หนานอิงเองกำลังเคร่งฝึกฝีเท้าโดยที่บัดนี้ข้อมือของนางถูกมัดโยงเอาไว้โดยมีลู่หนิงหวังขี่บนอาชาคอยดึงเชือกอยู่เบื้องหน้า ม้าวิ่งวนไปรอบ ๆ โดยไม่มีหยุดพัก ลู่หนิงหวังตะโกนเป็นระยะเร่งม้าให้วิ่งเร็วบ้างช้าบ้างสลับกัน เขายังเขวี้ยงไม้ใส่นางเป็นระยะ หนานอิงบัดนี้ไม่ถูกไม้พวกนั้นทิ่มตำอีกต่อไปแล้ว นางหลบหลีกว่องไวยิ่ง
"ยังไม่พอ เร็วอีก"
ลู่หนิงหวังใช้เท้าตบสีข้างของม้า สั่งให้มันฮ้อตะบึงอย่างรวดเร็ว คราวนี้ความเร็วของม้าเพิ่มขึ้นอีกเป็นเท่าตัว หนานอิงเร่งความเร็วแต่ก็ไม่เร็วพอสุดท้ายถูกม้าลากร่างกายไปตามพื้นเป็นทางยาว หนานอิงตะเกียกตะกายร่างพยายามพลิกตัวลุกขึ้นแต่ลู่หนิงหวังกลับไม่ปรานีเร่งฝีเท้าของม้าให้เร็วขึ้นอีก
บัดนี้นางรู้สึกราวกับว่าแขนของนางกำลังจะหลุดออกจากตัวอยู่แล้ว หนานอิงคล้ายจะหมดแรงแต่แล้วนางกลับฮึดพลิกกายด้วยความเร็วสามารถยืนบนพื้นและวิ่งตามม้าได้อีกครั้ง
ลู่หนิงหวังหันมามองเมื่อเห็นนางยืนได้เช่นนั้นมุมปากคล้ายจะยกยิ้ม
หนานอิงตั้งสติให้มั่นคง จากนั้นก็เริ่มวิ่งได้ดีขึ้น เท้าของนางพลิ้วประดุจสายลมที่พัดโบกใบไม้ ดีที่อาภรณ์ของนางเป็นเนื้อผ้าชั้นดีที่หานเซียวนำไปตัดเย็บมาให้ นอกจากมันจะห่อหุ้มร่างกายแล้วยังคล้ายเป็นเสื้อเกราะอ่อนที่ถูกครูดอย่างไรก็ไม่ฉีกขาด เป็นของหายากเป็นอย่างยิ่งจึงทำให้นางไม่ได้รับรอยแผลจาก
ลานฝึกซ้อมวรยุทธ์แห่งนี้จึงฝุ่นตลบอบอวลด้วยหิมะที่เคยกองอยู่ละลายหายไปจนหมดแล้ว อากาศยิ่งร้อนอบอ้าวขึ้น ร่างกายก็ร้อนขึ้นทุกขณะ แต่บัดนี้หนานอิงกลับมีความอดทนเป็นอย่างยิ่ง ฝีเท้าของนางว่องไวขึ้นจากเมื่อเริ่มฝึกจนหนานอิงแปลกใจ คิดไม่ถึงว่านางจะพัฒนาฝีมือเร็วเช่นนี้
สิ่งที่นางดีใจยิ่งกว่าคือนางไม่ได้ทำให้ลู่หนิงหวังผิดหวังในตัวนาง หนานอิงก้าวหน้ากว่าที่ลู่หนิงหวังคิดเสียอีก
เพราะเป็นแบบนี้หนานอิงจึงตั้งหน้าตั้งตารอวันที่หานเซียวจะกลับมาหลังจากที่เขาลงเขาไปเดือนกว่า เพื่อถามข่าวคราวของคฤหาสน์สกุลหนาน ครั้งล่าสุดที่หานเซียวเคยบอกนางเอาไว้ว่าท่านหนานบัดนี้ได้กลายเป็นพระญาติไปแล้วแท้ที่จริงเกิดเรื่องอันใดขึ้นกันแน่
"นายท่านเจ้าคะ ข้าอยากรู้ข่าวของสกุลหนาน เคยถามนายน้อยไปแล้วรู้เพียงแต่ว่าสกุลหนานได้เกี่ยวข้องเป็นถึงพระญาติของฝ่าบาทแล้ว นายท่านพอจะทราบเรื่องหรือไม่"
นิ้วมือเรียวของลู่หนิงหวังที่กำลังป้ายยาทาแผลบนแผ่นหลังให้นางอย่างช้า ๆ คล้ายจะหยุดชะงักเพียงเล็กน้อย หลังจากนั้นนางกลับได้ยินเสียงเย็นของเขาเอ่ยตอบ
"ในเมื่อหานเซียวจะเป็นผู้บอกเจ้าเองเช่นนั้นก็หาใช่ธุระของข้าแล้ว"
แสดงว่าเขารู้แต่เขาไม่ยอมบอก จะอำพะนำกันด้วยเหตุใด
"แต่นายท่านเจ้าคะ ข้าอยากรู้จริง ๆ นี่เจ้าคะอย่างน้อยก็ควรได้รู้ข่าวบ้างในนั้นของข้ายังมีบ่าวผู้หนึ่งซึ่งยังห่วงอยู่"
"แค่บ่าวชั้นต่ำ ไม่มีผู้ใดสนใจทำอันใดนางหรอก"
วาจาสั้นห้วนของลู่หนิงหวังทำให้หนานอิงใจห่อเหี่ยว แต่แล้วในตาของนางก็เบิกกว้าง นางไม่เคยเล่าเรื่องอาโจวให้ลู่หนิงหวังฟัง แล้วเขารู้ได้อย่างไรว่านางคือสตรี หนานอิงขยับกายหวังจะพลิกตัวมาสนทนากับเขา แต่กลับถูกเขาดันแผ่นหลังของนางเอาไว้นิ่ง ๆ
"อย่าขยับส่งเดช"
หนานอิงในยามนี้ไม่เห็นใบหน้าของเขานางประเมินไม่ได้ว่าเขารู้สึกเช่นไร ปกติน้ำเสียงของลู่หนิงหวังจะเย็นเยียบไร้ความอบอุ่นอยู่แล้ว พักหลังมานางกล้าที่จะมองหน้าเขามากขึ้นจึงได้แต่อาศัยการสังเกตุว่าอารมณ์ของเขาเป็นเช่นไรจากสีหน้าที่แม้จะเปลี่ยนไปเล็กน้อยนางก็เริ่มดูออก
เมื่อไม่เห็นสีหน้านั้นนางก็ต้องเสี่ยงถามออกไป
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ช่วยข้าทีสองสามีของข้าคือท่านอ๋องจอมโหด NC25 3P
ไม่นะ หานเซียวจะตายแยบรี้ไม่ได้ ฮื่อออออๆๆ...