ช่วยข้าทีสองสามีของข้าคือท่านอ๋องจอมโหด NC25 3P นิยาย บท 23

เสียงฝีเท้าของม้ากำลังวิ่งกุบกับมาทางนี้ หนานอิงพลันรู้สึกเหมือนนางได้พบแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ บนเขาแห่งนี้ผู้ที่กลับมาย่อมเป็นท่านตาผู้นั้น

"ท่านตา เป็นท่านใช่หรือไม่ ช่วยข้าด้วย ช่วยข้าด้วย ข้าอยู่บนนี้เจ้าค่ะ ข้าอยู่บนนี้"

หนานอิงเปล่งเสียงอันแหบแห้งของตนเองออกไป รู้สึกเจ็บคอเป็นอย่างยิ่งก่อนหน้านี้นางก่นด่าสมน้ำหน้าตนเองทั้งร้องไห้ด้วยความเจ็บใจในวาสนาของตนเองจนน้ำตาเหือดแห้ง

ตั้งแต่เกิดมาในชีวิตของนางไม่เคยมีผู้ใดสักคนจะทำเช่นนี้กับนาง พี่น้องบ่าวไพร่ทุกคนเมื่อเห็นนางก็ล้วนมีแต่คำรื่นหูและเกรงกลัว ในยามนี้เมื่อหนานอิงตกอยู่ในเงื้อมมือคนเถื่อนจากสนามรบผู้นั้นทำให้หนานอิงผู้เคยเยือกเย็นถึงกับสติแตกไปแล้ว

เพียงเห็นมีดของเขาที่ข่มขู่ คำก็จะฆ่าสองคำก็จะเอาชีวิตหนานอิงคล้ายกำลังถูกจับแขวนอยู่บนขื่อ หวาดกลัวจนลนลานด้วยกลัวว่าเขาจะพลั้งมือฆ่านางเข้าจริง ๆ

เมื่อมีโอกาสนางจึงคิดเพียงแต่จะหนี แต่โลกนี้ช่างโหดร้ายไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบเหมือนดั่งเช่นที่นางเจอมาตลอดชีวิต นางกลายเป็นคนไร้สติเหตุผลทั้งหมดที่นางเคยมีและวิจารณญาณของนางแตกสลายเพราะหวาดกลัวเขาจนเกินไป

ในยามที่หนานอิงห้อยหัวอยู่ในตาข่ายนี้นางได้แต่คิดพิจารณาอย่างสงบหากนางรอดไปได้ในครั้งนี้หนานอิงไม่อาจเป็นหนานอิงผู้อ่อนแอและตื่นตระหนกคนเดิมได้อีกแล้ว

นางไร้สกุลหนานคอยหนุนหลัง นางไร้บิดาคอยพึ่งพิงกระทั่งมารดาของนางในตอนนี้ก็ยังคงรอนางอยู่ หนานอิงสวดมนต์อ้อนวอนต่อพระโพธิสัตว์ผู้เมตตา หากให้โอกาสนางอีกสักครั้งนางจะยินยอมทำทุกอย่างเพื่อมารดาของนางเอง

หนานอิงไม่ต้องการเป็นคุณหนูสกุลใด นางมีวิชาปรุงเครื่องหอมและทำเครื่องสำอางที่พอจะทำมาหากินได้โดยไม่อดตาย หวังเพียงมีท่านแม่และสาวใช้ข้างกายที่คอยดูแลกันและกันโดยไม่ต้องพึ่งพิงผู้อื่นหรือสกุลใหญ่โต

นางยินดีอยู่ในกระท่อมหลังเล็กที่อบอุ่นได้ปรนนิบัติท่านแม่ของนาง ตั้งใจว่าหากช่วยท่านแม่และอาโจวออกมาได้แล้วนางจะพาพวกเขาหลบไปอยู่เมืองเล็ก ๆ สักแห่งที่ไร้คนรู้จัก ตั้งต้นชีวิตใหม่กันตามประสาแม่ลูก 

นางไม่คิดแต่งให้บุรุษใดอีกต่อไป

นางจะได้รับโอกาสนั้นหรือไม่ คงได้แต่อ้อนวอนพระโพธิสัตว์แล้ว

เหมือนสวรรค์คล้ายจะเป็นใจเมื่อในที่สุดม้าสองตัวพลันหยุดอยู่เบื้องล่าง หนานอิงถูกห้อยอยู่เช่นนั้นมาเป็นระยะเวลาหนึ่งใบหน้าของนางจึงแดงก่ำดูน่าขันเป็นอย่างยิ่ง

