ช่วยข้าทีสองสามีของข้าคือท่านอ๋องจอมโหด NC25 3P นิยาย บท 86

หลังจากฮูหยินใหญ่หย่าจากท่านหนานนางก็ปลีกตัวไปอยู่ยังคฤหาสน์หลังหนึ่งที่เป็นสินสมรสที่ท่านหนานจัดการให้ แม้ว่าการหย่าครานี้จะเป็นการหย่าแก้เคล็ดแต่ก็ไม่อาจให้คนนอกล่วงรู้ได้

บ้านเดิมของฮูหยินใหญ่ได้รับคำอธิบายจากบุตรสาวฝาแฝดของท่านหนานเช่นนั้นจึงไม่อาจกล่าวโทษได้ ในเวลานี้ท่านหนานในอ้อมแขนมีแม่นางผู้งดงามทั้งยังอยู่ในวัยเยาว์ซุกกายอยู่บนอก

ในใจของฮูหยินใหญ่เองนั้นกลับรู้สึกเจ็บช้ำเป็นอย่างยิ่ง ท่านหนานดูจะกระตือรือร้นและเร่งรัดให้นางออกจากจวนกั๋วกงจนผิดสังเกต แม้ว่าเขาจะรับปากรับคำว่าเมื่ออาการของนางดีขึ้นจะรีบรับนางกลับเข้าจวนก็ตาม

กระทั่งวันที่นางขึ้นรถม้าพร้อมบ่าวข้างกายก็ไร้เงาของสามีแล้ว เมื่อกวาดสายตาเข้าไปมองจวนสกุลหนานฮูหยินใหญ่รู้สึกใจหายอย่างแปลกประหลาด คล้ายว่าเมื่อนางก้าวออกไปจากที่นี่แล้วจะไม่มีวันได้ย้อนกลับเข้ามา

ฉับพลันสายตาของนางก็ปะทะกับสายตาเย็นยะเยือกของใครบางคน สตรีผู้นั้นอยู่ในอาภรณ์สีแดงเพลิงตัดกับใบหน้างดงามขาวผ่องราวกับหยกสลักให้ความรู้สึกราวกับว่านางกำลังสบสายตากับมัจจุราชผู้หนึ่ง

แววตาเยาะหยันนั้นเปิดเผยโดยไม่ปิดบัง นางเยื้องกรายอย่างอรชรแช่มช้อยด้านข้างมีสตรีนางหนึ่งที่ร่างกายอรชรไม่แพ้กันคอยจับมือพยุงเดิน ท่าทางนั้นยิ่งกว่านางหงส์ที่กำลังเฉิดฉาย

ฮูหยินใหญ่พลันขนลุกชันเมื่อสบสายตานี้ทำให้นางรู้สึกถึงความไม่ชอบมาพากลบางประการ

ตั้งแต่หนานอิงย่างกลายเข้ามาเกิดเหตุการณ์หลายอย่างขึ้น บ่าวของฮูหยินใหญ่ทั้งหมดถูกหนานอิงเล่นงาน ทั้งเรื่องที่ท่านหนานขัดแย้งกับองค์รัชทายาท ยังมีเรื่องของพระชายารัชทายาทที่ความจริงหนานอิงควรเข้าไปอยู่ในคุกหลวงแต่บัดนี้นางกลับสุขสบายดี ตรงข้ามกับพระชายาที่กำลังลำบากหาทางพ้นผิดจากข้อหายาพิษในชาของฝ่าบาท ทั้งอาการของพระชายาที่ต้องพิษในคราแรกที่เหมือนจะดีขึ้นในครานี้กับอาการย่ำแย่รักษาเช่นไรก็ไม่หาย 

บุตรสาวฝาแฝดของนางกลายเป็นเบี้ยล่างของหนานอิงโดยไม่เคยบอกเหตุผลนั้นกับฮูหยินใหญ่ กระทั่งบัดนี้ฮูหยินใหญ่เองกำลังระเห็จออกจากสกุลหนาน

เรื่องราวพวกนี้หากจะว่าไปแล้วล้วนเกิดขึ้นภายในพริบตา แม้ว่าฮูหยินใหญ่จะหาทางกำจัดหนานอิงแต่กลับไม่อาจเข้าถึงตัวนาง เป็นไปได้หรือไม่ว่าทั้งหมดนี้ล้วนเป็นแผนการของหนานอิงที่ได้วางเอาไว้อย่างแยบยล

หากเป็นเช่นนี้หนานอิงผู้นี้ทำได้อย่างไร?

หนานอิงก้าวเท้ามาหยุดตรงหน้าฮูหยินใหญ่แล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนหวาน ด้วยบัดนี้ที่หน้าสกุลหนานมีสายตาของชาวบ้านหลายคนที่มารอดูการจากไปของฮูหยินใหญ่ด้วยตาของตัวเอง

ข่าวลือเรื่องท่านหนานจะยกย่องนางโลมผู้หนึ่งขึ้นมาแทนฮูหยินใหญ่นั้นรู้ไปทั่วทั้งเมือง มีเพียงฮูหยินใหญ่เท่านั้นที่ไม่รู้เนื่องด้วยนางอยู่เพียงภายในเรือนด้วยอาการป่วยไข้ และใบหน้าของนางที่เสียโฉมจากการถูกน้ำร้อนของหานเซียวในครานั้น นางจึงเหมือนคนหูหนวกตาบอดไม่รู้เรื่องราวอันใดแล้ว

เมื่อมีข่าวนี้กลับมีมือดีในวงพนันแอบพนันกันอย่างลับ ๆ ว่าท่านหนานจะหย่าฮูหยินใหญ่ที่ตกแต่งมาอย่างถูกต้องทั้งยังใช้ชีวิตร่วมกันมานานกว่าสามสิบปีผู้นี้หรือไม่ วงพนันถูกขยายออกไปอย่างรวดเร็วยิ่งกว่าไฟไหม้ฟาง

ชื่อเสียงของสกุลหนานบัดนี้นับว่าตกต่ำลงทุกวันแล้ว ข่าวพระชายารัชทายาทวางยาพิษหนานอิงเพิ่งผ่านพ้นมาไม่นานก็มีข่าวของท่านหนานลุ่มหลงนางโลมจนต้องการหย่าขาดจากฮูหยินใหญ่เข้ามาแทน

ฮูหยินใหญ่เองกลับแปลกใจยิ่งนัก เรื่องภายในครอบครัวของนางเหตุใดจึงรู้ถึงหูชาวบ้านได้เร็วเช่นนี้ แม้แต่วันนี้ที่นางกำลังจะออกจากจวนก็ยังมีคนมามุงดู

"หนานอิงส่งแม่ใหญ่เจ้าค่ะ"

"ขอบใจลูกห้ามากที่มาส่งแม่"

สองคนล้วนแสดงละครให้คนดู หนานอิงน้ำตาซึมกระทั่งยกผ้าเช็ดหน้าขึ้นเช็ดน้ำตานั้น

"ท่านแม่รักษาสุขภาพนะเจ้าคะ อย่างไรท่านแม่ก็คือแม่ของข้าวันออกเรือนหนานอิงยังต้องการพรของท่าน"

เสียงชาวบ้านผู้หนึ่งเอ่ยขึ้น

"แม่นางหนานอิงช่างกตัญญูยิ่งนัก น่ายกย่องเป็นอย่างยิ่ง"

แน่นอนว่าเสียงร่ำลือนี้ถูกโหมพัดไปไกล ลูกอนุในสกุลหนานมามากมายนักแต่วันนี้ไม่มีผู้ใดกล้าโผล่ออกมาแม้แต่คนเดียว ในยามนี้คนในจวนสกุลหนานความจริงก็เห็นแล้วว่าฮูหยินใหญ่ตกต่ำเพียงใด หากการยุ่งกับฮูหยินใหญ่แล้วทำให้ตนเองเดือดร้อนย่อมไม่มีผู้ใดกล้าโผล่มา

เมื่อเป็นดังนั้นหนานอิงในยามนี้จึงกลายเป็นบุตรสาวผู้กตัญญูแม้จะเคยถูกขับไล่ก็หาได้โกรธแค้น ความงดงามทั้งกายและใจของนางบัดนี้ต่างเล่าขานไปทั่ว

หนานอิงจับมือของฮูหยินใหญ่แล้วเอ่ยด้วยใบหน้าเศร้าสลด

"ท่านแม่ใหญ่อิงเอ๋อร์มาส่งท่านเป็นครั้งสุดท้ายแล้ว จากนี้ไปท่านอย่าฝันว่าจะได้กลับมาเหยีบสกุลหนานอีก ท่านรู้หรือไม่เหตุใดท่านพ่อจึงรีบหย่าให้ท่านโดยไม่ทัดทานความจริงหาใช่เหตุผลไร้สาระนั่นอย่างที่ท่านเข้าใจ"

ฮูหยินใหญ่มือสั่นระริกแววตาของนางตื่นตระหนก หนานอิงยิ้มในดวงตาเป็นเพราะความอัปลักษณ์จากบาดแผลทำให้ฮูหยินใหญ่ปิดบังใบหน้าเอาไว้ด้วยผ้าโปร่งสีขาวผืนหนึ่ง แต่หนานอิงคิดว่าใบหน้านั้นย่อมบิดเบี้ยวด้วยความเจ็บช้ำเป็นแน่

"เจ้าหมายความว่าอย่างไร"

หนานอิงดึงนางมากอดเอาไว้แล้วเอ่ยเสียงเบาเยาะหยัน

"ข้าจะบอกท่านให้เพื่อเอาบุญ ท่านหนานกำลังลุ่มหลงนางโลมผู้หนึ่งจึงเขี่ยท่านทิ้งกำลังจะยกย่องนางโลมผู้นั้นขึ้นเป็นฮูหยินแทนท่าน เป็นอย่างไรเล่าข่าวนี้น่ายินดีหรือไม่"

ฮูหยินใหญ่น้ำตาไหลพราก แต่คนที่น้ำตาไหลมากกว่าคือหนานอิง นางยินดีเป็นอย่างยิ่งแผนของนางบัดนี้ก้าวเข้ามาเกินครึ่งหนึ่งแล้ว

"ข้าไม่เชื่อ ข้าไม่เชื่อ"

หนานอิงปาดน้ำตาเอ่ยเสียงเบา

"ท่านจะเชื่อหรือไม่ก็ไม่มีประโยชน์แล้ว ฮูหยินใหญ่แม้แต่กระดูกและเลือดเนื้อของท่านข้าก็จะเลาะออกมาท่านคอยดูเถิด"

"นังสารเลว"

หนานอิงบีบมือฮูหยินใหญ่แน่น แน่นจนกระทั่งฮูหยินใหญ่คิดว่านิ้วของตนเองกำลังจะหลุดออกมาแล้ว

"สารเลวหรือ คงไม่มากเท่าท่านรักษาชีวิตให้ดีเถิดเมื่อท่านออกจากสกุลหนานก็ไร้คนคุ้มกันแล้ว"

หนานอิงใช้ผ้าเช็ดหน้าเช็ดน้ำตาให้ฮูหยินใหญ่แววตาแฝงไว้ด้วยความอาฆาต ฮูหยินใหญ่หนาวสะท้านร่างกายประดุจกำลังถูกแววตานั้นเฉือนเนื้อออกมาทีละชิ้น

กระทั่งหนานอิงยอบกายอย่างอ่อนน้อม

"หนานอิงส่งแม่ใหญ่เจ้าค่ะ"

บ่าวของฮูหยินใหญ่ประคองผู้เป็นนายขึ้นรถม้า ฮูหยินใหญ่ยังตกตะลึงตะโกนเสียงดังลั่น

"องครักษ์ของข้าอยู่ที่ใด องครักษ์ของข้า"

บ่าวคนใหม่ของฮูหยินเป็นคนที่นางคัดเลือกมากับมือ น่าเสียดายแท้ ๆ ที่คนคนนี้ก็เป็นคนของหนานอิงเช่นกัน เพราะตั้งแต่ใบหน้าเสียโฉมและล้มป่วยฮูหยินใหญ่มักจะหงุดหงิดอารมณ์เสียเป็นอย่างยิ่ง

บ่าวไพร่ในจวนล้วนไม่อยากเข้าใกล้ ยิ่งต่อมาท่านหนานไม่ให้ความสำคัญกับนางผิดกับอนุผู้อื่น คนที่จะกตัญญูกับฮูหยินใหญ่นั้นก็มิได้มีแล้ว กระทั่งหนานอิงมีโอกาสส่งคนของนางเข้าไปข้างกายฮูหยินใหญ่ในที่สุด

"ฮูหยินพวกเขาอยู่ข้างนอกเจ้าค่ะ นายหญิงอย่าได้กังวลคนมากมายนักย่อมคุ้มครองท่านได้"

"บอกพวกเขาอย่าห่างข้าต้องคุ้มครองข้าให้ดีเข้าใจหรือไม่ เข้าใจหรือไม่"

"เจ้าค่ะ"

บัดนี้องครักษ์ที่อยู่ข้างกายฮูหยินใหญ่หาใช่คนจากเจียงหนานอีกต่อไป เมื่อคนหนึ่งหมดอำนาจวาสนาจะมีผู้ใดยอมรับใช้กันเล่า แม้จะให้คนรายรอบตัวเพียงใดก็ไม่อาจทำให้ฮูหยินใหญ่คลายความหวาดกลัวลงไปได้

ระหว่างที่รถม้าของฮูหยินใหญ่วิ่งออกจากจวนนั้นบังเอิญวิ่งไปพบรถม้าคันหนึ่งที่สวนทางมา เส้นทางนี้เป็นถนนแคบผู้คนมักไม่ค่อยใช้จึงค่อนข้างเปลี่ยว แต่ก็เป็นทางลัดที่คนชั้นสูงนิยมใช้เป็นเส้นทางสัญจร เนื่องจากถนนแคบจึงทำให้รถม้าที่มาจากสกุลเล็กกว่าต้องเป็นฝ่ายหลบ

คนขับรถม้าเห็นตราประจำนวนที่ประทับอยู่ข้างรถม้าแล้วเอ่ยว่า

"เรียนฮูหยินเป็นรถม้าของจวนเราขอรับ"

ฮูหยินใหญ่เลิกคิ้วด้วยความสงสัย จะมีผู้ใดกล้าใช้สัญลักษณ์ของจวนกั๋วกงอีกนอกจากนางและท่านหนาน ฮูหยินใหญ่เบิกตากว้างนางคิดถึงคำพูดของหนานอิงขึ้นมา

"ท่านพี่ เจ้าพาข้าออกไปข้าจะไปหาท่านพี่"

"แต่ฮูหยินเจ้าคะข้างนอกลมแรงยิ่งร่างกายของท่านยังอ่อนแอ"

"บังอาจ ผู้ใดใช้ให้เจ้าออกความคิดกัน"

แววตาของฮูหยินใหญ่แข็งกร้าวหากนางมีเรี่ยวแรงกว่านี้คงตบใบหน้าบ่าวรับใช้ชั้นต่ำผู้นี้ไปแล้ว เมื่อบ่าวเห็นว่าไม่อาจทัดทานได้จึงรับคำเบา ๆ 

"เจ้าค่ะ"

ฮูหยินใหญ่ถูกพยุงลงจากรถม้า นางแทบจะยืนไม่ไหวอยู่แล้วยังต้องการฟังคำของสามีว่าแท้จริงแล้วหย่าขาดจากตนด้วยเหตุผลใดกันแน่ บัดนี้กลับคล้ายจะมีแรงขึ้นมาอีกมากนางจึงยืนขวางทางท่านหนานอยู่เช่นนั้นไม่ปล่อยให้รถม้าของเขาวิ่งผ่าน

ท่านหนานเองกำลังตระกองกอดร่างอบอุ่นนุ่มนิ่มตึงมือของสตรีแรกแย้มผู้หนึ่ง ทั้งยังสูดดมความหอมจากซอกคอประดุจคนกำลังเสพติดของบางสิ่งบางอย่าง เมื่อมีคนมาขัดจังหวะทำให้เขาอารมณ์เสียเป็นอย่างยิ่ง

"นายท่านเป็นฮูหยินขอรับ ฮูหยินขวางทางเอาไว้รถม้าไม่อาจขยับได้ขอรับ"

เสียงแหบโหยทั้งแก่ชราระคายหูของฮูหยินใหญ่ดังขึ้น

"ท่านพี่ท่านจะแล้งน้ำใจกับข้าหรือเจ้าค่ะ ท่านตอบข้ามาท่านมิได้ตั้งใจจะยกตำแหน่งฮูหยินให้ผู้อื่นใช่หรือไม่เจ้าคะ"

แม่นางอวี้ชิงได้ยินดังนั้นจึงก้มหน้า น้ำตาของนางอาบแก้ม

"เป็นฮูหยินของท่านมิใช่หรือเจ้าคะ ที่แท้พวกท่านมิได้หย่ากันอวี้ชิงไม่คิดทำให้ครอบครัวผู้ใดแตกแยก หากเป็นเช่นนี้ท่านกั๋วกงก็อย่าได้ยุ่งกับอวี้ชิงอีกเลย อวี้ชิงแม้ไม่ยอมเป็นรองแต่ก็มิได้หมายความว่าจะทำให้พวกท่านทั้งสองต้องผิดใจกัน"

ท่านหนานรีบโบกมือทั้งเช็ดน้ำตาให้อวี้ชิง เขาชิงชังฮูหยินใหญ่ที่โผล่มาในยามนี้ทั้ง ๆ ที่กว่าเขาจะพานางกลับจวนได้ก็ต้องเกลี้ยกล่อมกันอยู่นาน

"เจ้าอย่าไปฟังนาง สตรีผู้นั้นชราและคุ้มคลั่งประเดี๋ยวดีประเดี่ยวร้าย นางเป็นคนยื่นหนังสือหย่าให้ข้าเองเจ้าก็เห็นแล้วมิใช่หรือ"

"เช่นนั้นนางมาโวยวายด้วยเหตุใดเจ้าคะ"

ท่านหนานถอนหายใจแล้วเอ่ยว่า

"นางคงอาการกำเริบ ได้พบหมอสักหน่อยคงดีขึ้น"

เขาต้องแสร้งทำเป็นคนดีเห็นอกเห็นใจอดีตภรรยาไม่อยากกลายเป็นคนแล้งน้ำใจต่อหน้าแม่นางอวี้ชิง ท่านหนานจึงจำใจลงไปจัดการด้วยตนเอง แต่แม่นางอวี้ชิงกลับมีจิตใจงามอยากลงไปขอโทษฮูหยินใหญ่ด้วยตนเอง ท่านหนานก็มิอาจห้ามได้ไม่ว่านางจะทำสิ่งใดก็ใจอ่อนไปเสียหมดคนทั้งคู่จึงคลอเคลียกันลงจากรถม้า

ฮูหยินใหญ่เห็นสามีเดินลงมาพร้อมสตรีร่างอรชรใบหน้างามล้ำผู้หนึ่ง ทั้งการแต่งกายนั้นก็ยั่วยวนดูก็รู้ว่ามาจากสำนักใดถึงกับเส้นเลือดบนศีรษะเต้นตุบ ๆ ดวงตาแดงฉานคล้ายจะกรีดร้องออกมาอย่างบ้าคลั่ง

"ท่านพี่ สตรีผู้นั้นคือผู้ใด?"

อวี้ชิงกลับยอบกายคารวะอย่างนบนอบ

"เรียนอดีตฮูหยินข้าน้อยอวี้ชิงเจ้าค่ะ"

ท่าทางของท่านหนานที่กอดประคองนางประดุจรักใครหนักหนา และยังแววตาอันหวานซึ้งทำให้ฮูหยินใหญ่เข้าใจได้ทันที กระนั้นนางก็ยังทำใจดีหลอกตนเองว่าเรื่องที่หนานอิงพูดย่อมไม่จริง

ที่ผ่านมาท่านหนานจะมีอนุสักกี่คนนางไม่เคยขัดข้อง แต่มิใช่ให้ผู้ใดกำเริบเสิบสานมาปีนป่ายขึ้นสูงถึงตำแหน่งของนาง เช่นนี้นางย่อมมิอาจทนได้

"ท่านพี่นางเป็นผู้ใดเจ้าคะ"

บ่าวผู้นั้นที่อยู่ข้างกายฮูหยินใหญ่กลับอุทานออกมาในเวลาที่เหมาะสม

"ฮูหยินหรือว่านั่นจะเป็นคนที่นายท่านจะแต่งเข้าจวนเป็นฮูหยินคนใหม่เจ้าคะ รูปร่างอรชรงดงามเช่นนี้เองนายท่านจึงได้หลงใหลนัก นางผู้นั้นจะต้องมาแทนที่ฮูหยินใหญ่แน่แล้ว เช่นนี้ท่านจะมีโอกาสกลับเข้าจวนหนานหรือเจ้าคะ"

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ช่วยข้าทีสองสามีของข้าคือท่านอ๋องจอมโหด NC25 3P