บทที่ 1477 : ฐานะที่แท้จริง
“แม่นางอย่าได้มีพิธีรีตรองเลยพวกเราเข้าไปคุยกันด้านในจะดีกว่า..”
หลิงหยุนเอ่ยขัดขึ้นเมื่อเห็นเหออวี้ฉงย่อตัวลงทำการคาราวะนางจึงมิสามารถทำการคาราวะหลิงหยุนได้อีก หลังจากที่ทั้งสามคนเดินเข้าไปในห้องแล้ว ถังเมิ่งก็ทำการปิดประตูห้องไว้ดังเดิม..
นี่เป็นห้องเพรสซิเดนท์สูทที่หรูหราที่สุดในโรงแรมหลิงหยุนพื้นที่กว่าสองร้อยตารางเมตรตกแต่งด้วยหินอ่อนและสีทองดูงดงามและสง่ายิ่งนัก วัสดุทุกอย่างที่ใช้ตกแต่งภายในห้อง ล้วนแล้วแต่เป็นวัสดุที่มีราคาแพงเกินกว่าที่คนธรรมดาทั่วไปจะจินตนาการได้
และแน่นอนว่าห้องที่หรูหราเกินกว่าที่คนธรรมดาจะสามารถจินตนาการได้นี้ ย่อมต้องมีราคาที่แพงมากถึง 98,888 หยวนต่อวัน
ความจริงก่อนหน้านี้ราคาห้องก็มิได้สูงถึงเพียงนี้เพียงแต่หลังจากที่ได้เปลี่ยนชื่อเป็นโรงแรมหลิงหยุน ห้องก็ถูกจองจนเต็มแทบทุกวัน ถังเมิ่งจึงได้ตัดสินใจปรับราคาห้องขึ้นจากเดิมอีกสี่หมื่นหยวนมาเป็นราคาห้องในปัจจุบัน
โลกใบนี้ก็ช่างแปลกประหลาดยิ่งนักหลังจากที่ถังเมิ่งขึ้นราคาห้อง กลับกลายเป็นว่ายิ่งได้รับความนิยม และมีการจองเข้ามาจนเต็มมากยิ่งกว่าเดิม และการที่เหออวี้ฉงสามารถจองทั้งชั้นได้นั้น หาใช่เพราะนางร่ำรวยมีเงินทองไม่ แต่เป็นเพราะถังเมิ่งต่างหากที่เป็นผู้ตัดสินใจให้นางอยู่คนเดียวทั้งชั้น เพื่ออวดอำนาจบารมีของตนเองต่อหน้านาง
–ถังเมิ่ง..นายนี่ทำขายขี้หน้าฉันมากจริงๆ!-
ทันทีที่หลิงหยุนเห็นการกระทำที่อวดอำนาจบารมีของถังเมิ่งในครั้งนี้เขาก็รู้สึกหงุดหงิดขึ้นมาเล็กน้อย และอดที่จะตำหนิถังเมิ่งผ่านทางกระแสจิตไม่ได้
–นายเป็นถึงCEO ของบริษัท หลิงหยุน คอร์ปอเรชั่น แต่กลับทำอะไรแบบนี้เพื่อให้ผู้หญิงสนอกสนใจ! นายอย่าลืมว่าเธอมาของความช่วยเหลือจากเรา เราไม่ได้ไปขอความช่วยเหลือจากเธอ!-
ถังเมิ่งคิดไม่ถึงว่าเพิ่งจะก้าวเท้าเดินเข้าไปในห้องก็จะถูกหลิงหยุนต่อว่าทันทีเช่นนี้แต่ก็มิอาจตอบโต้ได้ และได้แต่คิดในใจว่า ‘เป็นพี่ที่ให้ฉันไปรับเธอมาเองไม่ใช่เหรอ’
“แม่นางเหอ..พวกเราพบกันอีกครั้งตามสัญญา”
หลังจากตำหนิถังเมิ่งแล้วหลิงหยุนก็หันไปกล่าวกับเหออวี้ฉงต่อ และพูดตรงเข้าประเด็นที่ต้องการทันทีโดยมิอ้อมค้อม
ก่อนหน้านี้หลิงหยุนได้รับปากกับเหออวี้ฉงว่าขอเวลาครึ่งถึงหนึ่งเดือน แล้วเขาจะกลับมาช่วยสะสางปัญหาของนางตามที่รับปากไว้
“อาวุโสหลินรักษาคำพูดเช่นนี้ข้าน้อยซาบซึ้งใจยิ่งนัก!”
