ป๋อซือเหยียนมองไปตามสายตาของเลขาหลี่
สีแดงนั้นช่างโดดเด่นมากท่ามกลางฝูงชน
เสิ่นม่านที่ใส่ชุดเดรสยาวสีไวน์แดง ทุกการเคลื่อนไหวและรอยยิ้มของเธอนั้นสามารถกระชากใจของผู้คนได้ ช่างภาพของสื่อต่างๆต่างก็มุ่งความสนใจไปที่การถ่ายรูปของเสิ่นม่าน ชั่วพริบตานั้น เธอเหมือนกับซุปเปอร์สตาร์ที่กำลังเดินอยู่บนพรมแดง
เสิ่นม่านงั้นเหรอ?
ป๋อซือเหยียนตกตะลึงอยู่พักหนึ่ง ก่อนที่เขาจะจำได้ว่าเป็นเสิ่นม่าน
ในอดีต เสิ่นม่านชอบแต่งหน้าเบาๆ ใส่กระโปรงที่สง่างาม นี่เป็นครั้งแรกที่ป๋อซือเหยียนเห็นเสิ่นม่านแต่งตัวแบบนี้
สีหน้าของซูเฉี่ยนเฉี่ยนไม่ค่อยดีนัก เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่เธอเห็นเสิ่นม่าน
เมื่อเทียบกับความงามอันน่าเย้ายวนของเสิ่นม่านแล้ว ซูเฉี่ยนเฉี่ยนก็ดูจืดชืดไปเลยอย่างเห็นได้ชัด เหมือนกับนักศึกษาที่ไม่บรรลุนิติภาวะ
“พี่เสิ่น.... สวยจังเลย”
น้ำเสียงของซูเฉี่ยนเฉี่ยนมีความอิจฉาเล็กน้อยปนอยู่
เมื่อเสิ่นม่านเห็นป๋อซือเหยียนกับซูเฉี่ยนเฉี่ยน เธอก็เดินตรงมาที่พวกเขาสองคน
ซูเฉี่ยนเฉี่ยนคิดว่าเสิ่นม่านที่ไม่รู่เรื่องอะไรคงจะรู้สึกกระอักกระอ่วนที่เห็นเธอควงแขนป๋อซือเหยียน แต่เธอกลับคิดไม่ถึงว่าเสิ่นม่านดูเหมือนจะรู้เรื่องนี้อยู่ก่อนแล้ว ใบหน้าของเสิ่นม่านเต็มไปด้วยรอยยิ้มที่สงบ
“คุณผู้หญิงป๋อนี่ แล้วผู้หญิงที่อยู่ข้างๆประธานป๋อคือใครหละ?”
นักข่าวและสื่อต่างๆถกเถียงกันเบาๆ
เสิ่นม่านเดินตรงไปควงแขนป๋อซือเหยียน แล้วยื่นมืออีกข้างไปทักทายซูเฉี่ยนเฉี่ยนพร้อมพูดด้วยรอยยิ้ม “เธอเป็นนักศึกษาฝึกงานที่ป๋อซือเหยียนพูดถึงก่อนหน้านี้สินะ สวัสดีจ้ะ ฉันชื่อเสิ่นม่าน เธอเรียกฉันว่าคุณผู้หญิงป๋อได้นะ”
ซูเฉี่ยนเฉี่ยนชักมือที่ควงแขนป๋อซือเหยียนอยู่กลับไปด้วยความรู้สึกกระอักกระอ่วน และจับมือกับเสิ่นม่านเบาๆ
“สวัสดีค่ะ คุณผู้หญิงป๋อ”
คำว่าคุณผู้หญิงป๋อดูเหมือนจะติดอยู่ในคอของเธอ
เสิ่นม่านพูดต่อ “ฉันได้ยินป๋อซือเหยียนบอกว่าเธอเป็นนักศึกษาที่เขาอุปการะให้การสนับสนุน และอีก2ปีมีแผนจะไปเรียนที่ต่างประเทศสินะ?”
