บทที่ 1475 : สีนิลพัฒนาร่าง!
“ท่านน้าจินเหยีวคืนนี้ข้าจะไปหามังกรทั้งสองตัวหน่อย ท่านเองก็เหนื่อยกับข้ามาหลายชั่วโมงแล้ว ท่านกลับไปพักผ่อนเถิด..”
หลิงหยุนจากจิงฉูไปหลายวันเมื่อกลับมาอีกครั้งย่อมต้องคิดถึงมังกรดำและมังกรแดงทั้งสองเป็นแน่ เขาจึงต้องการที่จะไปเยี่ยมเยียมพวกมันเสียหน่อย
“เจ้าไปเถิด..ว่าแต่เจ้าเองก็ยุ่งมาทั้งวันแล้ว ควรจะต้องหาเวลาพักผ่อนเสียบ้าง..”
จินเหยียวรู้ดีว่าหลิงหยุนคงมีเวลาอยู่จิงฉูไม่มากนักและคงต้องมีหลายเรื่องที่นี่ให้เขาต้องจัดการ
“นี่..เดี๋ยวก่อน!!”
แต่ก่อนที่หลิงหยุนจะออกไปนั้นเสียงของเหมี่ยวเสี่ยวเหมาก็ดังขึ้นจากด้านหลัง หลิงหยุนชะงักและหันหลังกลับไปถามทันที
“มีอะไรอีกเล่า” เหมี่ยวเสี่ยวเหมาลังเลเล็กน้อยก่อนจะเอ่ยออกไปว่า“เปลวไฟห้าธาตุหยิน–หยางของเจ้า เอามาบ่มเพาะเจ้าทองน้อยของข้าบ้างจะได้หรือไม่”
“อ่อ..ที่แท้ก็เรื่องนี้เองหรอกรึ”
หลิงหยุนแสร้งทำเป็นถอนหายใจยาวก่อนจะตอบกลับไปด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม “ไว้ค่อยคุยกันคราวหลัง!”
จากนั้นจึงใช้วิชาลวงตาเหาะหนีหายออกไปในทันที!
“ท่านอาจารย์ดูเขาสิ!”
เหมี่ยวเสี่ยวเหมาเห็นหลิงหยุนหนีไปเช่นนั้นก็ได้แต่นึกโมโหอย่างมาก
จินเหยียวยิ้มเล็กน้อยพร้อมตอบกลับไปว่า“เสี่ยวเหมา.. เจ้าจะร้อนใจไปไยเล่า เดี๋ยวหลิงหยุนก็ต้องไปเผ่าเหมี่ยวเจียงพร้อมกับเจ้าอยู่แล้ว ถึงตอนนั้นเขายังจะหนีไปไหนได้อีก?”
“เรื่องนั้นข้ารู้..แต่มันน่าโมโหมากจริงๆ!” เหมี่ยวเสี่ยวเหมาเอ่ยออกมาพร้อมกับกัดฟันกรอดส่วนจินเหยียวก็เอาแต่หัวเราะร่วน และไม่พูดอะไร
……
ในเวลาเพียงแค่ชั่วพริบตาในที่สุดหลิงหยุนก็มาถึงหลุมยักษ์ เขาเปิดจิตหยั่งรู้ออกสำรวจไปที่ก้นหลุมยักษ์ใต้ผืนน้ำด้านล่างทันที
“ดูเหมือนว่าจากเหตุการณ์ที่ทะเลจีนตะวันออกเมื่อคราก่อนคงจักทำให้ตระกูลหลงมิกล้าคิดที่จะยุ่มย่ามในจิงฉูอีกแล้วสินะ!”
เมื่อครั้งที่หลิงหยุนยังอยู่ในตระกูลฉินนั้นเขาก็ได้ยินจากฉินฉางชิงแล้วว่า ตระกูลหลงที่เคยนำคนของตนมาซุ่มอยู่ที่เมืองซีอาน ก็ได้แอบถอนกำลังกลับไปแล้วเช่นกัน
เห็นได้ชัดว่าจากท่าทีของตระกูลหลงนั้น เวลานี้หลิงหยุนแข็งแกร่งยิ่งนัก แม้แต่ตระกูลหลงยังมิกล้าที่จะยุ่งเกี่ยวด้วย
หลิงหยุนเหาะลงจากท้องฟ้าดำดิ่งลงไปที่ใต้น้ำภายในหลุมยักษ์ เขาใช้พลังจิตถือและควบคุมแก้วจ้าวสมุทรแทนมือ
เวลานี้หลิงหยุนคุ้นเคยกับหลุมยักษ์อย่างมากเขาเดินไปมินานนัก ก็พบกับเจ้าสีนิล..
