเหรอ”

ซู่เป่าส่ายเชือกแดงบนข้อมือของตน “น้าสาวขี้เหร่บอก”

“น้าสาวขี้เหร่จะออกไปเดินเล่นตอนกลางคืน บางครั้งเธอก็ชอบเกาะหน้าต่างดูลุงใหญ่”

ต่อหน้าลุงใหญ่ที่ซู่เป่าเชื่อใจที่สุดนั้น เธอไม่ได้ปิดบังอะไรทั้งนั้น

ซูอีเฉิน “……”

เขามองไปทางเชือกแดงบนข้อมือเธอทีหนึ่ง

จินตนาการถึงภาพนั้น…เขากำลังทำงานอย่างจดจ่อ แต่มีผีสาวตัวหนึ่งกำลังเกาะดูเขาอยู่ที่ริมหน้าต่าง…

“แค่ก” ซูอีเฉินกระแอมกลบเกลื่อน “ซู่เป่า หนูวาดยันต์เป็นไหม”

ซู่เป่าพยักหน้า “เป็นสิ ลุงใหญ่จะเอายันต์อะไรเหรอ”

ซูอีเฉิน “ยันต์กันผี”

ซู่เป่า “……”

เธอมองซูอีเฉินด้วยแววตาบีบเค้น “ลุงใหญ่ ลุงกลัวผีใช่ไหม”

สีหน้าของซูอีเฉินคงเดิม ตอบด้วยน้ำเสียงอ่อนๆ “ไม่ใช่สักหน่อย”

ซู่เป่าแสดงสีหน้า ‘หนูรู้แต่หนูไม่พูด’ ออกมา ตบไปที่แขนของลุงใหญ่ “ลุงใหญ่ ไม่เป็นไรนะ หนูเข้าใจ”

ซูอีเฉิน “……”

ทะเล้นจริงๆ เด็กคนนี้!

**

กลับถึงตระกูลซู สิ่งที่เธอเจออย่างแรกคือการป้อนดูแลจากคุณยายอย่างไม่ต้องสงสัย

หลังกินอิ่ม นายท่านซูสีหน้าเคร่งขรึม จากนั้นก็เรียกซูอีเฉินไปที่ห้องหนังสือ

ซู่เป่าอยู่เป็นเพื่อนกับนายหญิงซู นวดขาให้เธอไปพร้อมพูดเจี๊ยวจ๊าวไปสักพัก จากนั้นจึงวิ่งกลับห้องไป

บนใบหน้าของนายหญิงซูแฝงไปด้วยรอยยิ้ม ขาที่ถูกซู่เป่านวดมักให้ความรู้สึกที่สบาย ราวกับสามารถลุกขึ้นได้ในวินาทีต่อมา

ซู่เป่าวิ่งกลับห้อง นอนวาดรูปอยู่บนโต๊ะ

รูปที่หนึ่ง เป็นคุณยายนั่งอยู่บนรถเข็น เจ้าตัวน้อยพูดเสียงเบา ‘ขาคุณยายไม่ดี’

รูปที่สอง ชายคนหนี่งกำลังยุ่งกับงาน นอกหน้าต่างเป็นดวงดาว พระจันทร์…แล้วก็ผีสาวตัวหนึ่ง ซู่เป่าพูดเสียงเบา ‘ลุงใหญ่นอนไม่หลับ’

เสี่ยวอู่กระโดดไปมาอยู่บนโต๊ะ กระโดดไปร้องเพลงไป “นองม่ายหลับ(นอนไม่หลับ) นองม่ายหลับ(นอนไม่หลับ) กิ่งน้ามหอม(กลิ่นน้ำหอม)…เตียงกำลังโยก~โลกหมุนกลับด้าน~อยากให้พลิกตัวแล้วเห็นคุณอยู่ด้านข้างเหลือเกิน…ヾ(≧O≦)〃 วู้ว~”

เมื่อมันร้องเสียงสูงเสียงสุดท้าย ก็ยืดขาเตะเต่าตกจากโต๊ะไป

เต่า “……”

รังแกที่มันพูดไม่ได้งั้นเหรอ

โชคดีที่โต๊ะไม่สูงมาก บนพื้นก็ปูพรมอยู่ กระดองของมันจึงไม่แตก

เจ้าเต่าแก่คลานไปหลายก้าว หดตัวอยู่ข้างเท้าของซู่เป่า

จี้ฉางปิดตำราด้วยรอยย่นเต็มหน้าผาก เขาขมวดคิ้วพร้อมกล่าว “เจ้านกนี่ช่างพูดมากเสียจริง”

ซู่เป่าถามขึ้น “ท่านอาจารย์ มีวิธีรักษาโรคนอนไม่หลับไหม”

จี้ฉางพิงอยู่ริมหน้าต่าง พูดอย่างเชื่องช้า “มีสิ่งใดที่อาจารย์ของเจ้าทำไม่ได้ด้วยงั้นหรือ ตำหรับยานอนไม่หลับ ต้องมีอยู่แล้ว”

“ฟังไห้ดีนะ ต้องใช้ยาจีนเหล่านี้ ตังเซียม ผัดไป๋จู๋ ปักคี้ร้อน โป่งรากสน…”

เขาไม่คาดหวังให้ซู่เป่าจำได้ จึงพูดยาจีนทั้งหมด 11 ชื่อไปในทีเดียว

ยังไงพอไปถึงร้านยาเขาก็ต้องพูดทวนอีกครั้ง

ซู่เป่าเขียนบนกระดาษไปพร้อมพูดทวน “ตังเซียม ผัดไป๋จู๋ ปักคี้ร้อน โป่งรากสน…”

ไม่ผิดแม้แต่คำเดียว

ในใจของจี้ฉางตะลึง เจ้าแก้มก้อนนี่ ความจำดีขนาดนี้เชียว?