ระหว่างที่เหออวี้ฉงพักอยู่ที่ปักกิ่งนั้นไม่ว่าลุงของนางจะพยายามมาขอพบนางมากเพียงใด แต่นางก็จะหาเหตุผลมาปฏิเสธทุกครั้งไป ช่วงเวลาเพียงสั้นๆนั้นช่างยาวนานเสมือนหนึ่งปี หลังจากเวลาล่วงเลยไปร่วมสามอาทิตย์ เหออวี้ฉงก็เฝ้ารอด้วยความรู้สึกท้อแท้
แต่แล้วในที่สุด..เมื่อหนึ่งอาทิตย์ที่ผ่านมา หลิงหยุนก็ได้จัดการให้นางย้ายมาอยู่ที่เมืองจิงฉู และนั่นคือช่วงเวลาที่นางได้รับข่าวคราวจากเขา เหออวี้ฉงถึงกับร้องไห้ออกมามากมาย และรู้สึกราวกับได้ชีวิตใหม่ทีเดียว
เหออวี้ฉงไม่รีรอและรีบตอบรับเหล่ากุ่ยก่อนจะจัดเตรียมเก็บข้าวของ และรีบรุดเดินทางมาที่จิงฉูทันที!
ความจริงแล้วด้วยฐานะของเหออวี้ฉง การตัดสินใจต่อสู้นับเป็นการตัดสินใจที่อันตรายยิ่งนัก แต่นางก็ต้องการที่จะเดิมพัน
เวลานี้นางเปรียบเสมือนคนที่กำลังจมน้ำและนี่คือฟางเส้นสุดท้าย หากนางไม่คว้าไว้ก็ต้องตายเช่นกัน!
เหออวี้ฉงรีบเอ่ยต่อทันที“ความจริงเพียงแค่อาวุโสหลินมีจิตใจที่จะช่วยเหลือข้าน้อย มิว่าจะต้องรอนานเพียงใด ข้าน้อยก็ยินดีที่จะรอคอย..”
และคำพูดประโยคนี้ของเหออวี้ฉงก็ทำให้หลิงหยุนพยักหน้าด้วยความพอใจเขายิ้มออกมาเล็กน้อยพร้อมกับแนะนำตัวเองอีกครั้ง
“แม่นาง..ความจริงชื่อของข้าก็คือหลิงหยุน!”
“เอ่อ…”
เหออวี้ฉงถึงกับนิ่งอึ้งไปต่อหน้าหลิงหยุนหลังจากที่เขาแนะนำตัวแม้จะได้สติแล้วแต่นางก็ยังคงตกใจอยู่ดี!
“ห๊ะ!!”
“หลิงหยุน!!”
แม้ชื่อเสียงของหลิงหยุนจะขจรขจายไปไกลแต่น้อยคนนักที่จะมีโอกาสได้พบเห็นหน้าคร่าตาที่แท้จริงของเขา เว้นแต่ในเมืองจิงฉูที่มิมีผู้ใดไม่รู้จักหลิงหยุน
ส่วนในยุทธภพนั้นยอดฝีมือที่จะได้พบตัวจริงของเขาก็มีจำนวนไม่มากนักเช่นกัน..
แต่เวลานี้เหออวี้ฉงกลับกำลังได้พบเจอกับหัวมังกรมิใช่หางเช่นนั้นแล้วจะมิให้นางตื่นเต้นตกใจได้อย่างไรกัน เพราชายผู้นี้คือหลิงหยุนที่โด่งดังทั้งในโลกปัจจุบัน และโลกยุทธภพ
แม้หลิงหยุนจะมิต้องการโด่งดังแต่เขาก็มิอาจหยุดยั้งชื่อเสียงที่ขจรขยายออกไปไกลได้..