“เจ้านาย..”
เจ้าสีนิลเปลี่ยนไปมากมันไม่หลบซ่อนตัวต่อหน้าหลิงหยุนอีกแล้ว และเวลานี้ลำตัวของมันก็หนากว่าหนึ่งเมตร และยาวนับสิบเมตร มันว่ายวนอยู่รอบๆตัวหลิงหยุนไปมาด้วยความดีอกดีใจยิ่ง
“ดูเหมือนเจ้าอยู่ที่นี่จะมีความสุขมากเลยสินะข้าค่อยรู้สึกโล่งใจหน่อย!”
หลิงหยุนยิ้มออกมาพร้อมกับพยักหน้าและถามต่อ “แล้วเจ้ามังกรแดงตัวโตเล่า ไปว่ายน้ำเล่นอยู่ที่ใดกัน”
สำหรับเจ้าสีนิลนั้นหลิงหยุนมิได้รู้สึกกังวลใจอันใดนักแต่สำหรับเจ้าตัวโตสีแดงนั้น หลิงหยุนค่อนข้างหนักใจยิ่ง เพราะมันคือจิตวิญญาณของมังกรแดนใต้ที่ดุร้าย เวลานี้ได้ร่างกายและเลือดเนื้อมา หลิงหยุนจึงเกรงว่ามันจะไปสร้างปัญหาให้กับตัวเขา
“มังกรแดงตัวโตนั่นมิชอบสถานที่แห่งนี้เพราะเล็กและคับแคบจนเกินไป นานๆครั้งจึงจะมาที่นี่สักหน มันชื่นชอบการว่ายวนอยู่ในท้องทะเลเสียมากกว่า และเวลานี้ข้าก็มิรู้ว่ามันอยู่ที่ใด..”
เจ้าสีนิลโผล่ศรีษะขึ้นตรงหน้าหลิงหยุนพร้อมกับจ้องมองเขาด้วยแววตาเคารพยิ่ง หลิงหยุนฟังแล้วก็ได้แต่แอบถอนหายใจเล็กน้อย
นั่นเพราะ..สระเล็กๆแห่งนี้ไหนเลยจะเลี้ยงดูมังกรตัวใหญ่ถึงเพียงนั้นได้!
หากเทียบกับทะเลจีนตะวันออก..มีหรือที่ก้นหลุมยักษ์ หรือแม้แต่ทะเลสาบผอหยางจะสามารถเทียบได้
“แล้วมังกรแดงกลับมาที่นี่บ้างหรือไม่”
เรื่องนี้เป็นเรื่องที่หลิงหยุนให้ความสนใจและเป็นห่วงมากที่สุด!
เจ้าสีนิลตอบกลับทันที“กลับเจ้านาย.. มังกรแดงตัวโตจะกลับมาที่นี่ทุกๆสามหรือสี่วัน มันเกรงว่าหากเจ้านายกลับมาจะมิพบเจอมัน..”
“ดีมาก!”
หลิงหยุนฟังแล้วก็ได้แต่นึกพอใจการที่หลิงหยุนเลือกให้มังกรทั้งสองตัวมาอยู่ที่นี่ เขาหาได้หวาดกลัวหากเจ้ามังกรแดงตัวโตจะออกไปเล่นที่ทะเลจีนตะวันออกบ้าง ตราบใดที่มันยังจดจำเจ้านายของมันได้
“แล้วที่ผ่านมาเจ้าสีแดงตัวโตนั่นได้ข่มเหงรังแกเจ้าบ้างหรือไม่”
เมื่อสีนิลได้ฟังเช่นนั้นดวงตาทั้งสองข้างของมันก็ได้แต่กระพริบปริบๆ และศรีษะมังกรก็ค่อยๆตกลงอย่างช้าๆ
และนั่นคือคำตอบที่ชัดเจนยิ่ง!
หลิงหยุนถึงกับเดือดดาลขึ้นมาทันที“เจ้ามังกรแดงกลับมาเมื่อใด บอกมันให้รอข้าอยู่ที่ก้นหลุมยักษ์นี้ และห้ามมิให้ไปไหน รอจนกว่าข้าจะมาพบ!”
“ความจริงมันก็มิได้ข่มเหงรังแกอะไรข้ามากมายมังกรแดงเพียงแค่บอกกับข้าว่า ในบรรดามังกรทั้งหมดนั้น มันคือเผ่าพันธุ์ที่สูงที่สุด ข้าจะต้องเชื่อฟังมัน..”