เขียนหนังสือได้ด้วยเหรอ

เขารีบยื่นหน้าเข้าไปดู เห็นเพียงกระดาษที่ถูกขีดเขียนมั่วๆ

“นี่คืออะไร” มุมปากจี้ฉางกระตุก

ซู่เป่าชี้ไปทางคนถือเหรียญที่เธอวาดในกระดาษ “นี่คือตังค์ไง ตอ อะ งอ ตังค์ ท่านอาจารย์โง่จังเลย”

“ส่วนนี่คือเซียน ดูสิเขาอยู่บนสวรรค์”

“เซียนกำลังถือตังค์ ตังเซียน”

จี้ฉางตะลึงจนขนหัวลุก

“เพราะงั้นอันนี้คือผัดไป๋จู๋เหรอ” เขาชี้ไปที่กระทะใบยักษ์ มีคนคนหนึ่งกำลังผัดช้างทั้งตัวอยู่

หนำซ้ำเธอยังอุตส่าวาดช้างอยู่ในแผ่นป้ายอีก

ซู่เป่า “อื้ม ผัดป้ายจู๋”

จี้ฉาง “……”

ซู่เป่าวาดยาจีนทั้ง 11 อย่างจนเสร็จ จึงพับกระดาษ และวิ่งออกไปด้านนอกอย่างรวดเร็ว

“หนูจะไปหาลุงใหญ่”

ซู่เป่าหนีไปแล้ว เสี่ยวอู่สะบัดปีกบินลงบนพื้น จากนั้นก้าวขาถ่างวิ่งตามหลังซู่เป่า

คุณปู่เต่ายืดคอ เดินตามหลังนกแก้วอย่างเชื่องช้า

จี้ฉางคิดบางอย่างในใจ และลอยตามอยู่ด้านหลังอีกที

ซู่เป่าวิ่งเข้าห้องหนังสือ ได้ยินด้านในพูดกันพอดี “พ่อของซู่เป่า…”

เจ้าตัวน้อยชะงัก คุณปู่และคุณลุงกำลังพูดถึงเรื่องพ่องั้นเหรอ

พวกเขาอยากหาพ่อให้เธอกันใช่ไหม

หรือพวกเขา…จะส่งเธอไปอยู่กับพ่อ

ซู่เป่าเม้มปาก กระดาษที่อยู่ในมือถูกกำแน่น

นกแก้วยื่นหัวเข้าไปในซอกประตู ร้องตะโกนคำหนึ่ง “พ่อ! พ่อ!”

ซูอีเฉินหันหน้าไป เห็นซู่เป่ายืนทำตัวไม่ถูกอยู่ทางหน้าประตู

กระดาษที่ถืออยู่ในมือของเธอ ถูกขยำจนยับ

“ซู่เป่า” ซูอีเฉินรีบเดินเข้ามาหาเธอในทันที และอุ้มเธอขึ้นมา

ซู่เป่าเบะปาก น้ำตาเอ่อล้นอยู่ในขอบตา “ลุงใหญ่ ลุงจะส่งซู่เป่าไปงั้นเหรอคะ”

“ไม่ใช่สักหน่อย” ซูอีเฉินปฏิเสธในทันที “ลุงใหญ่แค่กำลังคุยกับคุณปู่”

ใบหน้าเข้มงวดของนายท่านซูก็อ่อนโยนลงอย่างไม่รู้ตัว เขาพูดปลอบ “ซู่เป่าเป็นเจ้าหญิงตัวน้อยของตระกูลซูตลอดไป ใครก็เอาไปไม่ได้ทั้งนั้น”

ซู่เป่าไม่ตอบ

ซูอีเฉินและนายท่านซูสบตากัน

ซู่เป่าน่ารักใสซื่อมากก็จริง แต่เธอก็ฉลาดมากๆ เช่นกัน

ไม่ได้หลอกง่ายเหมือนเด็กคนอื่นๆ

เงียบไปพักหนึ่ง นายท่านซูพูดกล่าว “วันนี้ตอนเช้า มีคนมาหาซู่เป่า เขาบอกว่าเขาเป็นพ่อของซู่เป่า เขาชื่อมู่กุยฝาน”

ซู่เป่าชะงัก

เธอมีพ่อที่แซ่มู่จริงๆ งั้นเหรอ?

