เวลาสำหรับหนานอิงที่มีพี่น้องฝาแฝดนั่งคุกเข่าอยู่ที่หน้าเรือนนั้นนับว่าจะเกือบทั้งวันแล้ว แต่คนที่คุกเข่าอยู่กลับมีความอดทนจนนางตกตะลึง คนทั้งคู่ที่ผ่านมานั้นไม่นับว่าร้ายกาจอันใดเป็นเพียงสตรีซื่อบื้อสองคนที่ทำตามคำสั่งของมารดาเท่านั้น
ความโกรธแค้นของหนานอิงที่มีต่อพวกนางจึงนับว่าไม่มากมายเท่าใด การลงโทษเพียงแค่คุกเข่าก็นับว่าเพียงพอแล้ว ต่อนี้ไปพวกนางคงไม่คิดที่จะทำร้ายนางได้อีก
เพราะเป็นเช่นนี้หนานอิงจึงสั่งให้อาฉีไปพาพวกนางเข้ามา
สตรีสองคนนั้นเป็นสตรีในห้องหอทั้งยังอ่อนแอเป็นอย่างยิ่งไม่เคยลำบากมาก่อนในชีวิต เพียงเพราะอนาคตที่ต้องการมีบุตรให้สามีรักใคร่ถึงขั้นลงทุนคุกเข่าให้กับคนที่พวกนางเกลียดนักเกลียดหนามาทั้งวันโดยไม่กินไม่ดื่มอันใด ร่างทั้งร่างของสตรีทั้งสองสั่นระริก ขาเกิดอาการชาใบหน้าเย็นเยียบเหมือนจะจับไข้และล้มลงไป
แต่เมื่อไม่อยากที่จะเสียสามีและตำแหน่งฮูหยินไปพวกนางยังต้องอดทนเป็นอย่างมาก
เมื่ออาฉีนำพวกนางเข้ามาก็ตกอยู่ในสภาพที่ยับเยินแล้ว หนานอิงไม่มีน้ำใจกระทั่งจะให้ชาร้อนแก่พวกนางสักจอก คนทั้งสองคุกเข่าต่อหน้านางทั้งยังโขกศีรษะจากพื้น
"พวกท่านดื้อด้านยิ่งนัก ไล่อย่างไรก็ไม่ไปต้องการสิ่งใดจากข้ากัน"
คนทั้งสองน้ำตานองหน้า ไม่รู้ว่าใบหน้าเย็นเยียบเพียงใดแค่หยดน้ำที่กระทบใบหน้านั้นก็ทำให้กลายเป็นน้ำแข็งเสียแล้ว โชคดีที่คนทั้งสองยังสวมเสื้อผ้าหนาเตอะเช่นนี้จึงไม่นับว่าทรมานมากนัก
"น้องห้าได้โปรดเห็นแก่ความสัมพันธ์พี่น้องที่ผ่านมา เราขอให้เจ้ายกโทษให้จะได้หรือไม่ ข้าทั้งสองสัญญาต่อไปจะดีต่อเจ้า จะไม่คิดทำร้ายเจ้าอีกเรื่องที่ผ่านมาทุกอย่างพวกเราขอโทษเจ้าแล้ว เป็นพวกเราที่ผิดเองที่ทำให้เจ้าเจ็บปวด"
หนานอิงยิ้มเย็น นางไม่คิดจะยกโทษเพียงแต่นางไม่คิดจะเอาโทษอีกต่อไปต่างหากเล่า ดีที่สองคนนี้เพียงแต่แย่งคนรักของนางแต่ทั้งหมดนั้นก็ล้วนเป็นแผนการของฮูหยินใหญ่เช่นกัน โทษนี้จึงน้อยนิดนัก
"พวกท่านต้องการสิ่งใดจากข้าก็พูดมาเถิด"
หนานเมิ่งขยับปากอันเย็นชืดและสั่นเทา
"น้องห้าเจ้าพอจะให้ของติดกายของเจ้าให้แก่พวกเราได้หรือไม่ เราต้องการของที่เจ้าพกติดกายเป็นประจำ เราต้องการแค่นั้นจริง ๆ"
หนานอิงมองพวกนางด้วยความสงสัย
"มาคุกเข่าให้ข้าโดยไม่สนใจความลำบากเกือบทั้งวันด้วยหวังเพียงของติดกายของข้าหรอกหรือ พวกท่านจะเอาไปทำสิ่งใดบอกข้ามาอย่าได้คิดกล่าวคำเท็จเป็นอันขาด"