“หึ..เจ้านี่!!”
หลิงหยุนร้องตะโกนออกมาอย่างไม่พอใจนักและได้แต่คิดในใจว่าเจ้ามังกรแดงรู้จักที่จะโอ้อวด แต่เมื่อครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง จึงยอมรับว่ามังกรแดนใต้นับเป็นมังกรที่สูงส่งมากจริงๆ หากเปรียบเทียบจากความแข็งแกร่งของมันแล้ว มันจึงนับเป็นมังกรระดับสูงเลยก็ว่าได้!
แต่ถึงอย่างไรมังกรแดนใต้ก็ยังต่ำกว่ามังกรทองห้าเล็บที่ถือกำเนิดในจุดตันเถียนของหลิงหยุนเป็นแน่!
เมื่อคิดได้เช่นนี้หลิงหยุนจึงได้แต่ยิ้มและลูบไล้ศรีษะของเจ้าสีนิล พร้อมกับเอ่ยออกไปว่า “สีนิล.. เจ้าฟังข้านะ เจ้ามิต้องไปเกรงกลัวเจ้ามังกรแดงตัวโตนั่น เมื่อใดที่เจ้าเติบใหญ่ขึ้นมา ความแข็งแกร่งของเจ้าก็มิได้ด้อยไปกว่ามันเลย!” ระหว่างที่พูดนั้นหลิงหยุนก็ได้เรียกขวดโอสถสีทองออกมาจากแหวนจักรวาลหนึ่งขวด!
นี่คือโอสถมังกรทองของหยินจิ่วโย่ว!
หากจะว่าไปนี่นับเป็นโอสถระดับสมบัติชั้นยอดที่หลิงหยุนได้มาเลยทีเดียวเขาจ้องมองเจ้าสีนิลพร้อมกับเปิดขวดโอสถออกด้วยความกระตือรือร้นทันที
ทันทีที่หลิงหยุนเปิดฝาขวดโอสถสีทองออกแสงสีทองสุกสว่างก็พวยพุ่งออกมา และกลายร่างเป็นมังกรตัวเล็กๆ สิบแปดตัวที่กำลังจะเหาะออกมา..
“นี่นับเป็นโอสถระดับสมบัติที่ล้ำค่ายิ่ง!”
หลิงหยุนพุ่งทะยานออกไปคว้าโอสถมังกรทองตัวแรกที่เหาะออกมาไว้ได้ทันจากนั้นจึงรีบปิดฝาขวดโอสถไว้ทันที เพื่อป้องกันมิให้โอสถมังกรตัวอื่นๆเหาะตามออกมาได้!
จากนั้นจึงรีบเก็บขวดโอสถสีทองกลับเข้าไปไว้ในแหวนจักรวาลดังเดิมเขายิ้มให้กับเจ้าสีนิลพร้อมกับสั่งว่า
“อ้าปาก!”
เจ้าสีนิลสัมผัสได้ถึงปราณมังกรจากโอสถจึงรีบอ้าปากทันที..
“กลืนลงไป!”
หลิงหยุนสั่งให้เจ้าสีนิลกลืนโอสถมังกรทองนี้ลงไปในท้องของมัน
บูม!
หลังจากที่เจ้าสีนิลกลืนโอสถลงท้องไปแล้วร่างของมันก็พลันเปลี่ยนเป็นแสงสีทองสุกสว่างเจิดจ้าออกมาทันที ก่อนจะเปลี่ยนเป็นสีดำทอง และในที่สุดก็เปลี่ยนเป็นสีดำมันวาว และเปล่งประกายระยิบระยับ!
อึดใจต่อมา..ร่างใหญ่ของเจ้าสีนิลก็สั่นสะท้าน และว่ายวนอยู่ในน้ำ ร่างที่หมุนวนอยู่นั้นค่อยๆ เปลี่ยนแปลงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด!
สิ่งแรกที่เห็นคือ..เขามังกรนั้นดูเหมือนจะแข็งแกร่งขึ้น หลังจากผ่านไปครู่หนึ่ง หลิงหยุนก็สังเกตเห็นว่า ที่ใต้ท้องน้อยของเจ้าสีนิลนั้น จู่ๆก็เริ่มมีขาสี่ข้างงอกออกมา..
แม้มันจะยังเล็กอยู่มากแต่ก็แทบไม่ต้องสงสัยว่ามันคือขาทั้งสี่จริงๆแน่!
“คิดไม่ถึงว่าโอสถมังกรทองจะทรงพลังถึงเพียงนี้..’