ที่ผ่านมา..หลิงหยุนได้ทำสิ่งที่สั่นสะเทือนไปทั้งโลกและสวรรค์ เรื่องที่หลิงหยุนทำแต่ละเรื่องนั้น นอกจากจะน่าอัศจรรย์ และเหลือเชื่ออย่างมากมายแล้ว หากผู้ใดได้พบเห็นก็ยากนักที่จะลืมเลือนได้ในชีวิตนี้ จึงเป็นไปมิได้เลยที่จะเก็บเรื่องราวเหล่านั้นไว้ภายในใจโดยมิบอกต่อ
ยิ่งแทบไม่ต้องพูดถึงคนธรรมดาทั่วไปบนโลกนี้ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนนักเรียนในโรงเรียนมัธยมจิงฉู แม้กระทั่งคนใหญ่คนโตอย่างหลี่ยี่เฟิง เพียงแค่เอ่ยชื่อหลิงหยุน ทุกคนในมณฑลเจียงหนานก็มิมีใครที่ไม่รู้จักเขา..
เช่นนี้แล้วจะมีผู้ใดหยุดยั้งชื่อเสียงของเขาได้อีกเล่า
หนึ่งพูดต่อไปสิบสิบพูดต่อไปอีกเป็นร้อย จากร้อยพูดต่อไปอีกเรื่อยๆ จนกระทั่งชื่อเสียงของหลิงหยุนได้ขจรขจายไกลออกไปเรื่อยๆ..
แต่หลิงหยุนก็หาได้สนใจกับชื่อเสียงเหล่านี้ไม่เขาปิดเครื่องมือสื่อสารแทบทุกอย่าง แม้แต่โทรศัพท์มือถือยังเก็บเข้าไปในแหวนจักรวาลมิได้นำออกมา
เมื่อครั้งที่หลิงหยุนไปออกรายการของซูหลิงเฟยนั้นเพียงเพราะต้องการดึงศัตรูของตนเองให้ไปที่ยอดเขาเซียนเหยินหลิงเท่านั้น แต่หลังจากนั้นรายการนี้ก็ถูกห้ามนำมาออกอากาศอีก และคลิปทั้งหมดก็ถูกลบในเวลาอันรวดเร็ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อหลิงหยุนได้กลายเป็นหนึ่งในอาวุโสของหน่วยนภา เทปต้นฉบับของรายการนั้นก็ถูกหน่วยนภาเก็บไปทันที ทางสถานีจึงไม่มีเทปรายการนี้อีก
เหออวี้ฉงเองก็หาใช่เด็กอมมือหรือคนที่มีฐานะต่ำต้อย นางเป็นถึงหนึ่งในคนที่ได้รับเชิญมางานประมูลที่ตระกูลเย่จัดขึ้น ย่อมต้องมีเส้นสายการะจายอยู่ในเมืองหลวงไม่น้อยเช่นกัน
นางรู้จักชื่อเสียงของตระกูลหลิงและชื่อเสียงของหลิงหยุนเป็นอย่างดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงยี่สิบกว่าวันที่อยู่ปักกิ่ง นางเองก็อยู่กับเซิ่งหยิงหยิง มีหรือที่จะไม่ได้ยินชื่อของหลิงหยุน
แม้แต่มาถึงเมืองจิงฉูนางก็เห็นป้ายชื่อหลิงหยุนติดอยู่ทั่วทุกหนทุกแห่งของเมือง แม้กระทั่งโรงแรมที่นางอยู่ก็ยังชื่อโรงแรมหลิงหยุน!
แต่เป็นเพราะหลิงหยุนได้สั่งห้ามมิให้นางสืบหาข่าวคราวที่เกี่ยวกับหลินเทียนมิฉะนั้นสัญญาทุกอย่างที่เขารับปากจะถูกยกเลิกทันที และนางเองก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะเป็นหลิงหยุนด้วย ดังนั้นหลังจากที่หลิงหยุนได้แจ้งชื่อเสียงเรียงนามที่แท้จริงให้นางทราบแล้ว นางก็ถึงกับยืนนิ่งด้วยความตกตะลึง!
