อาจารย์เหลามีน้ำเสียงที่เย็นชาและถามกลับไปว่า “ทำไมฉันจะต้องไปงานนิทรรศการภาพวาดของเธอ แล้วไม่ไปร่วมงานแต่งของตระกูลซูด้วยล่ะ?”
เย่ชิงกระอักเลือด ขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน “อาจารย์ คุณเป็นอาจารย์ของหนูนะ! ตอนนี้หนูยังตั้งหลักได้ไม่มั่นคง คุณไม่คิดจะช่วยเหลือกันบ้างเลยเหรอ…”
อาจารย์เหลาพูดตัดตอนคำพูดของเธอไปว่า “ซู่เป่าก็เป็นลูกศิษย์ของฉันเหมือนกัน”
เย่ชิง “…”
อาจารย์เหลาพูดต่อไปอีกว่า “ว่าไปแล้ว การช่วยเหลือคือบุญคุณ ไม่ช่วยเหลือคือหน้าที่ ฉันหวังว่าในเมื่อเธอได้รับบุญคุณและใช้ชื่อเสียงของฉันแล้ว อย่าคิดว่าเป็นเรื่องที่สมควรจะได้รับ”
“ลูกศิษย์ของฉัน ฉันก็ต้องพยายามปูเส้นทางให้อย่างสุดความสามารถ แต่เธอจะต้องเป็นลูกศิษย์ของฉันก่อน”
เมื่ออาจารย์เหลาพูดจบ ก็ได้วางสายโทรศัพท์ลง
เย่ชิงอึ้งไปชั่วครู่
เมื่อได้ยินเสียงวางสายดังขึ้น หัวสมองของเธอก็อื้ออึงไปหมด
คำพูดของอาจารย์หมายความว่าอย่างไร?
อะไรคือเธอจะต้องเป็นลูกศิษย์ของฉันก่อน เธอก็เป็นลูกศิษย์ของเขาอยู่แล้วนี่นา!
เขาไม่ใช่คนไร้เยื่อใยแบบนี้ ไม่เห็นแก่ความสัมพันธ์ระหว่างอาจารย์และลูกศิษย์ที่ผ่านมาตั้งสิบปี จะตัดขาดความสัมพันธ์กับเธอจริงหรือ?
“เป็นไปไม่ได้…”
เย่ชิงสงบจิตใจลงชั่วครู่ และทบทวนคำพูดที่เธอได้พูดกับอาจารย์ไปในเมื่อสักครู่ รู้สึกว่าพูดเกินไปบ้างเล็กน้อย…
เป็นเพราะว่าเธอ…วิตกกังวลเรื่องนิทรรศการภาพวาดจนเกินไป เลยทำให้ควบคุมสติอารมณ์ไม่อยู่?
เธอไม่มีเจตนาเช่นนั้น
เย่ชิงรีบโทรศัพท์กลับไปอย่างไว แต่ครั้งนี้อีกฝ่ายไม่ยอมรับสายโทรศัพท์ โทรกี่ครั้งก็ไม่มีคนสายเลย
เธอได้วีดีโอคอลหาเขาอีกครั้ง ปลายสายก็ยังไม่ยอมรับสาย ข้อความที่ส่งไปก็ไม่มีการตอบกลับมา
ถึงแม้ว่าจะไม่ได้ขึ้นบัญชีดำเบอร์โทรของเธอ แต่ก็ไม่สนใจเธอเลยสักนิด
เย่ชิงขาอ่อนไปหมด ล้มตัวลงนั่งบนโซฟา
ไม่ได้ ตอนนี้เธอได้เสียคุณซูไปแล้ว จะเสียงานไปอีกไม่ได้…(พูดเหมือนกับว่าตัวเองเคยมีมาก่อน)
เย่ชิงรีบคว้ากระเป๋า และมุ่งหน้าไปที่งานแต่งบ้านตระกูลซูอย่างเร่งรีบ
เสี่ยวจ้าววิ่งตามออกมา “อาจารย์เย่ งานนิทรรศการของท่านยังไม่สิ้นสุดเลย ท่านจะไปที่ไหน?”
เย่ชิงทิ้งคำพูดไว้ว่า “งานที่เหลือมอบให้เธอจัดการต่อไปได้เลย!”
หลังจากเย่ชิงออกไปแล้ว มีจิตกรวัยรุ่นบางคนที่ชื่นชอบผลงานของเธอได้มาหาเธอ แต่ก็หาไม่เจอ เสี่ยวจ้าวตอบกลับไปว่าอาจารย์เย่มีธุระออกไปแล้ว
จิตกรวัยรุ่นรู้สึกผิดหวังมาก นี่เป็นนิทรรศการภาพวาดของตัวเอง แต่กลับหนีออกไปก่อนงานเลิกได้อย่างไร
คงจะไม่เห็นพวกเขาอยู่ในสายตา
ดังนั้น การที่เย่ชิงมักกล่าวคำหนุนใจให้กับจิตกรวัยรุ่น ที่จริงแล้วคือกำลังดูถูกพวกวัยรุ่น แม้แต่ออกมาพบหน้าพวกเขายังไม่อยากจะมา เหตุการณ์นี้ได้ถูกเผยแพร่ออกไปอีก…
เย่ชิงมุ่งหน้าไปที่งานแต่งงานของซูอีเฉิน แต่เสียดายที่เข้าไปไม่ได้
มีผู้คนที่ผ่านไปมาพากันมุงดูกันอย่างหนาแน่น เธอไม่สามารถเบียดเสียดเข้าไปแม้แต่วงนอก…
เธอรู้สึกไม่ยอม และพยายามเบียดเสียดเข้าไป จนผมเผ้ากระเซอะกระเซิง ลิปสติกเลอะปากไปทั่ว สุดท้ายก็ได้ทันเห็นตอนจบของงานแต่ง แขกเหรื่อพากันเดินทางกลับไป ซูอีเฉินจูงมือเหยาหลิงเยว่ยืนอยู่หน้าประตูคอยส่งแขกกลับบ้าน
เย่ชิงเพิ่งจะเดินเข้าไปได้อีกก้าว จู่ๆก็มีส้อมเหล็กโผล่ออกมา
ลุงหนิวเลิกคิ้วขึ้น และพูดตะโกนเสียงต่ำว่า “โอ้! ฉันจำหน้าเธอได้ คุณผู้ชายของฉันก็มีภรรยาแล้วยังจะมาหาถึงที่อีก ดันออกไป!!”
เย่ชิงถูกส้อมเหล็กอันใหญ่ขวางกั้นเอาไว้ จนต้องถอยหลังไปเรื่อยๆ ทันใดนั้นก็เกิดเท้าพลิก…จนล้มลงกับพื้นอย่างทุลักทุเล
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน
ไม่ลงต่อแล้วหรอคะ 🥹...
รอทุกวันเลยค่ะ...
กระโดดข้ามหายไปหลายตอนเลยค่ะ...
1293 1297 1298 หายค่ะ 🥲🥲...
ตอนที่ 1288 หายไปค่ะ...
เย้...กลับมาแล้ว รอทุกวันเลยค่ะ...
หายไปนานจังเลยนะจ๊ะรอลงตอนใหม่อยู่นะคะ...
รอค่ะ...
ทำไมรอบนี้หลายไปนานคะ หรือไปบงที่อื่นคะ...
บทที่ 1268 แล้วกระโดดไป 1278 เลย บทที่ 1269 1270 1271 1272 ข้ามไปทั้งหมด 4 ตอนนะคะ...