หลิงหยุนตกใจอย่างมากแต่ก็พยักหน้ายิ้มๆเขาเฝ้าคุ้มกันเจ้าสีนิลกลายร่าง จนกระทั่งเจ้าสีนิลพัฒนาร่างได้สมบูรณ์ และค่อยๆสงบลง
“ขอบคุณเจ้านายยิ่งนัก”
“เอาล่ะเงยหน้าขึ้นแล้วดื่มนี่เสียหน่อย..”
หลิงหยุนเรียกน้ำเต้าออกมาและจัดการรินน้ำลายมังกรหลายกิโลกรัมเข้าไปในปากของเจ้าสีนิล
“รอเจ้ามังกรแดงตัวโตกลับมาก่อนมันจะได้เห็นว่าสีนิลของข้านั้น มิได้ได้ด้อยไปกว่ามันแน่ในวันข้างหน้า”
หลังจากเสร็จสิ้นแล้วหลิงหยุนจึงจัดการเก็บน้ำเต้ากลับเข้าไปในแหวนจักรวาลดังเดิม มิใช่เรื่องง่ายเลยที่จะเลี้ยงมังกร!
แต่เมื่อนึกถึงว่าเมื่อพวกมันพัฒนาร่างจนสามารถเหาะเหินไปในห้วงอากาศได้อย่างอิสระหลิงหยุนก็ได้แต่ตั้งหน้าตั้งตารอให้ถึงวันนั้น
หลังจากที่เจ้าสีนิลดื่มน้ำลายมังกรเข้าไปสิบกว่ากิโลกรัมปราณมังกรที่ปลดปล่อยออกจากร่างของมันนั้น เห็นได้ชัดว่ามีชีวิตชีวาและเสถียรมากยิ่งขึ้น
แม้เจ้าสีนิลจะดื่มน้ำลายมังกรเข้าไปอย่างมากมายแต่เขาก็มิได้นึกเสียดาย..
“สีนิลขอบคุณเจ้านายยิ่งนัก!”
สีนิลเอ่ยขอบคุณหลิงหยุนด้วยความซาบซึ้งใจแม้จะเป็นเพียงแค่คำพูดสั้นๆ แต่ก็เปี่ยมล้นด้วยความจริงใจ
“เหตุใดจึงต้องขอบคุณข้าด้วยเล่าเจ้าเองที่เป็นผู้เฝ้าอารักขาน้ำลายมังกรนี้มานานหลายปี มันจึงควรเป็นของเจ้ามิใช่รึ”
หลิงหยุนสังเกตเห็นว่าหลังจากที่เจ้าสีนิลดื่มน้ำลายมังกรเข้าไปขาทั้งสี่ของมันก็เริ่มเติบโตขึ้นมากกว่าเดิม และดูแข็งแกร่งขึ้นกว่าก่อน เขาจึงได้แต่ยิ้มออกมา
การที่มังกรได้ดื่มน้ำลายมังกรแน่นอนว่าประสิทธิภาพของมันยิ่งต้องเหนือกว่ามนุษย์ที่ได้ดื่มเข้าไป เว้นเพียงแค่หลิงหยุนเท่านั้น..
นั่นเพราะเมื่อหลิงหยุนดื่มน้ำลายมังกรเข้าไปกลับเป็นการทำให้มังกรทองห้าเล็บถือกำเนิดขึ้นในจุดตันเถียนของตน!
“เอาล่ะ..ข้ามาที่นี่เพื่อเยี่ยมเจ้าเท่านั้น วันหน้าหากอยากฝึกวิชาก็ฝึกที่นี่ แต่หากอยากออกไปเที่ยวเล่นที่ทะเลจีนตะวันออกบ้างก็ย่อมได้..”
เวลานี้ก็เป็นเวลาตีสามกว่าพอดีหลิงหยุนยังมีภารกิจอีกมากมาย เขาจึงไม่สามารถอยู่ที่นี่ได้นานนัก
เจ้าสีนิลเห็นหลิงหยุนจะจากไปเช่นนี้มันจึงได้แต่ว่ายวนอยู่รอบตัวหลิงหยุนไม่หยุด แม้แม้มันจะมิกล้าที่จะเอ่ยขอให้หลิงหยุนอยู่ต่อ แต่มันก็แสดงออกด้วยการกระทำของตน หลิงหยุนจึงต้องอยู่เล่นสนุกกับมันต่อและพามันไปที่ค่ายกลดวงตามังกรหยิน และค่ายกลดวงตามังกรหยาง..
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Dragon Emperor Martial God จักรพรรดิ์เทพมังกร