ซูเฉี่ยนเฉี่ยนแอบมองไปยังป๋อซือเหยียน
ป๋อซือเหยียนพูด “ผลการเรียนของซูเฉี่ยนเฉี่ยนนั้นเยี่ยมมาก ปีนี้เลยจะได้ไปเรียนต่างประเทศ แต่เธอไม่ค่อยมีความกล้า วันนี้ผมเลยพาเธอมาเปิดหูเปิดตา”
ใช่สิ ครั้งนี้แค่พาซูเฉี่ยนเฉี่ยนมาเปิดหูเปิดตา
ในเวลานี้ ป๋อซือเหยียนยังไม่ได้ตกหลุมรักซูเฉี่ยนเฉี่ยนอย่างสมบูรณ์ แต่หลังจากที่ซูเฉี่ยนเฉี่ยนกลับมาจากไปเรียนต่างประเทศ ป๋อซือเหยียนถึงจะตกหลุมรักซูเฉี่ยนเฉี่ยนอย่างแท้จริง
แต่ตอนนี้ ไม่ว่าป๋อซือเหยียนจะไปงานไหนๆ เขาก็จะพาซูเฉี่ยนเฉี่ยนไปด้วย พาไปบ่อยจนคนในเมืองไห่ล้วนทราบดีว่าป๋อซือเหยียนชอบนักศึกษาสาวมหาลัยคนหนึ่ง
แต่เรื่องพวกนี้สำหรับเสิ่นม่านในตอนนี้นั้นไม่สำคัญอีกต่อไป
เสิ่นม่านมาร่วมงานประมูลในครั้งนี้ ไม่ได้มาเพื่อแย่งป๋อซือเหยียนกับซูเฉี่ยนเฉี่ยน แต่เธอมีเป้าหมายที่สำคัญกว่านั้น
“ซือเหยียน นายดูแลน้องซูดีๆหละ ฉันเข้าไปข้างในก่อนนะ”
เสิ่นม่านก็ปล่อยมือที่ควงแขนป๋อซือเหยียนออก
ป๋อซือเหยียนตกใจไปครู่หนึ่ง
เขาคิดไม่ถึงว่าจะได้ยินคำพูดนี้ออกมาจากปากของเสิ่นม่าน
เมื่อป๋อซือเหยียนได้สติ เสิ่นม่านก็เดินเข้าไปในงานแล้ว
ป๋อซือเหยียนขมวดคิ้ว
เสิ่นม่านที่ปกติจะโวยวายและไม่ค่อยฟังอะไรกลายเป็นคนที่พูดจาดีแบบนี้ไปตั้งแต่เมื่อไรกัน?
เสิ่นม่านนั่งอยู่ตรงมุมที่ไม่ค่อยเป็นจุดสังเกต ในงานประมูลครั้งนี้มีแต่ผู้ที่มีอิทธิพลในเมืองไห่
หากเสิ่นม่านจำไม่ผิด การประมูลครั้งนี้จะมีที่ดินร้างแห่งหนึ่งที่ไม่มีใครต้องการ จึงถูกนักธุรกิจรายย่อยซื้อไป ต่อมาที่ดินตรงนั้นก็มีราคาสูง เนื่องจากอสังหาริมทรัพย์รอบๆนั้นกลายเป็นอสังหาที่มีมูลค่ามหาศาล สามารถพูดได้ว่า ทุกตารางนิ้วล้วนเป็นเงินเป็นทอง
สิ่งนี้จึงทำให้นักธุรกิจรายย่อยที่ไม่ค่อยมีใครรู้จักกลายเป็นนักธุรกิจรายใหญ่ในเวลาต่อมา
ในเมื่อเสิ่นม่านได้วางแผนที่จะออกจากชีวิตป๋อซือเหยียนแล้ว เธอก็ควรหาทางออกให้กับตัวเอง
หลังจากที่ป๋อซือเหยียนนั่งลงในงานประมูล เขาก็มองไปรอบๆเพื่อมองหาร่างของเสิ่นม่าน และซูเฉี่ยนเฉี่ยนที่อยู่ข้างๆก็พูดขึ้นมาว่า “ประธานป๋อ.....ตอนประมูลคุณจะให้ฉันเป็นคนชูป้ายจริงๆเหรอคะ?”
ป๋อซือเหยียนถูกเสียงของซูเฉี่ยนเฉี่ยนดึงให้กลับมา แล้วเขาก็พูดว่า “อืม ผมเชื่อในสายตาของเธอ”
ใบหน้าของซูเฉี่ยนเฉี่ยนเป็นสีแดงขึ้นมาเล็กน้อย
ซูเฉี่ยนเฉี่ยนเรียนเกี่ยวกับการเงินที่มหาลัยมานานก็เพื่องานวันนี้เท่านั้น
เสิ่นม่านที่อยู่ชั้นสองมองไปที่ป๋อซือเหยียนกับซูเฉี่ยนเฉี่ยนที่ดูกำลังพูดคุยกันอย่างมีความสุข
ซูเฉี่ยนเฉี่ยนเป็นคนมีความสามารถ นี่ก็เป็นหนึ่งในเหตุผลที่ทำให้ป๋อซือเหยียนสนใจในตัวซูเฉี่ยนเฉี่ยนในอนาคต
เสิ่นม่านจำได้ว่าในชาติก่อน ซูเฉี่ยนเฉี่ยนได้ประมูลที่ดินคุณภาพสูงให้ป๋อซือเหยียน หลังจากนั้นป๋อซือเหยียนจึงมองเธอแตกต่างออกไปจากเดิม
แต่ในความเป็นจริง ที่ดินผืนนั้นไม่ได้แย่ตั้งแต่แรกแล้ว เพราะในละแวกใกล้เคียงมีอสังหาริมทรัพย์ของตระกลูป๋ออยู่รอบๆ ซูเฉี่ยนเฉี่ยนนำเงินของป๋อซือเหยียนมาโก่งราคาโดยไม่เกรงกลัวสิ่งใด เป็นผลให้ราคาที่ดินรอบๆของตระกูลป๋อก็ขึ้นไปด้วย ไม่ว่าอย่างไร ป๋อซือเหยียนก็ไม่มีทางจะขาดทุน
ที่ดินตรงนี้ ต่อให้ไม่มีซูเฉี่ยนเฉี่ยน ป๋อซือเหยียนก็จะประมูลมาให้ได้อยู่ดี
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตหลังความตายของเซินมาน