หลังจากฮูหยินใหญ่หย่าจากท่านหนานนางก็ปลีกตัวไปอยู่ยังคฤหาสน์หลังหนึ่งที่เป็นสินสมรสที่ท่านหนานจัดการให้ แม้ว่าการหย่าครานี้จะเป็นการหย่าแก้เคล็ดแต่ก็ไม่อาจให้คนนอกล่วงรู้ได้
บ้านเดิมของฮูหยินใหญ่ได้รับคำอธิบายจากบุตรสาวฝาแฝดของท่านหนานเช่นนั้นจึงไม่อาจกล่าวโทษได้ ในเวลานี้ท่านหนานในอ้อมแขนมีแม่นางผู้งดงามทั้งยังอยู่ในวัยเยาว์ซุกกายอยู่บนอก
ในใจของฮูหยินใหญ่เองนั้นกลับรู้สึกเจ็บช้ำเป็นอย่างยิ่ง ท่านหนานดูจะกระตือรือร้นและเร่งรัดให้นางออกจากจวนกั๋วกงจนผิดสังเกต แม้ว่าเขาจะรับปากรับคำว่าเมื่ออาการของนางดีขึ้นจะรีบรับนางกลับเข้าจวนก็ตาม
กระทั่งวันที่นางขึ้นรถม้าพร้อมบ่าวข้างกายก็ไร้เงาของสามีแล้ว เมื่อกวาดสายตาเข้าไปมองจวนสกุลหนานฮูหยินใหญ่รู้สึกใจหายอย่างแปลกประหลาด คล้ายว่าเมื่อนางก้าวออกไปจากที่นี่แล้วจะไม่มีวันได้ย้อนกลับเข้ามา
ฉับพลันสายตาของนางก็ปะทะกับสายตาเย็นยะเยือกของใครบางคน สตรีผู้นั้นอยู่ในอาภรณ์สีแดงเพลิงตัดกับใบหน้างดงามขาวผ่องราวกับหยกสลักให้ความรู้สึกราวกับว่านางกำลังสบสายตากับมัจจุราชผู้หนึ่ง
แววตาเยาะหยันนั้นเปิดเผยโดยไม่ปิดบัง นางเยื้องกรายอย่างอรชรแช่มช้อยด้านข้างมีสตรีนางหนึ่งที่ร่างกายอรชรไม่แพ้กันคอยจับมือพยุงเดิน ท่าทางนั้นยิ่งกว่านางหงส์ที่กำลังเฉิดฉาย
ฮูหยินใหญ่พลันขนลุกชันเมื่อสบสายตานี้ทำให้นางรู้สึกถึงความไม่ชอบมาพากลบางประการ
ตั้งแต่หนานอิงย่างกลายเข้ามาเกิดเหตุการณ์หลายอย่างขึ้น บ่าวของฮูหยินใหญ่ทั้งหมดถูกหนานอิงเล่นงาน ทั้งเรื่องที่ท่านหนานขัดแย้งกับองค์รัชทายาท ยังมีเรื่องของพระชายารัชทายาทที่ความจริงหนานอิงควรเข้าไปอยู่ในคุกหลวงแต่บัดนี้นางกลับสุขสบายดี ตรงข้ามกับพระชายาที่กำลังลำบากหาทางพ้นผิดจากข้อหายาพิษในชาของฝ่าบาท ทั้งอาการของพระชายาที่ต้องพิษในคราแรกที่เหมือนจะดีขึ้นในครานี้กับอาการย่ำแย่รักษาเช่นไรก็ไม่หาย
บุตรสาวฝาแฝดของนางกลายเป็นเบี้ยล่างของหนานอิงโดยไม่เคยบอกเหตุผลนั้นกับฮูหยินใหญ่ กระทั่งบัดนี้ฮูหยินใหญ่เองกำลังระเห็จออกจากสกุลหนาน
เรื่องราวพวกนี้หากจะว่าไปแล้วล้วนเกิดขึ้นภายในพริบตา แม้ว่าฮูหยินใหญ่จะหาทางกำจัดหนานอิงแต่กลับไม่อาจเข้าถึงตัวนาง เป็นไปได้หรือไม่ว่าทั้งหมดนี้ล้วนเป็นแผนการของหนานอิงที่ได้วางเอาไว้อย่างแยบยล
หากเป็นเช่นนี้หนานอิงผู้นี้ทำได้อย่างไร?
หนานอิงก้าวเท้ามาหยุดตรงหน้าฮูหยินใหญ่แล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนหวาน ด้วยบัดนี้ที่หน้าสกุลหนานมีสายตาของชาวบ้านหลายคนที่มารอดูการจากไปของฮูหยินใหญ่ด้วยตาของตัวเอง
ข่าวลือเรื่องท่านหนานจะยกย่องนางโลมผู้หนึ่งขึ้นมาแทนฮูหยินใหญ่นั้นรู้ไปทั่วทั้งเมือง มีเพียงฮูหยินใหญ่เท่านั้นที่ไม่รู้เนื่องด้วยนางอยู่เพียงภายในเรือนด้วยอาการป่วยไข้ และใบหน้าของนางที่เสียโฉมจากการถูกน้ำร้อนของหานเซียวในครานั้น นางจึงเหมือนคนหูหนวกตาบอดไม่รู้เรื่องราวอันใดแล้ว
เมื่อมีข่าวนี้กลับมีมือดีในวงพนันแอบพนันกันอย่างลับ ๆ ว่าท่านหนานจะหย่าฮูหยินใหญ่ที่ตกแต่งมาอย่างถูกต้องทั้งยังใช้ชีวิตร่วมกันมานานกว่าสามสิบปีผู้นี้หรือไม่ วงพนันถูกขยายออกไปอย่างรวดเร็วยิ่งกว่าไฟไหม้ฟาง
ชื่อเสียงของสกุลหนานบัดนี้นับว่าตกต่ำลงทุกวันแล้ว ข่าวพระชายารัชทายาทวางยาพิษหนานอิงเพิ่งผ่านพ้นมาไม่นานก็มีข่าวของท่านหนานลุ่มหลงนางโลมจนต้องการหย่าขาดจากฮูหยินใหญ่เข้ามาแทน
ฮูหยินใหญ่เองกลับแปลกใจยิ่งนัก เรื่องภายในครอบครัวของนางเหตุใดจึงรู้ถึงหูชาวบ้านได้เร็วเช่นนี้ แม้แต่วันนี้ที่นางกำลังจะออกจากจวนก็ยังมีคนมามุงดู
"หนานอิงส่งแม่ใหญ่เจ้าค่ะ"
"ขอบใจลูกห้ามากที่มาส่งแม่"
สองคนล้วนแสดงละครให้คนดู หนานอิงน้ำตาซึมกระทั่งยกผ้าเช็ดหน้าขึ้นเช็ดน้ำตานั้น
"ท่านแม่รักษาสุขภาพนะเจ้าคะ อย่างไรท่านแม่ก็คือแม่ของข้าวันออกเรือนหนานอิงยังต้องการพรของท่าน"
เสียงชาวบ้านผู้หนึ่งเอ่ยขึ้น
"แม่นางหนานอิงช่างกตัญญูยิ่งนัก น่ายกย่องเป็นอย่างยิ่ง"
แน่นอนว่าเสียงร่ำลือนี้ถูกโหมพัดไปไกล ลูกอนุในสกุลหนานมามากมายนักแต่วันนี้ไม่มีผู้ใดกล้าโผล่ออกมาแม้แต่คนเดียว ในยามนี้คนในจวนสกุลหนานความจริงก็เห็นแล้วว่าฮูหยินใหญ่ตกต่ำเพียงใด หากการยุ่งกับฮูหยินใหญ่แล้วทำให้ตนเองเดือดร้อนย่อมไม่มีผู้ใดกล้าโผล่มา
เมื่อเป็นดังนั้นหนานอิงในยามนี้จึงกลายเป็นบุตรสาวผู้กตัญญูแม้จะเคยถูกขับไล่ก็หาได้โกรธแค้น ความงดงามทั้งกายและใจของนางบัดนี้ต่างเล่าขานไปทั่ว
หนานอิงจับมือของฮูหยินใหญ่แล้วเอ่ยด้วยใบหน้าเศร้าสลด
"ท่านแม่ใหญ่อิงเอ๋อร์มาส่งท่านเป็นครั้งสุดท้ายแล้ว จากนี้ไปท่านอย่าฝันว่าจะได้กลับมาเหยีบสกุลหนานอีก ท่านรู้หรือไม่เหตุใดท่านพ่อจึงรีบหย่าให้ท่านโดยไม่ทัดทานความจริงหาใช่เหตุผลไร้สาระนั่นอย่างที่ท่านเข้าใจ"
ฮูหยินใหญ่มือสั่นระริกแววตาของนางตื่นตระหนก หนานอิงยิ้มในดวงตาเป็นเพราะความอัปลักษณ์จากบาดแผลทำให้ฮูหยินใหญ่ปิดบังใบหน้าเอาไว้ด้วยผ้าโปร่งสีขาวผืนหนึ่ง แต่หนานอิงคิดว่าใบหน้านั้นย่อมบิดเบี้ยวด้วยความเจ็บช้ำเป็นแน่
"เจ้าหมายความว่าอย่างไร"
หนานอิงดึงนางมากอดเอาไว้แล้วเอ่ยเสียงเบาเยาะหยัน
"ข้าจะบอกท่านให้เพื่อเอาบุญ ท่านหนานกำลังลุ่มหลงนางโลมผู้หนึ่งจึงเขี่ยท่านทิ้งกำลังจะยกย่องนางโลมผู้นั้นขึ้นเป็นฮูหยินแทนท่าน เป็นอย่างไรเล่าข่าวนี้น่ายินดีหรือไม่"
ฮูหยินใหญ่น้ำตาไหลพราก แต่คนที่น้ำตาไหลมากกว่าคือหนานอิง นางยินดีเป็นอย่างยิ่งแผนของนางบัดนี้ก้าวเข้ามาเกินครึ่งหนึ่งแล้ว
"ข้าไม่เชื่อ ข้าไม่เชื่อ"
หนานอิงปาดน้ำตาเอ่ยเสียงเบา
"ท่านจะเชื่อหรือไม่ก็ไม่มีประโยชน์แล้ว ฮูหยินใหญ่แม้แต่กระดูกและเลือดเนื้อของท่านข้าก็จะเลาะออกมาท่านคอยดูเถิด"
"นังสารเลว"
หนานอิงบีบมือฮูหยินใหญ่แน่น แน่นจนกระทั่งฮูหยินใหญ่คิดว่านิ้วของตนเองกำลังจะหลุดออกมาแล้ว
"สารเลวหรือ คงไม่มากเท่าท่านรักษาชีวิตให้ดีเถิดเมื่อท่านออกจากสกุลหนานก็ไร้คนคุ้มกันแล้ว"
หนานอิงใช้ผ้าเช็ดหน้าเช็ดน้ำตาให้ฮูหยินใหญ่แววตาแฝงไว้ด้วยความอาฆาต ฮูหยินใหญ่หนาวสะท้านร่างกายประดุจกำลังถูกแววตานั้นเฉือนเนื้อออกมาทีละชิ้น
กระทั่งหนานอิงยอบกายอย่างอ่อนน้อม
"หนานอิงส่งแม่ใหญ่เจ้าค่ะ"
บ่าวของฮูหยินใหญ่ประคองผู้เป็นนายขึ้นรถม้า ฮูหยินใหญ่ยังตกตะลึงตะโกนเสียงดังลั่น
"องครักษ์ของข้าอยู่ที่ใด องครักษ์ของข้า"
บ่าวคนใหม่ของฮูหยินเป็นคนที่นางคัดเลือกมากับมือ น่าเสียดายแท้ ๆ ที่คนคนนี้ก็เป็นคนของหนานอิงเช่นกัน เพราะตั้งแต่ใบหน้าเสียโฉมและล้มป่วยฮูหยินใหญ่มักจะหงุดหงิดอารมณ์เสียเป็นอย่างยิ่ง
บ่าวไพร่ในจวนล้วนไม่อยากเข้าใกล้ ยิ่งต่อมาท่านหนานไม่ให้ความสำคัญกับนางผิดกับอนุผู้อื่น คนที่จะกตัญญูกับฮูหยินใหญ่นั้นก็มิได้มีแล้ว กระทั่งหนานอิงมีโอกาสส่งคนของนางเข้าไปข้างกายฮูหยินใหญ่ในที่สุด
"ฮูหยินพวกเขาอยู่ข้างนอกเจ้าค่ะ นายหญิงอย่าได้กังวลคนมากมายนักย่อมคุ้มครองท่านได้"
"บอกพวกเขาอย่าห่างข้าต้องคุ้มครองข้าให้ดีเข้าใจหรือไม่ เข้าใจหรือไม่"
"เจ้าค่ะ"
บัดนี้องครักษ์ที่อยู่ข้างกายฮูหยินใหญ่หาใช่คนจากเจียงหนานอีกต่อไป เมื่อคนหนึ่งหมดอำนาจวาสนาจะมีผู้ใดยอมรับใช้กันเล่า แม้จะให้คนรายรอบตัวเพียงใดก็ไม่อาจทำให้ฮูหยินใหญ่คลายความหวาดกลัวลงไปได้
ระหว่างที่รถม้าของฮูหยินใหญ่วิ่งออกจากจวนนั้นบังเอิญวิ่งไปพบรถม้าคันหนึ่งที่สวนทางมา เส้นทางนี้เป็นถนนแคบผู้คนมักไม่ค่อยใช้จึงค่อนข้างเปลี่ยว แต่ก็เป็นทางลัดที่คนชั้นสูงนิยมใช้เป็นเส้นทางสัญจร เนื่องจากถนนแคบจึงทำให้รถม้าที่มาจากสกุลเล็กกว่าต้องเป็นฝ่ายหลบ
คนขับรถม้าเห็นตราประจำนวนที่ประทับอยู่ข้างรถม้าแล้วเอ่ยว่า
"เรียนฮูหยินเป็นรถม้าของจวนเราขอรับ"
ฮูหยินใหญ่เลิกคิ้วด้วยความสงสัย จะมีผู้ใดกล้าใช้สัญลักษณ์ของจวนกั๋วกงอีกนอกจากนางและท่านหนาน ฮูหยินใหญ่เบิกตากว้างนางคิดถึงคำพูดของหนานอิงขึ้นมา
"ท่านพี่ เจ้าพาข้าออกไปข้าจะไปหาท่านพี่"
"แต่ฮูหยินเจ้าคะข้างนอกลมแรงยิ่งร่างกายของท่านยังอ่อนแอ"
"บังอาจ ผู้ใดใช้ให้เจ้าออกความคิดกัน"
แววตาของฮูหยินใหญ่แข็งกร้าวหากนางมีเรี่ยวแรงกว่านี้คงตบใบหน้าบ่าวรับใช้ชั้นต่ำผู้นี้ไปแล้ว เมื่อบ่าวเห็นว่าไม่อาจทัดทานได้จึงรับคำเบา ๆ
"เจ้าค่ะ"
ฮูหยินใหญ่ถูกพยุงลงจากรถม้า นางแทบจะยืนไม่ไหวอยู่แล้วยังต้องการฟังคำของสามีว่าแท้จริงแล้วหย่าขาดจากตนด้วยเหตุผลใดกันแน่ บัดนี้กลับคล้ายจะมีแรงขึ้นมาอีกมากนางจึงยืนขวางทางท่านหนานอยู่เช่นนั้นไม่ปล่อยให้รถม้าของเขาวิ่งผ่าน
ท่านหนานเองกำลังตระกองกอดร่างอบอุ่นนุ่มนิ่มตึงมือของสตรีแรกแย้มผู้หนึ่ง ทั้งยังสูดดมความหอมจากซอกคอประดุจคนกำลังเสพติดของบางสิ่งบางอย่าง เมื่อมีคนมาขัดจังหวะทำให้เขาอารมณ์เสียเป็นอย่างยิ่ง
"นายท่านเป็นฮูหยินขอรับ ฮูหยินขวางทางเอาไว้รถม้าไม่อาจขยับได้ขอรับ"
เสียงแหบโหยทั้งแก่ชราระคายหูของฮูหยินใหญ่ดังขึ้น
"ท่านพี่ท่านจะแล้งน้ำใจกับข้าหรือเจ้าค่ะ ท่านตอบข้ามาท่านมิได้ตั้งใจจะยกตำแหน่งฮูหยินให้ผู้อื่นใช่หรือไม่เจ้าคะ"
แม่นางอวี้ชิงได้ยินดังนั้นจึงก้มหน้า น้ำตาของนางอาบแก้ม
"เป็นฮูหยินของท่านมิใช่หรือเจ้าคะ ที่แท้พวกท่านมิได้หย่ากันอวี้ชิงไม่คิดทำให้ครอบครัวผู้ใดแตกแยก หากเป็นเช่นนี้ท่านกั๋วกงก็อย่าได้ยุ่งกับอวี้ชิงอีกเลย อวี้ชิงแม้ไม่ยอมเป็นรองแต่ก็มิได้หมายความว่าจะทำให้พวกท่านทั้งสองต้องผิดใจกัน"
ท่านหนานรีบโบกมือทั้งเช็ดน้ำตาให้อวี้ชิง เขาชิงชังฮูหยินใหญ่ที่โผล่มาในยามนี้ทั้ง ๆ ที่กว่าเขาจะพานางกลับจวนได้ก็ต้องเกลี้ยกล่อมกันอยู่นาน
"เจ้าอย่าไปฟังนาง สตรีผู้นั้นชราและคุ้มคลั่งประเดี๋ยวดีประเดี่ยวร้าย นางเป็นคนยื่นหนังสือหย่าให้ข้าเองเจ้าก็เห็นแล้วมิใช่หรือ"
"เช่นนั้นนางมาโวยวายด้วยเหตุใดเจ้าคะ"
ท่านหนานถอนหายใจแล้วเอ่ยว่า
"นางคงอาการกำเริบ ได้พบหมอสักหน่อยคงดีขึ้น"
เขาต้องแสร้งทำเป็นคนดีเห็นอกเห็นใจอดีตภรรยาไม่อยากกลายเป็นคนแล้งน้ำใจต่อหน้าแม่นางอวี้ชิง ท่านหนานจึงจำใจลงไปจัดการด้วยตนเอง แต่แม่นางอวี้ชิงกลับมีจิตใจงามอยากลงไปขอโทษฮูหยินใหญ่ด้วยตนเอง ท่านหนานก็มิอาจห้ามได้ไม่ว่านางจะทำสิ่งใดก็ใจอ่อนไปเสียหมดคนทั้งคู่จึงคลอเคลียกันลงจากรถม้า
ฮูหยินใหญ่เห็นสามีเดินลงมาพร้อมสตรีร่างอรชรใบหน้างามล้ำผู้หนึ่ง ทั้งการแต่งกายนั้นก็ยั่วยวนดูก็รู้ว่ามาจากสำนักใดถึงกับเส้นเลือดบนศีรษะเต้นตุบ ๆ ดวงตาแดงฉานคล้ายจะกรีดร้องออกมาอย่างบ้าคลั่ง
"ท่านพี่ สตรีผู้นั้นคือผู้ใด?"
อวี้ชิงกลับยอบกายคารวะอย่างนบนอบ
"เรียนอดีตฮูหยินข้าน้อยอวี้ชิงเจ้าค่ะ"
ท่าทางของท่านหนานที่กอดประคองนางประดุจรักใครหนักหนา และยังแววตาอันหวานซึ้งทำให้ฮูหยินใหญ่เข้าใจได้ทันที กระนั้นนางก็ยังทำใจดีหลอกตนเองว่าเรื่องที่หนานอิงพูดย่อมไม่จริง
ที่ผ่านมาท่านหนานจะมีอนุสักกี่คนนางไม่เคยขัดข้อง แต่มิใช่ให้ผู้ใดกำเริบเสิบสานมาปีนป่ายขึ้นสูงถึงตำแหน่งของนาง เช่นนี้นางย่อมมิอาจทนได้
"ท่านพี่นางเป็นผู้ใดเจ้าคะ"
บ่าวผู้นั้นที่อยู่ข้างกายฮูหยินใหญ่กลับอุทานออกมาในเวลาที่เหมาะสม
"ฮูหยินหรือว่านั่นจะเป็นคนที่นายท่านจะแต่งเข้าจวนเป็นฮูหยินคนใหม่เจ้าคะ รูปร่างอรชรงดงามเช่นนี้เองนายท่านจึงได้หลงใหลนัก นางผู้นั้นจะต้องมาแทนที่ฮูหยินใหญ่แน่แล้ว เช่นนี้ท่านจะมีโอกาสกลับเข้าจวนหนานหรือเจ้าคะ"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ช่วยข้าทีสองสามีของข้าคือท่านอ๋องจอมโหด NC25 3P
ไม่นะ หานเซียวจะตายแยบรี้ไม่ได้ ฮื่อออออๆๆ...