บทที่ 1476 : ความสุขของถังเมิ่ง
“น่าจะราวอีกหนึ่งหรือสองปีพลังหยินและหยางภายในค่ายกลแห่งนี้จึงจะฟื้นกลับคืนสู่สภาพเดิมได้..”
การฝึกวรยุทธบ่มเพาะของหลิงหยินก้าวหน้าได้รวดเร็วอย่างยิ่งพลังหยินและหยางเป็นสิ่งจำเป็นอย่างมากต่อการฝึกฝนของเขา แต่ในระยะเวลาที่ค่ายกลมังกรหยิน–หยางยังไม่ฟื้นคืนสู่สภาพเดิมนั้น สถานที่แห่งนี้คงจะมิมีประโยชน์อันใดต่อเขาอีก
เมื่อออกมาจากก้นหลุมยักษ์แล้วหลิงหยุนก็ได้เดินทางไปที่อพาร์ทเม้นท์เล็กๆใกล้กับโรงเรียนมัธยิมจิงฉู เพราะรู้ว่าเฉิงเม่ยเฟิงต้องไปรอเขาอยู่ที่นั่น
หลังจากที่ได้พบหน้ากันอีกครั้งทั้งคู่ต่างก็พูดคุยกันอย่างอบอุ่น ต่างฝ่ายต่างก็เล่าเรื่องของตนในช่วงเวลาที่แยกจากกันให้อีกฝ่ายฟัง
ทั้งสองคนนั่งสนทนากันอยู่บนเตียงร่วมสองชั่วโมงในเวลาตีห้าครึ่งหลิงหยุนจึงได้ลุกขึ้นจากเตียง และเหาะขึ้นไปบนท้องนภาฝึกวิชาดาราคุ้มกายต่อ
“วันๆเอาแต่ฝึกวิชา!”
เฉิงเม่ยเฟิงบ่นพึมพำเมื่อตื่นขึ้นมาไม่พบหลิงหยุนแต่เมื่อนึกขึ้นได้ว่า ในวันข้างหน้าเขาจะต้องเผชิญหน้ากับคุนหลุนที่ทั้งลึกลับและแข็งแกร่ง เฉิงเม่ยเฟิงจึงค่อยคลายความขุ่นเคืองใจลงได้
จนกระทั่งเจ็ดโมงเช้าหลิงหยุนจึงได้หยุดฝึกฝนวิชา และกลับมารับประทานอาหารเช้าพร้อมกับเฉิงเม่ยเฟิง ระหว่างที่นั่งรับประทานอาหารกันอยู่นั้น หลิงหยุนก็ได้เอ่ยขึ้นว่า
“เม่ยเฟิงหลังจากที่สะสางเรื่องต่างๆที่ค้างคาอยู่จนจบแล้ว ข้าจะต้องรีบพัฒนาขั้นพลังของตนเอง และจะต้องเดินทางไปช่วยท่านแม่ที่พรรคมาร ถึงเวลานั้นข้าคงต้องจากที่นี่ไปสักระยะหนึ่ง..”
“ข้าเข้าใจ..”
เฉิงเม่ยเฟิงเอ่ยตอบพร้อมกับหันไปยิ้มอ่อนโยนให้หลิงหยุน
หลังจากรับประทานอาหารเช้าเสร็จเรียบร้อยแล้วถังเมิ่งก็มาถึงในเวลาที่เฉิงเม่ยเฟิงกำลังเก็บโต๊ะอยู่พอดี
เมื่อวานหลิงหยุนบอกกับถังเมิ่งว่าวันนี้จะพาเขาไปพบเหออวี้ฉงที่โรงแรมไคเฉวียน จิตใจของถังเมิ่งจึงร้อนรุ่มดั่งไฟแผดเผา เขานอนไม่หลับตลอดทั้งคืน แม้แต่อาหารเช้าก็ทานไม่ลง จึงรีบรุดมาหาหลิงหยุนที่นี่แต่เช้าตรู่
“พี่หยุน..ฉันมาแล้ว!!”
ถังเมิ่งลงจากรถได้ก็วิ่งขึ้นไปหาหลิงหยุนที่ห้องทันทีพร้อมกับร้องตะโกนเรียกเสียงดัง
“นี่ถังเมิ่ง..ทำไมถึงได้มาเช้านัก ปกติเวลามีประชุม ฉันไม่เห็นนายกระตือรือร้นขนาดนี้เลย?”