“หลิง..หลิงหยุน! นี่อาวุโส.. ท่านก็คือคนที่.. เซิ่งหยิงหยิงแพ้พนันให้งั้นรึ?!”
หลังจากนิ่งไปด้วยความตกตะลึงอยู่นานในที่สุดเหออวี้ฉงก็ได้สติ นางได้แต่พึมพำออกมาด้วยความงุนงง แม้จะได้สติบ้างแล้ว
“ใช่แล้ว..เป็นข้าเอง!”
หลิงหยุนหันไปมองรอบๆห้องพร้อมกับกล่าวต่อด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม “เจ้าของโรงแรมแห่งนี้ เจ้าของบริษัท หลิงหยุน คอร์ปอเรชั่น ผู้นำตระกูลหลิง ล้วนคือข้าเอง!”
หลังจากที่บอกชื่อจริงของตนให้กับเหออวี้ฉงทราบแล้วหลิงหยุนก็ได้บอกฐานะที่แท้จริงของตนเองให้นางทราบในคราวเดียว เพื่อมิให้เป็นการเสียเวลา
“เอ่อ..ข้า.. ข้าสับสนไปหมดแล้ว!”
เหออวี้ฉงได้ฟังถึงกับตกตะลึงไปอีกครั้งนางหันไปมองถังเมิ่ง และหันกลับไปมองหลิงหยุนอีกครั้ง..
“บริษัทหลิงหยุน คอร์ปอเรชั่นเป็นของท่าน ฉะนั้นท่านจึงให้ประธานถังเมิ่งไปรับข้ามาที่นี่ ข้าคิดไม่ถึงจริงๆว่าแท้จริงแล้วอาวุโสหลินเทียนจะเป็น…”
“เจ้ารักษาคำพูดดีมาก..”
หลิงหยุนอดที่จะเอ่ยชมเหออวี้ฉงไม่ได้นางซื่อสัตย์พอที่จะไม่แอบสืบความจริงของหลินเทียนตามที่ได้ตกลงกันไว้ จึงมิได้ล่วงรู้ฐานะที่แท้จริงของเขา
หาไม่แล้ว..เมื่อมาถึงเมืองจิงฉู ด้วยความเฉลียวฉลาดของเหออวี้ฉง หากได้ข้อมูลเพียงเล็กๆน้อยๆก็น่าพอที่จะคาดเดาฐานะที่แท้จริงของเขาได้!
อีกทั้งเรื่องที่หลิงหยุนสามารถผงาดขึ้นครองเมืองจิงฉูได้อย่างรวดเร็วจนกระทั่งกลายไปเป็นผู้นำตระกูลหลิงนั้น ก็หาใช่เรื่องที่แวดวงสังคมชนชั้นสูงในประเทศจีนจะมิล่วงรู้ “สวรรค์!!”
เหออวี้ฉงร้องอุทานออกมาด้วยความตกใจอีกครั้งแต่สีหน้าของนางนั้นกลับบ่งบอกถึงความยินดีอย่างยิ่ง นางโค้งคำนับหลิงหยุนครั้งแล้วครั้งเล่า
“ข้าน้อยเหออวี้ฉงคำนับท่านผู้นำตระกูลหลิง!”
“ตามสบายเถิดแม่นาง!”
หลิงหยุนรีบโบกมือห้ามและรีบพยุงร่างของเหออวี้ฉงขึ้นพร้อมกับกล่าวต่อทันที “พวกเรายังมีเรื่องต้องสนทนากันอีกมาก..”
“ข้ามาที่นี่ก็เพื่อที่จะทำตามสัญญาที่เคยให้ไว้กับเจ้าจึงต้องการบอกกล่าวแผนการต่อไปให้เจ้าได้ล่วงรู้”
“ข้ากำลังจะเดินทางไปทางด้านใต้นอกเหนือจากการไปช่วยสะสางปัญหาภายในตระกูลของเจ้าแล้ว ยังมีเรื่องสำคัญอีกหนึ่งเรื่องที่ข้าต้องจัดการด้วยเช่นกัน..”
“แต่ในความคิดของข้าข้าตั้งใจที่จะไปสะสางปัญหาที่ค้างคาอยู่อีกหนึ่งเรื่องให้เรียบร้อยเสียก่อน จากนั้นจึงจะเดินทางไปที่ฮ่องกงและมาเก๊ากับเจ้า มิทราบว่าเจ้าคิดเห็นเช่นใด”
หลิงหยุนเป็นผู้ที่รักษาคำพูดของตนยิ่งนักแม้เหออวี้ฉงจะเป็นฝ่ายขอความช่วยเหลือจากเขา แต่เขาเป็นฝ่ายขอให้นางรอคอย และเมื่อถึงเวลาที่เขาจะไปสะสางปัญหาของท่านหมอเสี่ยวก่อน เขาจึงต้องสอบถามความคิดเห็นของนางเช่นกัน..
“ท่านผู้นำตระกูลหลิง..ท่านคงล้อข้าเล่นกระมัง”
หัวสมองของเหออวี้ฉงทำงานอย่ารวดเร็วหลังจากที่ล่วงรู้ฐานะที่แท้จริงของหลิงหยุน นางก็ยิ่งมิกล้าล่วงเกิน
“ท่านผู้นำตระกูลหลิงมิจำเป็นต้องสอบถามความเห็นของข้าน้อยเลยนับจากนี้ไป.. เรื่องของข้าขอให้ท่านเป็นผู้ตัดสินใจ ส่วนข้าน้อยจะให้ความร่วมมือกับท่านเป็นอย่างดีที่สุด!” คำตอบของเหออวี้ฉงมิได้ผิดไปจากที่หลิงหยุนคาดคิดเลยแม้แต่น้อย
“ขอบใจเจ้ามากเช่นนั้นก็ตกลงตามนี้..”
จากนั้นหลิงหยุนก็หันไปมองถังเมิ่งพร้อมกับกล่าวแนะนำกับเหออวี้ฉง“นี่คือถังเมิ่งน้องชายของข้าเอง!”
ถังเมิ่งยิ้มกว้างให้กับเหออวี้ฉงแต่ก็แอบคิดในใจว่าหลิงหยุนแนะนำตนเองธรรมดาเกินไป แต่ถึงอย่างนั้น.. ด้วยฐานะเพียงแค่นี้ก็สามารถบดขยี้คู่แข่งหัวใจคนอื่นๆได้อย่างราบคาบแล้ว
“นับจากนี้ไปเรื่องความปลอดภัยของเจ้าปล่อยให้น้องชายของข้าเป็นผู้รับผิดชอบ รับรองได้ว่าเขาจะสามารถคุ้มครองความปลอดภัยของเจ้า ได้ดีกว่าบอดี้การ์ดที่เจ้าจ้างมาเสียอีก!”
“เอาล่ะ..พวกเราจะออกเดินทางกันในวันมะรืนนี้ ขอให้เจ้าเตรียมตัวให้พร้อมด้วย และจุดหมายต่อไปหลังจากนั้นก็คือบ้านของเจ้า..” “ข้าจะรีบเตรียมตัว!”
เหออวี้ฉงได้ยินเช่นนั้นก็รีบร้องตอบกลับไปด้วยความตื่นเต้นดีใจ
“เอาล่ะ..ข้ายังมีเรื่องที่ต้องไปจัดการอีกมาก จึงมิสะดวกที่จะอยู่ต่อ เรื่องทั้งหมดหลังจากนี้ ข้าจะมอบหน้าที่ให้ถังเมิ่งน้องชายของข้า เป็นฝ่ายปรึกษาหารือกับเจ้าแทน”
หลิงหยุนเหลือบมองถังเมิ่งด้วยหางตาแล้วจึงเดินออกจากห้องพักของเหออวี้ฉงไปทันที!
รรค์ยังต้องก้มกราบต่อหน้าเขา!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Dragon Emperor Martial God จักรพรรดิ์เทพมังกร