คนทั้งสองอึกอักแล้ว
"หากไม่บอกก็ออกไปเสีย"
หนานอิงย้ำคำหนึ่ง หนานเมิ่งจึงเอ่ยว่าทั้งน้ำตา
"เพราะใจของท่านพี่ของข้ายังผูกพันกับเจ้า เช่นนี้ข้าทั้งสองจึงไม่อาจมีบุตรได้ข้าต้องการของของเจ้าไปทำพิธีเพื่อให้เขาตัดขาดและทำให้ข้ามีบุตรเสียที อนาคตของพวกเราทั้งสองตอนนี้ล้วนฝากเอาไว้ที่เจ้าแล้ว"
เมื่อได้ฟังเหตุผลที่ไร้สาระนั่น หนานอิงหัวเราะจนปวดท้องยังมีอาฉีที่หัวเราะตามนางและอาโจวที่ไม่รู้ว่านายของตนหัวเราะสิ่งใด นางเพียงแต่คิดว่าเป็นเรื่องสนุกจึงหัวเราะตามโดยไร้เสียง
ถูกหนานอิงหัวเราะเยาะหนานเมิ่งกับหนานมิ่งก็หน้าชาแล้ว ยังจะถูกบ่าวไร้สกุลสองคนนี้หยามหยันอีก โทสะของคนทั้งคู่แทบจะพุ่งออกมา แต่ในยามนี้ตนเองดันตกเป็นรองจะทำสิ่งใดได้จึงได้แต่ก้มหน้ายอมให้พวกนางหยามหยัน
"เรื่องงมงายเช่นนี้ท่านก็เชื่อหรือ สติของพวกท่านไม่มีอยู่แล้วใช่หรือไม่จึงถูกคนหลอกเอาได้"
คำพูดเยาะเย้ยถากถางของหนานอิงทำให้หนานเมิ่งและหนานมิ่งเจ็บช้ำใจนัก
"เจ้าไม่เชื่อไม่เป็นไร เพียงแต่นำของของเจ้าให้ข้าก็พอแล้ว"
"เหตุใดข้าต้องช่วยพวกท่านด้วย เห็นข้าเป็นผู้มีน้ำใจตั้งแต่เมื่อใด เรื่องของพวกท่านล้วนไม่เกี่ยวกับข้า"
คนทั้งสองน้ำตาไหลแล้ว พวกเขาขยับมากอดเข่าของหนานอิงแล้วยังอ้อนวอนอย่างน่าสงสาร
"พวกเราสำนึกผิดต่อเจ้าจริง ๆ แล้ว หนานอิงช่วยพวกเราด้วยเถิด ข้าสัญญาว่าจะไม่รบกวนเจ้าอีกต่อไป หนานอิงเพียงครั้งนี้ครั้งเดียวข้าขอร้องเจ้าแล้ว"
หนานอิงยิ้มเย็นก้มลงไปเอ่ยเบา ๆ
"หากสำนึกผิดจริงแสดงความจริงใจของพวกท่านออกมา" นางทำท่าคิดแล้วเอ่ยทั้งยิ้มแย้ม
"พวกท่านก็โขกศีรษะสิ โขกจนกว่าข้าจะพอใจ บางทีข้าอาจจะเชื่อว่าพวกท่านสำนึกแล้วจริง ๆ"
"หนานอิงนี่เจ้าจะโหดร้ายเกินไปแล้ว"
หนานเมิ่งเอ่ยขึ้นทั้งกัดฟันอย่างเคียดแค้น
หนานอิงผายมือ
"หากไม่ทำก็ออกไปเสีย ข้ารำคาญพวกท่านเต็มทีแล้ว"
คนทั้งสองมองหน้ากัน คำพูดของซินแสยังวนเวียนในหัว นางจะยอมรับความอัปยศที่มีเพียงหนานอิงและบ่าวของนางที่เห็น หรือจะยอมรับอนาคตที่พวกนางอาจจะถูกสามีทอดทิ้งกันนะ แต่เมื่อนึกถึงว่าตนเองจะถูกทิ้งแล้วกลับทนไม่ได้
หนานเมิ่งจึงเริ่มต้นโขกศีรษะก่อนและหนานมิ่งก็ทำตาม
"แรงขึ้นอีกนิดสิข้าไม่ได้ยินเสียงเลย"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ช่วยข้าทีสองสามีของข้าคือท่านอ๋องจอมโหด NC25 3P
ไม่นะ หานเซียวจะตายแยบรี้ไม่ได้ ฮื่อออออๆๆ...