เฉิงเม่ยเฟิงเดินยิ้มออกมาจากห้องครัวและพูดจากระเซ้าเย้าแหย่ถังเมิ่งทันที..
ถังเมิ่งถึงกับหน้าแดงก่ำเขายกมือขึ้นเกาศรีษะพร้อมตอบกลับไปด้วยท่าทางเก้อเขิน “ก็.. พี่หยุนกลับมาทั้งที อีกไม่นานก็คงต้องไปจากจิงฉูอีกแล้ว มิหนำซ้ำยังยุ่งวุ่นวายอยู่ตลอดเวลา มีโอกาสฉันก็อยากจะใช้เวลาอยู่กับพี่หยุนให้นานหน่อย ก็เท่านั้นเอง..”
แต่จะว่าไปสิ่งที่ถังเมิ่งพูดนั้นก็ล้วนเป็นความจริงเวลานี้ผู้คนรอบตัวหลิงหยุนต่างก็เข้าใจวิถีชีวิตของเขา และพยายามปรับตัวเองให้เข้ากับการครรลองชีวิตของหลิงหยุน ฉะนั้นแล้ว ไม่ว่าจะทำสิ่งใด ทุกคนจะคิดถึงเรื่องเวลาของหลิงหยุนเป็นหลัก หาไม่แล้วคงพลาดโอกาสที่จะได้อยู่ร่วมกันกับเขาเป็นแน่
แต่เฉิงเม่ยเฟิงกลับยิ้มออกมาและตอบไปว่า “ฉันกลัวว่ามันจะเป็นแค่ข้ออ้างน่ะสิ ดูนายวันนี้สิ.. โอ้โห แต่งตัวเหมือนจะไปอวดคนทั้งโลก ฉันว่านายแต่งตัวเหมือนคนกำลังจะไปออกเดทมากกว่า..”
“นี่พี่สะใภ้..ได้โปรดเถิดนะ พี่หยุนเองก็นั่งมองอยู่ พี่ก็ไว้หน้าฉันสักนิด..”
ถังเมิ่งเห็นว่าคำแก้ตัวของตนเองไร้ประโยชน์เขาจึงต้องรีบร้องขอความเมตตาจากเฉิงเม่ยเฟิงแทน
หลิงหยุนถึงกับหัวเราะออกมาเสียงดัง..
ด้วยฐานะของถังเมิ่งในวันนี้ทั่วทั้งเมืองจิงฉูมีใครบ้างที่จะกล้าพูดจาเช่นนี้กับถังเมิ่ง.. หาได้น้อยมาก และหลิงหยุนกับเฉิงเม่ยเฟิงก็คือหนึ่งในนั้น ที่สามารถกระเซ้าเย้าแหย่ถังเมิ่งได้..
หลิงหยุนคร้านที่จะห้ามปรามจึงได้แต่นั่งมองพร้อมกับหัวเราะด้วยความสนุกสนาน..
เฉิงเม่ยเฟิงยิ้มและพูดต่อว่า“ถังเมิ่ง ถ้านายสนใจผู้หญิงคนไหนเข้าจริงๆ ฉันขอเตือนนายว่า ไม่ควรพาพี่หยุนของนายไปด้วย เพราะแทนที่ผู้หญิงจะสนใจนาย พวกเธอจะต้องเปลี่ยนใจมาชอบพี่หยุนของนายจนหมด!”
อะไรกัน!!
หลิงหยุนได้ฟังคำพูดประชดประชันของเฉิงเม่ยเฟิงก็ถึงกับเหงื่อตกและได้แต่คิดในใจว่าไฉนจึงได้มาลงที่ตนเองแบบนี้ นี่เท่ากับเป็นการยืมมือฆ่าคนของเฉิงเม่ยเฟิงชัดๆ
“อะแฮ่ม..วันนี้อากาศดีมากเลย ถังเมิ่ง.. ฉันว่าพวกเรารีบไปกันได้แล้ว!”
หลิงหยุนเห็นว่าสถานการณ์เริ่มไม่ดีแล้วถังเมิ่งเองก็เช่นกัน หลังจากพูดจบ เขาก็รีบวิ่งออกไปจากห้องทันที โดยมีถังเมิ่งวิ่งตามออกมาติดๆ
เฉิงเม่ยเฟิงเห็นหลิงหยุนวิ่งหนีออกไปเช่นนั้นจึงได้แต่ยืดตัวออกไปมองพร้อมกับยิ้มออกมา..
ทันทีที่วิ่งไปถึงรถของถังเมิ่งหลิงหยุนก็พุ่งเข้าไปนั่งตำแหน่งคนขับ ส่วนถังเมิ่งนั่งข้างๆ แล้วหลิงหยุนก็รีบเหยียบคันเร่งพุ่งออกไปอย่างรวดเร็ว
“พี่หยุน..คือฉัน..”
หลังจากที่ความรู้สึกของถังเมิ่งได้ถูกเฉิงเม่ยเฟิงเปิดเผยต่อหน้าหลิงหยุนแล้วเขาก็รู้สึกกระอักกระอ่วนเล็กน้อย และเมื่อขึ้นไปบนรถ สิ่งแรกที่ทำคือต้องการที่จะอธิบายให้หลิงหยุนฟัง
“หุบปาก!แล้วก็ไม่ต้องพูดอะไร!”
หลิงหยุนร้องตะโกนสั่งถังเมิ่งในขณะที่เท้ายังคงเหยียบคันเร่งพารถพุ่งออกไปอย่างรวดเร็ว
ผ่านไปราวสองนาทีเมื่อมั่นใจว่าหลุดพันจากรัศมีจิตหยั่งรู้ของเฉิงเม่ยเฟิงแน่แล้ว หลิงหยุนจึงได้ชะลอความเร็วลง และถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก
จากนั้นหลิงหยุนจึงหันไปถามถังเมิ่ง“นายว่าเหออวี้ฉงเป็นคนยังไง”
“เอ่อ..ก็ดี!!”
ถังเมิ่งอึกอักเล็กน้อยแต่หลังจากนั้นใบหน้าของเขาก็เปลี่ยนเป็นตื่นเต้น พร้อมกับตอบหลิงหยุนไปตามตรง
“เอ่อ..ฉันรู้สึกว่าผู้หญิงคนนี้เข้มแข็งมาก ฉันว่าเธอน่าสนใจดีตั้งแต่ที่ไปรับเธอมา…”
“เอาล่ะ..ไม่ต้องพูดต่อแล้ว!’ หลิงหยุนบอกกับถังเมิ่งพร้อมกับยิ้มออกมาเขานึกถึงอุปนิสัยของเหออวี้ฉงที่ผ่านมา และรู้สึกว่านางช่างเหมาะสมกับถังเมิ่งยิ่งนัก จึงได้แต่ยิ้มออกมาและบอกกับถังเมิ่งว่า
“นายสบายใจได้..ตราบใดที่นายชอบเธอ เธอจะไม่มีทางหนีรอดไปได้แน่!”
ถังเมิ่งเองก็สมควรที่จะต้องมีใครสักคนแล้วเช่นกัน!
สำหรับหลิงหยุนแล้วขอเพียงแค่ถังเมิ่งเอ่ยปาก เขาย่อมต้องช่วยถังเมิ่งจีบเหออวี้ฉงให้สำเร็จจนได้ และเรื่องนี้ก็เป็นเรื่องที่เขาต้องลงมือด้วยตัวเอง
“ตอนนี้เธอล่วงรู้ฐานะที่แท้จริงของฉันหรือยัง”
ถังเมิ่งยิ้มขื่นในขณะที่ตอบกลับไป“พี่หยุน.. พี่ไม่พูด ใครจะกล้าบอกเธอกันล่ะ เธอไม่รู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับพี่เลย นอกจากหลินเทียน..”
“วันนี้ฉันจะบอกกับเธอเอง..” หลิงหยุนยิ้มเล็กน้อยพร้อมกับพูดต่อทันที“ครั้งนั้นที่ฉันต้องบอกกับเธอว่าชื่อหลินเทียน ก็เพื่อความปลอดภัยของเธอเอง ลุงของเธอก็ดูเหมือนจะมีอำนาจไม่น้อย ฉันเกรงว่าหากปล่อยเธอกลับไปเผชิญหน้ากับลุงตามลำพัง เธออาจจะไม่สามารถรับมือได้ หรืออาจได้รับอันตรายเสียก่อน..”
เวลานี้หลิงหยุนกลับมาแล้วและได้สะสางภารกิจสำคัญเสร็จเรียบร้อยแล้วเช่นกัน จึงไม่มีเรื่องใดให้ต้องกังวลใจอีก
“ฉันตั้งใจจะเดินทางไปเผ่าเหมี่ยวเจียงก่อนหลังจากสะสางปัญหาที่นั่นจบ จึงค่อยบินไปที่ฮ่องกงและมาเก๊า เพื่อช่วยเหออวี้ฉงสะสางปัญหาภายในตระกูล”
“แต่ครั้งนี้ฉันจะพานายกับเหออวี้ฉงไปด้วยและจะให้หวังชงเซียวกับแวมไพร์ทั้งห้าคอยดูแลเรื่องความปลอดภัยให้กับนายและเธอ”
“จริงเหรอพี่หยุน!!”
ถังเมิ่งร้องถามออกมาด้วยความตื่นเต้นและประหลาดใจ!
นับตั้งแต่เปิดบริษัทหลิงหยุน คอร์ปอเรชั่นในวันที่แปดเดือนแปดมานั้น ถังเมิ่งก็ต้องห่างเหินจากหลิงหยุนนานกว่าสองเดือน แต่ตอนนี้กลับจะได้ติดตามเขาไปตามที่ต่างๆอีกครั้ง
“จริงสิ!ฉันกำลังจะบอกให้นายไปเตรียมตัวให้พร้อม จัดการสะสางงานที่คั่งค้างให้เรียบร้อย จากนั้นก็เดินทางไปกับฉัน!”
“แต่จุดประสงค์ที่พานายไปด้วยครั้งนี้ก็ไม่ใช่แค่เรื่องผู้หญิง แต่พี่สะใภ้นายต้องการให้ไปดูธุรกิจในฮ่องกงกับมาเก๊าด้วย..”
หลังจากที่ได้ฟังหลิงหยุนพูดถังเมิ่งก็ได้แต่พยักหน้าหงึกๆเป็นไก่จิกข้าว เพราะนอกจากจะได้อยู่กับหญิงสาวที่ตนเองชื่นชอบแล้ว ยังได้ตะลอนไปที่ต่างๆพร้อมกับหลิงหยุนอีกด้วย
“สวรรค์!!ช่วงเวลาแห่งความสุขกลับมาแล้ว!” ถังเมิ่งร้องอุทานออกมาด้วยความตื่นเต้นดีใจ.. …..
หลิงหยุนกับถังเมิ่งมาถึงโรงแรมไคเฉวียนเวลาเก้าโมงตรงพอดีแต่เวลานี้โรงแรมแห่งนี้ได้เปลี่ยนชื่อเป็นโรงแรมหลิงหยุนไปแล้ว
“โรงแรมหลิงหยุน!”
หลิงหยุนอ่านป้ายชื่อใหม่ของโรงแรมจากนั้นจึงเอ่ยปากชมถังเมิ่งว่า “ธุรกิจในเครือทั้งหมดของฉัน นายจัดการเปลี่ยนชื่อใหม่หมด นับว่าทำได้ดีมากทีเดียว!”
“นับจากนี้ไปไม่ว่าจะเป็นธุรกิจอะไร ภายในประเทศ หรือต่างประเทศ ก็จะใช้ชื่อเดียวกัน!”
ถังเมิ่งหันไปยิ้มให้หลิงหยุนพร้อมตอบกับไปว่า“เรื่องนั้นไม่ต้องห่วงพี่หยุน ฉันจะจัดการทุกอย่างให้เป็นไปตามความต้องการของพี่!”
หลังจากจอดรถเรียบร้อยแล้วทั้งคู่ก็ขึ้นลิฟท์ไปยังชั้นที่ยี่สิบแปดของโรงแรมทันที.. เหออวี้ฉงนับว่าไม่เบาเลยเมื่อต้องมาอยู่ที่โรงแรมแห่งนี้ เธอก็จัดการจองชั้นยี่สิบแปดของโรงแรมทั้งชั้น!
“ข้าน้อยคาราวะอาวุโสหลิน!”
เมื่อเปิดประตูออกมาพบว่าเป็นหลิงหยุนนางก็รีบโน้มศรีษะลงทำการคาราวะหลิงหยุนทันที!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Dragon Emperor Martial God จักรพรรดิ์เทพมังกร