ดวงตาของนางเบิกกว้าง คิดว่าตนเองเหตุใดซวยซ้ำซวยซ้อน เขาผู้นั้นหาใช่ท่านตาแต่เป็นบุคคลที่นางคุ้นหน้าคุ้นตาเป็นอย่างยิ่ง ยังมีบุรุษหน้าขาวผู้หนึ่งที่ขี่ม้ามาเคียงข้างเขา ที่นางจำไม่ได้ว่าเขาคือผู้ใด

หนานอิงบัดนี้ไม่กล้าขานนามลู่หนิงหวังของเขาแล้วด้วยมีประสบการณ์โดยตรงกับการเรียกนามของหานเซียว เสียงแหบแห้งเล็กแหลมฟังไม่ได้ความดังออกจากปากของนางแผ่วเบา

"ท่าน ช่วยข้าด้วย"

เพราะว่านางถูกห้อยอยู่บนที่สูงน้ำเสียงก็เบาเหลือเกิน คนทั้งสองจึงไม่ได้ยิน เพียงแต่ลู่หนิงหวังเห็นว่าตาข่ายดักสัตว์ตรงนี้ทำงาน คิดว่าจะได้กวางอ้วนสักตัวกลับไปเป็นอาหารเย็นคิดไม่ถึงว่าพอเงยหน้าขึ้นไปจบพบสตรีผู้หนึ่งในอาภรณ์สีตุ่นกำลังห้อยหัวลงมา

คงเป็นเพราะห้อยมาได้สักระยะใบหน้าและลำคอที่โผล่ออกมาจึงแดงก่ำ เลือดกำลังไหลลงที่ศีรษะของนาง หากปล่อยไว้เช่นนั้นอีกไม่นานสตรีผู้นั้นคงได้ตายเป็นแน่

ลู่หนิงหวังพลันมีโทสะ เขาก่นคำพูดออกมา

"สตรีผู้นี้ดื้อด้านจะฆ่าตัวตายเสียจริง เสียแรงที่ข้าบุกเข้าไปช่วยจนกระทั่งอาเซียวได้รับบาดเจ็บนางยังไร้จิตสำนึกคิดหนีมาอีก"

อ้ายเจิงเงยหน้าขึ้นมองไปยังสตรีร่างเล็กที่ถูกจับห้อยอยู่ในตาข่ายแล้วพลันตกตะลึง หาใช่กวางอ้วนอย่างที่พวกเขาเข้าใจแต่เป็นนางผู้นั้นอย่างชัดเจน แล้วเหตุใดนางจึงมาอยู่ที่นี่

"นายท่าน เป็นว่าที่หวาง..."

"หุบปาก"

แน่นอนว่าอ้ายเจิงยังไม่ทันเอ่ยจบคำ ก็ถูกตำหนิเสียแล้ว เขาเห็นท่าทางของนางที่กำลังดิ้นรนและใบหน้านั้นคล้ายจะดีใจ แต่เสียงที่เปล่งออกมาแหบโหยจนฟังไม่รู้เรื่อง ไม่รู้ว่านางกำลังพูดสิ่งใด

"ช่วยนางลงก่อนเถิด"

ลู่หนิงหวังเงยหน้าทั้งยังเอียงคอมองหนานอิงอย่างเย็นชา เขารู้ว่าสตรีผู้นี้อยากจะฆ่าตัวตายแต่ไม่คิดว่าจะใช้วิธีประหลาดเช่นนี้ เหตุใดไม่ใช้มีดเชือดคอตนเองให้ตายไปเสีย จะลำบากมาห้อยหัวอยู่ด้วยเหตุใด 

"ไม่ช่วย ในเมื่อนางอยากตายนักข้าก็ไม่ขวางเจตนาแล้ว บาปกรรมเสียเปล่า ๆ"

อ้ายเจิงแทบจะพ่นน้ำลายออกมาทั้งสำลัก คนอย่างลู่หนิงหวังที่ฆ่าคนตาไม่กะพริบตากล้าเอ่ยคำว่าบาปกรรมออกจากปากของเขาอย่างไม่กระดากปากได้อย่างไร

ช่างหน้าด้านเกินไปแล้ว

หนานอิงร้องไห้โดยไม่มีน้ำตาแล้ว คนผู้นั้นยังเข้าใจผิดคิดว่านางกำลังหาทางฆ่าตัวตายอีกหรือ นางดิ้นรนจนตาข่ายนั่นโยกไปมา อยากจะอธิบายว่าเขาเข้าใจนางผิดอีกแล้ว นางไม่ได้คิดฆ่าตัวตายแต่กำลังหนีจากหานเซียวจนตกที่นั่งลำบากต่างหาก