ซูอีเฉินพูดต่อ “เขาอยากเจอซู่เป่า แน่นอนว่า หากซู่เป่าไม่อยากเจอเขาเราก็ปฏิเสธได้”

“ซู่เป่าอยากเจอเขาไหม”

ซูอีเฉินมองไปทางซู่เป่า ไม่รู้ทำไม นายท่านซูรู้สึกตื่นเต้นอย่างไม่ทราบสาเหตุ

แค่คิดถึง ‘หัวหน้าแก๊งอาชญากรรม’ ที่เจอเมื่อเช้านี้…

ซู่เป่าไตร่ตรองสักพัก “เจอที่นี่เหรอ”

มองเจ้าแก้มก้อนที่รู้สึกระแวง ซูอีเฉินตอบยืนยัน “อืม เจอที่ตระกูลซู”

ในที่สุดซู่เป่าก็พยักหน้า “ได้สิ”

**

กองทหารแห่งหนึ่ง

ประชุมกำลังดำเนิน

มู่กุยฝานหมุนปากกาอย่างไม่ใส่ใจ ปากกาเซ็นชื่อสีดำวนอยู่ในนิ้วมือเรียวยาวของเขาอย่างคล่องแคล่ว

“เรื่องนี้ต้องให้เสี่ยวมู่ไปเอง” ผู้นำออกคำสั่ง เขาหันหน้าไป เห็นมู่กุยฝานกำลังหมุนปากกา

“เสี่ยวมู่!” ผู้นำหน้าบึ้งตึง

มู่กุยฝานส่งเสียง อืม ทีหนึ่ง “สองวัน ผมจัดการให้ภายในสองวัน”

ทุกคน “???”

เขาได้ฟังหรือเปล่า ปลายทางภารกิจรอบนี้อยู่ที่ประเทศเหมยโจว แค่บินไปบินกลับก็ต้องใช้เวลาถึงหนึ่งวันเต็มๆ แล้ว

หากภารกิจไม่ยาก พวกเขาคงไม่เรียกมู่กุยฝานที่กำลังพักผ่อนอยู่ให้กลับมาหรอก

มู่กุยฝาน “มีคำถามอีกเหรอ”

ผู้นำท่านอื่นๆ “……”

แกต่างหากที่เป็นผู้นำ

“ถ้าไม่มีผมขอตัว ผมรีบ” มู่กุยฝานพูดไปพร้อมลุกขึ้น ก้าวขายาวของเขา หายไปจากห้องประชุม

ลูกน้องของเขารีบกล่าวขอโทษ ฝ่ามือเต็มไปด้วยเหงื่อ

“นายท่าน!” ลูกน้องวิ่งตามมู่กุยฝานจนทัน

มู่กุยฝานมาถึงคลังอาวุธ สวมใส่เครื่องมืออย่างเด็ดขาด จากนั้นถามเสียงเย็นชา “ทำไม”

ลูกน้องชะงักไปพักหนึ่ง พร้อมกล่าว “งานเลี้ยงวันเกิดอายุ 60 ของนายหญิงตระกูลมู่ เธอฝากเส้นสายมาหลายชั้น อยากเชิญนายท่านออกงาน ท่านตกลงหรือไม่…”

ท่าทีมู่กุยฝานชะงัก เขาหัวเราะเสียงเย็น “ตอบพวกเขาว่าฉันจะไป…”

ป้ายแห่งเกียรติยศของคุณปู่เขา ถึงเวลาที่เขาจะไปชิงกลับมาแล้ว

“จริงด้วย ฝากบอกเจ้าตัวน้อยที่แสนน่ารักที ว่าให้เธอไปด้วย เดี๋ยวพ่อช่วยเธอแก้แค้นเอง”

ลูกน้อง “???”

ขานตัวเองว่าพ่อเร็วขนาดนี้เชียว

ยังไม่ทันเจอหน้าเลย…

**

ตระกูลมมู่

นายหญิงมู่ที่ได้รับข่าว ตื่นเต้นจนร่างกายสั่นคลอน

เทพรบท่านนั้นเป็นบุคคลที่ทรงอิทธิพลในตอนนี้เชียว

บุคคลใหญ่โตเช่นนี้ จะมาฉลองวันเกิดให้เธอกับมืองั้นเหรอ

“เร็วเข้า รีบสั่งลูกน้อง จัดงานให้ใหญ่! ใหญ่อลังการ! อลังการจนทุกคนต้องรู้เรื่อง”

คุณท่านมู่ลูบหนวดสีหงอกของตน ตัดสินใจอย่างเด็ดขาด “เหล่าต้ารีบเขียนบัตรเชิญ เชิญทุกคนที่สามารถเชิญได้มาให้หมด”

เทพรบมาเยือนตระกูลมู่ เพื่อฉลองวันเกิดให้นายหญิงมู่…ข่าวสารแบบนี้ ไม่รู้จะทำให้คนมากมายขนาดไหนต้องอิจฉาตาร้อน

นี่เป็นโอกาสที่ดีในการสานสัมพันธ์และขยายแวดวงกับตระกูลอื่นๆ ของพวกเขา!

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน