ช่วยข้าทีสองสามีของข้าคือท่านอ๋องจอมโหด NC25 3P นิยาย บท 92

เมื่อวันคล้ายวันประสูติของฮ่องเต้มาถึง พิธีเฉลิมฉลองที่ถูกจัดการโดยรัชทายาทจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ บรรดากงกงและนางกำนัลต่างวุ่นวายกันตั้งแต่เช้ามืด ราษฎรเองต่างก็ออกมาเดินบนท้องถนนทั้งยังมีการจัดงานกันอย่างคึกคัก

ทุกที่ต่างถูกประดับประดาด้วยโคมไฟอันงดงามไม่เว้นแม้แต่ตรอกอันคับแคบ วังหลวงแจกจ่ายอาหารและข้าวสารใหักับประชาชนผู้ยากไร้ฟรีต่อเนื่องถึงเจ็ดวันเจ็ดคืน ยังมีขุนนางและพ่อค้าร่วมกันทำโรงทานอยู่หน้าจวนของตนเองกันอย่างคับคั่งเพื่อร่วมทำบุญอธิษฐานให้ฝ่าบาทมีอายุยืนหมื่นปี

แต่ท่ามกลางการเฉลิมฉลองที่ยิ่งใหญ่นี้เบื้องหลังนั้นกลับคุกรุ่นไปด้วยไฟสงครามที่เตรียมระเบิดออกมา ฝั่งขององค์รัชทายาทนั้นไม่ระแคะระคายเลยสักนิดว่าแผนของตนนี้บัดนี้ถูกคนของซู่อ๋องลู่หนิงหวังเตรียมดักเอาไว้แล้ว

ในขณะที่อ๋องทั้งสองกลับทำเหมือนไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้น หนานอิงแอบลอบออกไปนอกจวนในขณะที่มือสังหารที่ร่วมกับกลุ่มโจรร้ายนั้นกำลังซุ่มดักเพื่อลักพาตัวนางแล้ว

หนานอิงแสร้งทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ นางกลับอาฉียังเดินเที่ยวชมโคมไฟในงานเฉลิมฉลองอย่างมีความสุข โดยมีองครักษ์ของสองอ๋องคอยคุ้มกันอยู่ห่าง ๆ 

ทหารขององค์รัชทายาทถูกเปลี่ยนชุดแฝงกายปะปนอยู่ร่วมกับชาวบ้านเป็นจำนวนมาก ซึ่งบัดนี้คนจากทั่วสารทิศต่างหลั่งไหลกันเข้าเมืองหลวงเพื่อร่วมถวายพระพรฝ่าบาท อยากนักที่จะมองออกว่าผู้ใดเป็นผู้ใด

กระทั่งทหารรับจ้างจากเจียงหนานก็ถูกจ้างวานมาเพื่อร่วมการนี้นับพันนาย หนานอิงกลับไม่สบายใจนางตั้งใจว่าครานี้จะสังหารคนที่ทำร้ายนางทั้งหมดให้สิ้นซากแล้วรีบไปสมทบกับอ้ายเจิงเพื่อตลบทัพหลังขององค์รัชทายาทแต่กลับถูกอาฉีห้ามเอาไว้

"นายหญิงนายท่านล้วนเชี่ยวชาญการศึก ท่านมิได้อยู่ในแผนของเขาหากเข้าไปยุ่งอาจจะทำให้แผนการนั้นมีช่องโหว่ จัดการเรื่องของท่านให้เรียบร้อยแล้วรอฟังข่าวดีเสียดีกว่า"

หนานอิงพยักหน้า พวกนางยังคงเดินเที่ยวเล่นต่อ จนกระทั่งหายเข้าไปในฝูงชนบนท้องฟ้าบัดนี้สว่างจ้าทั้งเสียงดังสนั่นด้วยมีพลุที่ถูกจุดขึ้นไปด้านบน ส่องสว่างงดงามเป็นอย่างยิ่ง 

อาฉีและหนานอิงเงยหน้าขึ้นมองพลุนั้นท่ามกลางคนมากมายที่เบียดเสียดและต่างคนต่างไม่สนใจกัน ทั้งยังมีเสียงเรียกคนเข้าร้านของร้านค้าข้างทาง ยากเกินจะแยกแยะว่าเสียงใดเป็นเสียงใด ฉับพลันหนานอิงก็ถูกใครผู้หนึ่งใช้ผ้าอุดปากและลากตัวไปเสียแล้ว

เมื่ออาฉีหันมามองข้างกายก็ไม่พบแม้แต่เงาของหนานอิง แต่หนานอิงมิใช่คนโง่นางรู้ว่าต้องถูกลักพาตัวจึงได้ทำสมุนไพรตัวหนึ่งเอาไว้ ในยามที่ถูกอุดปากนั้นก็ได้โปรยผงสมุนไพรเป็นทางกลิ่นนั้นจะทำให้แมลงกู่บินตาม

ในกระเป๋าของอาฉีมีแมลงกู่เป็นจำนวนมากด้วยตัวของมันที่ส่งแสงสว่างคล้ายแสงของหิ่งห้อยจึงทำให้อาฉีสามารถติดตามหนานอิงได้อย่างรวดเร็ว

หนานอิงเองในยามที่โดนผ้าผืนนั้นปิดปาก นางได้กลั้นหายใจเอาไว้ยังแสร้งขัดขืนเล็กน้อยสุดท้ายก็คอพับลง คนพวกนั้นต่างไม่รู้ว่าบัดนี้หนานอิงมีวรยุทธ์แล้วลักษณะของมันหนานอิงย่อมคุ้นเคยอยู่ไม่น้อย

ความหวาดกลัวครานั้นทำให้เรื่องนี้มิเคยลบเลือนออกจากใจแม้แต่เพียงครั้งเดียว 

ถึงจะบอกว่ากองทัพของลู่หนิงหวังจะทลายกองโจร แต่คนหลบหนีได้ก็ยังมีเป็นจำนวนมากรวมทั้งหัวหน้าโจรตาเดียวผู้นั้นที่หนานอิงเข้าใจว่าเขาได้ล่วงเกินนางไปแล้ว

เพราะนางหาใช่สตรีบริสุทธิ์เรื่องที่คิดจะปีนขึ้นไปอยู่ในตำแหน่งพระชายานั้นหนานอิงเองกลับคิดว่าเป็นสิ่งที่ยากจะเอื้อมถึง

นางก็แค่สตรีที่มีมลทินผู้หนึ่ง อย่างไรเสียก็เป็นได้เพียงสตรีอุ่นเตียงของพวกเขา ในยามนี้ยังได้รับความโปรดปรานแต่หากอนาคตพวกเขาเจอคนที่เหมาะสมหนานอิงย่อมต้องยอมหลีกทางแต่โดยดี

บนหลังคาของวังต้องห้ามซึ่งเป็นจุดสองสุดบุรุษผู้หนึ่งในอาภรณ์ชุดดำกำลังยืนอยู่ ลมพัดแรงเป็นอย่างยิ่งแต่ร่างสูงโปร่งของเขากลับไม่ไหวติง เขามองลงไปด้านล่างที่ดูราวกับเป็นสถานที่จำลองเล็กจิ๋วแล้วก็ได้แต่ทอดถอนหายใจ

ลู่หนิงหวังหลับตาคราหนึ่งก่อนจะเป่าสัญญาณบางอย่างออกไป กบฏ หลายหมื่นนายกำลังขับเคลื่อนเข้ามาประชิดทั้งเงียบเชียบและแผ่วเบา 

เขาแสยะยิ้มเหี้ยมเกรียมเมื่อเห็นเงาดำเคลื่อนไหวราวกับฝูงมดดำฝูงใหญ่กำลังล้อมรอบพระราชวังที่ภายในยังคงครึกครื้นด้วยเสียงดนตรีและนางรำที่ร่ายรำอ่อนช้อยงดงาม

ในการนี้ล้วนมีทั้งเสนาที่รู้เรื่องเป็นอย่างดีและเสนาที่ไม่รู้เรื่องราวอันใดต่างกำลังดื่มกินอย่างสนุกสนาน ในขณะที่ด้านล่างนั้นอ้ายเจิงแสร้งเมามายจนถูกคนหามออกจากงานไปแล้ว ข้างกายของฝ่าบาทยังมีหานเซียวอีกทั้งหมอหลวงอ้ายผู้มีฝีมือและกองกำลังของเขาคุ้มครองอยู่

แต่คุ้มครองแล้วอย่างไรก่อนที่จะเสด็จออกไปยังท้องพระโรงฝ่าบาทอาการทรุดหนักแทบจะยืนไม่อยู่ด้วยซ้ำ หากมิได้ยาของหมออ้ายเกรงว่าจะมิอาจพ้นคืนนี้ไปได้

รับสั่งของฝ่าบาทยังคงก้องอยู่ในหูของเขา

"บัลลังก์ของเจ้าข้าคืนให้แล้ว ในวันที่อดีตฮ่องเต้สวรรคตนั้นข้าได้รับปากเขาดูแลบัลลังก์ไว้เพื่อรอเจ้าเติบใหญ่ แต่ข้ากลับเห็นแก่ตัวยึดอำนาจเอาไว้เสียเองยังปลดเจ้าออกจากตำแหน่งรัชทายาทที่ควรจะเป็น แต่งตั้งลูกชายไร้ประโยชน์ผู้นั้นมาเป็นรัชทายาทแทน สุดท้ายแล้วอย่างไรข้าก็ต้องคืนเจ้าอยู่ดี ลู่หนิงหวังบัลลังก์นี้เป็นของเจ้าแล้ว"

พระอาการหนักหนาเช่นนั้นยังทรงแย้มสรวลออกมา ที่ผ่านมาฝ่าบาทเคยหวาดระแวงเขาเป็นอย่างมากแต่พระองค์ก็เมตตาเขาและหานเซียวมากเช่นกัน คนผู้นี้ประดุจบิดาบังเกิดเกล้าของเขา ลู่หนิงหวังมิต้องการบัลลังก์หวังเพียงให้ฝ่าบาทอายุยืนนานกว่านี้สักหน่อย เพื่อให้เขาได้มีโอกาสเห็นแก่ตัวใช้ชีวิตอยู่กับหนานอิงและหานเซียวได้อย่างไร้ห่วงกังวลอันใด

แต่บัดนี้เขามิอาจเห็นแก่ตัวได้อีกแล้ว

เมื่อคนสำคัญต่างมารวมตัวในวังหลวงทั้งหมด ทัพขององค์รัชทายาทได้โอกาสรถเข็นผักถูกแปรเปลี่ยนเป็นรถมุมเหล็กสำหรับใช้เปิดประตูในแต่ละชั้นของตำหนัก

กระทั่งคนของรัชทายาทแอบเปิดประตูวังด้านหนึ่งรถที่พวกเขาเตรียมเอาไว้มิได้ใช้งาน ทหารยามกว่าครึ่งเป็นคนที่รัชทายาทวางเอาไว้เนื่องจากเขาเป็นคนลงมือจัดงานด้วยตนเอง

ลู่หนิงหวังส่งสัญญาณเป็นพลุสีแดงส่องมาจากทิศตะวันตก หานเซียวรู้แล้วว่าคนขององค์รัชทายาทกำลังบุกเข้ามาในกำแพงชั้นในแล้ว เขาพยักหน้าให้หัวหน้าองครักษ์ให้เตรียมพร้อมให้ดีในขณะที่องค์รัชทายาทใบหน้าแย้มยิ้มคล้ายเรื่องที่เกิดขึ้นภายนอกนั้นหาได้เกี่ยวกับตนเอง

พลุสีแดงถูกจุดเป็นสัญญาณหาได้มีผู้ใดสงสัยว่าเป็นพลุอันใดกันแน่ด้วยในค่ำคืนนี้ท้องฟ้าล้วนเต็มไปด้วยความงดงามของพลุนับพันดวง

เมื่อสัญญาณพลุดวงที่สองเกิดขึ้น การอพยพไทเฮาและเหล่านางกำนัลจึงได้เกิดขึ้น หานเซียวเตรียมการนำส่งเสด็จโดยไทเฮาอ้างว่าทรงปวดพระเศียรด้วยโรคชรามิอาจอยู่ร่วมงานต่อ ยังอวยพรฝ่าบาทก่อนเสด็จกลับพร้อมนางกำนัลทั้งขบวน

ขุนนางต่างร่ำสุราชมความงามของนางรำกันด้วยใบหน้าแย้มยิ้ม ดอกเบญจมาศส่งกลิ่นหอมกรุ่นไปทั่วงามยิ่งสร้างบรรยากาศให้แช่มชื่นเป็นอย่างยิ่ง

"ลูกข้าวันนี้จัดงานได้ดียิ่ง"

"ขอบพระทัยพ่ะย่ะค่ะ ลูกทุ่มเทเต็มที่เพื่อให้เสด็จพ่อทรงพระสำราญ อายุยืนหมื่นปี หมื่น หมื่นปี"

ฝ่าบาทยกสุราขึ้นดื่ม ภายในจอกสุรานั้นกลับเป็นยาระงับอาการป่วยภายในพระองค์ไอออกมาเล็กน้อยกงกงรีบเช็ดพระโอษฐ์และพบว่ามีเลือดติดออกมาบนผ้าเช็ดหน้าผืนนั้น ท่านหนานเห็นสีหน้าตกใจของกงกงเกรงจะทำให้องค์รัชทายาทจับพิรุธได้จึงแสร้งขยับกายมายืนบังร่างอ้วนของกงกงผู้นั้นเอาไว้

กงกงผู้นี้เป็นคนขององค์รัชทายาทเขาตั้งใจนำข่าวนี้ไปแจ้งแต่บัดนี้ต้องอยู่รับใช้ข้างกายจึงส่งข่าวให้นางกำนัลผู้หนึ่งนำความไปบอกองค์รัชทายาทแทนว่าดูคล้ายฝ่าบาทจะป่วยหนักแล้วแต่หมอหลวงอ้ายได้ปิดบังอาการเอาไว้

นางกำนัลนางนั้นเดินอ้อมมาด้านหลังนางชนกับใครคนหนึ่งทั้งยังถูกดาบจ่ออยู่ที่ลำคอนางยังไม่ทันได้อ้าปากร้องก็ถูกผ้าอุดปากเสียก่อน

ในงานเลี้ยงเมื่อองค์รัชทายาทเมื่อไม่เห็นลู่หนิงหวังจึงถามหาทันใด

"อย่าถือสาซู่อ๋องนักเลยแต่เดิมเขาก็มิได้ชื่นชอบงานรื่นเริงเท่าใด เขาขออนุญาตเราไปดื่มสุราอวยพรเพียงลำพังแล้ว"

กระทั่งคนของรัชทายาทเป็นฝ่ายส่งสัญญาณถึงเวลาลงมือก่อการกบฎ ทหารของลู่หนิงหวังอยู่ห่างจากวังหลวงหลายร้อยลี้ ยังมีทหารในวังหลวงมากกว่าครึ่งที่ยอมสวามิภักดิ์ต่อเขา ทั้งภายนอกก็มีมือสังหารห้าหมื่นนายเป็นกองหนุนครานี้เขาถึงกลับกล้าหัวเราะด้วยเสียงอันดังออกมา

"เสด็จพ่อ กระหม่อมขอถามระหว่างรัชทายาทคนนี้ที่เป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของท่านและลู่หนิงหวังผู้นั้นพระองค์ทรงให้ความสำคัญกับผู้ใดมากกว่ากันแน่"

"องค์รัชทายาทท่านเมาแล้ว"

หานเซียวเอ่ยขึ้นทันใด

"เมาหรือ กระทั่งเจ้าหานเซียวหรือแม้แต่อ้ายเจิงบุตรของหมอหลวงอ้ายก็ดูเหมือนว่าในใจของฝ่าบาทจะสำคัญกว่าข้าที่เป็นบุตรชายเสียอีก"

รัชทายาทชี้หน้าหานเซียว แววตาของเขาคล้ายจะเยาะหยันคนทั้งโลก

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ช่วยข้าทีสองสามีของข้าคือท่านอ๋องจอมโหด NC25 3P