"หา..ใช่..ข้า..ช่วย...ด้วย...ช่วยข้า"

อ้ายเจิงย้ำอีก แน่นอนว่าลู่หนิงหวังคนนี้ย่อมต้องใช้ผลประโยชน์เข้าหลอกล่อ และอ้ายเจิงก็เห็นว่าหนานอิงน่าเวทนาเป็นอย่างยิ่งอย่างไรเขาก็ทนดูนางตายไม่ได้

ลู่หนิงหวังลังเลแล้ว เขายอมรับว่าเพราะดวงตาคู่งามของนางที่เหมือนมีน้ำค้างพราวอยู่ในนั้นที่ดึงดูดเขาในคราแรก ทำให้เขาไม่รังเกียจหากนางจะปรนนิบัติเขาอีกหลาย ๆ ครั้ง 

ที่ผ่านมาเขาก็ไม่เคยพบสตรีที่ให้ความรู้สึกเช่นนี้มาก่อน และหากนางท้องจริงเมื่อเขาปล่อยให้นางตาย เขาก็ไม่อาจแบกหน้าที่ได้ขึ้นชื่อว่าสังหารบุตรของตนเองเอาไว้ได้เช่นกัน

อย่างน้อยลู่หนิงหวังก็ยังคิดถึงตนเองในเมื่อครั้งยังเด็ก เด็กที่มารดาไม่ต้องการมันช่างเจ็บปวดนัก

และหนานอิงผู้นั้นกำลังจะทำเรื่องที่ลู่ไท่เฟยเคยกระทำ ทำร้ายลูกของตนเองโดยไม่ไตร่ตรองให้รอบคอบ เขาไม่มีทางยอมให้นางสมหวังเป็นอันขาด

หากนางต้องการตาย เอาไว้ให้นางคลอดก่อนค่อยปล่อยให้ตายก็ยังไม่สาย

คิดได้ดังนั้นลู่หนิงหวังจึงพยักหน้า

"ก็ได้ แต่หากนางต้องการตายครั้งต่อไป เจ้าอย่าบังคับให้ข้าช่วยนางอีกก็แล้วกัน เข้าใจหรือไม่นี่คือโอกาสครั้งสุดท้ายของนางแล้ว"

ไวเท่าคำพูด เมื่อลู่หนิงหวังอนุญาตอ้ายเจิงรีบชักกระบี่ตัดเชือกที่มัดนางให้ห้อยหัวจนขาดทันใด ร่างของหนานอิงลอยละลิ่วลงสู่พื้น ลู่หนิงหวังไม่รู้ด้วยเหตุอันใดชักจูงใจจึงกระโดดรับร่างของนางเอาไว้อย่างนุ่มนวล

ลู่หนิงหวังวางหนานอิงลงบนพื้นกล่าววาจาร้ายกาจออกมา

"สตรีไร้สมองต่อไปหากเจ้าคิดฆ่าตัวตายอีกข้าไม่ช่วยเป็นแน่ จำเอาไว้ให้ดี"

เขาแกะนางออกจากตาข่ายเหมือนแกะปลาตัวหนึ่งอย่างไม่รีบร้อนนัก ทันทีที่หนานอิงเป็นอิสระ ลู่หนิงหวังกลับวางมือใหญ่ไว้บนหน้าท้องของนาง หนานอิงไม่มีแรงต่อกรกับผู้ใดแล้วรู้สึกวิงเวียนจนแทบจะอาเจียนออกมา

สุดท้ายไม่อาจกลั้นเอาไว้ได้นางหันหน้าหนีเขาแล้วก้มหน้าลงบนพื้นคายเอาเศษอาหารที่แทบไม่มีติดท้องออกมาอย่างเอาเป็นเอาตาย

ลู่หนิงหวังพลันแข็งค้างเมื่อเขาคิดเตลิดไปไกลแล้ว อ้ายเจิงนั่งลงข้างเขาแล้วกระซิบเสียงเบา

"หรือว่านางตั้งครรภ์จริงจึงได้แพ้ท้องเช่นนี้ ท่านเห็นทีจะแพ้ข้าแล้ว"

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ช่วยข้าทีสองสามีของข้าคือท่านอ๋องจอมโหด NC25 3P